องค์หญิงหลิวอิ๋งรู้สึกว่าเสด็จพี่ไม่น่าจะแต่งงานกับเย่จายซิงจริง
ดูแล้วเรื่องนี้ไม่น่าจะเป็นไปได้
เสด็จพ่อและแม่เลือกนางสนมให้เขาก็เพื่อที่จะให้แต่งงาน แต่ไม่ใช่ให้เขาเลือกความรักที่แท้จริง
ถึงแม้นางจะรู้สึกว่าเย่จายซิงไม่น่าจะเป็นคนที่เสด็จพี่รักจริงๆ
ระหว่างเดินทางกลับ องค์หญิงหลิวอิ๋งนั้นได้ส่งข่าวให้เสด็จแม่ที่ยังอยู่ที่เผ่าโฮ่วาน
“หลิวอิ๋ง เย่จายซิงที่ลูกพูดถึง คือผู้หญิงที่แย่งอสูรเทพเทาเที่ยไปจากเจ้าใช่ไหม?”
ฮองเฮารีบตอบนางกลับมา แต่น้ำเสียงนั้นพูดอย่างยังใจเย็น
“ใช่ คือนางนั่นแหละ! เสด็จแม่ ข้านึกไม่ถึงว่าจวินหยวนก็คือเสด็จพี่ เขายังไปช่วยคนนอกที่แย่งอสูรเทพจากข้าไป เสด็จพี่ไม่ได้เห็นข้าเป็นน้องสาวของเขาเลย”
องค์หญิงหลิวอิ๋งรู้สึกเสียใจมาก ในใจของนางเสด็จพี่กับนางคือคนครอบครัวเดียวกัน คนอื่นนับว่าเป็นคนนอก
แต่เสด็จพี่นั้นกระทำต่อนางยิ่งกว่าคนนอกเสียอีก
“หุบปาก เขาไม่คู่ควรที่จะเป็นเสด็จพี่ของเจ้า ในสายตาเสด็จพ่อของเจ้าไม่มีลูกชายคนนี้ อย่าลดเอาตำแหน่งของเจ้าลงไปเทียบกับมัน เจ้าไม่ต้องกลับมา เพื่อชื่อเสียงของเจ้า เจ้าต้องอยู่ที่นั่นเพื่อนำพาผู้บำเพ็ญของพันธมิตรจัดการแดนเหนือ รอให้ตระกูลปีศาจถูกฆ่าตายให้หมด เจ้าค่อยกลับมา”
ฮองเฮาสั่งนางด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“เจ้าต้องรู้จักเรียงลำดับความสำคัญ เรื่องที่โม่เสิ่นยวนจะแต่งงานไม่ใช่เรื่องที่เขาจะตัดสินใจเองได้ ข้ามีคนที่เหมาะสมให้เขาเลือกแล้ว คนที่จะมาเป็นพระชายาของเซ่าตี้ต้องเป็นคนที่เจ้าไม่เกลียดอย่างแน่นอน”
“แต่ว่า……”
องค์หญิงหลิวอิ๋งไม่อยากอยู่ที่นั่นอีกต่อไป เมื่อกี้นางฟึดฟัดเดินออกมา ทุกคนต่างก็เห็นภาพนั้น ตอนนี้ถ้าจะกลับไปอีกรอบเจ้าพวกชั้นต่ำพวกนั้นจะมองนางเช่นไร?
อีกทั้งนางกับเย่จายซิงนั้นมีความแค้นกัน นางต้องลงมือสะสางความแค้นด้วยตัวเอง
“เจ้าวางใจเถอะ อสูรเทพที่เป็นของเจ้า ข้าจะเป็นคนแย่งกลับมาให้เจ้าเอง เจ้าตั้งใจสร้างชื่อเสียงของเจ้าให้ดี ต่อไปแผ่นดินเทียนเหย้านี้ก็จะเป็นของเจ้า”
เมื่อได้ยินเสด็จแม่พูดเช่นนั้นแล้ว ใจขององค์หญิงหลิวอิ๋งนั้นเต้นแรงยิ่งขึ้นไปอีก
“เสด็จแม่ ความหมายของท่านคือเสด็จพ่ออยากให้ข้าเป็นราชินี ไม่เอาบังลังก์นี้สืบทอดให้เสด็จพี่?”
นางพูดอย่างตื่นเต้น
นี่เป็นครั้งแรกที่เสด็จแม่เปิดเผยเรื่องนี้ออกมา
“เสด็จพ่อของเจ้านั้นมีความคิดนี้อยู่จริง แต่ถ้าเจ้าไม่สามารถทำให้ประชาราษฎร์ ชื่นชอบในตัวเจ้า เพื่อผืนดินใหญ่นี้เสด็จพ่อของเจ้าอาจจะต้องให้จวิ้นอ๋องเมืองสาขามาสืบทอดตำแหน่งนี้แทน”
พูดจบ ฮองเฮาไม่ได้ส่งข่าวให้นางอีก นางเก็บแผ่นหยกส่งเสียง และให้คนรอเข้าเฝ้าเข้ามา
มีเด็กสาวผู้หนึ่งเดินเข้ามาอย่างงดงาม ใบหน้าสุขุมนุ่มนวล ผิวพรรณขาวดั่งหิมะ ดูมีคุณค่าดั่งหยก สวมชุดกระโปรงของเทพธิดาเผ่าโฮ่วาน เสียงกระดิ่งน้อยที่ห้อยอยู่ตรงเอวนั้นดังกังวานอย่างน่าฟังตามจังหวะการเดินของนาง
“ท่านป้า ท่านเรียกหายุ่นเอ๋อร์หรือเพค่ะ?”
“นั่งลงก่อนซิ”
ฮองเฮาให้ฉู่ยุ่นเอ๋อร์นั้นนั่งลง มองดูนางพูด:
“เจ้าคิดดีแล้วหรือยัง?”
ฉู่ยุ่นเอ๋อร์พยักหน้าด้วยน้ำตาคลอเบ้า
“การเสียสละเพื่อการแต่งงานนั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรของยุ่นเอ๋อร์ ยุ่นเอ๋อร์ไม่มีคนที่หมายปองอยู่ เมื่อเกิดเป็นเทพธิดาของเผ่า ชีวิตนี้มิอาจที่จะรักใครได้ ถ้าสามารถแก้แค้นแทนท่านแม่ได้ การแต่งงานนั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร”
เมื่อพูดถึงท่านแม่ สายตาของฉู่ยุ่นเอ๋อร์ นั้นประกายความโกรธแค้นขึ้นมา
ท่านแม่ของนางคือหัวหน้าเผ่าที่ถูกราชากู่นั้นแว้งกัด ในพิธีเซ่นไหว้จนตายอย่างอนาถ
หัวหน้าเผ่าคือคนที่กลั่นราชากู่ออกมา หนอนกู่ในตัวของโม่เสิ่นยวนนั้นนางเป็นคนเลี้ยงออกมา เมื่อราชากู่ตาย นางก็ถูกแว้งกัดจนตายตามไปด้วย
นางเป็นบุตรสาวคนเล็กของหัวหน้าเผ่า และเป็นคนที่มีพรสวรรค์มากที่สุดในการเลี้ยงกู่ในบรรดาเผ่าโฮ่วาน
นางเห็นท่านแม่ของตัวเองนั้นตายอย่างอนาถด้วยตา นางโกรธแค้นโม่เสิ่นยวนมาก และวันนั้นนางได้สาบานต่อหน้าบรรพบุรุษ ว่าจะฆ่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา
มาอ่านเรื่องนี้ต่อค่ะ หวังว่าจะลงเนื้อหาจนจบ...
115จนถึงถึง159ไม่มีเลยค่ะลงต่อให้ครบได้มั้ยค่ะ😂...
ตอนที่ 115-159 หายไปค่ะ อ่านต่อไม่ได้อ่ะค่ะ...
115-159หายไปไหนอ่าคะ...
อัพวันละหลายๆตอนได้มั้ยค่ะ ขอบคุณค่ะ...