บัลลังก์ชายาหมอเทวดา นิยาย บท 239

โจวกงกงถ่ายทอดคำสั่งลงไปทันที

เมื่อรู้ว่าองค์จักรพรรดิปีศาจจะปลดพวกนางสนมในวังหลัง ผู้หญิงทั้งหมดจะถูกส่งไปเป็นนางกำนัล สีหน้าพวกผู้หญิงงดงามที่ใฝ่ฝันอยากเป็นผู้หญิงข้างกายองค์จักรพรรดิปีศาจเดี๋ยวเขียวเดี๋ยวซีด

โดยเฉพาะยู่เหอ นางได้ยินมาว่าเจียวเจียวถูดกำจัดจุดตันเถียน ลงโทษให้ไปเป็นทาส ยังสะใจอยู่สักพัก กำลังคิดว่าต่อไปจะเหยียบย่ำนาง ใครใช้ให้นางมาตบหน้าตน

สุดท้ายกลับคิดไม่ถึง ตนเองก็จะต้องไปเป็นนางกำนัลแล้ว ยังต้องไปปรนนิบัติดูแลนางกำนัลที่เคยมารับใช้อยู่ในตำหนักของนางคนนั้น

ตอนนี้คนอื่นไม่ใช่นางกำนัลแล้ว ได้ยินมาว่านางไปทำแปลงโฉม งามล้มเมืองเลยทีเดียว องค์จักรพรรดิปีศาจหลงรักตั้งแต่แรกพบ ยังให้ย้ายเข้าไปอยู่ในวังเจาหยาง เตรียมเป็นฮองเฮาปีศาจในอนาคต

นางไม่ได้มีชื่อเรียกว่าเสี่ยวฮวา แต่ชื่อเย่จายซิง ยังเป็นเผ่ามนุษย์

ในใจยู่เหอเกลียดแค้นมาก ที่ผ่านมานางสามารถฆ่านางกำนัลได้อย่างง่ายดาย สถานะเปลี่ยนไป กลายเป็นเจ้านายของนาง ต่อไปเคารพนอบน้อม นางจะทนรับได้อย่างไร

“เร็วเข้าเร็วเข้า รีบเปลี่ยนสวมชุดนางกำนัล นายน้อยจะเข้านอนแล้ว เจ้ากับพวกนางกำนัลคนอื่นอีกเก้าคนเฝ้าเวรยามด้านนอกประตูห้องนายน้อย”

มีเสียงขันทีคนหนึ่งพูดเร่งเร้า

นายน้อยคือใคร เย่จายซิงไง ตอนนี้ทั่วทั้งวัง มีเพียงนางคนเดียวที่เป็นนายหญิง

ไม่แน่ หลังจากวันพรุ่งนี้เป็นต้นไปก็อาจจะต้องเรียกนางว่าฮองเฮาปีศาจ

แค่เฝ้าเวรยามก็ต้องใช้นางกำนัลตั้งสิบคน ยังไม่นับนางกำนัลกับขันทีคนอื่นที่คอยปรนนิบัติรับใช้ ตอนนี้ทั่วทั้งวังหลังโอบล้อมเย่จายซิงเพียงคนเดียว

ต่อให้ยู่เหอไม่พอใจแค่ไหน ก็ต้องรีบเปลี่ยนใส่ชุดนางกำนัลแล้วก็เดินตามขันทีไปยังวังเจาหยาง

เย่จายซิงไม่รู้เรื่องพวกนี้เลยนางปิดประตูแล้วก็ไม่เจอใครทั้งนั้น นอนอยู่บนเตียงแล้วทำเป็นหลับตาพักผ่อน แอบใช้จิตตื่นรู้พูดคุยกับเจ้าไป๋ในห้วงกาลเวลา

นางไม่กล้าเข้าไปในห้วงกาลเวลา ทั่วทั้งวังมารล้วนอยู่ภายใต้อาณาเขตของหลงเฟยหลี ทุกความเคลื่อนไหวของตนขอเพียงเขาอยากรู้ก็จะสามารถรู้ได้

“เทาเที่ยยังไม่ฟื้นหรือ?”

เจ้าไป๋ส่ายหัว พร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่เป็นไร จิ้งจอกน้อยตื่นมาครั้งหนึ่ง ทานพู่เทพแล้วก็นอนต่อ หัวใหญ่ขึ้น ขนดูเหมือนจะแดงกว่าจิ้งจอกทิพย์จิ่วอิงปกติอย่างมาก”

นี่ถือเป็นเรื่องดี พวกอสูรศักดิ์สิทธิ์อสูรเทพ การนอนหลับเป็นเหมือนอย่างการฝึกตนในเชิงลึก ยิ่งนอนนาน การบำเพ็ญก็จะยิ่งสูงขึ้น

และก็จะทำให้เป็นผู้ใหญ่ในไม่ช้า เมื่อเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ นางถึงจะได้รับพรพลังต่อสู้ที่มากยิ่งขึ้น

แต่วัยเด็กของพวกเขาก็ยาวนาน ตอนนี้พู่เทพก็สามารถย่นเวลาสั้นลงได้บ้าง

เย่จายซิงไม่พูดถึงพวกเขาอีก ถามขึ้นมาว่า “เจ้าไป๋ ระดับการบำเพ็ญของหลงเฟยหลีน่าจะอยู่ระดับแดนเทพปีศาจ เมื่อก่อนเขาถูกพิษมากมาย ถึงแม้จะถอนพิษแล้ว แต่มีภูมิคุ้มกันต่อพิษบางชนิด ยาผงสลายวิญญาณของข้าเขากินไปหมดแล้ว เจ้ามีวิธีทำให้ข้าสามารถหลุดพ้นจากอาณาเขตของเขาได้ไหม?”

หากอยู่ในอาณาเขตของเขา ตนเองก็จะกลายเป็นตัวประกันของเขา เมื่อเสด็จอามา ตนเองก็จะกลายเป็นจุดอ่อนของเสด็จอา

นางต้องออกมาจากการควบคุมภายในอาณาเขตของเขา ถึงจะสามารถร่วมมือกับเสด็จอาต่อสู้กับหลงเฟยหลี

เจ้าไป๋คิดไปคิดมา แล้วก็พูดขึ้นมา

“มีวิธีอยู่อย่างหนึ่ง แต่อันตรายมาก”

“เจ้าว่ามา”

เจ้าไป๋พูดขึ้นว่า

“ตอนนี้นายหญิงอยู่ในระดับแดนมหาจักรพรรดิทิพย์ สามารถใช้วิชาเวทมนตร์ได้แล้ว ครั้งที่แล้วหลังจากห้วงกาลเวลายกระดับ ห้วงกาลเวลาให้รางวัลวิชาเวทมนตร์ระดับเซียนมาหนึ่งเล่ม มีชื่อเรียกวิชาเวทมนตร์แห่งพลัง หลังจากฝึกฝน จะสามารถทำให้พลังการบำเพ็ญของนางหญิงเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว กระทั่งหลายเท่า ของเพียงพลังการบำเพ็ญของท่านอยู่เหนือเขา ก็จะสามารถออกมาจากอาณาเขตของเขาได้ ยังมีโอกาสทำร้ายเขาให้บาดเจ็บสาหัส”

วิชาเวทมนตร์ระดับเซียน

เย่จายซิงตกตะลึง

วิชาเวทมนตร์บนโลกนี้มีไม่มาก และวิชาเวทมนตร์ระดับเซียนก็มีน้อยมาก คิดไม่ถึงว่าในห้วงกาลเวลาวิชาเวทมนตร์ระดับเซียนเล่มหนึ่ง

“ที่ข้าไม่บอกนายหญิงก็เพราะ หลังจากใช้วิชาเวทมนตร์จะเกิดผลข้างเคียงอย่างมาก จะอ่อนแออยู่ช่วงระยะหนึ่ง ตอนนี้นายหญิงอยู่ไหนโลกปีศาจ ไม่เหมาะที่จะใช้วิชาเวทมนตร์”

นางพยักหัว พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าพูดถูก หากข้าอยู่ตัวคนเดียว ข้าไม่กล้าใช้วิชาเวทมนตร์แน่ เพราะไม่รู้ว่าจะสามารถหนีออกไปจากโลกปีศาจได้ไหม แต่มีเสด็จอาอยู่ด้วย ข้าสามารถวางใจที่จะยกเบื้องหลังให้กับเขา”

“งั้นข้าอ่านวิชาเวทมนตร์ให้ท่านฟัง ด้วยความสามารถของนายหญิง คืนนี้ก็สามารถเรียนรู้ได้แล้ว”

“ดี”

เย่จายซิงพลิกตัวบนเตียง

……

ในขณะเดียวกัน โม่เสิ่นยวนศึกษาค้นคว้ารู้วิธีใช้หยกสื่อสารในโลกปีศาจ

เขารีบติดต่อเย่จายซิง ข่าวกลับเงียบไป

“น้องซิงมาที่โลกปีศาจ?”

ใบหน้าหล่อเข้มเคร่งขรึม คิดถึงความเป็นไปได้นี้เป็นอันดับแรก

เพราะมีเพียงลงไปในอเวจีปีศาจ หยกสื่อสารจะถูกพลังปีศาจทำลาย เขาจึงไม่สามารถที่จะติดต่อนางได้

“น้องซิง ทำไมเจ้าโง่เช่นนี้?”

โม่เสิ่นยวนเป็นกังวลอย่างมาก ภายในใจลึกๆก็มีความสุข

นางตามมาถึงโลกปีศาจ แสดงว่าสถานะของตนเองที่มีอยู่ในใจของนางนั้นสำคัญยิ่งกว่าที่ตนเองคิดไว้

เขาคิดมาตลอดว่าความรู้สึกของนางที่มีต่อตนนั้นไม่ลึกซึ้ง ตอนนี้สามารถรู้ได้ถึงความรู้สึกของนางแล้ว

เขาไม่อยากให้นางตกอยู่ในอันตราย แต่เขาก็เชื่อว่าด้วยไหวพริบของงานจะต้องสามารถปกป้องตนเองให้อยู่โลกปีศาจได้อย่างปลอดภัย

สิ่งเดียวที่เป็นกังวลก็คือ จักรพรรดิปีศาจคนใหม่ไม่ใช่ใคร แต่เป็นหลงเฟยหลีที่เคยหลงรักน้องซิง

“มีคำสั่งลงไป ต่อสู้กับศัตรูอย่างรวดเร็วที่สุด จากนั้นก็รีบรุดไปข้างหน้า โจมตีเมืองปีศาจ”

สัมผัสปลายแหวนที่แขวนอยู่บนหัวใจ เขาตามประมุขปีศาจหยวนขุยคนสนิทที่ไว้ใจมา เมื่อมีคำสั่งไปแล้ว แล้วก็ไปออกรบด้วยตนเอง จนฝ่ายตรงข้ามบาดเจ็บล้มตายนับไม่ถ้วน

เขามั่นใจว่า น้องซิงอยู่ในเมืองปีศาจ นั่นเป็นสถานที่ที่นางน่าจะไปมากที่สุด และตอนนี้นางน่าจะรู้สถานะของตนแล้ว

นางฉลาดขนาดนั้น จะต้องกำลังคิดอยู่ว่าจะช่วยตนเองอย่างไร

……

เมื่อดวงจันทร์ในโลกปีศาจปรากฏขึ้น เทียบเท่ากับแสงยามเช้าของโลกาทิพย์

แสงสีแดงปรากฏบนท้องฟ้า โลกทั้งใบปกคลุมไปด้วยแสงสีแดง เวลานี้พลังแห่งมารแข็งแกร่งที่สุด

เย่จายซิงลืมตาขึ้นมาในตอนนี้

นางรู้สึกได้ถึงแหวนค่อยๆร้อนขึ้น

เสด็จอากำลังเข้ามาใกล้เมืองปีศาจ ยิ่งอยู่ก็ยิ่งอยู่ใกล้ตนเองแล้ว

“มีใครอยู่บ้าง ข้าจะอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า”

อาณาเขตยังอยู่ หลงเฟยหลีน่าจะไม่ไปไหน

นางต้องรั้งหลงเฟยหลีไว้ จะให้เขาไปเผชิญหน้าเสด็จอาด้วยตนเองไม่ได้ เขามีพลังอานุภาพแห่งบรรพบุรุษมาร เสด็จอาไม่ใช่คู่ต่อสู้

จากนั้นนางก็ต้องหาโอกาสวางยาพิษเขา

ไม่นาน นางกำนัลกลุ่มหนึ่งก็ยกอุปกรณ์อาบน้ำเข้ามา

พวกนางคอยปรนนิบัติรับใช้อย่างระมัดระวัง แต่ยังไงก็เป็นคนที่เต็มไปด้วยความแปลกใจ เมื่อวานไม่มีโอกาสได้เห็นเย่จายซิง ตอนนี้จึงอยากที่จะมองดู อยากดูว่ารูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร ที่สามารถทำให้องค์จักรพรรดิปีศาจหลงใหลได้ขนาดนี้

เมื่อเงยหน้าขึ้นมองดู ทุกคนต่างก็อึ้ง

พวกนางเคยคิดไว้ว่านางงดงามขนาดไหน แต่เมื่อได้เห็นใบหน้าใบนี้แล้ว พวกนางไม่รู้ว่าจะใช้คำคุณศัพท์อันไหนมาแทนความงดงามของนาง พวกนางแทบนางไม่ได้เลย

ถึงว่า

ถึงว่าองค์จักรพรรดิปีศาจถึงขั้นปลดนางสนมในวังหลังเพื่อนาง

เมื่อเห็นใบหน้าใบนี้แล้ว ทุกคนจำต้องยอมรับ

แน่นอนว่าก็มีคนไม่พอใจ อย่างเช่นยู่เหอ แต่ก็ไม่กล้าที่จะทำอะไร

“โจวกงกงล่ะ ให้เขาเข้ามา ข้ามีเรื่องจะถามเขา”

เย่จายซิงลูบคลำแหวนที่ร้อนรุ่ม

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา