บัลลังก์ชายาหมอเทวดา นิยาย บท 196

หรงจิ่งเฉินคิดถึงเรื่องนี้ ก็หลับตาลงหมดแล้วหลับไปครู่หนึ่ง

ในเวลานี้แผ่นหยกตรงเอวก็สว่างขึ้น เขารีบลุกขึ้นนั่งทันที แล้วเปิดแผ่นหยกส่งเสียงออก

“นายน้อย พวกเราซื้อยาเลี้ยงจิตที่หอไป๋เป่าได้ผลดีมาก ผู้อาวุโสหลายท่านบอกว่า ยาเลี้ยงจิตนี้กับที่ท่านซื้อยาเลี้ยงจิตครั้งก่อนน่าจะมาจากคนคนเดียวกัน!”

คนของเขาส่งข่าวกลับมาจากตระกูล

เขาลุกขึ้นทันที กำชับลูกน้องให้ไปสืบถามว่าเย่จายซิงพักอยู่ที่ไหน เขาจะไปพบนางตอนนี้

ส่งสารจากที่นี่ไปถึงเฉินตู เป็นเวลาไม่ถึงครึ่งก้านธูปเท่านั้น

“นายน้อย เจ้าของหอไป๋เป่าเย่จายซิงตอนนี้ไม่อยู่ โดยเป็นน้องชายของนางและนายน้อยตระกูลลั่วลั่วกูหยุนที่ช่วยนางดูแลร้าน ข้าน้อยได้สืบถามมาเล็กน้อย ได้ยินว่านางออกไปยังสถานที่ที่ไกลมาก ไม่แน่นอนวันที่จะกลับ”

“อะไรนะ?”

หรงจิ่งเฉินขมวดคิ้วแน่น

ไม่ง่ายเลยที่ค้นพบข่าวของ“น้องเย่” ปรากฎว่านางออกไปยังสถานที่ที่ไกลมากเสียแล้ว!

“สืบถามให้ชัดเจนว่านางไปที่ไหน”

เขาถ่ายทอดลงไปอีกครั้ง

เชื่อว่าจะพบร่องรอยของนางอย่างรวดเร็ว เครือข่ายข่าวกรองของตระกูลหรงพวกเขามีกระจายไปทั่วแผ่นดินเทียนเหย้า นอกจากราชวงศ์และภายในตระกูลขุนนางใหญ่ไม่กี่ตระกูล ก็ไม่มีข่าวที่เสาะหาไม่ได้

อ่อ เขานึกออกแล้ว ยังมีอีกคนที่ตระกูลหรงของพวกเขาสืบค้นฐานะไม่ได้เลย นั่นก็คือ——อ๋องเซ่อเจิ้งจวินหยวนของแคว้นหงส์แดง

ไม่นาน ลูกน้องก็ส่งข่าวกลับมา

หรงจิ่งเฉินนึกว่าสืบข่าวร่องรอยของเย่จายซิงได้แล้ว ใครจะรู้ว่าลูกน้องกลับบอกว่านางและจวินหยวนหลังออกจากหอไป๋เป่าไปแล้วก็สูญเสียร่องรอยทั้งหมดไป!

จวินหยวน?

ทำไมนางต้องอยู่กับจวินหยวน?

หากอยู่ด้วยกันกับเขา งั้นสืบไม่พบร่องรอยของนางก็เป็นเรื่องปกติแล้ว

หรงจิ่งเฉินขมวดคิ้วแน่น ไม่ค่อยสบายใจอยู่บ้าง เปิดแผ่นหยกแล้วพูด:

“สืบเรื่องราวของเย่จายซิงในช่วงหลายปีนี้หน่อย นางอยู่กับจวินหยวนตั้งแต่เมื่อไหร่ ทั้งสองในตอนนี้มีความสัมพันธ์อะไรกัน”

เมื่อก่อนเขาเองก็ไม่เคยสืบข่าวเย่จายซิงมาก่อน คิดมาตลอดว่า“วิชาเด็กไร้การมณ์”เป็นผู้ชายคนหนึ่ง คิดว่านามสกุล“เย่”เป็นนามแฝงที่เขาเรียกตามชอบ คิดไม่ถึงว่านางจะเป็นสตรีคนหนึ่ง

ได้ทราบข่าวนี้ ในใจของเขาตื่นเต้นและดีใจมาก คำพูดและการกระทำในตอนแรกของ“วิชาเด็กไร้การมณ์”ล้วนมีความน่าสนใจและลึกลับ หากเป็นสตรียิ่งทำให้เขารู้สึกสนใจมากขึ้น

“เห้ ทำไมข้าถึงได้รีบร้อนขนาดนี้”

หรงจิ่งเฉินกอบกุมส้นผม รู้สึกว่าตนเองค่อนข้างไม่ปกติ

เขาก็ไม่นอนแล้ว หลังจากเรียกนางชิวมาอธิบายสักพัก แล้วพากลุ่มลูกน้องที่ตนเองพามายังแดนเหนือออกจากโรงน้ำชาหวูหยา

เขาต้องไปค้นหาร่องรอยของอสูรเทพก่อน

อสูรเทพถือกำเนิด ทุกคนควรได้ครอบครอง

……

หรงจิ่งเฉินออกไปได้ไม่นาน โม่เสิ่นยวนกลับถึงโรงน้ำชาพร้อมกับเย่จายซิง

พนักงานโรงน้ำชาและลูกค้าโรงน้ำชาบางส่วนรู้จักพวกเขา

“กลับมาเร็วกันมาก ดูท่าจะตกใจกับอสูรปีศาจของหุบเขามายา แม้แต่ภารกิจไม่กล้าทำก็กลับมาแล้ว!”

“ถึงอย่างไรก็ยังเด็กเกินไป”

“ช่างขายขี้หน้าอ่าสองคนนี้!”

“หากเป็นข้า ข้าอายเกินกว่าจะกลับมาโรงน้ำชาอีก สองคนนี้ช่างหน้าหนา”

เห็นทั้งสองคน คนไม่น้อยที่แสดงสีหน้าดูถูกเหยียดหยาม

จากมีคนบอกว่าเห็นพวกเขามาถามทาง จนกลับถึงโรงน้ำชา คาดคำนวณเวลาก็ราวหนึ่งชั่วยามเอง

เวลาหนึ่งชั่วยามจะทำอะไรได้?แค่ไปกลับก็ต้องใช้เวลาครึ่งชั่วยามแล้ว นอกจากนั้นอีกครึ่งชั่วยามสามารถพอที่จะตัดหัวเสือทรายดำขั้นหกห้าสิบตัวได้?

เป็นสิ่งที่คิดเพ้อฝันเสียจริงอ่า

ทุกคนมองดูพวกเขาสองคนเดินไปที่หน้าโต๊ะสำหรับจ่ายเงิน

พนักงานคนหนี่งพูด:

“สองท่านยังอยากจะรับภารกิจอื่นอีกหรือไม่?ต้องขออภัย พวกเราที่นี่มีกฎ หากไม่สามารถทำภารกิจได้สำเร็จ จำเป็นต้องรออีกสามวันถึงจะรับภารกิจได้ ท่านเห็น……”

“พวกเรามาส่งมอบภารกิจ”

น้ำเสียงสดใสของเย่จายซิงพูดกับพนักงาน

“อะไรนะ?!”

น้ำเสียงของพนักงานสูงขึ้นเล็กน้อยอย่างไม่ทันระวัง

“ส่ง ส่งมอบภารกิจอะไร?พวกเจ้าทำภารกิจสำเร็จแล้ว?ลูกค้าท่านไม่อาจล้อเล่นเช่นนี้ได้”

เย่จายซิงเห็นเขาตกใจจนติดอ่างแล้ว ริมฝีปากก็หัวเราะเบาเบา แล้วหยิบถุงกักตุนออกมา เทลงบนโต๊ะสำหรับจ่ายเงิน

เสียงดัง!

เสียงดังอยู่พักหนึ่ง。

ช่วงเวลานี้ ในโรงน้ำชาทุกคนต่างตะลึงงัน

สีขาวขาวนี้ อันแล้วอันเล่า กองจนเต็มโต๊ะจ่ายเงิน ไม่ใช่เขี้ยวแหลมของเสือทรายดำหรือ?!

เพิ่งจะดึงเขี้ยวออกมา เหมือนจะยังร้อนอยู่ ด้านบนมีเลือดสีเขียวของอสูรปีศาจ แม้กระทั่งมีไออสูรแผ่วเบาอยู่รอบรอบ

มองดูคร่าว ๆ อย่าพูดเลยว่าหนึ่งร้อยอัน หนึ่งร้อยห้าสิบอันก็ถึง

“นี่……นี่……”

เวลานี้พนักงานตกใจจนติดอ่างจริง ๆ แล้ว

“จริงหรือโกหก?เวลาสั้น ๆ แค่นี้ จะล่าสังหารอสูรปีศาจขั้นหกได้มากมายขนาดนี้ได้อย่างไร!”

“ข้าไม่เชื่อ!พวกเขาต้องแย่งชิงเขี้ยวของกลุ่มหมายเลขสามเมื่อวานอย่างแน่นอน!”

“ใช่!เมื่อวานกลุ่มหมายเลขสามได้ฆ่าอสูรปีศาจทั้งคืน แน่นอนว่าคงจะสังหารเสือทรายดำไปไม่น้อย พวกเขาเพิ่งจะไปตอนเช้า ต้องลอบโจมตีผู้อื่นอย่างแน่นอน และแย่งชิงเขี้ยวของผู้อื่นมา!”

“ไม่ผิด พวกเขาใช้ประโยชน์จากจุดอ่อนของคนเหล่านั้น ฉวยโอกาสเมื่อตอนที่ผู้อื่นตกอยู่ในอันตราย ช่างเป็นการปฏิบัติต่อคนอื่นอย่างน่ารังเกียจจริง ๆ!”

ทุกคนต่างประฌามกันเสียงดัง มองไปที่สีหน้าของโม่เสิ่นยวนและเย่จายซิงที่เต็มไปด้วยความแค้นเคืองต่อความไม่เป็นธรรม

จะไม่ยอมให้มีการปล้นอย่างโจ่งแจ้งแบบนี้ ถ้าเกิดเรื่องเช่นนี้ ถึงแม้ภารกิจจะสำเร็จ ก็จะถูกโรงน้ำชาหวูหยาปฏิเสธไม่ให้ผ่าน

พนักงานเมื่อเห็นสิ่งนี้ ก็มีสงสัยความเป็นมาของเขี้ยวเสือทรายดำอยู่บ้าง แล้วพูดอย่างลังเลใจ

“ถ้าเขี้ยวของสองท่านผ่านการปล้นได้มา อย่างนั้นทางร้าน……”

ฟังคำวิพากษ์วิจารณ์รอบ ๆ เย่จายซิงเข้าใจว่าพวกเขาเข้าใจผิด นางพูด:

“ใครบอกว่าเขี้ยวนี้ได้มาจากการปล้น พวกเราฆ่าทีละตัว หากเจ้าไม่เชื่อ ศพของอสูรปีศาจยังกองอยู่ที่หุบเขามายา ด้านบนมีรอยกระบี่ของพวกเรา พวกเจ้าส่งคนไปตรวจสอบก็รู้แล้ว”

มีคนทำเสียงเยาะเย้ย:

“เหอะ!ใครจะเชื่อ!เสือทรายดำขั้นหก เทียบเท่ากับการฝึกฝนจุดสูงสุดของผู้บำเพ็ญเพียรแดนราชาทิพย์ อาศัยพวกเจ้าสองคน ในเวลาสั้น ๆ แค่นี้จะสามารถสังหารอสูรปีศาจมากมายขนาดนี้ได้?เป็นไปได้หรือ?”

“ใช่!เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!สองคนนี้จงใจถ่วงเวลาพยายามหนี ช่างเป็นความผิดที่ร้ายแรงจริง ๆ!”

เย่จายซิงมองไปยังคนที่พูด เห็นบุรุษไม่กี่คนนี้ที่ยุยงอยู่ตลอด แล้วพูดเย็นชา:

“พวกเจ้ารู้สึกเป็นไปไม่ได้ พูดได้เพียงว่าพวกเจ้าเป็นกบในกะลา อิจฉาคนอื่นที่สามารถทำภารกิจสำเร็จ”

“เหลวไหล!ข้าอิจฉาพวกเจ้า?อย่ายกย่องตนเองว่ามีคุณธรรม!”

“น่าขัน!หากพวกเจ้าสองคนเป็นผู้สังหารเสือทรายดำเหล่านี้จริง ๆ จะเด็ดศีรษะของข้าลงมาเป็นลูกบอลให้พวกเจ้าเตะ!”

บุรุษพวกนี้พูดเยาะเย้ย เจตนาชัดเจนมาก

ในเวลานี้ มีกลุ่มคนกระโดดเข้ามาจากข้างนอก หลังจากได้เห็นโม่เสิ่นยวนและเย่จายซิง พวกเขาก็คุกเข่าลงบนพื้นเสียงดังตุ๊บ

“ขอบพระคุณสองท่านที่ช่วยชีวิต หากไม่ใช่ทั้งสองท่านช่วยเหลือพวกเราออกจากฝูงอสูรปีศาจ กลัวว่าตอนนี้ข้าจะถูกฝังอยู่ในท้องอสูรแล้ว!”

เมื่อทุกคนมองดู คนเหล่านี้ไม่ใช่กลุ่มอันดับสามที่รับภารกิจของเขี้ยวเสือทรายดำเมื่อวานนี้ใช่หรือไม่?

เมื่อครู่ยังมีคนพูดว่าชายหนึ่งหญิงหนึ่งนี้ปล้นเขี้ยวของพวกเขา การตบหน้านี้มาได้อย่างรวดเร็วเกินไปแล้ว!

ทั้งสองคนนี้ไม่เพียงไม่ได้ปล้นขโมย แต่กลับช่วยชีวิตพวกเขามากกว่า 30 คนอ่า!

ช่างเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงจริง ๆ!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา