บัลลังก์ชายาหมอเทวดา นิยาย บท 231

ยู่เหอพลันจ้องไปที่เจียวเจียวและเย่จายซิงด้วยความโกรธแค้น

ยู่เหอคิดว่า เย่จายซิงจะต้องตั้งใจล่อลวงให้เจียวเจียวมาต่อกรกับนางเป็นแน่ นั่นก็เพราะว่านางมิได้เลือกเย่จายซิงให้อยู่ต่อ ดังนั้นเย่จายซิงจึงได้ล้างแค้นนางเช่นนี้

ใช่แล้ว แม้ว่ายู่เหอจะโดนตบไปหนึ่งที แต่นางก็มิกล้าที่จะไปร้องทุกข์ต่อหน้าจักรพรรดิปีศาจ แต่ว่านางสามารถฆ่านางกำนัลให้ตายได้!

ยู่เหอมิเชื่อหรอกว่า หากเจียวเจียวได้ยินว่าเสี่ยวฮวาเคยเป็นนางกำนัลของตนมาก่อนนั้น จะยังกล้าใช้งานนางอีก! บางทีเจียวเจียวอาจจะลงมือฆ่าเสี่ยวฮวาด้วยตนเองก็เป็นได้

“นายหญิงยู่เหอเจ้าคะ ท่านมิต้องสร้างความแตกแยกระหว่างนายหญิงเจียวเจียวกับข้าน้อยหรอกเจ้าค่ะ ก่อนจะมาที่นี่ ข้าน้อยได้บอกเล่าให้กับนายหญิงเจียวเจียวได้ฟังแล้ว ว่าข้าน้อยเคยรับใช้ท่านมาแล้วหนึ่งวัน นายหญิงเจียวเจียวเป็นสตรีที่ฉลาดเฉลียว ย่อมมิถูกคำพูดที่คลุมเครือของท่านชักจูงไปโดยง่ายหรอกเจ้าค่ะ”

เย่จายซิงกล่าวออกมา

เมื่อนางได้สตรีทั้งสองคนต่อสู้กันนั้น เย่จายซิงรู้ตัวดีว่าตนเองตกเป็นเป้าหมายอย่างแน่นอน

“ใช่แล้ว เจ้าก็ยามปลดเบาอย่าลืมส่องกระจกชะโงกดูเงาตัวเองเสียบ้าง ด้วยตัวเจ้าเช่นนี้ ยังกล้ามาทำให้ข้าโมโหอีก ช่างน่าขันยิ่งนัก เสี่ยวฮวา พวกเรากลับกันเถอะ”

เจียวเจียวพลันเหมือนนกยูงรำแพนที่ได้ชัยชนะในครานี้ พร้อมกับเดินออกไปด้วยท่วงท่าที่สง่างาม

เย่จายซิงก็เดินตามนางออกไป

มิต้องหันกลับไปมอง เย่จายซิงก็รับรู้ได้ถึงสีหน้าที่บิดเบี้ยวของยู่เหอนั้นน่าเกลียดเพียงใด

ต่อไป ก็ต้องไปพบกับนายหญิงอีกสี่นางของวังหลัง เมื่อเจียวเจียวเห็นว่าสตรีเหล่านี้มิได้มีผู้ใดงดงามมากไปกว่านางนั้น นางก็วางใจ

การที่เจียวเจียวออกไปเดินดูรอบๆ เช่นนี้ หาได้ไปดูแต่เพียงความงามของสตรีในวังหลังไม่ หากแต่เป็นการลอบสืบข้อมูลของสถานการณ์ภายในวังหลวงเช่นกัน ก็เห็นว่าเป็นอย่างที่เย่จายซิงพูดขึ้นมาทุกประการ

เมื่อลอบสังเกตการณ์ดูแล้ว พลันพบว่าคำพูดของเย่จายซิงหาได้มีคำไหนที่โกหกนางไม่

เมื่อกลับมาถึงตำหนักเจียวเจียว นางก็พลันมองไปที่เย่จายซิงด้วยความเย็นชาและกล่าวว่า “ทางที่ดีเจ้าอย่าไปสนิทกับนายหญิงคนอื่นจักดีกว่า มิเช่นนั้น ข้าจะถลกหนังของเจ้าออกมาด้วยตนเอง”

พูดจบ เจียวเจียวพลันสั่งให้นางไปขัดพื้นและผนังของตำหนักให้สะอาดเรียบร้อย

เมื่อเผชิญกับความยากลำบากในสิ่งที่เจียวเจียวสั่งให้ทำนั้น เย่จายซิงก็มิได้เอ่ยอันใดออกมา เพียงแต่ตั้งหน้าตั้งตาขัดพื้นอย่างตั้งอกตั้งใจ ภายในใจคิดหาทางรับมืออยู่ตลอดเวลา

ในเมื่อจักรพรรดิปีศาจองค์ใหม่มิเคยมาเหยียบวังหลังเลยสักครั้ง ไม่ว่านางจะทำอะไรที่นี่ก็คงมิได้มีความหมายอันใดมาก ถึงอย่างไรนางก็มานั่งคิดหาทางแย่งชิงความโปรดปรานให้กับเจียวเจียวจักดีกว่า

ไม่ได้ มันช้าเกินไป วันพรุ่งเสด็จอาก็จะยกทัพมาเยือนแล้ว นางควรจะทำให้ความแข็งแกร่งของจักรพรรดิปีศาจองค์ใหม่ลดลงเสียก่อน

เช่นนั้นจะมีทางใดเล่า?

เช่นนั้น นางควรจะปลอมเป็นขันทีเฒ่า เพื่อเข้าไปรินน้ำชาให้กับเขาดีหรือไม่?

คิดไปคิดมา นางก็มีแต่วิธีนี้เท่านั้น

ทั้งทำได้ง่ายและได้ผลลัพธ์ดียิ่ง

ทว่า อาจจะมีความเสี่ยงสูงไปเสียหน่อย

ขัดๆ ถูกๆ มิทันไร ผนังก็สะอาดไปครึ่งหนึ่งเสียแล้ว นี่เรียกว่าการค้นพบทางสว่าง

ในขณะเดียวกัน ด้านนอกพลันมีเสียงของขันทีดังขึ้นมาว่า

“จักรพรรดิปีศาจเสด็จ! นายหญิงเจียวเจียวขอเข้าเฝ้า!”

นัยน์ตาของเย่จายซิงพลันเปล่งประกายไปในทันที

ที่แท้จักรพรรดิปีศาจองค์ใหม่สนใจเจียวเจียว ดูเหมือนว่าเจียวเจียวจะต้องไปรบราแย่งชิงความโปรดปรานเสียแล้ว ในเมื่อจักรพรรดิปีศาจเสด็จมาถึงประตูตำหนักเช่นนี้

เจียวเจียวที่อยู่ในตำหนักพลันรีบร้อนวิ่งออกมา ใบหน้าพลันปรากฏไปด้วยร่องรอยของความยินดีและแปลกใจปะปนกันไป อีกทั้งยังเจือไปด้วยความเขินอายอีกด้วย

“พระสนมขอเข้าเฝ้าจักรพรรดิปีศาจเพคะ!”

เจียวเจียวพลันโค้งคำนับกายต่อจักรพรรดิปีศาจด้วยท่าทีอ่อนหวาน

เมื่อเย่จายซิงเห็นฝีเท้าที่เดินเข้ามาจากประตูนั้น นางก็รีบร้อนก้มหน้าลงงโดยไว เพื่อก้มลงคำนับจักรพรรดิปีศาจ

หากนางมองไปที่จักรพรรดิปีศาจโดยตรงนั้น เกรงว่ายังมิทันได้ลงมือวางยาพิษ นางก็คงถูกจักรพรรดิปีศาจทุบตีตายก่อนเป็นแน่ นางน่าสงสารเกินไปแล้ว

"เงยหน้าขึ้น"

หลงเฟยหลีมองไปที่เจียวเจียว พร้อมกับเอ่ยออกมาด้วยความเย็นชา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา