บัลลังก์ชายาหมอเทวดา นิยาย บท 230

จักรพรรดิปีศาจองค์ใหม่ลงมือเช่นนี้ ถือเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู เพื่อที่จะให้เหล่านางสนมที่เหลืออยู่อย่างสงบเสงี่ยมเจียมตัว

เย่จายซิงพลันอุทานออกมาภายในใจเสียฉากใหญ่

หากว่า จักรพรรดิปีศาจองค์ใหม่ไร้เดียงสาไม่รู้จักอารมณ์รักของสตรีก็แล้วไป ยังมาฆ่าคนเช่นนี้อีก นับว่าเลือดเย็นจนถึงขีดสุดแล้วกระมัง

หากเป็นเช่นนี้ ผู้ใดจะไปคิดที่เรื่องการเป็นที่โปรดปรานอีกเล่า

แล้วนางจะหาทางวางยาพิษเขาได้อย่างไรกัน!

ยู่เหอหวาดกลัวตั้งแต่ได้ยินว่าจิ้งอันตายแล้ว นางเอาแต่ปิดตำหนักมิกล้าออกไปที่ใดอีก เนื่องจากพระนางกลัวว่า จักรพรรดิปีศาจองค์ใหม่จะล่วงรู้ว่าเป็นนางที่สั่งให้หยุนซินนำน้ำแกงบำรุงไปให้พระองค์

ยู่เหอพลันถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เมื่อผ่านมาวันที่สองทุกอย่างยังคงเรียบร้อยดี

เย่จายซิงเองก็มิได้ไปกระตุ้นให้นางไปทำอะไร แม้ว่าจะให้ความกล้าแก่ยู่เหอไปนับร้อย ช่วงนี้นางก็ยังมิกล้านึกถึงการแย่งชิงความโปรดปรานอยู่ดี

ดังนั้น เย่จายซิงจึงต้องคิดหาวิธีอื่นแทน

ไม่คิดเลยว่า เช้าอีกวันหนึ่ง ทางวังหลังก็พลันส่งตัวสาวงามเข้ามาอีกหลายคน

เนื่องจากว่า ในวังหลังมีนางกำนัลไม่เพียงพอ เพื่อให้แต่ละวังมีนางกำนัลรับใช้เท่าๆ กันนั้น ยู่เหอจึงผลักเย่จายซิงออกไปอย่างไม่คิดรีรอเลย

เย่จายซิงเองก็เข้าใจได้ ถึงย่างไรนางก็เป็นนางกำนัลหน้าใหม่ ย่อมไม่รู้ลึกตื้นหนาบาง หากแต่ปิงเฉียวก็เพิ่งทำหน้าที่ของตนเองสำเร็จไป หากจะต้องเก็บเอาไว้คนหนึ่ง แน่นอนว่ายู่เหอต้องเลือกเก็บปิงเฉียวเอาไว้

การที่นางสามารถไปตำหนักอื่นได้นั้น นับว่าเป็นเรื่องที่ดีเช่นกัน ที่นี่ยู่เหอระมัดระวังตนเองดียิ่งนัก ดูอย่างไรก็รู้ว่านางมิกล้าออกไปตบตีแย่งชิงความโปรดปราน หากเป็นเช่นนี้ นางคงมิมีโอกาสได้พบหน้าจักรพรรดิปีศาจเป็นแน่ มิต้องพูดถึงเรื่องโอกาสในการวางยาเลย

เมื่อพูดถึงสาเหตุที่วังหลวงนางกำนัลมีน้อยเช่นนี้ ยามที่นางเข้าไปตีสนิทปิงเฉียวพลันได้รู้มาว่า ก่อนที่จักรพรรดิปีศาจองค์ใหม่จะเข้ารับตำแหน่ง ภายในวังหลวงก็ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นเป็นทุนเดินอยู่แล้ว อีกทั้งเมื่อจักรพรรดิปีศาจองค์ใหม่มาถึง ยังมาทำการฆ่าล้างบางเช่นนี้อีก ศพของนางกำนัลขันทีจึงกองภูเขาเลากา

นางกำนัลและขันทีบางคนที่ซ่อนตัวได้ทันนั้น ก็รอดชีวิตไป และปิงเฉียวเองก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน

“เจ้าไปรับใช้นายหญิงเจียวเจียว”

ขันทีพลันเหลือบมองนาง พร้อมกับชี้ไปที่เย่จายซิงเพื่อนางไปรับใช้นายหญิงเจียว

เมื่อฟังเส้นทางมาจากขันทีแล้วนั้น พร้อมกับนางไปถามไถ่เส้นทางกับปิงเฉียวมาเพื่ออีก นางถึงได้ออกเดินทาง

“ข้าน้อยขอเข้าเฝ้านายหญิงเจียวเจียวเจ้าค่ะ”

หลังจากที่เย่จายซิงไปหาเจียวเจียวนั้น เจียวเจียวก็ได้เข้ามาอาศัยอยู่ในตำหนักแล้ว พร้อมกับลอบประเมินตำหนักในอย่างครุ่นคิด

หลังจากที่เย่จายซิงได้เห็นใบหน้าของเจียวเจียวนั้น นางก็พลันตกตะลึงไปในทันที

นั่นเป็นเพราะว่า นายหญิงเจียวเจียวผู้นี้ มีหน้าตาคล้ายคลึงนางถึงสามส่วน โดยเฉพาะดวงตา รูปทรงก็มิได้ต่างกันมากนัก หากแต่เจียวเจียวกับมีท่าทีหยิ่งจองหอง มิให้ความรู้สึกอยากจะเข้าไปสนิทสนมด้วย

เจียวเจียวจ้องมองไปที่เย่จายอย่างเย่อหยิ่ง พร้อมกับสั่งให้นางตักน้ำมาเช็ดฝุ่นละอองจากโต๊ะเก้าอี้ให้สะอาดเรียบร้อย

“เหตุใดสกปรกเช่นนี้ หาได้ทีที่ให้ข้าพอจะหย่อนก้นนั่งลงไปได้ไม่ กระตือรือร้นทำงานเสีย มิเช่นนั้นข้าจะเอาแส้มาฟาดเจ้าให้ตายเลย!”

“เจ้าค่ะ นายหญิง ข้าน้อยจะไปจัดการเดี๋ยวนี้”

เย่จายซิงพลันทำตามคำสั่งอย่างขยันขันแข็ง พร้อมกับตักน้ำมาเช็ดภายในตำหนักอย่างสะอาดเอี่ยม เพื่อป้องกันไม่ให้เจียวเจียวมาหาข้อติเตียนตนเองได้

“เหตุใด มีเพียงเจ้าที่เป็นนางกำนัลเพียงผู้เดียวเล่า นางกำนัลที่อยู่ในวังปีศาจตกตายกันไปหมดแล้วหรือ?”

เจียวเจียวไม่มีพอใจยิ่งนัก งานยุ่งยากมากมายเพียงนี้มีเพียงนางกำนัลผู้เดียวคอยจัดการ ข้ารับใช้คนอื่นนางมิได้เห็นเลยแม้แต่คนเดียว

“นายหญิงเฉลียวฉลาดมากเลยเพคะ เพียงพริบตาเดียวก็สามารถคาดเดาได้ถูกต้องแล้ว นางกำนัลที่อยู่ในวังปีศาจตกตายไปได้หลายคนแล้วเพคะ เนื่องจากว่าจักรพรรดิปีศาจมิชื่นชอบให้มีนางกำนัลคอยรับใช้ ดังนั้น ภายในวังจึงขาดแคลนกำลังคนอย่างมากเลยเพคะ ทว่า นายหญิงมิต้องเป็นกังวลไปนะเพคะ ขอแค่ผ่านช่วงนี้ไปได้ ย่อมต้องมีนางกำนัลเข้ามาใหม่อีกมากมายเลยเพคะ เมื่อถึงเวลานั้น หากนายหญิงได้เป็นที่โปรดปรานแล้วละก็ ย่อมต้องมีนางกำนัลมากมายมาให้ท่านได้เลือกสรรตามใจชอบเพคะ!”

เย่จายซิงพลันกล่าวแย้มยิ้มออกมาด้วยความเรียบง่ายและตรงไปตรงมา

เมื่อเจียวเจียวได้ยินเช่นนั้น นางก็พลันนึกไปถึงใบหน้าที่หล่อเหลาทั้งยังเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่งของจักรพรรดิปีศาจที่นางได้เห็นในวันนี้ นางพลันกลอกตาไปมาแล้วจึงนั่งลง ในที่ที่เย่จายซิงเพิ่งเช็ดทำความสะอาดไป และเอ่ยถามนางว่า

“เจ้าเล่าสถานการณ์ภายในวังปีศาจในยามนี้ให้ข้าฟังหน่อย หากข้าได้รับความโปรดปรานจากจักรพรรดิปีศาจแล้ว ข้าจะตอบแทนที่เจ้าปฏิบัติตัวต่อข้าให้ดี”

เย่จายซิงพลันทำท่าราวกับว่าตนเองได้รับความโปรดปรานขึ้นมา พร้อมทั้งรีบเล่าเรื่องราวสถานการณ์ภายในวังปีศาจให้ฟังในทันที

แต่ในความเป็นจริงแล้ว ก็มิได้มีอะไรให้พูดมากนัก ในวังหลังมีนางสนมเพียงแค่หกคน โอ้ไม่ใช่ ห้าคน

ทุกคนล้วนแต่ยังมิได้รับความโปรดปรานทั้งหมด

ไม่ผิดนัก จักรพรรดิปีศาจยังไม่เคยร่วมหลับนอนกับผู้ใดเลยสักคน

เย่จายซิงเองก็ไม่รู้ว่าเขาจะเอาสตรีเข้ามาในวังทำไม

เย่จายซิงจึงได้เล่าเรื่องที่ที่จักรพรรดิปีศาจองค์ใหม่ฆ่านายหญิงจิ้งอันให้เจียวเจียวฟัง เนื่องจากว่า เรื่องเช่นนี้ ไม่ช้าก็เร็วเจียวเจียวก็ต้องรู้เรื่องอยู่ดี

เจียวเจียวได้ยินเช่นนั้น พลันตกใจเสียงเบิกตาโพลงออกมา

เย่จายซิงงจึงเล่าว่า

“ข้าน้อยรู้มาว่า จักรพรรดิปีศาจเป็นคนที่มิชอบให้ผู้อื่นยั่วยวน ดังนั้น หากนายหญิงต้องการแย่งชิงความโปรดปรานละก็ ท่านจะต้องแสดงออกอย่างไม่ตรงไปตรงมาเกินไป ท่านจะต้องลองคาดเดาดูว่าจักรพรรดิปีศาจชื่นชอบสตรีเช่นไรให้ได้เพคะ เช่นนั้น จักรพรรดิปีศาจถึงจะเก็บนายหญิงเอาไว้ข้างกาย ย่อมต้องหมายความเช่นนั้นแน่ๆ”

เจียวเจียวพยักหน้าลง พร้อมกับรู้สึกว่าสิ่งที่เย่จายซิงพูดออกมามันสมเหตุสมผล นางงดงามขนาดนี้ อีกทั้งแววตายังดูใสซื่ออีก ถึงอย่างไรจักรพรรดิปีศาจก็ย่อมต้องมองนางอย่างแน่นอน

ทว่า นางย่อมคิดดูถูกนางกำนัลที่มาจากสาวชาวบ้านอยู่แล้ว เมื่อเห็นว่าไม่มีผู้ใดสามารถใช้การได้นั้น ทัศนคติความคิดของนางจึงมิได้แย่เหมือนเมื่อก่อน

“ในเมื่อข้าเข้ามาในวังแล้ว พี่สาวคนอื่นๆ นั้น ข้าก็สมควรที่จะไปพบพวกเขาสักครั้ง เจ้าพาข้าไปหน่อยเถอะ”

นางอยากจะรู้ว่า สิ่งที่นางกำนัลผู้นี้พูดเป็นเรื่องจริงหรือไม่

แน่นอนว่า นางต้องการไปดูด้วยตนเองว่าความสวยของสตรีเหล่านั้นเป็นเช่นไรและจะเทียบเท่านางได้หรือไม่

สตรีทั้งแปดคนที่เข้ามาพร้อมนางในวันนี้ นางได้เห็นหน้าสตรีเหล่านั้นไปหมดแล้ว แต่ก็มิได้มีใครงดงามไปมากกว่านาง

เย่จายซิงจึงรู้ได้ในทันทีว่า เจียวเจียวผู้นี้หาใช่ผู้ที่ชอบประหยัดน้ำมันในตะเกียง นางจึงเอ่ยออกมาตามตรงว่า

“เช่นนั้น ข้านายจะพานายหญิงไปหานายหญิงยู่เหอก่อนเลยเจ้าค่ะ เมื่อวานตอนที่ข้าน้อยเข้าวังมานั้น เพิ่งจะถูกจัดให้ไปรับใช้นายหญิงยู่เหอมาเจ้าค่ะ”

เย่จายซิงพูดออกมาด้วยความชัดเจน เพื่อป้องกันมิให้เจียวเจียวคิดว่านางเป็นสายให้กับยู่เหอ

เจียวเจียวได้ยินเช่นนั้น ก็พลันมองมาที่เย่จายซิงด้วยความเย็นชาว่า “ถ้าหากข้ารู้ว่าเจ้าเป็นคนที่ตำหนักยู่เหอส่งเข้ามานั้น ข้ามีมากมายวิธีที่จะทำให้เจ้าอยู่ไม่สู้ตาย”

เย่จายซิงได้ยินเช่นนั้น ก็พลันทำท่าทางตื่นตระหนกออกมา

“นายหญิง มิต้องเป็นกังวลไปเจ้าค่ะ ข้าน้อยหาใช่คนเช่นนั้นไม่ ข้าน้อยเองก็เพิ่งเข้ามาทำงานในวังได้เพียงสองวัน ข้าจะเป็นสายลับของผู้ใดได้อย่างไรเจ้าคะ อีกทั้งท่านงดงามถึงเพียงนี้ นายหญิงทั้งหลายในวังหลังหาได้มีผู้ใดเทียบเคียงท่านไม่ นายหญิงจะต้องได้รับการโปรดปรานแน่นอนเลยเจ้าค่ะ ข้าน้อยหาใช่คนจำพวกนกสองหัว”

เจียวเจียวพลันส่งเสียงฮึดฮัดออกมาอย่างเย็นชา "ดูอย่างไรเจ้าก็คงไม่กล้าทำ!"

ไม่นานนัก พวกนางก็มาถึงตำหนักยู่เหอในทันที เมื่อสตรีทั้งสองได้มาเจอหน้ากันแล้วนั้น เจียวเจียวที่จ้องมองยู่เหออยู่พลันส่งยิ้มออกมาด้วยความเย็นชา

“ได้ยินมาว่าท่านคือสตรีที่งดงามเป็นอันดับหนึ่งของวังหลัง ที่แท้ก็มิได้งามอันใดมาก ก็อย่างว่า วังหลังมีเพียงนายหญิงห้านาง เฉกเช่นเดียวกันกับเหล่านายพลของคนแคระ”

เย่จายซิง …

สร้างศัตรูไวถึงเพียงนี้เชียวหรือ เจ้าช่างใจเด็ดยิ่งนัก

การต่อสู้ในวังหลังเช่นนี้ เกรงว่าอาจจะไม่มีผู้ใดรอดชีวิตเลยสักราย

ยู่เหอพลันถูกยั่วโมโหขึ้นมาจึงรู้สึกหงุดหงิดยิ่งนัก เมื่อมองไปยังใบหน้าของเจียวเจียว พลางเอื้อมมือจะไปคว้าเอาไว้ ทว่า เจียวเจียวกลับหลบตัวทันเสียก่อน เล็บที่แหลมคมจึงมิได้ถูกจิกเข้าไปในใบหน้า

หากนางถูกจับได้ละก็ เกรงว่าใบหน้าคงได้เสียโฉมเป็นแน่

ถ้าถูกจับได้จริง หน้าของนางย่อมกลายเป็นน่าเกลียด

เจียวเจียวที่มีบุคลิกหยิ่งยโสอยู่แล้ว นางเคยแต่รังแกผู้คนมาก่อน หาได้มีผู้ใดกล้าเข้ามารังแกนางไม่ เมื่อเห็นยู่เหอกล้าใช้เล็บเข้ามาจะจิกใบหน้าของตนนั้น เจียวเจียวก็โมโหเสียจนก้าวเข้าไปด้านหน้า พร้อมกับง้างมือตบไปที่ใบหน้าของยู่เหอในทันที

“นายหญิงเจ้าคะ!”

ปิงเฉียวรีบเข้าไปปกป้องนายหญิงของตน เมื่อเห็นว่าใบหน้าของยู่เหอปูดบวมขึ้นมานั้น

เย่จายซิงมิคิดเลยว่าเจียวเจียวจะกล้าลงมือเช่นนี้ นับว่าสตรีตระกูลปีศาจยโสโอหังยิ่งนัก

ในยามนี้ ทั้งสองก็ได้กลายเป็นศัตรูกันโดยสมบูรณ์แล้ว

เจียวเจียวพูดออกมาด้วยท่าทีสูงส่งว่า “แม้ว่าเจ้าไปฟ้องร้องต่อหน้าจักรพรรดิปีศาจ ถึงอย่างไรข้าก็มีเหตุผลอยู่ดี เป็นเจ้าที่คิดจะใช้เล็บขูดใบหน้าของข้าก่อน นางกำนัลของข้าสามารถเป็นพยานให้ได้”

ยู่เหอจับใบหน้าของตนเอง พร้อมกัดฟันออกมาด้วยโกรธแค้น พลางมองไปที่เจียวเจียวด้วยความแค้นเคืองและชี้ไปที่เย่จายซิงว่า

“นางกำนัลผู้นี้ เป็นนางกำนัลในตำหนักของข้า เจ้ากล้าใช้งานนางหรือ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา