บัลลังก์ชายาหมอเทวดา นิยาย บท 221

ที่แท้ก็เป็นจักรพรรดิปีศาจใหม่ที่ป่าเถื่อน

เย่จายซิงกุมท้อง ขณะเห็นองครักษ์กลุ่มหนึ่งเดินเข้ามา

นางจึงรีบเดินออกไป

“ช้าก่อน!หญิงสาวผู้บำเพ็ญปีศาจยืนตรงด้านหน้า!”

ขณะนั้นเอง ก็มีเสียงด้านหลังตะโกนตามมา

และได้ยินเสียงองครักษ์ที่อยู่ไม่ไกล ทั้งหมดเดินมา จากนั้นล้อมเย่จายซิง

นางไม่ได้ขยับ เปิดสีหน้าที่ทำอะไรไม่ถูก จากนั้นมองพวกเขาด้วยความสงสัย

“หญิงสาวผู้นี้มีหน้าตาไม่ธรรมดา พวกเจ้าเรียกนางว่าอะไร?”

จากนั้นกลุ่มองครักษ์ก็มองเย่จายซิงด้วยสีหน้ารังเกียจ จากนั้นก็มีองครักษ์ด้านหลังพูดกับเย่จายซิงว่า

“เป็นผู้หญิงก็ปล่อยไปไม่ได้ ข้ามองจากด้านหลัง จะไปรู้ได้ไงว่าหน้าตาเป็นเช่นไร แม้แต่ผู้หญิงก็ไม่ปล่อยไป!”

เมื่อพูดจบ เขาก็จ้องเย่จายซิงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็รู้สึกว่านางขี้เหร่

เย่จายซิงเซ็งเป็นอย่างมาก ว่าจักรพรรดิปีศาจใหม่ที่ป่าเถื่อนถึงเพียงไหน แม้แต่ผู้หญิงก็ไม่ปล่อยไป หรือว่าผู้หญิงมากมายในวังปีศาจไม่พอ?

โชคดีที่นางหน้าตาธรรมดา มิเช่นนั้นคงต้องเข้าไปในวังปีศาจเป็นแน่?

“หืม ช้าก่อน ผู้หญิงคนนี้ ดวงตาสายมาก จับกลับไปด้วยเถอะ”

หัวหน้ากลุ่มองครักษ์มองดวงตาของเย่จายซิงแล้วพูด

ในใจของเย่จายซิงตกใจมาก ไม่จริงใช่ไหม นางธรรมดาขนาดนี้ ยังถูกเลือก สรุปจักรพรรดิปีศาจใหม่ดูหญิงเป็นไหม

นางมีสายตาที่ง่าย แต่ไม่ได้จงใจที่จะปกปิดให้ธรรมดา ดังนั้นหากมองจากดวงตาก็เห็นการแสดงตนอีกอย่างหนึ่ง นางมีดวงตาที่สดใส

รู้เช่นนี้ นางทำให้เปลือกตานางบวมเสียก็ดี ตาเล็กหน่อย ใครจะได้เห็นว่านางมีดวงตาไม่สวย?

ผิดพลาด ผิดพลาดแล้ว

“เจ้าอย่าพูดไป นางมีดวงตาที่สวยจริง……”

องครักษ์อีกคนพุดไปลูกครางไป

เย่จายซิงจึงรียกล่าวขึ้น:

“ใต้เท้าทั้งหลาย ท่านบอกว่าจักรพรรดิปีศาจจะเลือกพระชายาหรือ?ไม่จริงใช่หรือไม่ ข้าถูกเลือกหรือ?ฮ่าฮ่า ข้าดีใจจัง หากข้าไม่มีแต่งงาน ข้าจะไปเข้าร่วมพระชายา!ช้าก่อน ใต้เท้าทั้งหลาย แต่งงานแล้วเข้าเลือกพระชายาได้หรือไม่?”

ท่าทางนางดีใจมาก มีบางอย่างที่น่ารังเกียจในสายตาระหว่างพูด

เมื่อเห็นท่าทางของนาง ทุกคนก็รังเกียจ ต่อให้จักรพรรดิปีศาจสายตาไม่ดี ก็คงไม่เลือกหญิงที่แต่งงานแล้วหรอกน่า

“ไสหัวไปซะ ไปนั่งฝันกลางวันไป ไปไกลๆ หน่อย อย่ามาขัดขวางงานพวกข้าที่นี่!”

ผู้ฝึกบำเพ็ญยกดาบแล้วชี้นาง

เย่จายซิงทำหน้าเศร้าสร้อยแล้วเดินจากไป

หลังจากการจ้องมองขององครักษ์ผู้บำเพ็ญปีศาจ เย่จายซิงก็เปลี่ยนสีหน้า จากนั้นไปชำระเงินค่าห้อง เตรียมตัวที่จะออกจากแคว้นหมีดำ

จากนั้นนางก็เปลี่ยนเสื้อผ้าที่ธรรมดา เสื้อผ้าก็เหมือนกับคนอื่นๆ บนถนน จากนั้นนางหาพื้นที่ที่ไม่มีคนอยู่

ครั้งนี้นางได้รับบทเรียน ทำให้ตัวนางเองเป็นหญิงอัปลักษณ์ ดั้งแบนตาเล็ก หน้าทีสิว ผิวเหลืองมองยังไงก็อัปลักษณ์

นางแถบไม่เชื่อว่า ทั้งๆ ที่อัปลักษณ์เช่นนี้ ยังถูกคนอื่นได้

นางจงใจที่จะเดินไปดูองครักษ์เหล่านั้นอีกรอบ ตอนนี้ไม่มีใครสนใจนางแล้ว แค่เห็นนางก็รังเกียจมาก

“หาปี้เสว่หรงซาต่อ ไม่รู้ว่าจะซื้อได้ง่ายหรือเปล่า”

นางหัวหัวแล้วเดินจากไป จากนั้นไปที่ร้านขายยา ถามเถ้าแก่ว่ามีปี้เสว่หรงซาขายหรือไม่

“ปี้เสว่หรงซา?เจ้าประสาทหรือปี้เสว่หรงซานะไม่ใช่ร้านขายเครื่องราง มาหาซื้อร้านขายยาของข้า ข้ามองว่าเจ้าจะมาหาเรื่องมากกว่า ไสหัวไปไกล ๆ หน่อย คนอัปลักษณ์!”

เจ้าของร้านไม่พอใจนางเป็นอย่างมาก

ไม่ใช่ จะต้องใช้คำว่ารังเกียจนางที่อัปลักษณ์

แน่นอนว่า ต่อให้อัปลักษณ์ ไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็มีแต่คนรังเกียจ

ไม่ว่ามนุษย์หรือปีศาจ ต่างก็เหมือนกัน

นางไม่ได้สนใจ ถูกไล่ออกและตรงไปที่ร้านเครื่องราง

เมื่อถึงร้านเครื่องราง นางถึงรู้ว่าปี้เสว่หรงซาใช้สำหรับการวาดยันต์!

ซึ่งคล้ายกับชาดในโลกมนุษย์ แต่ว่าชาดใช้สำหรับวาดยันต์ทิพย์ แต่ว่าปี้เสว่หรงซาใช้สำหรับวาดยันต์ปีศาจ

“เจ้าจะซื้อปี้เสว่หรงซา?หนึ่งชั่งหนึ่งร้อยหินปีศาจ เจ้าจะเอาเท่าไหร่?”

เจ้าของร้านเงยหน้ามองเย่จายซิง จากนั้นยกเปลือกตาขึ้นแล้วก้มลงต่อไปคิดลูกคิดของเขาต่อ

ถูกขนาดนี้เลยหรือ?!!

เย่จายซิงตื่นเต้นมาก

นางคิดว่าปี้เสว่หรงซาจะแพงมาก นางกลัวว่านางจะซื้อได้ไม่เท่าไหร่ แค่หนึ่งตำลึงหนึ่งร้อยหินปีศาจเท่านั้น ถูกจังเลย!

ตอนที่นางได้มาที่นี่มีคนอยากจะขายนางในหอนางโลมทำให้นางรวบรวมหินปีศาจได้ไม่น้อย ทีแรกคิดว่าหินปีปีศาจเยอะขนาดนี้แต่คงซื้อได้ไม่เท่าไหร่ แต่ดูแล้วนี่คงเหลือเฟือ

“ร้านของเจ้ามีเท่าไหร่ เจ้านายของข้าเอาเท่านั้น มีเท่าไหร่ซื้อเท่านั้น”

เย่จายซิงพูดเสียงดัง

เพล้ง

ลูกคิดของเจ้าของร้านตกลงมา จากนั้นเงยหน้าด้วยความคิดไม่ถึง:“เจ้าพูดอีกรอบ จะเอาเท่าไหร่?”

“ทั้งหมด”

นางพูดด้วยน้ำเสียงนิ่ง

เจ้าของร้านไม่นิ่งเฉย คนอื่นซื้อปี้เสว่หรงซาก็ซื้อทีแค่ไม่กี่ตำลึง เขาไม่เคยได้ยินคนบอกว่าจะเหมาหมด

คิดไม่ถึงว่าหญิงบำเพ็ญปีศาจที่อัปลักษณ์นางนี้ จะเป็นลูกค้ารายใหญ่!

“ใต้เท้าของข้าเป็นอาจารย์ยันต์ปีศาจที่มีชื่อเสียงมาก ลูกศิษย์ของเขาล้นหลาม ดังนั้นจึงใช้ปี้เสว่หรงซาเป็นจำนวนมากเจ้าของร้านตกใจขนาดนี้ ทำกับยังไม่เคยเห็นเช่นนั้น”

นางจงใจแต่งเรื่อง แต่สายตาแฝงไปด้วยความดูถูก

นางมองไปที่คิ้วของเจ้าของร้านที่แฝงไปด้วยความคิดไม่ดีนั้นหายไป กลายเป็นสีเหลือง นางเดาว่านั่นคือสีเหลืองแห่งความมั่งคั่ง เจ้าของร้านเช่นนี้นางเห็นมาเยอะแล้ว คงจะดีใจมาก

นางจึงรู้สึกเย่อหยิ่งมาก ทำให้เจ้าของร้านไม่สงสัยเป็นแน่ และยังจะมองนางเป็นลูกค้าด้วย

“ที่ร้านมีปี้เสว่หรงซามากกว่าห้าร้อยชั่ง แม่นางพอหรือไม่?”

เจ้าของร้านกล่าวด้วยความระมัดระวัง

อันที่จริงแล้วเขาก็แค่ลองใจเท่านั้น ว่านางจะซื้อปี้เสว่หรงซาได้ห้าร้อยชั่งจริงไหม

ปี้เสว่หรงซาเยอะขนาดนี้ วันนี้เขาเพิ่งได้ของมาด้วย อย่างน้อยต้องขายถึงครึ่งปี

ซึ่งเหมือนกับแดนมนุษย์ สิบตำลึงก็เท่ากับหนึ่งชั่ง

หนึ่งตำลึงหนึ่งร้อยหินปีศาจ หนึ่งชั่งก็หนึ่งพันหินปีศาจ

ห้าร้อยชั่งก็คือ ห้าแสนหินปีศาจ!

แค่แก้วปีศาจของอสูรปีศาจขั้นเจ็ดก็คุ้มค่าหินปีศาจ จากนั้นก็รวมกับของในกระเป๋าใส่แหวนของผู้บำเพ็ญปีศาจ ก็มีเป็นล้านหินปีศาจแล้ว

ปี้เสว่หรงซาห้าร้อยชั่ง เพียงพอนายาในห้วงกาลเวลาแล้ว

ในใจของเย่จายซิงหัวเราะ จากนั้นพูดพร้อมขมวดคิ้ว:“แค่ห้าร้อยชั่ง?น้อยจัง ช่างเถอะ งั้นก็ซื้อแค่นี้ก่อน เดือนหน้าข้าจะมาซื้อใหม่”

พูดไป นางก็หยิบถุงของมา จากนั้นทิ้งไว้บนโต๊ะ

เจ้าของร้านเปิดมอง ข้างในมีห้าแสนหินปีศาจพอดี เขายิ้มอย่างพอใจ จากนั้นก็เดินไปหยิบปี้เสว่หรงซามาใส่ถุงให้นาง

“ทั้งหมดห้าร้อยชั่งยี่สิบตำลึง ส่วนยิบชั่งนี่เป็นของที่ข้าน้อยมอบให้ใต้เท้า แม่นาง ถ้าครั้งหน้าต้องการอีก ให้มาที่ร้านข้าน้อย!”

“ได้ ข้าคิดว่าต้องมีอีกแน่ๆ รอบหน้าข้าจะมาหาเจ้า”

พูดไป นางก็เก็บเอาถุงเก็บของขึ้นมา จากนั้นเอาสอดไว้ในเสื้อ จากนั้นเข้าไปในห้วงกาลเวลา ให้เจ้าไป๋ไปหว่านในนายา

เจ้าไป๋เคยบอกว่าเหมาะสำหรับโอสถทิพย์และพู่ทิพย์ จากนั้น นางก็จะมีข้าวทิพย์กินทุกวัน

“ต้องซื้ออีกหน่อย ถูกขนาดนี้ เก็บเพิ่มเติมหน่อย”

นางคิด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา