เย่จายซิงต่อสู้มาทั้งคืน ถึงแม้จะได้รับการฟื้นฟูแล้ว แต่ความอ่อนล้าของร่างกายก็ยังมีอยู่
แต่เมื่อถึงเวลาสำหรับการแข่งขัน นางก็ตื่นตรงเวลา
โชคดีจริงๆที่อัตราการไหลเวียนไวไม่เหมือนกับภายนอก ไม่อย่างนั้นนางคงไม่สามารถพักผ่อนหนึ่งชั่วยามได้ ตอนนี้รู้สึกสดชื่นขึ้นแล้ว
นางเปิดประตู ไป๋จวู๋ผู้ดูแลอยู่หน้าประตูกล่าวอย่างมีความสุข
“คุณหนู ตื่นแล้วหรือเจ้าค่ะ ข้าน้อยเพิ่งไปได้ไม่นานเอง ท่านพักต่ออีกหน่อยเถอะ”
“ข้าจะต้องไปดูการแข่งขัน เจ้าให้คนเตรียมอะไรให้ข้ากินที”
“เจ้าค่ะ ข้าจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!”
เย่จายซิงรับประทานอาหารที่โรงเตี๊ยม ก่อนจะมุ่งหน้าไปที่จัดการแข่งขัน
เมื่อมาถึง การแข่งขันได้เริ่มขึ้นไปแล้วครึ่งชั่วยาม
เพียงแต่การสู้บนสังเวียนวันนี้ไม่ใช่แบบหมุนเวียนแบบนางเมื่อวาน แต่เป็นการจับฉลากเพื่อสู้ตัวต่อตัว ผู้ชนะจะจับฉลากต่อไป สุดท้ายสามอันดับแรกจะถูกเปรียบเทียบ
ทันทีที่เย่จายซิงมาถึง ความสนใจของผู้ชมจำนวนมากก็ไม่ได้สนใจเวทีประลองอีก เมื่อเทียบกับการต่อสู้ที่ดุเดือดของการแข่งขันเมื่อวานแล้ว การแข่งขันในวันนี้ก็เหมือนการเล่นที่บ้าน ทำให้คนให้ความสนใจไม่เยอะ
เมื่อทุกคนเห็นนาง สิ่งแรกที่พวกเขาเห็นก็คือใบหน้าของนาง ถึงแม้ว่าเมื่อวานจะมองจนพอแล้ว แต่ว่าตอนนั้นนางสวมวิญญาณการต่อสู้อยู่เสมอ ทั้งดูเย่อหยิ่งทั้งดูสง่างาม แต่ในวันนี้ด้วยท่าทีที่ดูสงบและรูปร่างที่ผอมเพรียวของนาง เสริมให้ดูนุ่มนวลและงดงาม ทำให้คนที่พบเห็นต่างตกอยู่ในภวังค์
เหมือนกับว่านางไม่ใช่คนเดียวกันกับเมื่อวานอย่างนั้น
ถ้าไม่ใช่เพราะดูการแข่งขันของนางเมื่อวาน คงไม่มีใครคิดว่าสาวน้อยที่รูปโฉมงดงามผู้นี้จะเป็นคนโจมตีแปดสิบหกคนได้ในคราวเดียว
นางนั้นสวยมากจริงๆ ไม่ใช่ความสวยที่ไร้จิตวิญญาณ ด้วยบรรยากาศเย็นชารอบตัวนาง แต่กลับเหมือนเทพธิดาที่ตกลงมาโลกมนุษย์ ดูศักดิ์สิทธิ์และบริสุทธิ์
เย่ยู่หยางที่ยังไม่ถึงเวลาลงแข่งขันยืนอยู่ข้างล่างสังเวียนเงยหน้ามองเห็นนาง เขาก็ยิ้มพลางโบกมือให้
เย่จายซิงยิ้มอบอุ่นให้กับน้องชาย
“ไม่พูดไม่ได้ว่า พี่น้องคู่นี้ ดูมองสบายตามากๆ!”
“ถ้าข้าสามารถแต่งนางเข้าเรือนได้ก็ดีนะสิ!”
“ข้ารู้สึกว่าเจ้าคิดไร้สาระเกินไปแล้ว!”
เย่จายซิงแสร้งทำเป็นไม่ได้ นางกวาดสายตามองไปรอบๆ แล้วก็เดินผ่านไป
เว่ยฉ่ายเวยยังนั่งซ่อนอยู่ในมุม และลดความรู้สึกของตัวเองที่ยังมีอยู่ หลังจากเห็นเย่จายซิงปรากฏตัว นางก็ก้มศีรษะลงทันที โดยไม่คาดคิดว่าเสียงรอบข้างของตัวเองเงียบลง และกระโปรงสีขาวก็ปรากฏขึ้นในสายตาของนาง
นางตกตะลึง และเงยหน้าขึ้นมอง นางเห็นเย่จายซิงนั่งลงตรงที่ข้างๆนาง
ทันใดนั้นหัวใจนางก็เต้นราวกับฟ้าร้อง นางหันศีรษะหนี ไม่ได้มองเย่จายซิง
เว่ยฉ่ายเวยไม่เข้าใจว่าเย่จายซิงหมายถึงอะไร หรือว่าเมื่อวานนางสังเกตเห็นอะไรเข้าให้แล้วจริงๆ?
ดีที่เย่จายซิงไม่ได้พูดอะไรหลังจากที่นั่งลงข้างๆนาง ไม่ได้พูดอะไรเลยสักประโยค ไม่อย่างนั้นนางคงรู้สึกไม่สบายใจแน่
หลังจากที่รอไปสักพัก เว่ยฉ่ายเวยก็ลุกขึ้น ด้วยความกระวนกระวายใจนางอยากเปลี่ยนไปนั่งที่อื่น จนกระทั่งนางเดินไป ในใจรู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก
เมื่อก่อนในสายตาของนาง พี่สาวของเย่ยู่หยางเป็นแค่ขยะของเขา เป็นสัตว์ประหลาดที่น่าเกลียด แต่มันนานมากแล้ว ทุกอย่างล้วนเปลี่ยนไป
นางไม่ได้น่าเกลียดอีกต่อไป แต่เป็นคนงามที่ดึงดูดความสนใจทุกคนไม่ว่านางจะไปไหน แล้วก็ไม่ใช่ขยะ แต่กระโดดขึ้นเป็นผู้บุกทะลวงแดนอาจารย์ทิพย์ที่แข็งแกร่ง ทั้งยังเป็นอาจารย์ยาขั้นหก
พอเทียบตัวเองกับนางแล้ว กลายเป็นคนที่ธรรมดาไปเลย
เว่ยฉ่ายเวยสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะเดินจากไปเงียบๆ
“องค์หญิงฉ่ายเวย เจ้าจะไปไหนแล้วละ?”
น้ำเสียงที่ดูเกียจคร้าน ทำให้นางหัวใจเต้นรัว
นางพูดโดยไม่รู้ตัว
“ข้านึกขึ้นได้ว่ามีธุระ เลยต้องไปแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา
มาอ่านเรื่องนี้ต่อค่ะ หวังว่าจะลงเนื้อหาจนจบ...
115จนถึงถึง159ไม่มีเลยค่ะลงต่อให้ครบได้มั้ยค่ะ😂...
ตอนที่ 115-159 หายไปค่ะ อ่านต่อไม่ได้อ่ะค่ะ...
115-159หายไปไหนอ่าคะ...
อัพวันละหลายๆตอนได้มั้ยค่ะ ขอบคุณค่ะ...