“น้องซิง เจ้าอย่าเอาไปคิดเป็นเรื่องจริง ในวังมียากลั่นชนิดที่สามารถต่ออายุขัยได้จริง แต่มันเหลือแค่สองเม็ดที่ถูกเก็บเอาไว้เป็นพันๆปีมาแล้ว เสด็จพ่อไม่มีวันจะเอาออกมาให้ข้า”
โม่เสิ่นยวนนั่งลงพร้อมดึงเย่จายซิงลงมานั่งบนตัก น้ำเสียงยังคงนิ่งสงบและนุ่มนวลอย่างไม่มีสะดุดอารมณ์
เขาไม่เคยคาดหวังอะไรจากพระราชวัง ดังนั้นไม่เลยไม่มีความหวังหรือความผิดหวัง
คนพวกนั้นไม่สามารถทำอะไรเพื่อมากระทบจิตใจเขาได้
สิ่งเดียวที่เขาต้องตระหนักคือป้องกันน้องซิงจากเงื้อมมือของพวกเขา
“พวกเขาไม่ยอมรับเจ้าก็ไม่เป็นไร เจ้าไม่ต้องไปเก็บเอามาใส่ใจ เจ้าเป็นคนที่โม่เสิ่นยวนนั้นจะแต่งงานด้วย ไม่ใช่แต่งเข้าไปอยู่ในวัง ถ้าพวกเขายังจะขัดขวางพวกข้า ตำแหน่งเซ่าตี้ข้าก็พร้อมสละได้”
เดิมเขาก็ไม่อยากได้ตำแหน่งเซ่าตี้นี้หรอก แต่เป็นเพราะวันที่เขาลืมตาดูโลก ก็ถูกเจ้ามังกรเขียวนั้นนับถือเป็นเจ้านาย ประชาราษฎร์ในแผ่นดินนี้ก็ได้กลายเป็นภาระหน้าที่ของเขาโดยปริยาย
เขาก็เหมือนเป็นหุ่นที่วังแคว้นมังกรนั้นเลี้ยงดูมา ตอนที่เป็นที่ต้องการก็ถูกผลักตัวออกมา ตอนไม่จำเป็นเขาก็เหมือนคนที่ไร้ตัวตน
เย่จายซิงซบอยู่บนหน้าอกเขาพูดอย่างเห็นใจ:
“ข้าไม่สนใจเรื่องพวกนี้ เจ้าอย่ากลัวว่าจะทำให้ข้าลำบากใจ เจ้าพูดได้ถูกต้อง คนที่ข้าจะแต่งงานด้วยคือเจ้าไม่ใช่ราชสำนัก
ไม่จำเป็นต้องให้พวกเขายอมรับ มีเพียงท่านที่เป็นห่วงข้าก็พอ”
“ข้าเป็นห่วงเจ้า ข้าเป็นห่วงเจ้ามาก น้องซิง เจ้าเป็นรักแท้ของข้า”
โม่เสิ่นยวนกอดนางแน่น ในใจรู้สึกเหมือนมีอะไรมาเติมเต็ม น้องซิงของเขาไม่เหมือนคนทั่วไป นางเป็นคนเห็นอกเห็นใจคนมาก
ขอบคุณสวรรค์ที่ให้เขานั้นได้พบกับนาง
ภพที่แล้วมันเป็นเหมือนแค่ความฝัน ที่มักจะปรากฏภาพนางขึ้นในความฝัน ตอนนั้นเป็นเหมือนแค่ผู้ชม แต่ตอนนี้พวกเขากลับ
ได้รู้จักกัน เข้าใจกันและได้มอบความรักให้แก่กัน
เมื่อได้ฟังคำสารภาพรักจากใจของเสด็จอาแล้ว เย่จายซิงนั้นยิ้มแก้มฉีก อารมณ์บูดที่ฉู่ยุ่นเอ๋อร์ ทำให้เกิดขึ้นนั้นได้อันตรธานหายไป
อันที่จริงแล้วสิ่งที่ฉู่ยุ่นเอ๋อร์ทำนั้นไม่มีค่าพอที่จะเก็บมาใส่ใจ ในสายตาเย่จายซิงนางเป็นเพียงตัวตลกเท่านั้น
นางอุตส่าห์มาเยือนถึงที่ก็เพื่อที่จะแสดงตัวตนนางเท่านั้น
แต่กลับไปด้วยจิตใจเศร้าหมอง คนที่อารมณ์บูดน่าจะเป็นฉู่ยุ่นเอ๋อร์ซะมากกว่า
“หญิงผู้นั้นเป็นหลานสาวของฮองเฮา และยังเป็นเทพธิดาแห่งเผ่าโฮ่วาน ฮองเฮาให้นางแต่งงานกับข้าก็เพื่อที่จะมาสังหารข้า”
โม่เสิ่นยวนรู้สึกว่าต้องอธิบายให้น้องซิงเข้าใจที่มาที่ไปของฉู่ยุ่นเอ๋อร์ เพื่อไม่ให้นางเอาไปคิดเรื่อยเปื่อย
“เทพธิดาผู้นี้วิชาเลี้ยงหนอนกู่นางแรงกล้าขนาดนั้นเชียวรึ?”
เย่จายซิงถามอย่างสงสัย นางรู้ว่าฝั่งตรงข้ามนั้นมาด้วยใจที่ปองร้าย
เขาพยักหน้าแล้วพูด:
“แม่นางเป็นหัวหน้าเผ่าอาวุโสโฮ่วาน หัวหน้าเผ่าอาวุโสคือคนที่วางราชากู่ใส่ข้า ความสามารถของนางนั้นเหนือกว่าท่านแม่ของเขานัก”
ที่แท้นางเก่งกล้าถึงเพียงนี้?
เย่จายซิงนั้นต้องออกปากเตือน ราชากู่ตัวก่อนที่อยู่ในร่างของเสด็จอานั้น ร้ายแรงทรยศหัวดื้อขึ้นมาก ถ้ายังร้ายแรงกว่าราชากู่นั้นก็จะ
น่ากลัวยิ่งนัก
“ไม่ว่าอย่างไรก็ตามห้ามให้นางนั้นวางหนอนกู่สำเร็จอย่างเด็ดขาด!”
เสิ่นหยวนยิ้มแล้วหยิกแก้มนาง:
“น้องซิงการวางหนอนกู่นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายดาย ยิ่งเป็นราชากู่ที่ยิ่งใหญ่ การวางนอนกู่ก็จะยิ่งมีกฎเกณฑ์มากขึ้นเท่านั้น ถ้าข้าเดาไม่ผิดนางคงจะวางหนอนกู่หลังจากพิธีแต่งงาน”
“พวกนางช่างเป็นคนเลวทราม จิตใจต่ำช้ายิ่งนัก”
นางพูดอย่างถอนหายใจ ถึงแม้ยังไม่เคยพบหน้าฮองเฮา แต่ตอนนี้ภาพในจินตนาการของฮองเฮานั้น เป็นแม่เลี้ยงที่หน้าเนื้อใจเสือ
พูดจาต้องเจ็บแสบร้ายกาจเป็นแน่
“แต่ว่า ท่านได้ช่วยเหลือเผ่ามนุษย์ ได้ทำความดีเสียสละอันยิ่งใหญ่เพื่อแคว้นมังกรเทพ เหตุใดฝ่าบาทยังมายุ่งเรื่องการแต่งงานของท่านอีก? ข้าไม่เห็นด้วย!”
เย่จายซิงกระซิบไปที่ข้างหูของเขา
“เสด็จอา พวกเราต้องลงหมากก่อนฝ่าบาท ต้องบีบให้ฝ่าบาทสละราชบังลังก์ ข้าจะขึ้นเป็นฮองเฮา!”
เสียงพูดของนางเบามากเหมือนเสียงร้องแมว ความจดจ่อของโม่เสิ่นยวนนั้นอยู่บนใบหู เขาเกือบจะฟังไม่ชัดว่านางกำลังพูดอะไร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา
มาอ่านเรื่องนี้ต่อค่ะ หวังว่าจะลงเนื้อหาจนจบ...
115จนถึงถึง159ไม่มีเลยค่ะลงต่อให้ครบได้มั้ยค่ะ😂...
ตอนที่ 115-159 หายไปค่ะ อ่านต่อไม่ได้อ่ะค่ะ...
115-159หายไปไหนอ่าคะ...
อัพวันละหลายๆตอนได้มั้ยค่ะ ขอบคุณค่ะ...