บัลลังก์ชายาหมอเทวดา นิยาย บท 234

เย่จายซิงพลันตกตะลึงไปในทันที

นางมิรู้ว่าหลงเฟยหลีมาอยู่ด้านหลังนางตั้งแต่เมื่อใด ทั้งเงียบไร้เสียง บรรยากาศยังเต็มไปด้วยความเย็นชามากมาย นัยน์ตาราวกับดอกท้อทั้งสองข้างพลันเจือไปด้วยอารมณ์กรุ่นโกรธ

ภายในใจของเย่จายซิงจึงครุ่นคิดออกมาด้วยความว่องไว หรือว่าหลงเฟยหลีจำนางได้แล้วอย่างนั้นหรือ?

เย่จายซิงพยายามสงบเสงี่ยมเจียมตัว พร้อมกับย่อกายทำความเคารพ “ท่านจักรพรรดิปีศาจเพคะ”

หลงเฟยหลีพลันเหลือบมองนางอยู่ครู่หนึ่ง พร้อมกับมองไปยังประตูตำหนักที่ถูกขัดอย่างสะอาดเอี่ยม พลางก้าวขายาวๆ เข้าไปด้านใน

ทั้งผนังและประตูต่างก็สะอาดไม่มีฝุ่นผงเช่นนี้

หรือว่า หลังจากที่เขาจากไป นางก็ทำแต่สิ่งนี้มาโดยตลอดงั้นหรือ?

เขาสั่งให้โจวกงกงนำนางกำนัลมาเพิ่มถึงสี่คน นั่นก็เพราะไม่อยากนางมาทำงานใช้แรงเช่นนี้

นางก็ทำได้ดียิ่งนัก สตรีที่เฉลียวฉลาดเช่นนาง เหตุใดถึงได้มาถึงคนอื่นรังแกเช่นนี้ได้

หลงเฟยหลีพลันก้าวขายาวๆ เดินเข้าไปด้านในพลางเห็นเจียวเจียวรีบร้อยวิ่งออกมาด้วยท่าทีเขินอาย

เย่จายซิงพลันถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ดุเหมือนว่าหลงเฟยหลีจะยังจับนางไม่ได้

“ฝ่าบาทเพคะ ท่านมาแล้ว!”

หัวใจของเจียวเจียวพลันเต็มไปด้วยความสุขจนเกือบจะอิ่มล้น นางมิทันได้มองเห็นเลยว่า หลงเฟยหลีกำลังมองนางด้วยแววตากรุ่นโกรธอยู่

“หม่อมฉันจะไปสั่งให้คนนำสำรับมาจัดวางเพคะ ฝ่าบาทรีบเข้ามาด้านในเถิดเพคะ หม่อมฉันจะบรรเลงเพลงพิณให้ท่านฟังสักสองสามเพลงเป็นเช่นไรเพคะ?”

นางเป็นกังวลตลอด เนื่องจากว่ากลัวจักรพรรดิปีศาจจะไม่มา หลังจากที่เห็นว่าเขามาที่นี่จริง ๆ นั้น นางก็รับรู้ได้ในทันทีว่า ตนเองต้องมีความพิเศษกว่าสตรีนางอื่นเป็นแน่ อีกทั้งยังสั่งให้นางแทนตัวเองว่าหม่อมฉันอีก

“ข้าน้อย” สองคำนี้ดูอ่อนน้อมถ่อมตนเกินไป ไม่ว่าอย่างไรคืนนี้ นางก็จะกลายเป็นสตรีของจักรพรรดิปีศาจเต็มตัวแล้ว การจะแทนตัวเองเช่นไรย่อมมิได้มีความสำคัญมากนัก

หลงเฟยหลีมิได้เอ่ยอันใดออกมา พลันตวัดมองเจียวเจียวด้วยนัยน์ตาแดงก่ำ

เจียวเจียวพลันขวัญเสียไปในทันที เหตุใดท่านจักรพรรดิปีศาจถึงได้มองนางด้วยสายตาเช่นนั้นกัน?

หรือว่าจักรพรรดิปีศาจกำลังโกรธนางหรือ?

เป็นไปไม่ได้ นางหาได้ทำอันใดไม่จะไปทำให้พระองค์โกรธเคืองตนเองได้อย่างไรกัน? อีกทั้ง หากพระองค์โกรธนางแล้วจะมาเยือนที่ตำหนักนางทำไมกัน?

เจียวเจียวรู้สึกประหม่ายิ่งนัก ภายในใจรู้หวาดระแวงเป็นอย่างมาก

ทว่า จู่ ๆ นางก็นึกถึงเรื่องที่จักรพรรดิปีศาจฆ่าจิ้งอันและนางกำนัลคนอื่นอย่างไร้อารมณ์ขึ้นมา

ทุกคนล้วนแต่กล่าวว่าจักรพรรดิปีศาจเจ้าอารมณ์ยิ่งนัก นางคล้ายกับจะรับรู้ได้แล้ว

ยามที่จักรพรรดิปีศาจทรงกริ้วขึ้นมานั้น อุณหภูมิภายในตำหนักราวกับจะลดลงเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว

นางมิกล้าสบตากับเขาอย่างตรงๆ อีก

"ไปรับสำรับเย็นกันเถอะ"

หลงเฟยหลีพลันพูดขึ้นด้วยท่าทีเฉยเมย สายตาพลันเหลืยบมองไปยังสตรีตัวน้อยที่กำลังเช็ดทำความสะอาดประตูตำหนักอยู่ พร้อมกับเดินตามหลังเข้าไป

พลันมีเสียงฉินดังมาจากด้านในในทันที เย่จายซิงจึงเดนถือถังน้ำกลับมาที่ห้องของนางกำนัล เมื่อล้างมือเสด็จแล้ว กำลังจะนั่งลงบนเก้าอี้นั้น

เมื่อคิดว่าตนเองมิจำเป็นต้องไปรับใช้ใครแล้ว ทั้งยังไม่ต้องลงมือวางยาพาอีก ดังนั้น ก่อนที่หลงเฟยหลีจะออกไปจากตำหนัก นางจะไม่ออกไปจากห้องนี้เป็นอันขาด เพื่อป้องกันไม่ให้เขาลอบเห็นพิรุธของนาง

มิคิดเลยว่า เพียงนึกถึงหลงเฟยหลีไปได้ไม่นานนัก ประตูพลันถูกเปิดออกด้วยนางกำนัลที่ชื่อว่าเสว่เอ๋อร์ นางบอกกับเย่จายซิงว่า

“ท่าจักรพรรดิปีศาจเรียกให้เจ้าไปคีบอาหาร รีบไปเร็ว!”

“เรียกข้าหรือ? ทำไมเล่า?”

เย่จายซิงพลันลุกขึ้นยืนด้วยความตกใจ ตอนกลางวันมิใช่นางคีบอาหารได้น่าเกลียดมากหรือ เหตุใดตอนกลางคืนยังเรียกนางไปคีบอีกล่ะ

“ข้าจะไปรู้ได้อย่างไรล่ะ? เฮอะ!”

เสว่เอ๋อร์รู้สึกไม่สบอารมณ์ยิ่งนัก นางอุตส่าห์แย่งชิงตำแหน่งนางกำนัลหน้าใหม่ของเย่จายซิงมาได้แล้ว

ต่อไปนางก็จักได้คอยดูแลเป็นคนสนิทรับใช้ข้างกายเจียวเจียว บางทีในอนาคตข้างหน้านางอาจจะได้รับความเมตตาจากจักรพรรดิปีศาจ เพื่อขึ้นเป็นใหญ่เป็นโตก็เป็นได้

มิคิดเลยว่า จักรพรรดิปีศาจหาได้ชายตามองนางไม่ พร้อมกับเรียกให้เย่จายซิงไปคีบอาหารให้กับพระองค์แทน

เย่จายซิงไม่มีเวลามาสนใจกับความเกลียดชังของเสว่เอ๋อร์ นางพลันรับรู้ได้ถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ค่อยดีบางอย่างขึ้นมา หากแต่ในเวลานี้มิใช่เวลาที่ต้องมานั่งคิดมาก เย่จายซิงรีบร้อนเดินไปที่ห้องโถงในทันที พร้อมกับก้มลงคำนับหลงเฟยหลี

เจียวเจียวที่เอาแต่เม้มริมฝีปากนั้น จู่ๆ ก็ลุกขึ้นยืนขึ้นมา พลางเอ่ยด้วยท่าทียิ้มแย้มว่า

“ในเมื่อพระองค์ชื่นชอบให้นางกำนัลคีบอาหารให้เช่นนี้ นางกำนัลมักจะทำอะไรงก ๆ เงินๆ ไม่ไล่พวกนางออก แล้วหม่อมฉันคีบอาหารให้ท่านแทนดีหรือไม่เจ้าคะ?”

เจียวเจียวพลันเอ่ยออกมาด้วยท่าทีฉอเลาะเอาใจ ดวงตาพลันยิ้มตาหยีขึ้นมา หากผู้อื่นได้ยินย่อมรู้สึกจิตใจอ่อนไหว แม้แต่ท่านแม่ทัพก็ยังสั่งให้ให้ถอยทัพกลับ

ทว่า บุรุษผู้นี้คือหลงเฟยหลี หาใช่ผู้อื่นไม่

“เจ้ามีนามว่าอะไร?”

ผู้ใดจะไปรู้ว่า หลงเฟยหลีหาได้ให้นางกำนัลล่าถอยออกไปไม่ กลับหันมาถามเจียวเจียวด้วยท่าทีเย็นชาแทน

สีหน้าของเจียวเจียวพลันไร้เลือดไปในทันที พร้อมกับรู้สึกอับอายยิ่งนัก จักรพรรดิปีศาจ แม้แต่ชื่อของนางก็จำไม่ได้งั้นหรือ?

“หม่อมฉันมีนามว่าเจียวเจียวเพคะ”

เจียวเจียวรีบร้อนตอบกลับด้วยท่าทีตื่นตระหนก จู่ ๆ นางกำลังหวนคิดว่าตนเองได้ไปทำอะไรผิดหรือไม่

เหตุใดท่านจักรพรรดิปีศาจถึงได้มองนางด้วยสายตาเช่นนั้น มองนางราวกับคนแปลกหน้าก็ไม่ปาน!

เหตุใดถึงเป็นเช่นนี้?

เขาไม่ชื่นชอบนางงั้นหรือ?

“เจียวเจียวใช่หรือไม่ เจ้ารู้หรือไม่ว่าเหตุใดข้าถึงมาอยู่ที่นี่?”

หลงเฟยหลีที่กำลังเล่นจอกน้ำชาอยู่นั้น ทั่วร่างพลันแผ่กลิ่นอายออกมาด้วยความเย็นชา

ทุกคนพลันสัมผัสได้ถึงความเย็นชาของจักรพรรดิปีศาจ ทว่า ความเย็นชาเหล่านั้นราวกับจะถูกส่งไปยังเจียวเจียวเพียงผู้เดียว

เสมือนกับว่าวังปีศาจในยามนี้กำลังหมุนเปลี่ยนเวียนไป นายหญิงเจียวเจียวที่กำลังได้รับความโปรดปรานนั้น ผู้ที่มีสิทธิจะได้ขึ้นเป็นฮองเฮาปีศาจคนแรก

ดูเหมือนว่า จากนี้ไป เรื่องราวจะมิได้เป็นเช่นนั้นแล้ว

หัวใจของเย่จายซิงพลันเต้นเร็วยิ่งนัก พร้อมด้วยความวิตกกังวลที่เพิ่มขึ้นตามมา

นางก้มหน้าตนเองลงเพื่อปกปิดอารมณ์ของตัวเองเอาไว้

“หม่อม หม่อมฉันไม่ทราบ บางที เป็นเพราะท่านสนใจหม่อมฉันใช่หรือไม่เพคะ”

เจียวเจียวเริ่มรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาในทันที ภายในใจได้แต่ภาวนาว่าเป็นจักรพรรดิปีศาจที่กำลังหยอกล้อนาง ทำให้นางตกใจเล่นๆ

นางมิได้พูดว่า ตนเองจะอาสาคีบอาหารให้เขางั้นหรือ นางหาได้เคยทำอะไรผิดไม่ เหตุใดเรื่องราวจึงแปรเปลี่ยนมาเป็นเช่นนี้ได้?

“ข้ามาที่นี่ หาใช่เพราะเจ้าไม่”

เมื่อเขาพูดจบ เย่จายซิงพลันเงยหน้าขึ้นมาในทันที พร้อมกับเห็นหลงเฟยหลีกำลังแย้มยิ้มส่งมาให้กับนางอยู่

เขามองนางออกตั้งนานแล้วหรือ?

“อะ อะไรนะเพคะ?” เจียวเจียวไม่อยากจะเชื่อ หากไม่ใช่เพราะว่า แล้วเพราะผู้ใดกัน ?

ภายในวังหลังไม่มีผู้ใดงดงามไปมากกว่านางอีกแล้ว

เช่นนั้น ท่านจักรพรรดิปีศาจมาที่นี่เพราะผู้ใดกัน?

เย่จายซิงค่อย ๆ ก้าวเท้าเดินถอยหลังไปช้าๆ การจะเผชิญหน้ากับหลงเฟยหลีนั้น นางย่อมมิใช่คู่ต่อสู้ของเขาอย่างแน่นอน นางไม่อาจให้หลงเฟยหลีจับนางไปได้

เมื่อนางเพียงเก้าเท้าไปได้ก้าวเดียวนั้น ก็พลันมีแส้ปีศาจลากนางกลับมาในทันที พร้อมด้วยหลงเฟยหลีที่จับมือนางเอาไว้ พลางจับให้นางมานั่งลงบนขาของเขา

“เจ้าจะวิ่งไปที่ใดกันฮะ เจ้าแมวป่าน้อยของข้า?”

ทั้งเจียวเจียวและเสวี่ยเฮ่อร์ที่ได้เห็นภาพเช่นนั้น ก็พลันตกตะลึงเสียจนหน้าถอดสี

ท่านจักรพรรดิปีศาจ ต้องตากับนางกำนัลหน้าตาบ้านๆ คนหนึ่งงั้นหรือ ??

“ท่านจักรพรรดิปีศาจเพคะ!”

เจียวเจียวตะโกนออกมาอย่างไม่อาจยอมรับได้ นางพลันชี้หน้าไปที่เย่จายซิง

“พระองค์มาที่นี่เพียงเพราะนางกำนัลผู้หนึ่งงั้นหรือเพคะ? ทว่า รูปร่าง หน้าตาของนางหาได้มีที่ใดเลิศเลอไม่ นางจะเหมาะสมกับท่านได้อย่างไรกัน !”

หากว่าท่านจักรพรรดิปีศาจไปชื่นชอบคนที่งดงามกว่านาง นางยังพอจะเต็มใจยอมรับความพ่ายแพ้

แต่ทว่า เขามาเพราะนางกำนัลที่อยู่ภายใต้อำนาจของนาง อีกทั้งยังไม่มีที่ใดดูเลิศเลออีก เสมือนกับสาวชาวบ้านที่ไม่มีเคยได้รับน้ำที่ใสสะอาด

นางไม่อาจยอมรับได้!

“งั้นหรือ พวกเจ้าคิดว่านางไม่งดงามงั้นหรือ?”

หลงเฟยหลีพลันแสยะยิ้มออกมาด้วยความชั่วร้าย พลางเอื้อมมือออกไปเชยคางเย่จายซิงเอาไว้

“ปล่อยข้า! หลงเฟยหลี! เจ้าจำผิดคนแล้ว!”

เย่จายซิงไม่สามารถเคลื่อนไหวภายใต้การบังคับของเขาได้ นัยน์ตาพลันจ้องมองพลังงานหนาแน่นของปีศาจที่ค่อยๆ เข้าแทรกซึมสู่ร่างกายของนาง

จากนั้น การปลอมกายของนางก็ค่อยๆ ถูกเปิดเผยออกมา รูปลักษณ์และใบหน้าของนางจึงค่อยๆ แปรเปลี่ยนไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา