“ยินดีกับเซ่าตี้และเซ่าตี้เฟยที่จะกำลังจะแต่งงาน!”
“ยินดีด้วยยินดีด้วย!”
ผู้คนต่างที่เห็นเย่จายซิงรับสินสอดไป จากนั้นก็มีคนแสดงความยินดีคนแรก ตามด้วยคนสองคนที่สามต่อๆ กันไป
จะว่าไป คนทั่วไปต่างก็เห็นว่าเย่จายซิงเหมาะกับเซ่าตี้ นอกจากเย่จายซิงแล้ว เกรงว่าคงจะไม่มีหญิงนางอื่นเหมาะกับเซ่าตี้อีกแล้ว
เทพธิดาของเผ่าโฮ่วานครั้งที่แล้ว เมื่อยืนเปรียบเทียบกับเย่จายซิงแล้ว ถูกเปรียบเทียบจนไม่เหลือชิ้นดีเลย
อีกทั้งเย่จายซิงยังเป็นคนที่ร่ายม่านอาคมเหวปีศาจอีกด้วย นางกับเซ่าตี้ได้ช่วยเหลือชีวิตผู้คนเป็นร้อยล้านชีวิต
ผู้หญิงเช่นนี้หากไม่เหมาะกับเซ่าตี้ล่ะก็ ก็คงจะไม่มีหญิงนางคนอื่นที่เหมาะสมกับเขาได้อีกแล้วล่ะ
ความอิจฉาของเหล่าผู้หญิงเป็นอีกเรื่อง แต่อีกใจก็คิดว่าช่างเหมาะสมกันราวกับกิ่งทองใบหยก ทั้งสองคนยืนด้วยกัน ราวกับเป็นทัศนียภาพที่สวยงามและมีความสุข
ไม่มีผู้หญิงนางไหนสวยงามไปกว่าเย่จายซิงอีกแล้ว เมื่อไปยืนเปรียบเทียบกับนาง ราวกับไปประจานความด้อยของตัวเอง นางงดงามดั่งหญิงงามที่มีแสงออร่าออกมา
แน่นอนว่า ก็มีบางคนที่มีความคิดเห็นแตกต่างกันไป
ดั่งเช่น เย่เจียหรงและโจวเหม้ยที่ก็ยืนอยู่ในฝูงชนนั้นด้วย แล้วก็ยังมีองค์หญิงหลิวอิ๋งอีกคน รวมถึง……
มีร่างสีเขียวอ่อนพุ่งออกไป:
“ข้าไม่เห็นด้วย!ข้าไม่เห็นด้วยที่ท่านพี่จะแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้!”
“นั่นองค์หญิงหลิวอิ๋ง!”
“ไม่ใช่ ตอนนี้นางไม่ใช่องค์หญิงแล้วนี่!”
“เชอะเชอะ แทบจะจำไม่ได้!นางดูย่ำแย่มาก!”
ใช่แล้ว คนที่พุ่งเข้ามา ก็คือหลิวอิ๋ง
นางแต่งกายธรรมดาไม่เหมือนเมื่อก่อน ความสวยงามยิ่งไม่ต้องพูดถึง ไม่มีรัศมีของความเป็นองค์หญิง แล้วก็ไม่มีหลายคนล้อมรอบ บวกกับสถานะที่ตกต่ำ ทำให้หน้าตาของนางดูซูบผอม ในฝูงชนนางดูลำบากมาก
เพียงแค่คิดว่าออกไปจากเฉินตูแล้วนางยังจะกลับมาอีก แถมยังมาคัดค้านงานแต่งานของเย่จายซิงและโม่เสิ่นยวนอีกด้วย
เย่ยู่หยางลุกขึ้นยืนเป็นแรกและเอามือชีหน้าหลิวอิ๋งแล้วพูดว่า:
“เรื่องนี้คงไม่ต้องถึงมือเจ้าหรอก เจ้าอย่าลืมนะว่า เจ้าถูกฮ่องเต้ว่าเป็นกบฏปลดเป็นสามัญชนธรรมดา!พี่เขยข้าไม่มีน้องสาวเช่นเจ้า!”
“จริงด้วย ไม่มองตัวเองว่ามีสถานะอะไร ฮ่องเต้ยังไม่คัดค้าน ยิ่งไปต้องพูดถึงตัวเอง!”
ลั่วกูหยุนก็เยาะเย้ยแล้วพูดว่า
เห็นหลิวอิ๋งรกหูรกตามาตั้งนานแล้ว
ทีแรกคิดว่านางเป็นคนร้ายกาจอย่างเดียว คิดไม่ถึงเลยว่านางยังมีหน้ากลับมาที่เฉินตู
หลิวอิ๋งทั้งอายและโกรธ สายตาของคนรอบข้างที่มองมาทำให้นางรู้สึกว่าถูกดูหมิ่น แต่นางรู้ดีว่ายังไงนางก็โดนเยาะเย้ย แต่นางก็ยังบุกเข้ามาอยู่ดี
เพราะว่านางจะต้องขัดขวางงานแต่งงานของพวกเขาให้ได้!
นางสูดลมหายใจลึกๆ แล้วพูดว่า:
“ข้ามีคำพูดที่ต้องคุยกับท่านพี่เพียงคนเดียว!พูดจบท่านค่อยตัดสินใจว่าจะแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้ไหม!”
โม่เสิ่นยวนกำลังจะอ้าปากปฏิเสธ เย่จายซิงดึงแขนเสื้อของเขา ให้เขาไปคุยกับหลิวอิ๋งให้ชัดเจน
นางมักจะรู้สึกว่าหลิวอิ๋งเกิดความรักกับเสด็จอาแบบไม่มีเหตุผล ไม่เข้าใจเหมือนกัน ในใจของนางรู้สึกขยะแขยง
คำปฏิเสธของโม่เสิ่นยวนกลืนหายไป แต่ว่าเขาไม่ยอมปล่อยมือของเย่จายซิงออกไป เขามองไปที่หลิวอิ๋งด้วยสายตาที่เย็นชา:
“เจ้าจะพูดอะไร เข้ามาพูด”
พูดจบ เขาก็จูงเย่จายซิงแล้วเดินออกไป
หลิวอิ๋งกัดฟันกรอด จากนั้นเดินตามเข้าไป
ก็ดี เย่จายซิงที่ปลอมตัวเป็นแม่นมหลันมาตั้งนาน คงจะต้องรู้จิตใจของตนเองดี
นางจะให้เย่จายซิงรู้ว่าเมื่อก่อนเสด็จพี่ชอบนางมาก่อน ให้นางรู้ นางเป็นคนที่เข้ามาแทรกกลาง ให้นางไม่มีหน้าที่จะอยู่กับเสด็จพี่!
“ว่ามา”
โม่เสิ่นยวนไม่ได้เดินเข้าไปอีก เขาได้ร่ายม่านอาคม จากนั้นจ้องหลิวอิ๋งด้วยสายตาที่เย็นชา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา
มาอ่านเรื่องนี้ต่อค่ะ หวังว่าจะลงเนื้อหาจนจบ...
115จนถึงถึง159ไม่มีเลยค่ะลงต่อให้ครบได้มั้ยค่ะ😂...
ตอนที่ 115-159 หายไปค่ะ อ่านต่อไม่ได้อ่ะค่ะ...
115-159หายไปไหนอ่าคะ...
อัพวันละหลายๆตอนได้มั้ยค่ะ ขอบคุณค่ะ...