“น้องสี่ ข้าได้ยินว่าเจ้าจะเป็นชายารองของเซ่าตี้ ยินดีกับเจ้าด้วยนะ วันมะรืนข้ามาแล้วหนึ่งครั้งแต่ไม่พบเจ้า วันนี้ข้าตั้งใจมาหาเจ้าเห็นเจ้าสบายดี พี่ก็สบายใจ”
วันนี้เย่เจียหรงมาที่หอยาไป๋เป่าพร้อมกับของขวัญหลายชิ้น ท่าทีนางดูอ่อนโยนเป็นมิตร
คนที่ไม่รู้อาจคิดว่าเย่จายซิงกับเย่เจียหรงนั้นเป็นคนในครอบครัวที่รักใคร่กัน
เย่จายซิงหัวเราะเยาะขึ้นมา:
“พี่ใหญ่ ท่านส่งคนสะกดรอยตามข้ารึ หลายวันมานี้ข้าไม่ได้อยู่ในห้องโถง วันนี้เพิ่งออกมาท่านก็เข้ามาพอดี ช่างพอเหมาะพอดียิ่งนัก”
หอยาไป๋เป่านั้นห้ามไม่ให้คนของสำนักเมฆแดงนั้นเข้ามา เย่เจียหรงก็เป็นศิษย์สำนักเมฆแดงที่ไม่มีสิทธิ์เข้ามาเช่นกัน
นางคาดว่าเย่เจียหรงรู้ว่านางอยู่ในห้องโถงจึงเข้ามาหอยา และรอจนกว่านางไปยืนอยู่ที่หน้าประตูถึงเดินเข้ามา นางกลัวจะถูกไล่ออกไปก่อน
“น้องสี่ เจ้าพูดอะไรกัน พี่ตั้งใจจะมาหาเจ้าและถือโอกาสมาแสดงความยินดีที่เจ้าได้เป็นชายารองของเซ่าตี้ เจ้าอย่าคิดเป็นอื่นเลยข้าไม่มีความหมายอื่น”
สีหน้าเย่เจียหรงไม่ได้เปลี่ยนไป ฟังดูน้ำเสียงนั้นมีความลำบากใจเล็กน้อย
นางพูดว่า:
“น้องสาว เจ้ารู้ว่าอ๋องเซ่อเจิ้งกับเซ่าตี้เป็นคนเดียวกันนานแล้วใช่ไหม ทำไมเจ้าถึงปิดบังข้ามาตลอดหละ?”
ตอนนางพูดประโยคนี้ออกมา เย่จายซิงเห็นแววตาที่ซ่อนความโกรธไว้อย่างชัดเจน
ชิ!
เย่เจียหรงคงจะรู้สึกเสียดายโอกาสที่ไม่สามารถสานสัมพันธ์กับเซ่าตี้ได้ ดังนั้นจึงโกรธเย่จายซิงที่ ไม่ได้บอกนางเรื่องฐานะที่แท้จริงของเสด็จอา
กับนาง
นางยิ้มอย่างเหน็บแนม
“เจ้าอยากพูดอะไรกันแน่ อย่าอ้อมค้อมเลยดีกว่า”
สีหน้าของเย่เจียหรงนั้นอึ้งไปสักครู่ เย่จายซิงนั้นไม่เคยเล่นตามเกม ทำให้นางนั้นบันดาลโทสะเหลือเกิน
เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว เย่เจียหรงก็ไม่อยากถ่วงเวลาไปอีก นางได้ส่งเสียงผ่านจิตให้เย่จายซิงว่า:
“น้องสี่ เจ้าอยู่เฉินตูโดยไม่มีใครเกื้อหนุน เพียงความรักของเซ่าตี้ไม่ทำให้เจ้าสำเร็จได้หรอก ต่อไปยังมีอุปสรรคมากมายที่ต้องเผชิญ ข้าเป็นครอบครัวเดียวกับเจ้า ข้าเต็มใจที่จะช่วยเจ้านะ”
นางไม่กล้าพูดเรื่องนี้ออกจากปากต่อหน้าคนอื่นๆ เพราะยังต้องรักษาศักดิ์ศรีของตัวเองอยู่
นางทำให้เย่จายซิงรู้สึกตลก
แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่นางจะเผยตัวตนที่แท้จริงออกมา แทนภาพลักษณ์อันดีงามที่นางพยายามสร้างขึ้นมา
นางพยายามถามถึงแม้จะรู้สึกยุ่มย่ามใจก็ตาม
“ออ? งั้นเจ้าบอกข้ามาซิ ว่าเจ้าจะช่วยข้าอย่างไร?”
เย่เจียหรงคิดว่านางเกรงกลัวขึ้นมา พูดอย่างอ่อนโยนว่า:
“น้องสี่ ให้ข้าเป็นนางกำนัลของเจ้าในวันที่เจ้าร่วมหอลงโรง สำนักเมฆแดงเป็นที่พักพิงของข้า ถึงเวลานั้นสำนักเมฆแดงก็คงไม่ถือโทษเอาความเจ้าแล้ว และข้าจะช่วยเจ้าสู้กับหญิงอื่น เจ้าจะได้ขึ้นเป็นพระชายาเซ่าตี้! เจ้าเป็นน้องสาวคนเดียวของข้า ทั้งหมดนี้ข้าก็ทำเพื่อเจ้านะ ”
เย่จายซิงยืนตะลึงในความหน้าด้านของเย่เจียหรง
พูดตามจริง ฉู่ยุ่นเอ๋อร์ที่มาเมื่อวานหน้าก็ด้านพอแล้ว เย่เจียหรงก็เช่นเดียวกัน
ยังมีหน้าพูดแบบนี้ออกมาอีก
นางรู้มาตลอดว่าเย่เจียหรงนั้นหัวสูง นางมักจะถ่ายทอดความคิดการหาคู่ให้น้องสาว โดยให้เข้าหาเฉพาะขุนนางตระกูลใหญ่ เป็นเพราะเช่นนี้ชื่อเสียงของเย่เจียหยูจึงได้ฉาวโฉ่เช่นนี้
นางได้ยินมาว่าวันที่ศาลตัดสินคดี เย่เจียหยูนั้นชื่อสียงเสียหายป่นปี้ ผู้คนต่างรุมตะโกนทำร้าย เย่เจียหรงเลยตัดขาดความเป็นพี่น้องกับเย่เจียหยูตั้งแต่วันนั้น นางพูดว่านางไม่มีน้องสาวแบบเย่เจียหยู นางได้ตัดความสัมพันธ์นั้นขาดสะบั้น
นี่เป็นสาเหตุที่เย่เจียหรงพูดว่ามีจายซิงเป็นน้องสาวคนเดียวเท่านั้น
มันช่างน่าอนาถใจจริง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา
มาอ่านเรื่องนี้ต่อค่ะ หวังว่าจะลงเนื้อหาจนจบ...
115จนถึงถึง159ไม่มีเลยค่ะลงต่อให้ครบได้มั้ยค่ะ😂...
ตอนที่ 115-159 หายไปค่ะ อ่านต่อไม่ได้อ่ะค่ะ...
115-159หายไปไหนอ่าคะ...
อัพวันละหลายๆตอนได้มั้ยค่ะ ขอบคุณค่ะ...