หรงจิ่งเฉินอยากเป็นวีรบุรุษช่วยสาวงาม
เป็นผลให้ทันทีที่เขาเหาะไปครึ่งทาง ก็มีศพขาดเป็นสองท่อน ตกลงไปในน้ำ
ตายอย่างน่าเวทนาอย่างยิ่ง
เขามองผิดไป
ดูเหมือนแล้วความงามหยาดเยิ้มของเย่จายซิง คิดไม่ถึงว่าจะดุดันขนาดนี้!
อ้อ เขานึกได้แล้ว หน่วยสืบสับกล่าวว่านางยิ่งใหญ่มากในเทียนเจียว ด้วยฐานบำเพ็ญแดนราชาทิพย์ทำให้นางเป็นที่หนึ่งในแดนราชาทิพย์ การลงมือโจมตีของนางนั้นเฉียบขาด
รู้สึกว่าการรายงานนี่ช่างเป็นคำรื่นหู ใช้คำว่าเฉียบขาดคำนี้
นางลงมือโจมตีอย่างรวดเร็ว ทันทีที่เข้าสู่การต่อสู้ เหมือนกับว่านางเป็นเทพสงครามเข่นฆ่าภูตผี และดูราวกับว่านางผ่านศึกสงครามมานับครั้งไม่ถ้วน การลงมือนี้ถือว่าโหดเหี้ยมมากกับพวกศัตรู
หรงจิ่งเฉินชมเกินไปแล้ว ลงมือกับพวกศัตรูถ้าไม่โหดเหี้ยม หรือจะให้โจมตีไปสาปแช่งไปละ?
การลังเลของหญิงสาว เขาไม่เคยชอบเลย
“ทุกคนตามข้ามา!”
หรงจิ่งเฉินตะโกนเสียงดัง เขาพาคนเข้าร่วมกับเย่จายซิง
ทันใดนั้นสีหน้าของเย่จายซิงก็ผ่อนคลายลง หันไปยิ้มขอบคุณให้หรงจิ่งเฉิน จากนั้นก็สู้กับศัตรูต่อ
ทันทีที่หรงจิ่งเฉินมา นางก็สังเกตเห็นว่าเขามีผมสีทอง รูปร่างหน้าตาเป็นที่สะดุดตา มันยากที่จะไม่ให้ความสนใจ
ที่แท้วังใต้ดินที่เสด็จอาเข้าไปนั้น เป็นอีกครอบครัวหนึ่งของตระกูลหรง ไม่แปลกใจเลยที่เขาไม่พูดถึงมัน แล้วทำข้ามไปประหนึ่งเหมือนแค่เดินผ่านเท่านั้น
คิดได้ดังนี้ มุมปากเย่จายซิงก็ยกขึ้น
หรงจิ่งเฉินหลังถูกนางจำได้ก็ดีใจอย่างมาก เขายิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้ ช่วยนางสังหารศัตรูไปพลาง กล่าวกับนางไปพลาง
“น้องเย่!”
เย่จายซิงตกใจเล็กน้อย นึกไม่ถึงว่าเขาจะจำนางได้ ตั้งแต่แรกที่นางปลอมเป็นผู้ชาย
ทั้งยังดูออกง่ายขนาดนั้น แต่ลักษณะนางในตอนนี้ไม่ได้มีอะไรสัมพันธ์กันเลยสักนิด เขาจำได้อย่างไรกัน?
นางพลันนึกขึ้นได้ว่าเสด็จอาบอกว่าหน่วยสืบลับของตระกูลหรงเป็นหน่วยที่เก่งกาจมาก น่าจะเป็นเพราะว่าหรงจิ่งเฉินไปสืบหาเรื่องนางหลังจากนั้น ดังนั้นถึงรู้สถานะของนาง
นางหัวเราะอย่างสบายๆพลางกล่าว
“ขอบคุณพี่หรงที่ออกตัวช่วย!”
มีเขาคอยช่วย ทั้งยังมีคนตระกูลหรงฝีมือดีอีก อีกไม่นานก็คงเอาสถานการณ์กลับมาได้
พวกขุนนางที่ดูสถานการณ์ก็รีบเรียกคนกลับมา ยังไงสถานการณ์ตอนนี้ก็ต้องแพ้ เขาไม่มีทางส่งคนไปให้ขาดทุนหรอก คนที่มีพลังบำเพ็ญบรรลุถึงแดนราชาทิพย์นั้น ไม่รู้ต้องใช้คนอีกกี่คนถึงจะเอาอยู่ได้
ถ้าคนที่ส่งไปตายก็จะทำให้เสียเวลาไปด้วยเช่นกัน
เย่จายซิงไม่ได้รีบสังหารในทันที นางหันไปมองเสด็จอา เขาทำให้อาจารย์ผู้อาวุโสได้รับบาดเจ็บทั้งสองคน แล้วเดินมาหานาง
นางรู้สึกว่าเสด็จอาเก่งกาจมาก หลังจากกลายมาเป็น “จวินหยวน” เขาก็ไม่มีเงาของโม่เสิ่นยวนอีก การออกอาวุธของเขามันแตกต่างไปโดยสิ้นเชิง
แม้แต่อาจารย์ผู้อาวุโสของแคว้นเทพมังกรและองค์หญิงหลิวอิ๋ง ก็ไม่มีข้อสงสัยตรงนี้เลยแม้แต่น้อย
ทันทีที่โม่เสิ่นยวนมาถึง เขาก็คว้ามือนางมาจับไว้ แล้วเหลือบสายตาไปมองหรงจิ่งเฉิน ราวกับว่าแสดงความเป็นเจ้าของ
หรงจิ่งเฉินยังคงยิ้มเช่นเดิมพลางมองโม่เสิ่นยวนกลับ
“อ๋องเซ่อเจิ้ง มีชื่อเสียงร่ำลือกันมานาน”
สีหน้าที่ดำทะมึนขององค์หญิงหลิวอิ๋งพอได้ยินคำว่าอ๋องเซ่อเจิ้งสามคำนี้ ทันใดนั้นก็รู้สถานะของชายที่อยู่ข้างๆเย่จายซิงทันที เพราะว่าไม่มีอ๋องเซ่อเจิ้งของประเทศไหนที่มีชื่อเสียงและลึกลับได้อีกแล้ว
จวินหยวน!
คนที่นางสั่งให้คนไปสังหารหลายคนแล้วแต่ก็ไม่อาจฆ่าได้
นางจ้องกิเลนของจวินหยวนมานานแล้ว
แต่ว่าตอนนี้ ถ้านับเย่จายซิงที่เป็นชาวบ้านธรรมดายังทำพันธะสัญญากับอสูรเทพ นางที่มีตำแหน่งสูงส่งเป็นองค์หญิงกลับไม่มีสักตัว!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา
มาอ่านเรื่องนี้ต่อค่ะ หวังว่าจะลงเนื้อหาจนจบ...
115จนถึงถึง159ไม่มีเลยค่ะลงต่อให้ครบได้มั้ยค่ะ😂...
ตอนที่ 115-159 หายไปค่ะ อ่านต่อไม่ได้อ่ะค่ะ...
115-159หายไปไหนอ่าคะ...
อัพวันละหลายๆตอนได้มั้ยค่ะ ขอบคุณค่ะ...