บัลลังก์ชายาหมอเทวดา นิยาย บท 245

เย่จายซิงรู้ว่าหลงเฟยหลีกำลังมองอยู่เป็นแน่

ดังนั้นนางจึงให้นางในโปรยกลีบดอกกุหลาบเต็มไปหมด จากนั้นจึงสวมเสื้อและลงไปแช่ในอ่างอาบน้ำ

มีกลีบดอกกุหลาบปิดบัง ทำให้มองเห็นอะไรไม่ชัดเจน จากนั้นนางถึงถอดชุดคลุมออก และเหลือในชั้นในอีกชั้นหนึ่ง

นางทำให้หลงเฟยหลีมาดูถูกนางไม่ได้ มิเช่นนั้นถ้าเสด็จอารู้เข้า คงโกรธตายเป็นแน่

หลงเฟยหลีมองอยู่ครู่หนึ่ง ดูแก้เหงา

แต่ว่าเขาไม่ได้โกรธอะไร แต่หากกลับยิ่งได้รสชาตไปอีกแบบ

นางคิดได้แล้ว ถึงตอนนั้นเขาอยากดูก็ได้ดูอยู่แล้ว ในใจมีความสุขมาก

เย่จายซิงแช่น้ำอยู่พักใหญ่ หลังจากที่รู้สึกได้ว่าความร้อนนั้นหายไป ก็ลุกขึ้นเช็ดตัวให้แห้ง แล้วสวมชุดสวยงาม

“ใครถนัดแต่งหน้า มาแต่งหน้าให้ข้าหน่อย”

เย่จายซิงมองนางในเหล่านั้น

“ข้าน้อยถนัด!”

ไม่รอให้นางในคนอื่นพูด ยู่เหอรีบเปิดปากพูดก่อน ผมของเย่จายซิงที่เปียก แน่นอนว่าต้องมีคนหวีผมอยู่แล้ว นางจึงรอให้คนเสนอนางเอง

เย่จายซิงเหลือบมองไปที่ยู่เหอ พยักหน้าแล้วพูดว่า:“งั้นก็เจ้า”

นางมองออกว่า ยู่เหอนี่ยังไม่ยอมตัดใจ เป็นแค่นางในคนหนึ่งเท่านั้น ต้องการที่จะเป็นอย่างอื่น

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เขาจะให้โอกาสนางอีกครั้งหนึ่ง ดูเสียว่านางต้องการจะทำอะไรกันแน่

ยู่เหอยิ้มจากนั้นหยิบหวีขึ้นมาหวีให้นาง ท่าทางที่อ่อนโยน ดูแล้วช่างคล่องแคล่วยิ่งนัก นางไม่เพียงแต่หวีผมให้นางแต่ยังเสนอที่จะแต่งหน้าให้นางด้วย

เย่จายซิงให้นางมาแต่งหน้าให้

ท่าทางปรนนิบัติอย่างดีของยู่เหอ แต่งหน้าให้นางด้วยความภาคภูมิใจ ไม่นาน ใบหน้าที่ตกแต่งด้วยความสวยงามก็เสร็จ

อันที่จริงเย่จายซิงหน้าตาดีอยู่แล้ว นางไม่จำเป็นต้องแต่งหน้าก็สวยงาม แต่ทว่ายู่เหอจงใจแต่งหน้าจัดๆ ให้นาง ทำให้เครื่องหน้าของนางยิ่งชัดเจนมากยิ่งไปกว่าเดิม แสดงถึงเสน่ห์อันล้นเหลือออกมา

“นายน้อย งดงามมาก หากใต้เท้าเห็น คงจะต้องตะลึงเป็นอย่างมาก”

หน้าของยู่เหอที่เต็มไปด้วยการชื่นชมและหัวเราะอย่างยิ้มแย้ม

เย่จายซิงเบ้ปากเบาๆ นางรู้ดีว่า หลงเฟยหลีไม่ชอบผู้หญิงที่แต่งหน้าเช่นนี้ แต่ทว่านางกลับพูดอย่างเขินอายว่า:

“จริงน่ะรึ?ข้าไม่เคยแต่งหน้าเช่นนี้มาก่อน เขา……จะชอบเช่นนั้นรึ?”

นางดูกังวลมาก

ยู่เหอรีบพยักหน้า:“แน่นอนว่าต้องชอบอยู่แล้ว!ท่านจะแต่งเช่นไรก็งดงามยิ่งนัก แต่งเช่นนี้ยิ่งเหมือนพวกเราตระกูลปีศาจ”

เย่จายซิงพยักหน้า “งั้นก็ดี”

“นายน้อย เรื่องเมื่อก่อน ท่านอย่าเก็บไปคิดเลยนะ นับจากนี้ไปท่านก็จะเป็นฮองเฮาปีศาจแล้ว ข้าน้อยจะปรนนิบัติท่านอย่างสุดความสามารถ ขอให้ท่านวางใจได้!”

ยู่เหอรีบคุกเข่าแสดงความภักดี

“ข้าไม่สนใจหรอก เจ้าลุกขึ้นเถอะ เจ้าแต่งหน้าได้ไม่เลวเลย ต่อไปเจ้ามาปรนนิบัติข้าก็แล้วกัน”

เย่จายซิงพูดกับนาง

ยู่เหอดีใจเป็นอย่างมาก นางเฝ้ารอคำนี้ เหตุใดนางถึงต้องถ่อมตัวขนาดนี้ ก็เพราะอยากจะได้รับความสำคัญจากเย่จายซิง

เมื่อนางได้เป็นคนสำคัญ นางก็มีโอกาสเห็นหน้าจักรพรรดิปีศาจได้บ่อยๆ มีโอกาสได้ทำอะไรต่างๆ นาๆ

แต่งหน้าเสร็จแล้ว มันยังไม่มืดเลย

มีอาณาจักรของหลงเฟยหลีบังอยู่ นอกวังปีศาจเกิดอะไรขึ้น ต่างก็ไม่มีใครรู้

เย่จายซิงให้คนไปหยิบพิณ นางจงใจเล่นให้ไม่มีสติ เพื่อดึงดูดหลงเฟยหลี แล้วก็ให้เขารู้ว่าตอนนี้ในใจกระวนกระวายมาก

แหวนร้อนมาก ร้อนมาก

ขณะเดียวกัน

แม่ทัพจระกูลปีศาจที่โม่เสิ่นยวนนำมา ตอนนี้ก็ได้โจมตีเข้ามาในนครปีศาจแล้ว

หลงเฟยหลียังไม่ส่งทหารออกมา เมืองที่ถูกปกป้องโดยกองกำลังของปีศาจ ซึ่งไม่ได้มีความสามัคคี ไม่นานก็ถูกพังทลายได้

หลังจากที่โจมตีเข้ามาในนครปีศาจแล้ว สิ่งแรกที่โม่เสิ่นยวนทำก็คือหาเย่จายซิง

หากว่านางอยู่นครปีศาจล่ะก็ คงกระโจนเข้ามาหาเขาตั้งนานแล้ว แต่นี่กลับไม่มี

เมื่อเข้าใกล้ทิศทางวังปีศาจ แหวนก็ยิ่งร้อนขึ้น

“น้องซิงอยู่ที่วังปีศาจ?!”

โม่เสิ่นยวนมองไปยังวังปีศาจ งงตาแตก ปฏิกิริยาแรกก็คือถูกหลงเฟยหลีจับตัวไป

เขาจึงโกรธมากจากนั้นรีบไปช่วยน้องซิงออกมาจากวังปีศาจทันที

แต่สติบอกเขาว่าทำเช่นนี้ไม่ได้ ไม่เพียงแต่ช่วยน้องซิงไม่ได้แล้ว แถมยังจะทำร้ายน้องซิงอีกด้วย

เขาเอาหมัดทุบหัว จากนั้นกลิ่นคาวเลือดก็ไหลออกมาจากดวงตา

ตอนนี้หัวใจของเย่จายซิงเต้นอย่างบ้าคลั่ง เลือดของเขาไหลเร็วมาก นี่ราวกับว่าแหวนนำ ปฏิกิริยามาให้นาง

“เสด็จอา……”

นางตะโกนในใจ

นางกังวลว่าโม่เสิ่นยวนจะบุกเข้ามาในวังปีศาจ จากนั้นทั้งหมด ก็จะต้องพังลง!

“น้องซิง?”

โม่เสิ่นยวนได้ยินเสียงของหัวใจ จากนั้นอึ้งไปชั่วขณะ จากนั้นก็เกิดสายตาอันบ้าคลั่ง

นั่นมันแหวนนิ้วก้อย!

แหวนนิ้วก้อยกำลังเชื่อมต่อหัวใจของเขาและน้องซิง!

ขณะที่เย่จายซิงได้ยินเสียงของเสด็จอานั้น ทำให้นางดีดพิณเสียงผิดไป

ทันใดนั้นนางก็รู้สึกว่าแหวนของนางร้อนผ่าว หัวใจก็ไม่ตื่นเต้นอีกแล้ว จู่ๆ ก็สงบลงทั้งร่างกายและหัวใจ

ดีจังเลย!ติดต่อกับเสด็จอาได้แล้ว!

“น้องซิง เจ้าอยู่ไหน?บอกตำแหน่งข้ามา ข้าจะมาช่วยเจ้า!”

โม่เสิ่นยวนรีบคุยกับนาง

“เสด็จอาอย่าเพิ่งใจร้อนไป ข้าไม่เป็นไร ข้าจะบอกท่านว่า จักรพรรดิปีศาจตนใหม่ก็คือหลงเฟยหลี แต่ว่าข้าไม่ได้ให้เขารังแกข้าหรอกนะ ท่านวางใจได้ อย่างเพิ่งโกรธไป ข้าเข้ามาในวังด้วยตนเอง อยากให้พอดีกับท่าน ตอนนี้เขาฝึกบำเพ็ญเป็นแดนเทพปีศาจแล้ว ต่อให้ตอนนี้เสด็จอานำกองทัพปีศาจมาเป็นล้านก็ช่วยอะไรไม่ได้ แต่ว่าข้ามีผงกระจายวิญญาณ อีกครู่ข้าจะใส่พิษให้เขา ถึงตอนนั้นข้าค่อยบอกกับท่าน จากนั้นค่อยนำกองทัพปีศาจเข้ามา!”

เย่จายซิงอธิบายครั้งเดียวอย่างชั้นเจน นางกลัวว่าเสด็จอาจะเห็นนางอยู่ในวังปีศาจแล้วขาดสติไป

ใครจะรู้ว่าโม่เสิ่นยวนปฏิเสธทันที:

“ไม่ได้ เจ้าจะไปเสี่ยงอันตรายไม่ได้ น้องซิง ข้ามีกองทัพโบราณ มีพลังเทียบเท่ากองทัพถึงห้าเท่า ไม่ต้องกลัวมัน ข้าจะรีบไปช่วยเจ้าออกมาโดยเร็ว”

เขาไม่มีทางให้น้องซิงมาทำเรื่องเสี่ยงเช่นนี้เป็นแน่ หลงเฟยหลีปลิ้นปล้อนอย่างหาที่เปรียบมิได้ หากเขาพบว่าน้องซิงเป็นคนวางพิษเขา เขาไม่กล้าที่จะคิดผลลัพท์ต่อจากนี้

เขาให้เรื่องนี้เกิดขึ้นไม่ได้เด็ดขาด

เย่จายซิงรู้ดีว่าเขาไม่ยอมแน่ แต่ว่าพลังของหลงเฟยหลีนั้นกล้าแกร่งมากเกินไป ถ้าหากหลงเฟยหลีจัดการกับเสด็จอาแค่คนเดียว เขาจะตกอยู่ในอันตราย

เสด็จอาไม่ยอมให้นางเสี่ยงอันตราย แล้วนางจะยอมให้เขาเสี่ยงอันตรายได้เช่นไร?

ความสัมพันธ์ทั้งนางและเขาถึงแม้จะแค่เวลาอันสั้น นัดกันไว้ว่าจะไปเที่ยวยังไมได้ไปเลย นางไม่อยากสูญเสียความสัมพันธ์อันหวานชื่นเช่นนี้

“เสด็จอา ข้ารับประกันว่าหลังจากนี้ข้าจะเชื่อฟังคำสั่งท่านแต่โดยดี ครั้งนี้ท่านฟังข้าได้หรือไม่?นี่เป็นหนทางที่ดีที่สุด ข้าไม่อยากเห็นท่านโดนทำร้าย ให้ข้าช่วยท่านเถิด”

โม่เสิ่นยวนใจสั่น ราวกับมีเข็มมาทิ่มทางหัวใจของเขา

น้องซิง

น้องซิงของเขาเห็นเขาเป็นคำสำคัญถึงเพียงนี้เชียวหรือ

นางยอมเพื่อเขา แม้แต่ทำการเสี่ยงเช่นนี้

โม่เสิ่นยวนสูดหายใจเขาอย่างลึกๆ แล้วพูดอย่างอ่อนโยนว่า:“ไม่ได้ น้องซิง เรื่องนี้ข้าต้องรับผิดชอบ อีกทั้งข้ายังเป็นผู้ชายของเจ้า ข้าจะต้องเป็นคนปกป้องเจ้าเอง”

เขายังมีอสูรเทพมังกรเขียว แล้วก็ยังมีเคล็ดวังเทว แล้วก็ยังมีกองทัพทหารโบราณ มารับมือกับหลงเฟยหลีจากแดนเทพปีศาจ ในความหมดหวังนั้น ก็ยังมีความหวังปรากฏอยู่

เขาจะใช้ชีวิตนี้

โม่เสิ่นยวนอย่างเขา เป็นผู้ชายที่รักหญิงเพียงคนเดียว จะยอมตายง่ายๆ เช่นนั้นเลยรึ

เย่จายซิงที่ได้ฟังคำพูดของเจา ใจก็เต้นแรง แต่เนางกำลังตัดสินใจ ระหว่างที่นางจะพูดนั้น ก็เห็นปีศาจหลงเฟยหลีที่เดินเข้ามาด้วยรอยยิ้ม

“เจ้าแมวป่าน้อย เจ้าจงใจปั่นป่วนข้าเช่นนี้ เพื่อจงใจให้ข้ามาใช่หรือไม่?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา