หรงจิ่งเฉินคิดถึงเรื่องนี้ ก็หลับตาลงหมดแล้วหลับไปครู่หนึ่ง
ในเวลานี้แผ่นหยกตรงเอวก็สว่างขึ้น เขารีบลุกขึ้นนั่งทันที แล้วเปิดแผ่นหยกส่งเสียงออก
“นายน้อย พวกเราซื้อยาเลี้ยงจิตที่หอไป๋เป่าได้ผลดีมาก ผู้อาวุโสหลายท่านบอกว่า ยาเลี้ยงจิตนี้กับที่ท่านซื้อยาเลี้ยงจิตครั้งก่อนน่าจะมาจากคนคนเดียวกัน!”
คนของเขาส่งข่าวกลับมาจากตระกูล
เขาลุกขึ้นทันที กำชับลูกน้องให้ไปสืบถามว่าเย่จายซิงพักอยู่ที่ไหน เขาจะไปพบนางตอนนี้
ส่งสารจากที่นี่ไปถึงเฉินตู เป็นเวลาไม่ถึงครึ่งก้านธูปเท่านั้น
“นายน้อย เจ้าของหอไป๋เป่าเย่จายซิงตอนนี้ไม่อยู่ โดยเป็นน้องชายของนางและนายน้อยตระกูลลั่วลั่วกูหยุนที่ช่วยนางดูแลร้าน ข้าน้อยได้สืบถามมาเล็กน้อย ได้ยินว่านางออกไปยังสถานที่ที่ไกลมาก ไม่แน่นอนวันที่จะกลับ”
“อะไรนะ?”
หรงจิ่งเฉินขมวดคิ้วแน่น
ไม่ง่ายเลยที่ค้นพบข่าวของ“น้องเย่” ปรากฎว่านางออกไปยังสถานที่ที่ไกลมากเสียแล้ว!
“สืบถามให้ชัดเจนว่านางไปที่ไหน”
เขาถ่ายทอดลงไปอีกครั้ง
เชื่อว่าจะพบร่องรอยของนางอย่างรวดเร็ว เครือข่ายข่าวกรองของตระกูลหรงพวกเขามีกระจายไปทั่วแผ่นดินเทียนเหย้า นอกจากราชวงศ์และภายในตระกูลขุนนางใหญ่ไม่กี่ตระกูล ก็ไม่มีข่าวที่เสาะหาไม่ได้
อ่อ เขานึกออกแล้ว ยังมีอีกคนที่ตระกูลหรงของพวกเขาสืบค้นฐานะไม่ได้เลย นั่นก็คือ——อ๋องเซ่อเจิ้งจวินหยวนของแคว้นหงส์แดง
ไม่นาน ลูกน้องก็ส่งข่าวกลับมา
หรงจิ่งเฉินนึกว่าสืบข่าวร่องรอยของเย่จายซิงได้แล้ว ใครจะรู้ว่าลูกน้องกลับบอกว่านางและจวินหยวนหลังออกจากหอไป๋เป่าไปแล้วก็สูญเสียร่องรอยทั้งหมดไป!
จวินหยวน?
ทำไมนางต้องอยู่กับจวินหยวน?
หากอยู่ด้วยกันกับเขา งั้นสืบไม่พบร่องรอยของนางก็เป็นเรื่องปกติแล้ว
หรงจิ่งเฉินขมวดคิ้วแน่น ไม่ค่อยสบายใจอยู่บ้าง เปิดแผ่นหยกแล้วพูด:
“สืบเรื่องราวของเย่จายซิงในช่วงหลายปีนี้หน่อย นางอยู่กับจวินหยวนตั้งแต่เมื่อไหร่ ทั้งสองในตอนนี้มีความสัมพันธ์อะไรกัน”
เมื่อก่อนเขาเองก็ไม่เคยสืบข่าวเย่จายซิงมาก่อน คิดมาตลอดว่า“วิชาเด็กไร้การมณ์”เป็นผู้ชายคนหนึ่ง คิดว่านามสกุล“เย่”เป็นนามแฝงที่เขาเรียกตามชอบ คิดไม่ถึงว่านางจะเป็นสตรีคนหนึ่ง
ได้ทราบข่าวนี้ ในใจของเขาตื่นเต้นและดีใจมาก คำพูดและการกระทำในตอนแรกของ“วิชาเด็กไร้การมณ์”ล้วนมีความน่าสนใจและลึกลับ หากเป็นสตรียิ่งทำให้เขารู้สึกสนใจมากขึ้น
“เห้ ทำไมข้าถึงได้รีบร้อนขนาดนี้”
หรงจิ่งเฉินกอบกุมส้นผม รู้สึกว่าตนเองค่อนข้างไม่ปกติ
เขาก็ไม่นอนแล้ว หลังจากเรียกนางชิวมาอธิบายสักพัก แล้วพากลุ่มลูกน้องที่ตนเองพามายังแดนเหนือออกจากโรงน้ำชาหวูหยา
เขาต้องไปค้นหาร่องรอยของอสูรเทพก่อน
อสูรเทพถือกำเนิด ทุกคนควรได้ครอบครอง
……
หรงจิ่งเฉินออกไปได้ไม่นาน โม่เสิ่นยวนกลับถึงโรงน้ำชาพร้อมกับเย่จายซิง
พนักงานโรงน้ำชาและลูกค้าโรงน้ำชาบางส่วนรู้จักพวกเขา
“กลับมาเร็วกันมาก ดูท่าจะตกใจกับอสูรปีศาจของหุบเขามายา แม้แต่ภารกิจไม่กล้าทำก็กลับมาแล้ว!”
“ถึงอย่างไรก็ยังเด็กเกินไป”
“ช่างขายขี้หน้าอ่าสองคนนี้!”
“หากเป็นข้า ข้าอายเกินกว่าจะกลับมาโรงน้ำชาอีก สองคนนี้ช่างหน้าหนา”
เห็นทั้งสองคน คนไม่น้อยที่แสดงสีหน้าดูถูกเหยียดหยาม
จากมีคนบอกว่าเห็นพวกเขามาถามทาง จนกลับถึงโรงน้ำชา คาดคำนวณเวลาก็ราวหนึ่งชั่วยามเอง
เวลาหนึ่งชั่วยามจะทำอะไรได้?แค่ไปกลับก็ต้องใช้เวลาครึ่งชั่วยามแล้ว นอกจากนั้นอีกครึ่งชั่วยามสามารถพอที่จะตัดหัวเสือทรายดำขั้นหกห้าสิบตัวได้?
เป็นสิ่งที่คิดเพ้อฝันเสียจริงอ่า
ทุกคนมองดูพวกเขาสองคนเดินไปที่หน้าโต๊ะสำหรับจ่ายเงิน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา
มาอ่านเรื่องนี้ต่อค่ะ หวังว่าจะลงเนื้อหาจนจบ...
115จนถึงถึง159ไม่มีเลยค่ะลงต่อให้ครบได้มั้ยค่ะ😂...
ตอนที่ 115-159 หายไปค่ะ อ่านต่อไม่ได้อ่ะค่ะ...
115-159หายไปไหนอ่าคะ...
อัพวันละหลายๆตอนได้มั้ยค่ะ ขอบคุณค่ะ...