น้ำเสียงฉู่ยุ่นเอ๋อร์ แฝงไปด้วยความเกลียดแค้น
ถึงแม้นางจะเป็นเทพธิดาของเผ่าโฮ่วาน แต่นางก็ยังเป็นสาวน้อย ตนเองรวบรวมความกล้าสารภาพรัก สุดท้ายถูกปฏิเสธ นางรู้สึกอับอายอย่างมาก ยังโกรธเกลียดฝ่ายชายอย่างมาก
นางรู้สึกเหมือนหัวใจของตนถูกเหยียบย่ำ
นางหลงรักโม่เสิ่นยวน ดังนั้นนางจึงคิดว่าตนเองไม่ได้โกหกหลอกลวงเขา นางจะจริงใจในอนาคตที่ได้อยู่กับเขา รอเมื่อเขาตาย นางก็จะจดจำเขาไว้
แต่เขาล่ะ เขาบอกว่านางทำให้อยากอ้วก
เย่จายซิงมองดูสีหน้าฉู่หยุนเอ๋อร ในใจเย้ยหยัน สีหน้าเต็มไปด้วยความเคร่งขรึมในแบบฉบับแม่นมหลัน
“เทพธิดา เสียเบาหน่อย ที่นี่ยังอยู่ในเขตพื้นที่ของเซ่าตี้ ไป ข้าน้อยไปทูลฮองเฮา ให้องค์ฮองเฮาเรียกร้องความยุติธรรมให้ทาน”
ฉู่ยุ่นเอ๋อร์กำหมัดแน่น หันไปมองประตูตำหนักแวบหนึ่ง แล้วกัดฟันเดินอยู่ข้างหน้าแม่นมหลัน
มาถึงภายในตำหนักฮองเฮา ฉู่ยุ่นเอ๋อร์รีบพูดขึ้นว่า
“เสด็จป้า ไม่มีวิธีอื่นที่จะสามารถฆ่าเขาแล้วหรือ? เขาไม่ยอมแต่งงานกับข้า ก็จะไม่สามารถวางพิษกู่ใส่เขา”
ฮองเฮาเพิ่งป้อนเลือดหนอนพิษกู่ กำลังเหนื่อยล้า สีหน้าขาวซีด พร้อมพูดขึ้นว่า
“หากข้าสามารถฆ่าเขาได้ ก็ไม่ต้องให้เจ้าเข้ามาในวัง เจ้าอดทนไว้ก่อน ช่วงนี้ข้ามีเรื่องอย่างอื่นต้องทำ”
ความหมายที่พูดก็คือ นางไม่มีกะจิตกะใจหาเรื่องโม่เสิ่นยวนแล้ว
เย่จายซิงรู้ว่าฮองเฮาจะทำอะไร นางต้องการเลือดของฮ่องเต้
แบบนั้น ก็ต้องวางแผนให้มีคนร้ายลอบเข้ามา
ลอบปองร้ายในวังถึงจะไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุด ในวังมีองครักษ์จำนวนมาก ยังมีอาจารย์ผู้อาวุโสกับพวกผู้อาวุโสอีกไม่น้อย ต่อให้คนร้ายเข้ามาในวังได้ สุดท้ายก็จะถูกธนูยิงเป็นพรุน
ตลอดทางที่เดินมา ฉู่ยุ่นเอ๋อร์หายโมโหลงบ้างแล้ว นางมองดูท่าทีฮองเฮา พร้อมพูดขึ้นอย่างเป็นห่วงว่า
“ช่วงนี้เสด็จป้ามีเรื่องกังวลใจอะไรหรือเปล่า? ยุ่นเอ๋อร์ก็สามารถช่วยเสด็จป้าแบ่งเบาได้นะ”
นางรู้ดี จะแก้แค้นให้กับแม่ จำต้องพึ่งพาเสด็จป้า
เข้าใกล้เซ่าตี้นั้นยากมาก และยังอคติคอยป้องกันนางอย่างมาก
ฮองเฮาลังเลสักพัก แล้วก็โบกมือพร้อมพูดขึ้นว่า
“เจ้ากลับไปก่อนเถอะ ข้าก็แค่เหนื่อยล้า ไม่เป็นไร เจ้าไปคิดหาวิธีเองว่าจะเจอโม่เสิ่นยวนโดยบังเอิญได้อย่างไร หากยังไงเขาก็ไม่ชอบเจ้า ต่อให้พวกเจ้าแต่งงานกัน เขาก็จะไม่แตะต้องเจ้า”
ฉู่ยุ่นเอ๋อร์ก้มหน้า พร้อมพูดขึ้นว่า “เพคะ ยุ่นเอ๋อร์จะตั้งใจ เสด็จป้าพักผ่อนให้ดี วันหลังยุ่นเอ๋อร์ค่อยมาเยี่ยมท่าน”
พูดเสร็จ แล้วก็ถวายบังคมทูลลา
เย่จายซิงมองดูฉู่ยุ่นเอ๋อร์จากไป แล้วก็พูดกับฮองเฮาว่า
“องค์ฮองเฮา ทำไมไม่บอกเทพธิดา ไม่แน่เทพธิดาอาจจะสามารถเลี้ยงพิษกู่ได้โดยเร็ว นางมีพรสวรรค์ในการเลี้ยงพิษกู่ที่สูง”
ฮองเฮาส่ายหัว พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าไม่อยากให้คนอื่นรู้ ฮ่องเต้รักใคร่ข้ากับหยิงเอ๋อร์ร์ก็เพราะใช้พิษกู่ ให้เกียรติตนเองบ้างเถอะ”
นางต้องการรักษาเกียรติ เรื่องนี้มีเพียงแม่นมหลันที่รู้ คนอื่นต่างก็ไม่รู้ ต่างรู้เพียงว่าฮ่องเต้รักใคร่นางมาก
เสียดาย ทุกอย่างล้วนเป็นความเท็จ
เย่จายซิงแกล้งทำเป็นถอนหายใจ พร้อมพูดขึ้นว่า “หินที่เยือกเย็นยังทำให้อบอุ่นได้ ความรู้สึกที่ฮ่องเต้มีต่อเจ้าหญิงบอกเปลี่ยนก็เปลี่ยนไปเลย นั่นเป็นความรู้สึกกับความผูกพันหลายสิบปีนะ”
ฮองเฮากำหมัดแน่น นางก็เคยโกรธแค้น
หลายปีมานี้ นางดีกับเขาแค่ไหน ดูแลอย่างใกล้ชิด มีลูกให้เขา ดูแลจัดการวังหลังให้เขา แล้วเขาล่ะ ตำหนิหยิงเอ๋อร์ร์แบบนี้ ราวกับหยิงเอ๋อร์เป็นความล้มเหลวของเขา นั่นคือลูกสาวของเขานะ
นางหัวเราะเย้ย
“โม่เสิ่นยวนก็เป็นลูกชายของเขา ดูสิ่งที่เขาทำกับโม่เสิ่นยวน ฮ่าๆ จะว่าไปแล้ว เขาเป็นคนที่ไม่มีน้ำใจคนหนึ่ง เป็นหินที่ไม่มีวันอุ่นได้”
“องค์ฮองเฮาจะพูดแบบนี้ไม่ได้ เจ้าหญิงกับโม่เสิ่นยวนนั้นแตกต่างกันมาก โม่เสิ่นยวนเป็นลูกที่เกิดจากผู้หญิงที่ฮ่องเต้เกลียดชัง”
ฮองเฮาพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าเย็นชาว่า
“เฮ้อ ที่จริงก็ไม่แตกต่างกัน”
ฮ่องเต้ก็ไม่ชอบนางเหมือนกัน
“แม่นม ข้าคิดดีแล้ว รอเลี้ยงพิษกู่ได้สำเร็จ แล้วค่อยฆ่าโม่เสิ่นยวน เมื่อเขาเสียชีวิต ข้าจะไม่ไว้ชีวิตเขาอีกต่อไป”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา
มาอ่านเรื่องนี้ต่อค่ะ หวังว่าจะลงเนื้อหาจนจบ...
115จนถึงถึง159ไม่มีเลยค่ะลงต่อให้ครบได้มั้ยค่ะ😂...
ตอนที่ 115-159 หายไปค่ะ อ่านต่อไม่ได้อ่ะค่ะ...
115-159หายไปไหนอ่าคะ...
อัพวันละหลายๆตอนได้มั้ยค่ะ ขอบคุณค่ะ...