บัลลังก์ชายาหมอเทวดา นิยาย บท 191

โม่เสิ่นหยวนพลันมองมาที่เย่จายซิงด้วยท่าทีอ่อนหวาน พร้อมกล่าวว่า

“มิจำเป็นต้องปิดร้านเลย ตระกูลลั่วจะเป็นคนดูแลให้เจ้าเอง หากเจ้ายังมีโอสถไขกระดูกเยือกอยู่ละก็ เจ้าเพียงนำของออกมาขายไม่ต้องมาก เพื่อรักษาชื่อเสียงของหอไป๋เป่าเอาไว้ก็พอ”

หากว่านางจะต้องปิดร้านจริงๆ ย่อมต้องใช้เวลานาน เมื่อถึงยามนั้น ผู้คนอาจจะหลงลืมชื่อเสียงของหอไป๋เป่าไปแล้วก็เป็นได้

“ปรมาจารย์กลั่นยาของตระกูลลั่วเองก็มีไม่น้อยเช่นกัน พวกเขาสามารถนำโอสถมาขายที่หอสมบัติได้ด้วย”“ทว่า ตระกูลลั่วมักจะส่งโอสถของตนเองไปให้จวนตระกูลขุนนางอื่นๆมิใช่หรือ พวกเขาจะยังมีโอสถหลงเหลือออกมาส่งขายให้กับข้าด้วยหรืออย่างไร?”เย่จายซิงพลันกล่าวถามด้วยความงุนงงตระกูลลั่วนับว่าเป็นตระกูลเก่าแก่ในการปรุงโอสถออกมา ทั้งยังมีความติดดิน หาได้เหมือนเหล่าสมาคมปรมาจารย์กลั่นยาชั้นสูงที่เต็มไปด้วยความเย่อหยิ่งไม่ อีกทั้งยังมีการทำการค้าขนาดใหญ่อีกอย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่การล่มสลายของปรมาจารย์ปรุงยาระดับขั้นที่เจ็ดของตระกูลลั่วจบลงไปนั้น ตระกูลลั่วก็พลันตกต่ำลงไปในทันที ทว่า ภายในเมืองเฉินตู ตระกูลลั่วก็ยังเป็นตระกูลปรุงยาที่เก่าแก่อยู่ดี ไม่น่าแปลกเลยว่า เหตุใดเย่เจียหยูถึงใฝ่ฝันที่อยากจะแต่งกับนายน้อยตระกูลลั่วเช่นลั่วกูหยุน เพื่อเป็นนายหญิงในตระกูลยิ่งนัก

หากว่านางสามารถเป็นนายหญิงแห่งตระกูลลั่วได้แล้วไซร้ ย่อมเด่นดังเสมือนกับฮองเฮาของแคว้นเลยทีเดียว

คำพูดของโม่เสิ่นหยวนพลันคลี่คลายข้อสงสัยของนางไปในทันที

“ถึงแม้ว่าตระกูลลาวจะมีลูกค้ามากมาย ที่มาจากตระกูลขุนนางใหญ่อยู่แล้ว หลังจากที่ท่านผู้นำตระกูลได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยนั้น รองประธานจึงได้ลุกขึ้นมานั่งตำแหน่งประธานสมาคมปรมาจารย์กลั่นยาในทันที พร้อมกับขโมยคู่ค้ารายใหญ่ในตระกูลไปด้วย รวมไปถึงสำนักขนาดใหญ่เช่นสำนักเมฆแดง ตระกูลลั่วในยามนี้ จึงถูกโจมตีจากทุกทิศทุกทางในทันที”เย่จายซิงพลันพยักหน้าลง “ที่แท้เรื่องก็เป็นเช่นนี้นี่เอง รองประธานผู้นั้น ช่างมีจิตใจที่เห็นแก่ตัวอย่างไม่สนกฎเกณฑ์เสียจริง”ไม่น่าแปลกใจเลยว่า ตนเองที่ขโมยการค้าและสมาคมผู้อื่นมามายถึงเพียงนั้น แต่ฝ่ายตรงข้ามก็ไม่อาจทำเช่นไรได้ นั่นหมายความว่าไม่มีโอกาสให้ลงมือ และสองมิได้รับผลกระทบมากมายอะไรขนาดนั้น เนื่องจากว่าเหล่าเจ้านายของพวกเขา จักต้องเป็นพวกเหล่าขุนนางอย่างแน่นอน

“เสด็จอา เช่นนั้นก็ให้ตระกูลลั่วนำโอสถมาขายที่หอไป๋เป่าก็ได้เจ้าค่ะ ในยามนี้ชื่อเสียงของหอไป๋เป่าก็มีมากมายแล้ว ลูกค้าก็มีมากเช่นกัน ตระกูลลั่วเองก็มีโอสถหลากหลายรูปแบบ ย่อมต้องทำการขายได้ดีมากแน่ อีกทั้งข้าก็มิได้คิดอยากจะขายแต่โอสถของตนเองอีกด้วย นั่นทำให้เสียเวลาเกินไป”หากมีตระกูลลั่วคอยดูแลเช่นนี้ พวกแมลงเม่าแมลงหวี่ย่อมไม่กล้าย่ำกราย ต่อไปนี้นางก็จักได้ไม่ต้องมาเป็นห่วงหอไป๋เป่ามากด้วยนางเป็นเจ้าของสถานที่จัดซื้อจัดขาย ตระกูลลั่วเพียงแค่นำยาโอสถต่างๆ มาว่างขายก็พอ หากบางครั้งนางอยากจะนำโอสถของตัวเองมาวางขายร่วมด้วยนั้น ก็ยังเป็นไปด้วยความง่ายดายและยังหารายได้ให้ตนเองอีกด้วย“อีกครู่หนึ่ง ข้าจะเรียกให้ลั่วกูหยุนมาที่นี่ เรื่องในวันนี้เจ้าก็จัดการให้เรียบร้อยเสีย วันพรุ่งพวกเราจะได้เร่งออกเดินทาง”โม่เสิ่นหยวนค่อยๆคลายอ้อมกอดของตนออกมา พร้อมกับพาเย่จายซิงมานั่งบนตั่งของกุ้ยเฟย เพียงแค่เขามิได้พบหน้านางไม่กี่วัน ภายในใจของเขาคะนึงหานางจนแทบจะบ้าคลั่ง

เมื่อเห็นสายตาของโม่เสิ่นหยวนมองมาด้วยความอ้อยอิ่งนั้น เย่จายซิงพลันรู้สึกดวงตาของเขาที่มองมาเต็มไปด้วยความเร่าร้อนยิ่งนัก ทำเอาใบหน้าของนางเกิดอาการร้อนผาวเสียเต็มไปหมด

“เสด็จอา ท่าอย่าได้มองมาที่ข้าด้วยสายตาเช่นนี้”เย่จายซิงพลันผลักเขาออกไปเล็กน้อยโม่เสิ่นหยวนจึงหัวเราะออกมา ความหดหู่ที่เกิดขึ้นภายในใจของเขานั้น ถูกกวาดออกไปจนหมดในทันที พร้อมกับพูดออกมาด้วยความอ่อนโยนว่า “ซิงเอ๋อร์ หากข้าไม่มองเจ้าแล้ว เจ้าอยากให้ข้าไปมองผู้ใดเล่า? ซิงเอ๋อร์ทำให้ผู้คนรู้สึกลุ่มหลงได้มากมายเช่นนี้แล้ว ทำเอาข้าคิดถึงเจ้าทุกวินาทีเลยเชียว”“ท่าน นับวันยิ่งแต่จะรู้จักพูดยิ่งนัก ข้าละไม่รู้เลยว่าท่านไปร่ำเรียนการพูดจาเช่นนี้มาจากที่ใด”คำบอกรักที่หวานเลี่ยนถึงแม้นางจะเอ่ยออกไปเช่นนี้ ทว่า ภายในใจของเย่จายซิงกลับรู้สึกเบิกบานยิ่งนักผู้ใดจะไปรู้ว่า เซ่าตี้ที่ไม่มีผู้ใดกล้าพูดหยอกล้อได้นั้น จะมีทักษะการพูดที่อ่อนหวานเช่นนี้ด้วย?โม่เสิ่นหยวนกอบกุมมือของนางเอาไว้ พร้อมกับดึงเย่จายซิงเข้าสู้อ้อมกอดอีกครั้ง เพื่อให้นางเอนตัวมาพิงอยู่บนอกของเขา คางก็วางเอาไว้บนหัวของนาง พร้อมพูดออกมาว่า“ซิงเอ๋อร์เจ้ารู้หรือไม่ว่า ข้าพูดไม่ค่อยเก่งนัก ทว่า หลังจากที่ข้าได้พบกับเจ้า คำพูดที่ไม่มีผู้ใดคาดถึงเช่นนี้ ข้ากลับอยากจะพูดให้เจ้าได้ฟังทุกครั้งไป ข้าอยากให้เจ้าฟังความในใจของข้า ข้าอยากจะ ของเจ้าทุกวันเลย”เย่จายซิงพลันหน้าแดงก่ำไปในทันที คำว่าพูดกระซิบที่ข้างหูมันเอามาใช้เช่นนี้ได้หรือ?ถึงแม้ว่าในยามนี้ ทั้งนางกับเขาจะได้แนบชิดสนิทกันจนพูดกระซิบข้างหูได้นั้น แต่ความสัมพันธ์ของพวกนางหาได้สนิทถึงเพียงนั้นไม่ ทั้งเขาและนางยังไม่อาจไปถึงขั้นนั้นได้ทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์สุ่มเสี่ยงเช่นนี้ขึ้นมา นางมักจะไม่สามารถควบคุมอารมณ์ภายในที่กำลังปะทุออกมาได้เลย ถึงแม้ว่าโม่เสิ่นหยวนจะมิได้แตะต้องนาง หากว่าเขาเผลอแตะต้องนางละก็ เขาก็เอียงตัวหลบในทันทีเมื่อโม่เสิ่นหยวนรู้ว่านางเขินอายนั้น เขาก็มิได้พูดอันใดอีก พลางเปลี่ยนเรื่องคุยไปในทันที

“แดนเหนือหนาวเหน็บยิ่งนัก ระยะเวลาที่ออกตามหาอสูรเทพมีไม่แน่นอน เจ้าที่ต้องติดตามข้าไปย่อมต้องเกิดความลำบากอยู่บ้าง ข้าไปเช่นนี้ย่อมต้องปกปิดสถานะของตนเอง เมื่อถึงเวลานั้นข้าจะอยู่ในฐานะจวินหยวนเพื่อติดตามไปกับเจ้า ก่อนที่ฮองเฮาจะกลับมาถึงเฉินตูนั้น ข้าจะต้องรับกลับมา นางอยากจะสอดมือเข้ามายุ่งเรื่องการคัดเลือกนางสนมของข้าอยู่ตลอด”เย่จายซิงเพียงพยักหน้าลงเล็กน้อย นางเข้าใจประเด็นในเรื่องนี้ดี ฮองเฮาที่เป็นผู้ยิ่งใหญ่ของเผ่าโฮ่วานต้องออกไปด้านนอกนั้น เป็นหมากของเสด็จอา แม้ว่าเสด็จอาจะสามารถขัดขวางไปได้ แต่ก็ไม่อาจขัดขวางพระนางได้ตลอดไป“ซิงเอ๋อร์ ยังมีเพลิงพิลึก แดนเหนือมีเพลิงพิลึกอยู่มากมายนัก ไม่ว่าจะภายในหุบเขาหรือหุบเหวด้านล่าง พวกมันมักจะเป็นเปลวเพลิงพิลึกระดับสูงที่ซ่อนตัวอยู่ด้านใน เมื่อถึงเวลานั้น ข้าจะให้เจ้านำเพลิงพิลึกพวกนั้นมาฆ่าราชากู่ให้ตายเสีย”ราชากู่ที่อยู่ในร่างกายของเย่จายซิงนั้น เป็นปัญหาที่ใหญ่ที่สุดภายในใจของโม่เสิ่นหยวน ทว่า ช่วงนี้ไม่มีที่ใดหลงเหลือเพลิงพิลึกระดับสูงอยู่แล้ว อีกทั้ง เพลิงพิลึกระดับก็ไร้ประโยชน์ยิ่งนัก พวกมันมีประโยชน์ไม่มาก ทั้งยังจะเป็นการเปิดโอกาสให้ราชากู่หลบหนีอีกด้วย“มิเป็นไรเพคะเสด็จอา ช่วงนี้ยังมิจำเป็นต้องรีบร้อนหรอกเพคะ อย่างไรพวกเราจักต้องมีโอกาสได้พบเจอเพลิงพิลึกเป็นแน่”เย่จายซิงรู้ว่าเขารู้สึกอยู่ภายในใจ ทว่า ราชากู่เองก็มิได้ส่งผลกระทบกับนางในเวลานี้อีกด้วย มันจึงมิเป็นอันตรายมากนัก

“ฝีมือเผ่าโฮ่วานเป็นเลิศยิ่งนัก ก่อนหน้านั้นไม่นาน ตระกูลของพวกนางได้สร้างนักบุญขึ้นมา ทั้งยังมีความสามารถในการใช้งานราชกู้เป็นเลิศอีกด้วย แม้ว่าในยามนี้ ราชากู่ในตัวเจ้าจะอ่อนแอลง แต่มิได้หมายความว่าในอนาคตข้างหน้ามันจะกลับมาแข็งแรงอีก ซิงเอ๋อร์ ราชากู่ที่อยู่ในตัวเจ้านั้น เจ้าอย่าได้คิดที่จะประมาทจากมันเป็นอันขาด”

โม่เสิ่นหยวนพลันจ้องมองนาง แล้วพูดออกมาด้วยท่าทีเคร่งขรึม

เย่จายซิงจึงหยักหน้าลง เรื่องอันใดที่เกี่ยวข้องกับร่างกายของนางนั้น นางย่อมมิอาจคิดการประมาทไปได้ หากว่านางสามารถตามหาเพลิงพิลึกที่แคว้นเหนือได้แล้วไซร้ ย่อมเป็นเรื่องที่ดีต่อตัวนาง

ยามที่ทั้งสองกำลังกอดรัดกันอยู่นั้น เหยียนเฟิงพลันกล่าวว่าลั่วกูหยุนมาถึงแล้ว

อีกทั้งผู้ที่มากับลั่วกูหยุนก็ยังเป็นน้องชายของนางเสี่ยวยู่

เย่จายซิงหาได้รู้สึกแปลกใจไม่ เนื่องจาก ลั่วกูหยุนมักจะชอบลากน้องชายของนางไปเที่ยวเล่นไปทั่วทุกที่ ในยามนี้เสี่ยวยู่ร่างเริงกว่าเมื่อก่อนแล้ว

ลั่วกูหยุนเองก็เป็นคนมีจิตใจดี ทั้งยังมิได้มีท่าทีกะล่อนปลิ้นปล้อนอีกด้วย เสี่ยวยู่มีเพื่อนเพิ่มมาเช่นนี้ นางก็มีความสุขตาม

นางย่อมไม่หวังให้เสี่ยวยู่ที่อายุยังน้อย ไปติดตามแต่ผู้สูงอายุที่ไม่รู้จักหักไม่รู้จักงอ หากเป็นเช่นนั้นย่อมมีนิสัยไม่น่ารักเป็นแน่

เย่จายซิงใช้เวลาไม่นานก็พูดคุยเรื่องการค้ากับลั่วกูหยุนเสร็จเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากว่า ก่อนหน้านั้นโม่เสิ่นหยวนได้พูดเกริ่นเรื่องนี้กับตระกูลลั่วไปบ้าง เมื่อตระกูลลั่วตั้งใจจะร่วมทำการค้ากับนางนั้น ก็ได้ทำสัญญาและเซ็นประทับตรากันในทันที

นางเคยร่วมงานกับลั่วกูหยูนมาก่อน เขาทั้งมีความใจกว้าง ในครานี้ก็เช่นกัน นอกจากราคาของโอสถแล้ว ตระกูลลั่วยังยินยอมที่จะแบ่งกำไรจากการขายโอสถให้กับนางอีกครึ่งหนึ่งด้วย

หากทำการขายได้มาก นี่ย่อมเป็นจำนวนเงินมิใช่น้อยๆ ทว่า นางเพียงแค่ทำหน้าที่จัดหาสินค้ามาวางขายเพื่อนอนรอเก็บเงินเท่านั้น

เย่จายซิงพอใจเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังพูดกับลั่วกูหยุนอย่างชัดเจนว่า มาตรฐานของโอสถจักต้องเข้มงวดและรักษามาตรฐานเอาไว้ให้ได้ นางมิอยากจะให้ชื่อเสียงของหอไป๋เป่าต้องถดถอย

“เจ้าวางใจได้ พวกเราตระกูลลั่วมีชื่อเสียงในด้านความเข้มงวดทางด้านโอสถอยู่แล้ว เรื่องนี้ย่อมไม่เป็นปัญหาอย่างแน่นอน ”

ลั่วกูหยุนพลันพูดรับประกันออกมาเขารู้สึกตื่นเต้นยิ่งนัก หลังจากที่เขาได้เห็นบัญชีของหอไป๋เป่าแล้ว ถึงได้รู้ว่าหอไป๋เป่าทำเงินได้มากกว่าที่เขาเอาไว้เสียอีก การซื้อขายรายวันมากมายราวกับเทน้ำเทท่าอีกทั้งสมาชิกของหอสมบัติก็มีมากมายยิ่งนัก นี่เป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมายของเขาหอไป๋เป่าถูกเปิดตัวขึ้นมาได้ไม่นาน นอกจากชื่อเสียงโอสถไขกระดูกเยือกแล้ว ด้วยรูปแบบการเป็นสมาชิกที่ไม่เหมือนผู้ใด ทำให้หอไป๋เป่าขึ้นแท่นเป็นอันดับที่หนึ่งของร้านค้าในทันที!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา