บัลลังก์ชายาหมอเทวดา นิยาย บท 243

หลงเฟยหลีพูดอย่างโจ่งแจ้ง และบอกชัดเจนว่าคืนนี้เขาจะนอนกับนาง

ชาดโฉ่กงเม็ดนั้นจะต้องถูกทำลายโดยเขา

เพื่อให้เย่จายซิงเป็นผู้หญิงของเขาแต่เพียงผู้เดียว

เขาไม่คิดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอื่นๆ แม้ว่าปีศาจหยวนขุยจะก่อกบฏและโจมตีเมืองปีศาจแล้วก็ไม่อยู่ในสายตาเขาสักนิด หากเขาคิดจะลงมือ ศพคงยาวเป็นแถวแน่

แต่เขาก็ไม่อยากรออีกต่อไป ไม่มีผู้หญิงคนไหนทำให้เขาไว้ใจได้ขนาดนี้ อาจเป็นเพราะที่ผ่านมาเขาไม่เคยได้รับเลย เขาได้แต่คิดในใจ

รอให้เขาได้ตัวเจ้าแมวป่าตัวน้อยก่อน เขาก็จะไม่ให้ความสนใจในตัวนางมากไปกว่านี้แน่นอน

ผู้หญิงคนเดียว ทำไมต้องให้ความสำคัญขนาดนี้

เย่จายซิงสีหน้าดูประหม่า

อันที่จริงนางไม่ได้ประหม่า เพราะนางไม่มีทางให้เขาได้ตามสมใจหวังอยู่แล้ว

ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม คืนนี้นี้จะต้องวางยาเขาให้จงได้

แหวนนิ้วก้อยเริ่มร้อนขึ้นเรื่อยๆ เสด็จอากำลังเข้าใกล้นางมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่นานเขาก็จะรู้ว่านางอยู่ที่ไหน

เสด็จอาฉลาดขนาดนั้น ต้องเดาถูกแน่ว่านางเข้ามาในวังเพื่ออะไร

นางกังวลว่าถ้าเขาพบว่านางและหลงเฟยหลีอยู่ด้วยกัน ต้องเกิดเรื่องแน่ๆ

แม้ว่าเขาจะไม่ได้พูดอะไร แต่นางก็รู้ดีว่าเสด็จอาเกลียดหลงเฟยหลีเพราะเขารู้สึกว่าเขาปกป้องตัวเองไม่ได้และทำให้นางถูกหลงเฟยหลีจับตัวไป

เพราะความเกลียดชัง อาจทำให้เสียสติได้

“ประหม่าเรื่องอะไร? หากเจ้าเชื่อฟังและรับใช้ข้า ข้าจะทำให้เจ้าอยู่อย่างสุขสบาย”

หลงเฟยหลีกระซิบข้างหูนาง

ไม่ละอายใจเลยจริงๆ !

เย่จายซิงด่าตาเฒ่าในใจ โกรธจนหน้าของนางแดงไปหมด

หลงเฟยหลีชอบหยอกนางเล่น เมื่อนึกถึงคืนนั้น เขาก็ยิ่งมีความสุข

“เตรียมตัวดีๆ ล่ะ”

เขาพูดจบ ลุกขึ้นแล้วก้าวเดินออกจากห้องไป

หลังจากที่เขาออกไป ขันทีและพวกสาวงามเหล่านี้ก็กล้าที่จะระบายความโกรธ

เย่จายซิงรู้ว่าทุกการเคลื่อนไหวของนางอยู่ในสายตาของหลงเฟยหลี ดังนั้นนางจึงนั่งอยู่ที่นั่นสักครู่หนึ่ง กัดริมฝีปาก ใบหน้าสับสน และหลังจากนั้นไม่นานก็กลับไปที่ห้องนอนปิดประตูและเอาผ้าห่มคลุมโปง

ผ่านไปครึ่งชั่วโมงนางก็หมุดตัวออกมาจากผ้าห่ม

นางหน้าแดงระเรื่อ กัดริมฝีปากและพูดกับตัวเองว่า “ข้าขอสงบสติอารมณ์ก่อน”

พูดจบ นางเดินไปเดินมารอบ ๆ ห้อง และนั่งลงบนโต๊ะ หยิบกระดาษยันต์ออกมาแล้วฝึกวาดยันต์

นางวาดยันต์ทิพย์อันดับสามและสี่แบบธรรมดา และนางสามารถวาดยันต์ทิพย์อันดับหกได้ แต่นางไม่อยากให้หลงเฟยหลีรู้

หลงเฟยหลีคิดว่าการฝึกฝนของนางนั้นอยู่ในขั้นเริ่มต้นของราชาทิพย์ แต่ที่จริงแล้ว การฝึกฝนของนางได้มาถึงแดนมหาจักรพรรดิทิพย์แล้ว

นางมีพลังกลียุคเพื่อปกปิดการฝึกฝนของนาง แม้ว่าเทพเจ้าเทวดาจะมา ก็มองไม่เห็นการฝึกฝนที่แท้จริงของนาง

พลังกลียุคที่เกิดจากรากทิพย์กลียุคไม่ใช่เรื่องธรรมดา

นางวาดยันต์ทิพย์ที่นี่เพื่อให้หลงเฟยหลีรู้สึกว่าเป็นเพราะตัวเขา ในใจนั้นกระสับกระส่ายและต้องทำอะไรเพื่อสงบสติอารมณ์

แบบนี้เขาจึงรู้สึกว่าตำแหน่งในใจของเขาไม่เล็ก

นางวาดยันต์ทิพย์สิบแผ่นแล้ว มีแปดแผ่นไม่สำเร็จ ขมวดคิ้ว ไม่เพียงแค่สงบสติอารมณ์ไม่ได้ แต่กลับอารมณ์แปรปรวนสองด้าน

นางหยุดวาดภาพ ถือพู่กันในมือและมองออกไปนอกหน้าต่างด้วยดวงตาที่ไร้ความรู้สึก

ผ่านไปครู่หนึ่ง นางขมวดคิ้วและกลับมารู้สึกตัว ก้มหน้าลง อุทานด้วยความประหลาดใจ รีบปิดปาก นางใช้พู่กันเขียนชื่อลงบนกระดาษยันต์โดยไม่รู้ตัวอย่างเลอะเทอะ

นางถอนหายใจ เมื่อนึกไม่ออกว่านางเขียนอะไร นางมองซ้ายขวาราวกับว่านางเป็นหัวขโมย และเก็บกระดาษและพู่กันทั้งหมด

หลงเฟยหลีที่นั่งอยู่ในห้องโถงยิ้มที่มุมปาก แม้ว่านางจะเขียนอย่างรวดเร็ว แต่ก็มองเห็นได้ชัดเจนว่านางเขียนอะไร สิ่งที่นางเขียนคือ “หลงเฟยหลี” สามคำ

เนื่องจากมันถูกเขียนขึ้นโดยไม่รู้ตัว ตัวอักษรทั้งสามนั้นจึงคดเคี้ยวและน่าเกลียด สู้เด็กอายุสามขวบไม่ได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา