โหลชีมองเห็นแววมาดร้ายในสายตาเขา เลยระแวงขึ้นมาทันที
ความรู้สึกคุ้นเคยเล็กน้อยที่ก่อนหน้านี้ท่านหมิงมีให้นาง เป็นเพราะหมิงเลี่ย เขาเป็นอาจารย์ของหมิงเลี่ย แต่ยังไงก็ไม่ใช่หมิงเลี่ย ถึงตอนแรกจุดประสงค์ที่มาอยู่ข้างกายนางของหมิงเลี่ยจะไม่บริสุทธิ์ แต่ก็ดีกับนางมาก คอยปกป้องนาง
ท่านหมิงผู้นี้ ถึงจะปกปิดไว้ดีมาก พานางมาที่นี่เหมือนจะหวังดีกับนาง แต่โหลชีมองออกว่า เขาเกลียดนาง
"วิญญาณของข้าจะสามารถให้อะไรพวกเขาได้?" นางถามอย่างเนียนๆ มือลอบไปด้านหลัง มีบางอย่างหล่นลงน้ำ
ตกน้ำอย่างไร้เสียง
ท่านหมิงหลุบตาลงเล็กน้อย ราวกับไม่เคยมีแววมาดร้ายนั่นมาก่อน
เขาถอนหายใจบอกว่า "ถึงลัทธิชิงฟ้าจะหาหมอกแห่งความตายชนิดนี้เจอ แต่พวกเขาไม่อาจควบคุมได้เต็มร้อย ตอนนี้สถานการณ์เริ่มหลุดการควบคุมแล้ว แต่หาเจออีกวิธีหนึ่ง ก็คือทำอุปกรณ์ชนิดหนึ่งที่ทำจากมนุษย์ อุปกรณ์มนุษย์นี้สามารถเอามารองรับกักเก็บหมอกแห่งความตาย เจ้าไม่ต้องมองข้าอย่างตกอกตกใจอย่างนั้น ไม่เชื่อใช่หรือไม่?"
โหลชีไม่กล้าจะเชื่อจริงๆ
หมอกดำที่ปกคลุมทุกสิ่ง หนาขนาดนั้นมากขนาดนั้น จะถูกรองรับกักเก็บโดยคนเพียงคนเดียวได้ยังไง?
ฝันกลางวันชัดๆ
แต่ดูท่าทางท่านหมิงไม่เหมือนกำลังโกหก "หมายความว่าอย่างไร?"
"เจ้า ก็คือตัวเลือกที่ดีที่สุดในการทำอุปกรณ์มนุษย์ และเป็นตัวเลือกเพียงหนึ่งเดียว พวกเขาหาเจ้ามานานมาก ในที่สุดตอนนี้ก็หาเจอสักที ย่อมต้องล่อเจ้ามา เห็นหมอกดำด้านนอกแล้วใช่หรือไม่? เจ้ากำลังแปลกใจใช่หรือไม่ว่าทำไมหมอกดำถึงไม่ข้ามแม่น้ำ? คิดว่าในน้ำมีอะไรยับยั้งมันใช่หรือไม่?"
ไม่ใช่อย่างนั้นหรอ?"
"ในน้ำมีของ แต่เป็นของที่พวกเขาเตรียมไว้" ท่านหมิงยิ้มเย็น "หมอกแห่งความตาย ไหนเลยจะมีมากขนาดนั้น ที่นั่นมีขนาดเท่านี้ได้ หากเป็นอย่างนั้นจริง พวกเขาคงครองใต้หล้าไปนานแล้ว ยังต้องรออีกรึ? ที่นั่นคือหมอกดำสองชนิด ชนิดหนึ่งคือหมอกแห่งความตาย แต่ที่มากยิ่งกว่าคือสิ่งที่พวกเขาใช้ยาสร้างออกมา"
โหลชีได้ยินอย่างนั้นก็อึ้ง ที่แท้เป็นอย่างนี้เอง เป็นแบบนี้เอง!
แบบนี้ก็ได้ด้วย
"แต่ว่าพวกเรามีคนเห็นหมอกดำกลืนกินคนจริงๆ และยังปกคลุมไปทั้งหมู่บ้านอีก"
"ข้าบอกแล้วมิใช่รึ? มีจริงและมีปลอม ทั้งจริงและปลอม สามารถสร้างผลลัพธ์ที่ทำให้คนยิ่งหวาดหวั่นมากขึ้นออกมา หมู่บ้านนั้น เจ้ารู้ไหมว่าคนตายอย่างไร? ในหมอกดำที่ยาสร้างออกมาได้ซ่อนคนของลัทธิชิงฟ้าเอาไว้ พวกเขาล้วนใส่ชุดดำ ทั้งหน้าและมือล้วนทาเป็นสีดำ หลบซ่อนตัวอยู่ในนั้นและคอยฆ่าคน จากนั้นโยนลงไปในหมอกแห่งความตาย "
"เพราะว่ากลืนกินสิ่งมีชีวิตอย่างคนและสัตว์ลงไป หมอกแห่งความตายจะเติบใหญ่ขึ้น ขยายมากขึ้น พวกเขาเริ่มควบคุมมันไม่ค่อยได้ ดังนั้นตอนนี้พวกเขาเลยไม่กล้าจะพาหมอกแห่งความตายขนาดเท่านี้ไปเมืองใหญ่ ต้องหาเจ้าให้เจอก่อน ทำเจ้าให้เป็นอุปกรณ์มนุษย์ก่อน โหลชี ตอนนั้นข้าเคยบอกหมิงเลี่ย ห้ามมีความรักกับเจ้า เพราะในที่สุดแล้วเจ้าลัทธิลัทธิชิงฟ้าจะใช้กู่คุมขวัญในร่างกายเขามาควบคุมเขาให้พาเจ้ามายังลัทธิชิงฟ้า เขาไม่อาจขัดขืนได้เลย แต่เจ้าเด็กโง่นั่นกลับบอกว่า ถ้าไม่อาจควบคุมตนเองได้จริงๆ เขาไม่สู้ตายดีกว่า"
ท่านหมิงเงยหน้าหัวเราะออกมา "ดังนั้น เขาตายเพื่อปกป้องเจ้าแล้ว ช่างเสียแรงที่ข้าเฝ้าฟูมฟักสั่งสอนเขามาหลายปีจริงๆ เสียดายความตั้งใจของข้าจริงๆ! ถ้าเขาไม่ช่วยเจ้า ถ้าเขาไม่ตาย พวกเรา..."
เขาพูดมาถึงตรงนี้ก็ชะงัก มองมาทางโหลชี และพูดต่อว่า "สถานที่นี้ข้าวางค่ายกลไว้ในเขตน้ำด้านนอก พวกเขาเข้ามาไม่ได้ ดังนั้นเจ้าอยู่นี่แล้วกัน ข้าจะอยู่นานไม่ได้ รอจนด้านนอกเรียบร้อยแล้ว ข้าจะกลับมาพาเจ้าออกไป"
ท่านหมิงพูดจบทำท่าจะเดินออกไป โหลชีเรียกรั้งเขาไว้ "ท่านหมิง"
"ยังมีอะไรอีก?"
"งั้นข้าต้องอยู่ที่นี่นานเท่าใดกัน? สามีข้าเสด็จพ่อของข้าเล่า?" ตอนโหลชีถามเรื่องพวกนี้นางคอยสังเกตท่านหมิงตลอด ถ้าไม่ใช่เพราะนางตาดี ไม่แน่จะพลาดรอยยิ้มเย็นที่ดูยากบนริมฝีปากเขาไปแน่
"พวกเขาเก่งขนาดนั้น น่าจะไม่เป็นอะไรกระมัง เจ้าอย่าคิดจะลอบออกไป ข้ารู้ว่าเจ้าเก่งมาก แต่ค่ายกลนี้เจ้าออกไปไม่ได้ ถ้าจะออกให้ได้ เด็กในท้องเจ้าจะอยู่รอดหรือไม่ข้าก็ไม่แน่ใจแล้ว" ท่านหมิงพูดพลางกระโดดกลับลงน้ำไป พอเขาลงน้ำก็เหมือนหลอมรวมกับน้ำไปเลย มองไม่เห็นคน และรับรู้ไม่ได้ถึงลมหายใจของเขา
เหมือนก่อนหน้านี้ที่เขาซ่อนตัวอยู่ในแม่น้ำ แต่นางกับเฉินซ่ากลับไม่ได้สังเกตเลย
ลัทธิชิงฟ้าไม่เพียงเป็นพวกคนที่ไอคิวสูงมาก ดูท่าวิทยายุทธ์ของพวกเขาก็คงมีจุดที่เหนือกว่าคนอื่น
หลงหยินที่สองทางนั้นเดิมก็เป็นโลกที่ทำให้โหลชีอดตกตะลึงไม่ได้อยู่แล้ว
ถ้าตอนนี้นางไม่ได้ท้อง นางต้องลองบุกทะลวงออกไปอย่างไม่กลัวเกรงแน่ แต่ตอนนี้นางมีลูก เตรียมตัวเป็นคุณแม่ จิตใจก็ไม่เหมือนเดิมอีก ไม่ว่ายังไงก็ตาม หากมีอันตรายที่อาจจะเกิดได้แม้เพียงนิด นางก็ไม่กล้าไปลองแล้ว
ตอนนี้ได้แต่หวังว่าเฉินซ่าจะหาที่นี่เจอ หวังว่ายาของนางจะได้ผล
โหลชีนั่งอยู่บนก้อนหิน หยิบขวดยาเล็กออกมา ใส่น้ำเต็มขวด เริ่มคิดทดลองว่าในน้ำนี้มีอะไรกันแน่
ท่านหมิงเกลียดนาง ดังนั้นคำพูดของเขาเชื่อหมดไม่ได้ แต่นางมองออกว่า ส่วนใหญ่เขากำลังพูดความจริง นางเลยเรียนเรื่องจิตวิทยาและลักษณะการกระทำของคน ถ้าโกหก ขาไม่มีทางเรียบเฉยแบบนี้
อย่างนั้น เรื่องป่ายฮวาเป็นเรื่องจริง ชาติกำเนิดของหมิงเลี่ยก็จริง เป้าหมายของลัทธิชิงฟ้าอาจจะเป็นเรื่องจริงด้วย และที่ว่าในหมอกดำมีจริงและปลอมอย่างละครึ่ง เรื่องนี้นางก็เชื่อ แต่ในน้ำนี่ต้องมีอะไรที่สามารถยับยั้งหมอกแห่งความตายนั่นแน่ ไม่อย่างนั้นพวกเขาจำเป็นต้องเลือกที่นี่ด้วยหรอ? บุกระชิดบีบเมืองนั่วราเลยไม่สะดวกกว่าหรอ?
อีกอย่าง ก่อนหน้านี้วู๊วูเอาแต่ร้องใส่แม่น้ำ และยังอยากกระโจนลงแม่น้ำ ไม่มีทางเป็นเพราะมันค้นพบว่าท่านหมิงอยู่ในน้ำหรอกมั้ง?
ตอนแรกพวกป่ายฮวาอยากเอาวู๊วูกับนางไปทำยา วู๊วูไม่มีทางรู้สึกดีอะไรกับพวกเขาแน่
แต่ว่า ถ้าพูดแบบนี้ ตอนนั้นวู๊วูก็เคยเจอนางมาก่อนแล้ว มิน่าถึงได้ยอมติดตามนางง่ายดายนัก และยังเชื่อใจนางอย่างไม่มีเงื่อนไขอะไรเลยด้วย
ที่แท้นางกับมันก็เป็นเพื่อนเก่ากันมานี่เอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ