เย่จายซิงไม่ได้ใช้โอกาสการเลือกพระชายาเข้าวังปีศาจ
เพราะว่าการบำเพ็ญของนางต่ำจนเกินไป หากว่าเสด็จอาอยู่ในนั้นจริง นางมีแต่จะทำให้ลำบาก
ตอนนี้แหวนก็ไม่มีปฏิกิริยาอะไร นั่นหมายความว่าเสด็จอายังปลอดภัย แค่นี้ก็พอแล้ว
ออกไปต้องระวัง วันนั้นนางได้ออกจากนครปีศาจ กลับไปที่แคว้นหมีดำ
ก่อนหน้าที่นางจะมาอยู่ที่โรงเตี๊ยม
“เถ้าแก่เอง เข้ามาในห้อง”
นางพักอยู่หลายวัน ให้เถ้าแก่และเสี่ยวเอ้อห้ามรบกวนนาง นางจะเก็บตัวอยู่หลายวัน
ดังนั้นนางจึงเลือกโรงเตี๊ยมแห่งนี้ เพราะว่าเถ้าแก่บอกว่าที่นี่ใช้ได้ ส่วนโรงเตี๊ยมอื่นเถ้าแก่บอกว่ามีจุดประสงค์ไม่ดี แต่เถ้าแก่บอกว่าที่นี่ไม่มี
นางเคยเห็นตระกูลปีศาจที่เยอะมาก ส่วนใหญ่เป็นคนหยิ่งและกระหายเลือด และผู้ที่ได้รับการฝึกฝนสูงจะดูถูกปีศาจผู้ฝึกบำเพ็ญต่ำ ง่ายๆ คือการเหยียดหยาม
ถึงแม้ไม่มีศัตรูกับเพื่อน แต่การที่เจ้าบำเพ็ญต่ำ อีกฝ่ายอาจจะรังแกเจ้าได้
ดังนั้นบนท้องถนน มักจะเห็นการฆ่าอยู่บ่อยครั้ง หากฝ่ายไหนถูกฆ่า ศพก็จะถูกนำไปให้ปีศาจกิน ซึ่งเป็นเรื่องธรรมชาติ คนบนท้องถนนจึงไม่มีใครสนใจ
การฝึกบำเพ็ญของเย่จายซิงนั้นยังต่ำ ดังนั้นเวลาเดินบนถนน นางจึงเห็นปีศาจที่เป็นอันตรายมากกับนาง
โชคดีที่นางทำตัวไม่ผิดสังเกตุ หน้าตาธรรมดา จึงไม่มีใครสนใจนาง
หลังจากที่ถึงโรงเตี๊ยม นางก็ใช้วิชาปีศาจผู้ฝึกบำเพ็ญมาวางม่านอาคมไว้อีกชั้น จากนั้นก็เข้าไปฝึกบำเพ็ญในห้วงกาลเวลา
นางไม่ได้ฝึกพลังปีศาจ แต่หากฝึกพลังทิพย์
หลังจากที่รวบรวมหยิกทิพย์ในห้วงกาลเวลา พลังทิพย์ในบางตระกูลในเฉินตูจะเข้มข้นมากกว่าหลายเท่า
“เจ้านาย!”
เจ้าไป๋ฟื้นแล้ว แค่มองนางเข้ามา ก็ดีใจกระโดดโลดเต้น
ได้ฟื้นคืนกลับไป๋เจ๋อในร่างเดิม หลังจากฟื้น ร่างกายก็แข็งแรงมากอีกครั้ง
“เจ้าไป๋ หรือว่าเจ้าจะกินพู่เทพเยอะๆ หน่อย เผื่อจะทำให้ร่างกายเนื้อหนังแข็งแรงอย่างสมบูรณ์”
นางลูบหางของเจ้าไป๋แล้วพูดว่า
เจ้าไป๋ดีขึ้นมาก ข้อตกลงขององค์หญิงหลิวอิ๋งกับเสวียนเจ๋ออสูรศักดิ์สิทธิ์ ก็น่าเกลียดมาก
เจ้าไป๋หัวเราะแล้วพูด:
“เจ้านาย อันที่จริงแล้วพู่เทพคือเครื่องวัดจิตวิญญาณ ข้างในรวมถึงทิพย์ แต่ถ้ามันมีประโยชน์อีกครั้ง มันจะดีมากที่สุดแค่ครั้งแรกเท่านั้น หากว่าอยากจะให้มีประโยชน์ จะต้องใช้เวลาหลายปีเพื่อกิน”
เย่จายซิงโบกมือไปมา:“งั้นเจ้าก็กินเยอะๆ กินทุกวัน เดี๋ยวร่างกายก็ตกผลึก กินไปเลย”
นางกว้าวขวางมาก เพราะก่อนที่นางจะเข้ามานางได้สำรวจแล้ว พู่เทพในห้วงกาลเวลาได้เกิดดอกไม้สีเขียวแล้ว รอวันสุกอย่างเดียว
เก็บเมล็ดพันธุ์ หว่านเมล็ดพันธุ์ จะกินเท่าไหร่ก็กินเท่านั้น
เจ้าไป๋ส่ายหัว รีบโบกมือ:
“อย่าอย่าอย่า เจ้านาย พู่เทพต้องการดินและปุ๋ยแตกต่างจากชนิดอื่นๆ เพราะว่าท่านเอาดินจากที่อื่นมาใส่ทำให้พู่เทพเติบโตได้ แต่เมื่อสารอาหารในดินถูกดูดซึม พู่เทพก็จะโตยาก”
“อ๊ะ?แบบนี้เองหรือ?พู่เทพต้องการสารอาหารพิเศษ?ข้าคิดว่าแค่พลังทิพย์ในห้วงกาลเวลาก็พอแล้ว พอให้พู่เทพดูดซึม”
เจ้าไป๋บอกว่า:“เจ้านาย ท่านลองคิดดู พู่เทพเทียบเท่ากับโอสถทิพย์ระดับเซียน เป็นแนวคิดอะไร บนสิ่งของๆ เซียน ไม่แน่ว่าเหล่าเวียนทั้งหลายอาจจะไม่เคยกินพู่เทพเลยก็ว่าได้ มันต้องใช้เงื่อนไขที่รุนแรงมาก แต่จากที่ข้าพิจารณาดินแล้ว พบว่ามีบางสิ่งบางอย่างที่สามารถทดแทนสารอาหารได้ สามารถหาได้ในแผ่นดินใหญ่ได้”
“คืออะไร?”
เย่จายซิงสีหน้ากังวล ถ้านางสามารถหาสารอาหารที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของพู่เทพได้ ต่อไปนางก็จะกินพู่เทพแทนข้าวแล้ว รสชาติคงอร่อยน่าดู
นางกลืนน้ำลาย
หลายวันมาแล้วนางไม่ได้กินอะไรเลย ราวกับว่าได้กลิ่นข้าวหอมที่ลอยมา
“ปี้เสว่หรงซา”
เมื่อพูดจบ เจ้าไป๋ก็ส่ายหน้า “ปี้เสว่หรงซามีแค่เพียงโลกปีศาจเท่านั้น แต่โลกปีศาจไม่ปลอดภัย เจ้านายอย่าไปเลย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา
มาอ่านเรื่องนี้ต่อค่ะ หวังว่าจะลงเนื้อหาจนจบ...
115จนถึงถึง159ไม่มีเลยค่ะลงต่อให้ครบได้มั้ยค่ะ😂...
ตอนที่ 115-159 หายไปค่ะ อ่านต่อไม่ได้อ่ะค่ะ...
115-159หายไปไหนอ่าคะ...
อัพวันละหลายๆตอนได้มั้ยค่ะ ขอบคุณค่ะ...