เย่จายซิงพลันตกตะลึงไปในทันที
นางมิรู้ว่าหลงเฟยหลีมาอยู่ด้านหลังนางตั้งแต่เมื่อใด ทั้งเงียบไร้เสียง บรรยากาศยังเต็มไปด้วยความเย็นชามากมาย นัยน์ตาราวกับดอกท้อทั้งสองข้างพลันเจือไปด้วยอารมณ์กรุ่นโกรธ
ภายในใจของเย่จายซิงจึงครุ่นคิดออกมาด้วยความว่องไว หรือว่าหลงเฟยหลีจำนางได้แล้วอย่างนั้นหรือ?
เย่จายซิงพยายามสงบเสงี่ยมเจียมตัว พร้อมกับย่อกายทำความเคารพ “ท่านจักรพรรดิปีศาจเพคะ”
หลงเฟยหลีพลันเหลือบมองนางอยู่ครู่หนึ่ง พร้อมกับมองไปยังประตูตำหนักที่ถูกขัดอย่างสะอาดเอี่ยม พลางก้าวขายาวๆ เข้าไปด้านใน
ทั้งผนังและประตูต่างก็สะอาดไม่มีฝุ่นผงเช่นนี้
หรือว่า หลังจากที่เขาจากไป นางก็ทำแต่สิ่งนี้มาโดยตลอดงั้นหรือ?
เขาสั่งให้โจวกงกงนำนางกำนัลมาเพิ่มถึงสี่คน นั่นก็เพราะไม่อยากนางมาทำงานใช้แรงเช่นนี้
นางก็ทำได้ดียิ่งนัก สตรีที่เฉลียวฉลาดเช่นนาง เหตุใดถึงได้มาถึงคนอื่นรังแกเช่นนี้ได้
หลงเฟยหลีพลันก้าวขายาวๆ เดินเข้าไปด้านในพลางเห็นเจียวเจียวรีบร้อยวิ่งออกมาด้วยท่าทีเขินอาย
เย่จายซิงพลันถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ดุเหมือนว่าหลงเฟยหลีจะยังจับนางไม่ได้
“ฝ่าบาทเพคะ ท่านมาแล้ว!”
หัวใจของเจียวเจียวพลันเต็มไปด้วยความสุขจนเกือบจะอิ่มล้น นางมิทันได้มองเห็นเลยว่า หลงเฟยหลีกำลังมองนางด้วยแววตากรุ่นโกรธอยู่
“หม่อมฉันจะไปสั่งให้คนนำสำรับมาจัดวางเพคะ ฝ่าบาทรีบเข้ามาด้านในเถิดเพคะ หม่อมฉันจะบรรเลงเพลงพิณให้ท่านฟังสักสองสามเพลงเป็นเช่นไรเพคะ?”
นางเป็นกังวลตลอด เนื่องจากว่ากลัวจักรพรรดิปีศาจจะไม่มา หลังจากที่เห็นว่าเขามาที่นี่จริง ๆ นั้น นางก็รับรู้ได้ในทันทีว่า ตนเองต้องมีความพิเศษกว่าสตรีนางอื่นเป็นแน่ อีกทั้งยังสั่งให้นางแทนตัวเองว่าหม่อมฉันอีก
“ข้าน้อย” สองคำนี้ดูอ่อนน้อมถ่อมตนเกินไป ไม่ว่าอย่างไรคืนนี้ นางก็จะกลายเป็นสตรีของจักรพรรดิปีศาจเต็มตัวแล้ว การจะแทนตัวเองเช่นไรย่อมมิได้มีความสำคัญมากนัก
หลงเฟยหลีมิได้เอ่ยอันใดออกมา พลันตวัดมองเจียวเจียวด้วยนัยน์ตาแดงก่ำ
เจียวเจียวพลันขวัญเสียไปในทันที เหตุใดท่านจักรพรรดิปีศาจถึงได้มองนางด้วยสายตาเช่นนั้นกัน?
หรือว่าจักรพรรดิปีศาจกำลังโกรธนางหรือ?
เป็นไปไม่ได้ นางหาได้ทำอันใดไม่จะไปทำให้พระองค์โกรธเคืองตนเองได้อย่างไรกัน? อีกทั้ง หากพระองค์โกรธนางแล้วจะมาเยือนที่ตำหนักนางทำไมกัน?
เจียวเจียวรู้สึกประหม่ายิ่งนัก ภายในใจรู้หวาดระแวงเป็นอย่างมาก
ทว่า จู่ ๆ นางก็นึกถึงเรื่องที่จักรพรรดิปีศาจฆ่าจิ้งอันและนางกำนัลคนอื่นอย่างไร้อารมณ์ขึ้นมา
ทุกคนล้วนแต่กล่าวว่าจักรพรรดิปีศาจเจ้าอารมณ์ยิ่งนัก นางคล้ายกับจะรับรู้ได้แล้ว
ยามที่จักรพรรดิปีศาจทรงกริ้วขึ้นมานั้น อุณหภูมิภายในตำหนักราวกับจะลดลงเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว
นางมิกล้าสบตากับเขาอย่างตรงๆ อีก
"ไปรับสำรับเย็นกันเถอะ"
หลงเฟยหลีพลันพูดขึ้นด้วยท่าทีเฉยเมย สายตาพลันเหลืยบมองไปยังสตรีตัวน้อยที่กำลังเช็ดทำความสะอาดประตูตำหนักอยู่ พร้อมกับเดินตามหลังเข้าไป
พลันมีเสียงฉินดังมาจากด้านในในทันที เย่จายซิงจึงเดนถือถังน้ำกลับมาที่ห้องของนางกำนัล เมื่อล้างมือเสด็จแล้ว กำลังจะนั่งลงบนเก้าอี้นั้น
เมื่อคิดว่าตนเองมิจำเป็นต้องไปรับใช้ใครแล้ว ทั้งยังไม่ต้องลงมือวางยาพาอีก ดังนั้น ก่อนที่หลงเฟยหลีจะออกไปจากตำหนัก นางจะไม่ออกไปจากห้องนี้เป็นอันขาด เพื่อป้องกันไม่ให้เขาลอบเห็นพิรุธของนาง
มิคิดเลยว่า เพียงนึกถึงหลงเฟยหลีไปได้ไม่นานนัก ประตูพลันถูกเปิดออกด้วยนางกำนัลที่ชื่อว่าเสว่เอ๋อร์ นางบอกกับเย่จายซิงว่า
“ท่าจักรพรรดิปีศาจเรียกให้เจ้าไปคีบอาหาร รีบไปเร็ว!”
“เรียกข้าหรือ? ทำไมเล่า?”
เย่จายซิงพลันลุกขึ้นยืนด้วยความตกใจ ตอนกลางวันมิใช่นางคีบอาหารได้น่าเกลียดมากหรือ เหตุใดตอนกลางคืนยังเรียกนางไปคีบอีกล่ะ
“ข้าจะไปรู้ได้อย่างไรล่ะ? เฮอะ!”
เสว่เอ๋อร์รู้สึกไม่สบอารมณ์ยิ่งนัก นางอุตส่าห์แย่งชิงตำแหน่งนางกำนัลหน้าใหม่ของเย่จายซิงมาได้แล้ว
ต่อไปนางก็จักได้คอยดูแลเป็นคนสนิทรับใช้ข้างกายเจียวเจียว บางทีในอนาคตข้างหน้านางอาจจะได้รับความเมตตาจากจักรพรรดิปีศาจ เพื่อขึ้นเป็นใหญ่เป็นโตก็เป็นได้
มิคิดเลยว่า จักรพรรดิปีศาจหาได้ชายตามองนางไม่ พร้อมกับเรียกให้เย่จายซิงไปคีบอาหารให้กับพระองค์แทน
เย่จายซิงไม่มีเวลามาสนใจกับความเกลียดชังของเสว่เอ๋อร์ นางพลันรับรู้ได้ถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ค่อยดีบางอย่างขึ้นมา หากแต่ในเวลานี้มิใช่เวลาที่ต้องมานั่งคิดมาก เย่จายซิงรีบร้อนเดินไปที่ห้องโถงในทันที พร้อมกับก้มลงคำนับหลงเฟยหลี
เจียวเจียวที่เอาแต่เม้มริมฝีปากนั้น จู่ๆ ก็ลุกขึ้นยืนขึ้นมา พลางเอ่ยด้วยท่าทียิ้มแย้มว่า
“ในเมื่อพระองค์ชื่นชอบให้นางกำนัลคีบอาหารให้เช่นนี้ นางกำนัลมักจะทำอะไรงก ๆ เงินๆ ไม่ไล่พวกนางออก แล้วหม่อมฉันคีบอาหารให้ท่านแทนดีหรือไม่เจ้าคะ?”
เจียวเจียวพลันเอ่ยออกมาด้วยท่าทีฉอเลาะเอาใจ ดวงตาพลันยิ้มตาหยีขึ้นมา หากผู้อื่นได้ยินย่อมรู้สึกจิตใจอ่อนไหว แม้แต่ท่านแม่ทัพก็ยังสั่งให้ให้ถอยทัพกลับ
ทว่า บุรุษผู้นี้คือหลงเฟยหลี หาใช่ผู้อื่นไม่
“เจ้ามีนามว่าอะไร?”
ผู้ใดจะไปรู้ว่า หลงเฟยหลีหาได้ให้นางกำนัลล่าถอยออกไปไม่ กลับหันมาถามเจียวเจียวด้วยท่าทีเย็นชาแทน
สีหน้าของเจียวเจียวพลันไร้เลือดไปในทันที พร้อมกับรู้สึกอับอายยิ่งนัก จักรพรรดิปีศาจ แม้แต่ชื่อของนางก็จำไม่ได้งั้นหรือ?
“หม่อมฉันมีนามว่าเจียวเจียวเพคะ”
เจียวเจียวรีบร้อนตอบกลับด้วยท่าทีตื่นตระหนก จู่ ๆ นางกำลังหวนคิดว่าตนเองได้ไปทำอะไรผิดหรือไม่
เหตุใดท่านจักรพรรดิปีศาจถึงได้มองนางด้วยสายตาเช่นนั้น มองนางราวกับคนแปลกหน้าก็ไม่ปาน!
เหตุใดถึงเป็นเช่นนี้?
เขาไม่ชื่นชอบนางงั้นหรือ?
“เจียวเจียวใช่หรือไม่ เจ้ารู้หรือไม่ว่าเหตุใดข้าถึงมาอยู่ที่นี่?”
หลงเฟยหลีที่กำลังเล่นจอกน้ำชาอยู่นั้น ทั่วร่างพลันแผ่กลิ่นอายออกมาด้วยความเย็นชา
ทุกคนพลันสัมผัสได้ถึงความเย็นชาของจักรพรรดิปีศาจ ทว่า ความเย็นชาเหล่านั้นราวกับจะถูกส่งไปยังเจียวเจียวเพียงผู้เดียว
เสมือนกับว่าวังปีศาจในยามนี้กำลังหมุนเปลี่ยนเวียนไป นายหญิงเจียวเจียวที่กำลังได้รับความโปรดปรานนั้น ผู้ที่มีสิทธิจะได้ขึ้นเป็นฮองเฮาปีศาจคนแรก
ดูเหมือนว่า จากนี้ไป เรื่องราวจะมิได้เป็นเช่นนั้นแล้ว
หัวใจของเย่จายซิงพลันเต้นเร็วยิ่งนัก พร้อมด้วยความวิตกกังวลที่เพิ่มขึ้นตามมา
นางก้มหน้าตนเองลงเพื่อปกปิดอารมณ์ของตัวเองเอาไว้
“หม่อม หม่อมฉันไม่ทราบ บางที เป็นเพราะท่านสนใจหม่อมฉันใช่หรือไม่เพคะ”
เจียวเจียวเริ่มรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาในทันที ภายในใจได้แต่ภาวนาว่าเป็นจักรพรรดิปีศาจที่กำลังหยอกล้อนาง ทำให้นางตกใจเล่นๆ
นางมิได้พูดว่า ตนเองจะอาสาคีบอาหารให้เขางั้นหรือ นางหาได้เคยทำอะไรผิดไม่ เหตุใดเรื่องราวจึงแปรเปลี่ยนมาเป็นเช่นนี้ได้?
“ข้ามาที่นี่ หาใช่เพราะเจ้าไม่”
เมื่อเขาพูดจบ เย่จายซิงพลันเงยหน้าขึ้นมาในทันที พร้อมกับเห็นหลงเฟยหลีกำลังแย้มยิ้มส่งมาให้กับนางอยู่
เขามองนางออกตั้งนานแล้วหรือ?
“อะ อะไรนะเพคะ?” เจียวเจียวไม่อยากจะเชื่อ หากไม่ใช่เพราะว่า แล้วเพราะผู้ใดกัน ?
ภายในวังหลังไม่มีผู้ใดงดงามไปมากกว่านางอีกแล้ว
เช่นนั้น ท่านจักรพรรดิปีศาจมาที่นี่เพราะผู้ใดกัน?
เย่จายซิงค่อย ๆ ก้าวเท้าเดินถอยหลังไปช้าๆ การจะเผชิญหน้ากับหลงเฟยหลีนั้น นางย่อมมิใช่คู่ต่อสู้ของเขาอย่างแน่นอน นางไม่อาจให้หลงเฟยหลีจับนางไปได้
เมื่อนางเพียงเก้าเท้าไปได้ก้าวเดียวนั้น ก็พลันมีแส้ปีศาจลากนางกลับมาในทันที พร้อมด้วยหลงเฟยหลีที่จับมือนางเอาไว้ พลางจับให้นางมานั่งลงบนขาของเขา
“เจ้าจะวิ่งไปที่ใดกันฮะ เจ้าแมวป่าน้อยของข้า?”
ทั้งเจียวเจียวและเสวี่ยเฮ่อร์ที่ได้เห็นภาพเช่นนั้น ก็พลันตกตะลึงเสียจนหน้าถอดสี
ท่านจักรพรรดิปีศาจ ต้องตากับนางกำนัลหน้าตาบ้านๆ คนหนึ่งงั้นหรือ ??
“ท่านจักรพรรดิปีศาจเพคะ!”
เจียวเจียวตะโกนออกมาอย่างไม่อาจยอมรับได้ นางพลันชี้หน้าไปที่เย่จายซิง
“พระองค์มาที่นี่เพียงเพราะนางกำนัลผู้หนึ่งงั้นหรือเพคะ? ทว่า รูปร่าง หน้าตาของนางหาได้มีที่ใดเลิศเลอไม่ นางจะเหมาะสมกับท่านได้อย่างไรกัน !”
หากว่าท่านจักรพรรดิปีศาจไปชื่นชอบคนที่งดงามกว่านาง นางยังพอจะเต็มใจยอมรับความพ่ายแพ้
แต่ทว่า เขามาเพราะนางกำนัลที่อยู่ภายใต้อำนาจของนาง อีกทั้งยังไม่มีที่ใดดูเลิศเลออีก เสมือนกับสาวชาวบ้านที่ไม่มีเคยได้รับน้ำที่ใสสะอาด
นางไม่อาจยอมรับได้!
“งั้นหรือ พวกเจ้าคิดว่านางไม่งดงามงั้นหรือ?”
หลงเฟยหลีพลันแสยะยิ้มออกมาด้วยความชั่วร้าย พลางเอื้อมมือออกไปเชยคางเย่จายซิงเอาไว้
“ปล่อยข้า! หลงเฟยหลี! เจ้าจำผิดคนแล้ว!”
เย่จายซิงไม่สามารถเคลื่อนไหวภายใต้การบังคับของเขาได้ นัยน์ตาพลันจ้องมองพลังงานหนาแน่นของปีศาจที่ค่อยๆ เข้าแทรกซึมสู่ร่างกายของนาง
จากนั้น การปลอมกายของนางก็ค่อยๆ ถูกเปิดเผยออกมา รูปลักษณ์และใบหน้าของนางจึงค่อยๆ แปรเปลี่ยนไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา
115จนถึงถึง159ไม่มีเลยค่ะลงต่อให้ครบได้มั้ยค่ะ😂...
ตอนที่ 115-159 หายไปค่ะ อ่านต่อไม่ได้อ่ะค่ะ...
115-159หายไปไหนอ่าคะ...
อัพวันละหลายๆตอนได้มั้ยค่ะ ขอบคุณค่ะ...