บัลลังก์ชายาหมอเทวดา นิยาย บท 249

ตราย้ายภูเขาเป็นพลังการโจมตีทั้งหมดของโม่เสิ่นยวน จากการโจมตีนี้ หลงเฟยหลีที่ถูกโจมตีอย่างหนักขณะนั้นเองก็ไร้เรี่ยวแรงในการโจมตีกลับ

จุดตันเถียนถูกทำลายเสียหาย พลังปีศาจอันแข็งแกร่งได้เปิดเผยออกมา

หลงเฟยหลีบาดเจ็บไปทั้งตัว ปีกปีศาจที่ด้านหลังก็ขาด สีหน้าซีดขาวของมารทว่ากลับมีรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้า

เขามองเย่จายซิง

“เจ้าแมวป่าน้อย เหตุใดเจ้าถึงต้องหลอกข้า?อยู่กับข้า เป็นฮองเฮาของไม่ดีหรือเช่นไร?เจ้ามองเขาสิ เหลืออายุไม่ถึงสิบปีแล้ว เขาจะให้ความสุขเจ้าได้หรือ?”

“หลงเฟยหลี จะตายอยู่แล้ว หนีไปก็ไม่ได้ พูดไร้สาระให้น้อยหน่อย!”

โม่เสิ่นยวนจับดาบแล้วเดินไปที่เขา

เขาเคยสาบานตั้งแต่อยู่ที่เทือกเขาอัสดงตั้งแต่แรกแล้วว่า จะต้องจัดการหลงเฟยหลีด้วยดาบของเขาให้จงได้

น้องซิงเป็นของเขา ไม่อนุญาตให้ใครมองนางว่าที่รักเป็นอันขาด

ถึงแม้ว่าจะต้องแลกด้วยชีวิตก็ตาม

ส่วนเย่จายซิงยังคงยืนอยู่ที่เดิม หลงเฟยหลีพลังก็เหลือน้อยลงทุกที บาดเจ็บร้ายแรง โดยที่นางไม่จำเป็นต้องลงมือ เสด็จอาก็สามารถฆ่าเขาได้เลย

ใจของนางรู้สึกหนักหน่วง หากว่าตอนวัยเยาว์หลงเฟยหลีไม่มีชีวิตที่น่าเศร้า ก็คงจะไม่ได้มีนิสัยเช่นนี้ ความน่าสงสารและน่าหดหู่ของเขา ซึ่งมีพอๆ กับความน่ารังเกียจ

แต่ถ้าเปลี่ยนสถานะ ลองไปยืนในจุดที่เขาอยู่บ้าง บางทีตนเองอาจจะเลือดเย็นมากกว่าเขาก็เป็นได้

แต่หากเขาไม่ตาย โลกมนุษย์ก็ต้องหายนะตลอดกาล

หลงเฟยหลีไม่ได้มองโม่เสิ่นยวน มองแต่เย่จายซิง:

“เจ้าแมวป่าน้อย เหตุใดถึงไม่พูดเล่า?ทำไมถึงไม่มองข้า?ใช้ผลประโยชน์จากข้าหลอกลวงข้า ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของเจ้าก็ไม่สงบเหมือนกันใช่ไหม?”

โม่เสิ่นยวนถือดาบไปด้วยความดุร้าย ปีกปีศาจของหลงเฟยหลีป้องกันการโจมตี แต่ชั้นกระดูกปีกปีศาจสีเงินก็ขาดออกจากกัน

“น้องซิง อย่าไปฟังเขาพูดไร้สาระ เขาอยากจะให้ในใจเจ้ามีจิตใจปีศาจ!”

โม่เสิ่นยวนขมวดคิ้วแล้วพูด รีบมาต่อสู้กันต่อ

ขณะนั้นเอง หมอกสีดำของหลงเฟยหลีจู่ๆ ก็หายไป ตามมาด้วยประกายใต้เท้าของเย่จายซิง ความรู้สึกที่สูญเสียก็เข้ามา

นางอยากจะหนีให้พ้นจากค่ายกลของหลงเฟยหลีโดยเร็ว แต่ก็เหมือนราวกับว่าถูกขังอยู่ในนั้น อยากที่จะขยับหนีไปได้ สุดท้ายเห็นแค่เพียงความใจร้อนของเสด็จอาที่ยื่นมือและใบ้หน้าหล่อจากนั้นวิ่งมาที่นาง

“อย่ากลัวไป!”

เขาพูดกับตัวเอง

ด้านหน้าของเย่จายซิงมืดมิด ราวกับหายจากที่เดิม แต่เนื่องจากได้ยินคำว่า “อย่ากลัว” ของเสด็จอา ความเครียดในใจนั้นก็มลายหายไป

เนื่องจากว่าไม่มีใครถนัดค่ายกลมากกว่าเสด็จอาอีกแล้ว ไม่นานเขาจะต้องหานางเจอแน่

เคล็ดลับพลังของนางยังไม่ได้หายไปทั้งหมด ยังไงก็สามารถรับมือกับหลงเฟยหลีที่บาดเจ็บอย่างหนักได้

เมื่อมองน้องซิงที่หายไปในค่ายกล สีหน้าของโม่เสิ่นยวนก็เยือกเย็นราวกับน้ำแข็ง มือของเขาจับได้แค่เพียงปลายเสื้อของน้องซิงเท่านั้น

หลงเฟยหลี!

เป็นเพราะหลงเฟยหลีแสร้งทำเป็นพูดกับเย่จายซิง จากนั้นทำการโจมตีของตัวเอง ทว่าแอบร่ายค่ายปีศาจใต้เท้าของเย่จายซิง

ใบหน้าร้ายกาจถึงสุดขีด

“น้องซิง รออีกครู่เดี๋ยวข้าจะไปหาเจ้า!”

โม่เสิ่นยวนคุกเข่าลงที่พื้น จากนั้นวิเคราะห์ค่ายปีศาจ ต่อให้ค่ายกลปีศาจจะโบราณมาก แต่เขาเชื่อว่า มันไม่ได้ซับซ้อน

รอให้หาพวกเขาเจอ เขาจะต้องหักคอหลงเฟยหลีด้วยมือของเขาเอง

เย่จายซิงรู้สึกว่าด้านหน้ามืดไปหมด ไม่นานก็ล้มลงที่พื้นจริง

จากนั้นก็มีมือเย็นๆ มาบีบคอของนาง

“เจ้าแมวป่าน้อย เจ้ารู้ไหมว่าทั้งหมดเหล่านี้กว่าข้าจะได้มามันไม่ได้ง่ายเลย ข้าเป็นเด็กทารกที่ถูกทอดทิ้ง กว่าจะเดินมาถึงจุดนี้ได้นั้น ต้องผ่านความอัปยศอดสูมามากเพียงไหน อีกทั้งยังต้องอดทนกับวันที่ทุกข์ทรมาน ทว่าตอนนี้ ทั้งหมดเหล่านี้ มันถูกเจ้าทำลายลงหมดแล้ว เจ้าว่า ข้าควรจะจัดการเจ้าเช่นไรดี ถึงจะหายโกรธ?”

หลงเฟยหลียืนแนบที่ด้านหลังของนาง จากนั้นกัดฟันกรอดๆ พร้อมกระซิบที่ข้างหูนางว่า คาวเลือดที่เข้มข้นและกลิ่นไอความตายที่มาจากตัวเขา

เย่จายซิงไม่ได้พูดอะไร นางถูกภาพข้างหน้าปิดบังแสงไปหมดแล้ว หากแต่ไม่ใช่เพราะว่ามีความน่าดูหรือน่าเกลียด แต่หากนางเห็นเป็นบ้านหลังเก่าหลังหนึ่ง ที่ใต้หลังคาบ้านมีสุนัขสีน้ำตาลแก่อยู่ตัวหนึ่ง

ขณะที่น้ำแข็งและหิมะปกคลุมท้องฟ้า ในรังของสุนัขสีน้ำตาลที่หนาวเหน็บนั้น ก็มีเด็กทารกน้อยหดตัวอยู่ในอ้อมกอดของมัน

“เจ้าว่า ข้าให้เจ้าไปลงนรกพร้อมกับข้า ดีไหม?”

เขาหันตัวกลับมา ดวงอันตรายสีแดงกล่ำที่หรี่ตามองนาง

ดวงตาสีดำของเย่จายซิงมีแสงวาบ

นางรู้ดีว่าการที่หลงเฟยหลีให้นางเห็นนี้มีเป้าหมายอะไร เขาอยากให้นางเสียใจ ว่าหลังจากที่เขาตายไป ให้นางจดจำเขาคนนี้เอาไว้

ปากของเขาบอกว่าจะพานางไปลงนรก แต่หว่างคิ้วกลับปรากฏควันสีชมพูประกาย ดวงตาโลภสีท้อมองไปที่ตาของนาง

ในใจของเย่จายซิงมีลางสังหรณ์ว่า เขาไม่ได้อยากให้นางตาย

แต่สิงที่นางไม่เข้าใจก็คือ นางทำเขาสาหัสถึงเพียงนี้ เหตุใดเขายังรักนางอยู่?

“แมวป่าน้อย อย่าใช้สายตาที่สงสารเช่นนี้มองมาที่ข้า”

เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ดุร้าย ใช้แรงที่มือ แต่พอใช้แรง เขาก็กลับคลายออกทันที

เวทมนตร์ที่อยู่ตรงด้านหน้าได้หายไป หลงเหลือเพียงบ้านหลักเล็กที่พังทลายลงมาหลายปี รังสุนัขใต้ถุนบ้านก็ไม่หลงเหลืออีกแล้ว

เย่จายซิงสูดลมหายใจลึกๆ จากนั้นประคองหลงเฟยหลีที่ล้มอยู่ที่พื้น

เขาใช้ค่ายกลนำนางมาที่นี่ ชีวิตของตอนนี้ลดลงมากไปกว่าครึ่งแล้ว ชีวิตเสมือนบ้านทรายที่ทลายลงมาเมื่อไหร่ก็ได้

“เจ้าไปเถอะ”

บางทีเพราะคนใกล้ตาย ไม่มีแรงมากพอที่ไปแกล้งนาง หลงเฟยหลีผลักนางออกไป จากนั้นก็เลื่อนตัวลงนั่งที่ตรงโคนต้นไม้

ในสมองของหลงเฟยหลีถึงชีวิตที่ผ่านมาในระยะสั้นๆ ของเขา คิดไม่ถึงเลยว่าเขาต้องสู้อดทนเพื่อจะได้มีชีวิตอยู่รอด สุดท้ายก็ต้องมาจบในน้ำมือของผู้หญิง

หรือนี่อาจจะเป็นการปลดปล่อยพันธนาการ ไม่ต้องมีชีวิตอยู่ด้วยความเคียดแค้น จู่ๆ เขาก็คิดได้ว่านี่มันไม่ใช่เรื่องแย่อะไร หากว่าเจ้าแมวป่าน้อยจำเขาได้ไปตลอดชีวิต มันก็คงจะดี

“หลงเฟยหลี หากว่าคนหนึ่งคนไม่มีความแค้นมากมาย ก็คงจะผ่อนคลายไม่น้อย เจ้าควรจะลองปล่อยวางทั้งหมดลง สงสารคนหมู่มาก”

เย่จายซิงค่อยนั่งลง สายตาปะทะกับเขา

“สงสารคนหมู่มาก?” เขาหัวเราะด้วยความเย้ยหยัน “ถ้าเช่นนั้นใครจะสงสารข้า?”

“ข้าสงสารเจ้า”

หัวใจของหลงเฟยหลีสั่น

นางมองเขาอย่างจดจ่อ “หลงเฟยหลี หากเปลี่ยนความคิดก็รอด แต่เจ้าอยากแก้แค้นก็ถือเป็นเรื่องปกติ แต่ไม่ควรต้องให้คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่ลำบากไปด้วย ข้าจะช่วยเจ้า แต่เจ้าจะต้องรับปากข้า อย่าทำให้ทุกโลกต้องเกิดหายนะตลอดกาล”

“รับปากเจ้าแล้วยังไง?ไม่รับปากเจ้าแล้วยังไง?เจ้าก็แค่อาจารย์กลั่นยาขั้นหก หากจะเอาอาจารย์กลั่นยาขั้นเจ็ดขั้นแปด ก็ช่วยชีวิตข้าไม่ได้”

หลงเฟยหลีสั่นหัว ชีวิตของเขาใหล้จะถึงจุดจบเข้ามาทุกทีแล้ว เขารู้ตัวเขาดีกว่าคนอื่น

“เจ้าแมวป่าน้อย อย่าไร้เดียงสาไปหน่อยเลย หากเจ้าสงสารข้าจริง ก่อนข้าตาย เจ้าช่วยจูบข้าหน่อยได้หรือไม่?”

เขานั่งพิงต้นไม้ สายตาคู่นั้น ที่มองไปยังริมฝีปากอมชมพูของนาง

หากรู้ว่าจะมีวันนี้ ตอนที่อยู่ในวังปีศาจ เขาน่าจะลองลิ้มรสของนาง จะได้ตายอย่างไม่เสียดาย

“จะตายอยู่แล้ว ยังจะมาทะลึ่งอีก?”

เย่จายซิงเหนื่อยหน่าย จากนั้นมองตาเขาแล้วพูดว่า:“เร็วเข้า รับปากข้า”

“ได้ ชีวิตของข้าให้เจ้าแล้ว มีอะไรจะรับปากเจ้าไม่ได้เล่า ข้ารับปากเจ้า ตกลงไหม เจ้าแมวป่าน้อย”

พูดจบ เขาก็กระอักเลือดออกมา ในเลือดนั้นมีเศษเครื่องในผสมมาด้วย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา