บัลลังก์ชายาหมอเทวดา นิยาย บท 219

เย่จายซิงไม่ได้ใช้โอกาสการเลือกพระชายาเข้าวังปีศาจ

เพราะว่าการบำเพ็ญของนางต่ำจนเกินไป หากว่าเสด็จอาอยู่ในนั้นจริง นางมีแต่จะทำให้ลำบาก

ตอนนี้แหวนก็ไม่มีปฏิกิริยาอะไร นั่นหมายความว่าเสด็จอายังปลอดภัย แค่นี้ก็พอแล้ว

ออกไปต้องระวัง วันนั้นนางได้ออกจากนครปีศาจ กลับไปที่แคว้นหมีดำ

ก่อนหน้าที่นางจะมาอยู่ที่โรงเตี๊ยม

“เถ้าแก่เอง เข้ามาในห้อง”

นางพักอยู่หลายวัน ให้เถ้าแก่และเสี่ยวเอ้อห้ามรบกวนนาง นางจะเก็บตัวอยู่หลายวัน

ดังนั้นนางจึงเลือกโรงเตี๊ยมแห่งนี้ เพราะว่าเถ้าแก่บอกว่าที่นี่ใช้ได้ ส่วนโรงเตี๊ยมอื่นเถ้าแก่บอกว่ามีจุดประสงค์ไม่ดี แต่เถ้าแก่บอกว่าที่นี่ไม่มี

นางเคยเห็นตระกูลปีศาจที่เยอะมาก ส่วนใหญ่เป็นคนหยิ่งและกระหายเลือด และผู้ที่ได้รับการฝึกฝนสูงจะดูถูกปีศาจผู้ฝึกบำเพ็ญต่ำ ง่ายๆ คือการเหยียดหยาม

ถึงแม้ไม่มีศัตรูกับเพื่อน แต่การที่เจ้าบำเพ็ญต่ำ อีกฝ่ายอาจจะรังแกเจ้าได้

ดังนั้นบนท้องถนน มักจะเห็นการฆ่าอยู่บ่อยครั้ง หากฝ่ายไหนถูกฆ่า ศพก็จะถูกนำไปให้ปีศาจกิน ซึ่งเป็นเรื่องธรรมชาติ คนบนท้องถนนจึงไม่มีใครสนใจ

การฝึกบำเพ็ญของเย่จายซิงนั้นยังต่ำ ดังนั้นเวลาเดินบนถนน นางจึงเห็นปีศาจที่เป็นอันตรายมากกับนาง

โชคดีที่นางทำตัวไม่ผิดสังเกตุ หน้าตาธรรมดา จึงไม่มีใครสนใจนาง

หลังจากที่ถึงโรงเตี๊ยม นางก็ใช้วิชาปีศาจผู้ฝึกบำเพ็ญมาวางม่านอาคมไว้อีกชั้น จากนั้นก็เข้าไปฝึกบำเพ็ญในห้วงกาลเวลา

นางไม่ได้ฝึกพลังปีศาจ แต่หากฝึกพลังทิพย์

หลังจากที่รวบรวมหยิกทิพย์ในห้วงกาลเวลา พลังทิพย์ในบางตระกูลในเฉินตูจะเข้มข้นมากกว่าหลายเท่า

“เจ้านาย!”

เจ้าไป๋ฟื้นแล้ว แค่มองนางเข้ามา ก็ดีใจกระโดดโลดเต้น

ได้ฟื้นคืนกลับไป๋เจ๋อในร่างเดิม หลังจากฟื้น ร่างกายก็แข็งแรงมากอีกครั้ง

“เจ้าไป๋ หรือว่าเจ้าจะกินพู่เทพเยอะๆ หน่อย เผื่อจะทำให้ร่างกายเนื้อหนังแข็งแรงอย่างสมบูรณ์”

นางลูบหางของเจ้าไป๋แล้วพูดว่า

เจ้าไป๋ดีขึ้นมาก ข้อตกลงขององค์หญิงหลิวอิ๋งกับเสวียนเจ๋ออสูรศักดิ์สิทธิ์ ก็น่าเกลียดมาก

เจ้าไป๋หัวเราะแล้วพูด:

“เจ้านาย อันที่จริงแล้วพู่เทพคือเครื่องวัดจิตวิญญาณ ข้างในรวมถึงทิพย์ แต่ถ้ามันมีประโยชน์อีกครั้ง มันจะดีมากที่สุดแค่ครั้งแรกเท่านั้น หากว่าอยากจะให้มีประโยชน์ จะต้องใช้เวลาหลายปีเพื่อกิน”

เย่จายซิงโบกมือไปมา:“งั้นเจ้าก็กินเยอะๆ กินทุกวัน เดี๋ยวร่างกายก็ตกผลึก กินไปเลย”

นางกว้าวขวางมาก เพราะก่อนที่นางจะเข้ามานางได้สำรวจแล้ว พู่เทพในห้วงกาลเวลาได้เกิดดอกไม้สีเขียวแล้ว รอวันสุกอย่างเดียว

เก็บเมล็ดพันธุ์ หว่านเมล็ดพันธุ์ จะกินเท่าไหร่ก็กินเท่านั้น

เจ้าไป๋ส่ายหัว รีบโบกมือ:

“อย่าอย่าอย่า เจ้านาย พู่เทพต้องการดินและปุ๋ยแตกต่างจากชนิดอื่นๆ เพราะว่าท่านเอาดินจากที่อื่นมาใส่ทำให้พู่เทพเติบโตได้ แต่เมื่อสารอาหารในดินถูกดูดซึม พู่เทพก็จะโตยาก”

“อ๊ะ?แบบนี้เองหรือ?พู่เทพต้องการสารอาหารพิเศษ?ข้าคิดว่าแค่พลังทิพย์ในห้วงกาลเวลาก็พอแล้ว พอให้พู่เทพดูดซึม”

เจ้าไป๋บอกว่า:“เจ้านาย ท่านลองคิดดู พู่เทพเทียบเท่ากับโอสถทิพย์ระดับเซียน เป็นแนวคิดอะไร บนสิ่งของๆ เซียน ไม่แน่ว่าเหล่าเวียนทั้งหลายอาจจะไม่เคยกินพู่เทพเลยก็ว่าได้ มันต้องใช้เงื่อนไขที่รุนแรงมาก แต่จากที่ข้าพิจารณาดินแล้ว พบว่ามีบางสิ่งบางอย่างที่สามารถทดแทนสารอาหารได้ สามารถหาได้ในแผ่นดินใหญ่ได้”

“คืออะไร?”

เย่จายซิงสีหน้ากังวล ถ้านางสามารถหาสารอาหารที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของพู่เทพได้ ต่อไปนางก็จะกินพู่เทพแทนข้าวแล้ว รสชาติคงอร่อยน่าดู

นางกลืนน้ำลาย

หลายวันมาแล้วนางไม่ได้กินอะไรเลย ราวกับว่าได้กลิ่นข้าวหอมที่ลอยมา

“ปี้เสว่หรงซา”

เมื่อพูดจบ เจ้าไป๋ก็ส่ายหน้า “ปี้เสว่หรงซามีแค่เพียงโลกปีศาจเท่านั้น แต่โลกปีศาจไม่ปลอดภัย เจ้านายอย่าไปเลย”

“บังเอิญจริง”

นางพูดว่า:“เจ้านายของเจ้าคือข้า ตอนนี้อยู่โลกปีศาจ”

“อะไรนั่น?”เจ้าไป๋เบิกตากว้าง

ก่อนหน้าที่เขาจะสลบไป เจ้านายยังอยู่ที่แดนเหนือเลย พอตื่นขึ้นมา เจ้านายก็เข้าไปในโลกปีศาจแล้ว

“ถึงว่าเจ้านายแต่งตัวประหลาดเช่นนี้ แถมร่างกายก็ยังมีกลิ่นไอปีศาจด้วย แต่ว่าเจ้านายมาที่โลกปีศาจได้อย่างไร?”

“เรื่องมันยาว”

นางถอนหายใน จากนั้นพูดว่า:“การปรากฏของปีศาจ โลกปีศาจได้กำเนิดจักรพรรดิปีศาจใหม่ เสด็จอาลงไปในในหลุมปีศาจ ข้าก็เลยลงมาด้วย”

เจ้าไป๋:......

หารมาของปีศาจ มาไม่ใช่เวลาเลย

พลังของเจ้านายยังไม่แข็งแกร่งมากนัก จักรพรรดิปีศาจที่ออกมาจากโลกปีศาจ โลกของมนุษย์ยากที่จะต้านทานได้

หากว่ามาช้าสักสิบปี เจ้านายปราบจักรพรรดิปีศาจได้ ก็จะผ่อนคลายได้มาก

“เจ้าตะกละนั่นยังไม่ตื่นอีกหรือ?เจ้าจิ้งจอกน้อยล่ะ หายไปไหน?”

เจ้าไป๋พูดไม่ออก:

“เจ้าจิ้งจอกน้อยแอบกินพู่เทพไปสองเม็ด ตอนนี้กำลังสลบอยู่”

สองเม็ด?เจ้าจิ้งจอกน้อยกินของได้น่ารักจริง พู่เทพหนึ่งกิ่ง ที่มีพู่เทพเป็นสิบเม็ด

“เจ้าตะกละตื่นขึ้นมาอีกครั้ง แอบกินพู่เทพทั้งคลังสินค้า จากนั้นก็นอนต่อไปอีก....”

เย่จายซิง:......

“แอบกินไปเท่าไหร่?”

“ไม่มาก”

นางถอนหายใจ แล้วฟังเจ้าไป๋พูด:“ก็แค่ครึ่งเดียว”

ครึ่งหนึ่ง?!

พู่เทพทั้งหมดมีอยู่เท่านั้น มาบอกว่าแอบกินไปครึ่งหนึ่ง??

เมื่อรู้ว่าเจ้านั่นปลิ้นปล้อน นางก็หยิบพู่เทพออกมา พู่เทพครึ่งหนึ่งของคลังสินค้า อย่างน้อยก็มีหลายร้อยกิ่ง!

สมองของเย่จายซิงวิ้งๆ ไปหมด

นางยังไม่ได้ลองรสชาตของพู่เทพเลย!

“เจ้าไป๋ เจ้าเอามาให้ข้ากิ่งหนึ่ง”

จากนั้นนางจึงรีบไปดูพู่เทพว่ามีผลดีต่อการฝึกบำเพ็ญของนางไหม มิเช่นนั้นนางกลัวว่าตอนที่นางฝึกออกมา จะไม่เหลือไว้ให้นางแม้แต่เม็ดเดียว

หากว่ามีประโยชน์จริง นางจะต้องเก็บไว้ให้เสด็จอา

“เจ้านาย ข้าไปต้มข้าวให้ท่านนะ อันที่จริงแล้วข้าวย่อยได้ดีกว่า เพราะว่าข้าเป็นอสูรเทพ ฉะนั้นพู่เทพจึงยั่วยวนใจข้ามาก ยังไม่ทันสุกก็กินเข้าไปแล้ว เจ้านายกินสุกหน่อยจะดีกว่า”

“ก็ได้ งั้นเจ้าไปเถอะ”

เย่จายซิงพยักหน้า จากนั้นก็ไปดูนายามาอีกรอบ และกลับไปที่ปราสาท พอเข้าไป ก็เห็นมวลของขนสีดำนอนบนพื้น แขนขานอนแผ่ เผยให้เห็นท้องนุ่มของเขา จากนั้นก็ส่งเสียงกรนดัง

เมือเปรียบเทียบกับสุนัขจิ้งจอกสีแดงตัวเล็กที่กำลังนอนขดอยู่ ท่าทางหยาบกระด้างสำหรับเจ้าคนตะกละที่จะนอน ทำให้นางคิดถึงเจ้าไซบีเรียน

กินได้นอนดี นางเป็นอสูรเทพจอมตระกละแบบไหนกัน

สักครู่ เจ้าไป๋ก็ถือข้าวหอมที่ทำให้คนหลงใหลเข้ามา

.......

“ใต้เท้าปีศาจ วันนี้หาสาวงามเจอหนึ่งคน ท่านดูสิ พอใจไหมท่าน?”

เจ้านครของนครปีศาจโค้งตัว เสียงเบาลง สาวสวยเข้ามาทีละคนๆ

มังกรนั่งอยู่บนที่นั่งสูงยกดวงตาของเขาขึ้น เริ่มมีความสนุก จากนั้นเมื่อดูจบ กลับไม่มีคนที่เขาอยากเจอ ใบหน้ารูปงามนั้น ก็เย็นชาลงเรื่อยๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา