บัลลังก์ชายาหมอเทวดา นิยาย บท 210

หรงจิ่งเฉินอยากเป็นวีรบุรุษช่วยสาวงาม

เป็นผลให้ทันทีที่เขาเหาะไปครึ่งทาง ก็มีศพขาดเป็นสองท่อน ตกลงไปในน้ำ

ตายอย่างน่าเวทนาอย่างยิ่ง

เขามองผิดไป

ดูเหมือนแล้วความงามหยาดเยิ้มของเย่จายซิง คิดไม่ถึงว่าจะดุดันขนาดนี้!

อ้อ เขานึกได้แล้ว หน่วยสืบสับกล่าวว่านางยิ่งใหญ่มากในเทียนเจียว ด้วยฐานบำเพ็ญแดนราชาทิพย์ทำให้นางเป็นที่หนึ่งในแดนราชาทิพย์ การลงมือโจมตีของนางนั้นเฉียบขาด

รู้สึกว่าการรายงานนี่ช่างเป็นคำรื่นหู ใช้คำว่าเฉียบขาดคำนี้

นางลงมือโจมตีอย่างรวดเร็ว ทันทีที่เข้าสู่การต่อสู้ เหมือนกับว่านางเป็นเทพสงครามเข่นฆ่าภูตผี และดูราวกับว่านางผ่านศึกสงครามมานับครั้งไม่ถ้วน การลงมือนี้ถือว่าโหดเหี้ยมมากกับพวกศัตรู

หรงจิ่งเฉินชมเกินไปแล้ว ลงมือกับพวกศัตรูถ้าไม่โหดเหี้ยม หรือจะให้โจมตีไปสาปแช่งไปละ?

การลังเลของหญิงสาว เขาไม่เคยชอบเลย

“ทุกคนตามข้ามา!”

หรงจิ่งเฉินตะโกนเสียงดัง เขาพาคนเข้าร่วมกับเย่จายซิง

ทันใดนั้นสีหน้าของเย่จายซิงก็ผ่อนคลายลง หันไปยิ้มขอบคุณให้หรงจิ่งเฉิน จากนั้นก็สู้กับศัตรูต่อ

ทันทีที่หรงจิ่งเฉินมา นางก็สังเกตเห็นว่าเขามีผมสีทอง รูปร่างหน้าตาเป็นที่สะดุดตา มันยากที่จะไม่ให้ความสนใจ

ที่แท้วังใต้ดินที่เสด็จอาเข้าไปนั้น เป็นอีกครอบครัวหนึ่งของตระกูลหรง ไม่แปลกใจเลยที่เขาไม่พูดถึงมัน แล้วทำข้ามไปประหนึ่งเหมือนแค่เดินผ่านเท่านั้น

คิดได้ดังนี้ มุมปากเย่จายซิงก็ยกขึ้น

หรงจิ่งเฉินหลังถูกนางจำได้ก็ดีใจอย่างมาก เขายิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้ ช่วยนางสังหารศัตรูไปพลาง กล่าวกับนางไปพลาง

“น้องเย่!”

เย่จายซิงตกใจเล็กน้อย นึกไม่ถึงว่าเขาจะจำนางได้ ตั้งแต่แรกที่นางปลอมเป็นผู้ชาย

ทั้งยังดูออกง่ายขนาดนั้น แต่ลักษณะนางในตอนนี้ไม่ได้มีอะไรสัมพันธ์กันเลยสักนิด เขาจำได้อย่างไรกัน?

นางพลันนึกขึ้นได้ว่าเสด็จอาบอกว่าหน่วยสืบลับของตระกูลหรงเป็นหน่วยที่เก่งกาจมาก น่าจะเป็นเพราะว่าหรงจิ่งเฉินไปสืบหาเรื่องนางหลังจากนั้น ดังนั้นถึงรู้สถานะของนาง

นางหัวเราะอย่างสบายๆพลางกล่าว

“ขอบคุณพี่หรงที่ออกตัวช่วย!”

มีเขาคอยช่วย ทั้งยังมีคนตระกูลหรงฝีมือดีอีก อีกไม่นานก็คงเอาสถานการณ์กลับมาได้

พวกขุนนางที่ดูสถานการณ์ก็รีบเรียกคนกลับมา ยังไงสถานการณ์ตอนนี้ก็ต้องแพ้ เขาไม่มีทางส่งคนไปให้ขาดทุนหรอก คนที่มีพลังบำเพ็ญบรรลุถึงแดนราชาทิพย์นั้น ไม่รู้ต้องใช้คนอีกกี่คนถึงจะเอาอยู่ได้

ถ้าคนที่ส่งไปตายก็จะทำให้เสียเวลาไปด้วยเช่นกัน

เย่จายซิงไม่ได้รีบสังหารในทันที นางหันไปมองเสด็จอา เขาทำให้อาจารย์ผู้อาวุโสได้รับบาดเจ็บทั้งสองคน แล้วเดินมาหานาง

นางรู้สึกว่าเสด็จอาเก่งกาจมาก หลังจากกลายมาเป็น “จวินหยวน” เขาก็ไม่มีเงาของโม่เสิ่นยวนอีก การออกอาวุธของเขามันแตกต่างไปโดยสิ้นเชิง

แม้แต่อาจารย์ผู้อาวุโสของแคว้นเทพมังกรและองค์หญิงหลิวอิ๋ง ก็ไม่มีข้อสงสัยตรงนี้เลยแม้แต่น้อย

ทันทีที่โม่เสิ่นยวนมาถึง เขาก็คว้ามือนางมาจับไว้ แล้วเหลือบสายตาไปมองหรงจิ่งเฉิน ราวกับว่าแสดงความเป็นเจ้าของ

หรงจิ่งเฉินยังคงยิ้มเช่นเดิมพลางมองโม่เสิ่นยวนกลับ

“อ๋องเซ่อเจิ้ง มีชื่อเสียงร่ำลือกันมานาน”

สีหน้าที่ดำทะมึนขององค์หญิงหลิวอิ๋งพอได้ยินคำว่าอ๋องเซ่อเจิ้งสามคำนี้ ทันใดนั้นก็รู้สถานะของชายที่อยู่ข้างๆเย่จายซิงทันที เพราะว่าไม่มีอ๋องเซ่อเจิ้งของประเทศไหนที่มีชื่อเสียงและลึกลับได้อีกแล้ว

จวินหยวน!

คนที่นางสั่งให้คนไปสังหารหลายคนแล้วแต่ก็ไม่อาจฆ่าได้

นางจ้องกิเลนของจวินหยวนมานานแล้ว

แต่ว่าตอนนี้ ถ้านับเย่จายซิงที่เป็นชาวบ้านธรรมดายังทำพันธะสัญญากับอสูรเทพ นางที่มีตำแหน่งสูงส่งเป็นองค์หญิงกลับไม่มีสักตัว!

มีอยู่คนเดียวเท่านั้นที่ทำให้นางดูเป็นคนน่าเกลียด!

ไม่รู้มีกี่คนกันที่หัวเราะเยาะนางกับเรื่องนี้

เดิมทีนางคิดจะทำพันธะสัญญากับอสูรเทพแล้วเอากลับไป ขี่อสูรเทพกลับเข้าไปในเมืองสักหนึ่งรอบ ให้ทุกคนได้รู้ว่าองค์หญิงหลิวอิ๋งก็มีอสูรเทพเป็นของตัวเองเหมือนกัน เพื่อจะได้ล้างความอัปยศที่เคยมีครั้งก่อน

องค์หญิงหลิวอิ๋งสีหน้าดำทะมึนขึ้นหนักกว่าเก่า ในแววตานางมีแต่ไอสังหาร

เพียงแต่อาจารย์ผู้อาวุโสทั้งสองคนได้รับบาดเจ็บหนัก นางจะมีความกล้าที่ไหนส่งคนไปโจมตีละ

องค์หญิงหลิวอิ๋งแค่นเสียงเย็นชากล่าวกับเย่จายซิง

“มาจับอสูรเทพขององค์หญิงอย่างข้า ในไม่ช้าข้าจะทำให้เจ้ารู้ว่าสุดท้ายแล้วเจ้าจะเป็นยังไง”

นางคิดว่าเย่จายซิงจะต้องมีแววตาที่หวาดกลัวแสดงออกมา แต่ไม่เพียงไม่มี แต่กลับมองนางอย่างเย้ยหยัน พลางพูดเสียงเบา

“ได้เลย ข้าจะตั้งตารอ”

องค์หญิงหลิวอิ๋งโกรธจนแทบจะกระอักเลือด การแสดงออกของเย่จายซิงดูเหมือนว่าไม่เห็นนางอยู่ในสายตามาตั้งแต่ต้น!

นางโกรธมาก!

องค์หญิงหลิวอิ๋งหันตัวกลับไป นางจะให้คนไปซุ่มดักรอโจมตีพวกเขาที่เส้นทางนครอู่ยุ่น จะเรียกคนมาเยอะกว่านี้ มันจะต้องเอาชีวิตของเย่จายซิงและจวินหยวนมาได้แน่ แล้วค่อยเอาอสูรเทพสองตัวนี้มา

ที่นครอู่ยุ่น มีค่ายวาร์ปกลับไปเมืองเฉินตู ซึ่งเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับพวกเขา!

องค์หญิงหลิวอิ๋งอย่างนางจะต้องล้างแค้นให้ได้ ถึงไม่มีอสูรเทพนางก็จะต้องให้เย่จายซิงตาย

ในไม่ช้า ขุนนางที่ยืนอยู่ข้างองค์หญิงหลิวอิ๋งก็หายตัวไปแล้ว พวกเขาไม่คิดแม่แต่จะเก็บศพ

“เย่จายซิง ยินดีด้วย กับการมีอสูรเทพ”

หลังจากที่ทุกคนแยกย้ายหายไปกันแล้ว หรงจิ่งเฉินก็พูดอย่างสนิทสนมกับเย่จายซิง

เย่จายซิงก็ค้นพบว่าเขาเป็นคนชอบยิ้ม ตั้งแต่ตอนอยู่ที่แคว้นหงส์แดง รอยยิ้มของเขาเป็นเสมือนพลังที่ส่งต่อให้ผู้อื่น มันสามารถทำให้ผู้คนลดระยะห่างกันได้มากขึ้น

แม้ว่าพวกเขาจะเคยเจอกันมาก่อนหน้านี้หลายครั้งแล้ว แต่หรงจิ่งเฉินไม่เคยรู้สึกแปลกหน้าสำหรับนางเลย ค่อนข้างเหมือนเพื่อนที่สนิทกันมากกว่า

กลิ่นอายรอบๆตัวโม่เสิ่นยวนค่อยๆเย็นขึ้นเรื่อยๆ ความหงุดหงิดนี้สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เย่จายซิงได้แต่แอบหัวเราะในใจ นางจับมือเขา แล้วหันไปพูดกับหรงจิ่งเฉินสองสามประโยค

ทุกคนช่วยพวกนางขนาดนี้ ไม่อาจจะปล่อยพวกเขาไว้ที่นี่ได้

หรงจิ่งเฉินดูเหมือนจะไม่รู้สึกถึงการแสดงความเป็นเจ้าของของจวินหยวน เขายิ้มกล่าวกับนาง

“พวกเจ้าก็น่าจะกลับเมืองเฉินตูใช่หรือไม่ งั้นพวกเรากลับนครอู่ยุ่นด้วยกันเป็นอย่างไร?”

“ไม่จำเป็น!”

โม่เสิ่นยวนปฎิเสธไปตรงๆ โดยที่ไม่ให้โอกาสเย่จายซิงได้ตอบตกลง

หรงจิ่งเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย พลางยิ้มกล่าว

“พวกเจ้าอย่าเข้าใจผิดไป อันที่จริงข้ามีเหตุผลส่วนตัว ตอนนี้ในกลุ่มต้องการยาเลี้ยงจิตจำนวนมาก ฝีมือการกลั่นยาเลี้ยงจิตของคนอื่นไม่ได้ดีเท่าแม่นางเย่ ไปทางเดียวกันก็เพื่อให้แม่นางเย่กลั่นยาเลี้ยงจิตให้ข้าก็เท่านั้น”

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ไม่มีปัญหาอะไร”

เย่จายซิงบีบมือของเสด็จอาเพื่อให้เขาไม่โกรธ หรงจิ่งเฉินมีใจช่วยเหลือนี่ถือว่าเป็นบุญคุณแล้ว ถ้าเกิดจะให้เขากลับไปทั้งอย่างนั้น แน่นอนว่าคงรู้สึกไม่ดีมิใช่น้อย

โม่เสิ่นยวนไม่ได้กล่าวอะไร

หรงจิ่งเฉินรู้สึกดีใจมาก ขณะที่กำลังจะพูดในตอนนั้น ทันใดนั้นก็มีคลื่นพลังมหาศาลของปีศาจพุ่งสู่ท้องฟ้า ท้องฟ้าพลันมืดมิด แผ่ปกคลุมไปทั่วผืนฟ้า

“โหมวหลิน!!”

โม่เสิ่นยวนกับหรงจิ่งเฉินแทบจะกล่าวออกมาพร้อมกัน

ทั้งสองคนมีสีหน้าเคร่งขรึมขึ้น

ตระกูลหรงที่อยู่รอบๆพอได้ยินว่า “โหมวหลิน” สองคำนี้ พวกเขาก็ตื่นตระหนกขึ้นมาทันที

มีเพียงเย่จายซิงเท่านั้นที่มองดูกระแสพลังที่ไม่มีที่สิ้นสุดในระยะไกลด้วยสายตาว่างเปล่า

โหมวหลิน?

หมายความว่าอย่างไร?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา