หลังจากที่ทุกคนเห็นเย่จายซิงเลือกวัตถุดิบกลั่นโอสถกลับไปกองใหญ่ด้วยความสบายใจนั้น ก็ได้แต่ส่ายหน้าออกมา
หาได้มีผู้ใดมองการคัดเลือกสมุนไพรของเย่จายซิงอย่างละเอียดไม่ เนื่องจากผู้คนต่างพากันตัดสินนางไปแล้วว่า นางต้องการเป็นที่สนใจของผู้คนเท่านั้น
ทั้งยังคิดว่านางไม่อาจกลั่นโอสถที่มีคุณภาพดีออกมาได้แน่
ทว่า แม้ว่านางจะมีหน้าตาที่งดงามมากเพียงใด ไม่ว่าจะมุมไหน ด้านไหนของนาง ล้วนแต่ทำให้ผู้คนจับจ้องมองนางได้ไม่เลิก
บางที่หานางไม่เสแสร้งทำเช่นนี้ นางอาจจะได้รับการยอมรับมากกว่านี้ก็เป็นได้
มีปรมาจารย์กลั่นยาบางคนเริ่มลงมือกลั่นยาแล้ว
หลังจากที่เย่จายซิงจัดเรียงสมุนไพรเสร็จแล้วนั้น ในมือพลันส่งลูกไฟดวงหนึ่งเข้าไปในเตากลั่นโอสถของนางในทันที
เพียงแค่การปรากฎตัวของเพลิงพิลึกขึ้นมา ผู้คนพลันสัมผัสได้ถึงไอร้อนระอุได้ในทันที
ชายชราที่พึ่งนั่งลงไปเมื่อครู่นั้น พลันอุทานออกมาด้วยตกตะลึง “เพลิงพิลึกขั้นแปด!”
“อะไรนะ ?!”
“เพลิงพิลึกขั้นแปด!”
“นางสามารถผสานพลังกับเพลิงพิลึกขั้นแปดได้ด้วย! น่ากลัวเสียจริง!”
“ไม่อยากจะเชื่อเลย!”
หลังจากที่ได้ยินชายชราอุทานออกมาเช่นนั้น ผู้คนที่รอรับชมอยู่พลันตกตะลึงไปในทันที แม่นางอายุน้อยผู้นี้ สามารถผสานพลังกับเพลิงพิลึกขั้นแปดได้ ภายในใต้หล้า มีเหล่าปรมาจารย์ไม่กี่คนเท่านั้นที่จะสามารถมีเพลิงพิลึกขั้นแปดไว้ครอบครอง
แต่การผสานพลังเข้ากับเพลิงพิลึกเป็นเรื่องที่ยากมากกว่า ยิ่งขั้นสูงมากเท่าใด ยิ่งต้องใช้พลังในการควบคุมยากมากเท่านั้น
การที่นางสามารถควบคุมเพลิงพิลึกได้เช่นนี้ นับว่ามีพลังจิตใจที่แข็งแกร่ง และหารที่มีพลังจิตใจที่แข็งแกร่งนั้น นั่นหมายความว่าพลังในการกลั่นโอสถของนางจะไม่มีทางอ่อนแอลง
มีคนกล่าวขึ้นมาว่า
“บางทีนางอาจจะเป็นอาจารย์กลั่นยาขั้นเจ็ดจริง ๆ ก็ได้ นางมีเพลิงพิลึกขั้นแปดครอบครองเชียว!”
“เป็นไปไม่ได้!” จู่ ๆ ก็มีคนตอบโต้สวนขึ้นมา “แม้นางจะเก่งกาจเพียงใด อย่างมากก็คงเป็นปรมาจารย์ขั้นห้าหกเท่านั้น พวกเจ้าไม่รู้หรือว่าปรมาจารย์ขั้นเจ็ดนั้นเลื่อนขั้นยากเพียงใด ความแตกต่างระหว่างชั้นของหกและเจ็ดนั้น ต่างกันราวกับฟ้าและเหวเลยทีเดียว!”
“ใช่ แม้ว่าเย่จายซิงจะมีอายุเท่านี้ แต่นางกลับมีศักยาภาพมากมายยิ่งนัก ”
“แม้ว่านางจะมีความสามารถมากมายเพียงใด บางทีหากปีหน้านางงเข้าร่วมการประลองอาจจะติดหนึ่งในสามอันดับก็เป็นได้ สามอันดับในปีนี้นั้น อย่างไรนางก็คงไม่เข้ารอบ”
ยามที่ผู้คนกำลังตกอยู่ในอาการตกตะลึงอยู่นั้น ผู้คนก็ยังมิได้คาดหวังอะไรกับเย่จายซิงไปมากนัก ด้วยเพราะนางมีอายุมิได้มาก หากนางอยู่ในเกณฑ์ที่มั่นคงมากกว่านี้ บางทีความสามารถของนางอาจจะฉายแววออกมาก็เป็นได้
หลังจากเวลาผ่านไปได้สองชั่วยามนั้น ผู้คนราวกับโดนตบหน้าไปฉากใหญ่ในทันที
กลิ่นหอมของโอสถที่ลอยออกมานั้น กลับเป็นเตากลั่นโอสถสีม่วงของเย่จายซิงที่ส่งกลิ่นหอมออกมาเป็นคนแรก ยามที่ปรมาจารย์กลั่นยาท่านอื่นกำลังกลั่นยากันอยู่นั้น เย่จายซิงกลับเดินทางมาถึงขั้นตอนสุดท้ายของการกลั่นโอสถเสียแล้ว
เปรี๊ยะ!
เสียงดังสนั่นราบสายฟ้าแลบ พลันผ่าเข้าไปในสติของผู้ชมที่อยู่โยรอบในทันที
“เป็นทัณฑ์โอสถ!”
“โอสถขั้นหกขึ้นไปถึงจะเกิดทัณฑ์โอสถ !”
“อย่างน้อยนางน่าจะเป็นปรมาจารย์กลั่นยาขั้นหกกระมัง”
“เหตุใดนางใช้เวลากลั่นยาได้รวดเร็วปานนี้ เมื่อครู่นางลงมือรวดเร็วเสียจนข้าไม่อาจมองได้ทันเลย”
เมฆลายสายฟ้าฟาดพลันพุ่งขึ้นไปสู่ท้องฟ้า ทัณฑ์โอสถพลันโหมกระหน่ำโจมตีมายังเตากลั่นโอสถสีม่วงในทันที เตากลั่นโอสถในยามนี้ราวกับว่ากำลังถูกโจมตีก็ไม่ปาน ลวดลายของมันพลันส่องประกายแสงออกมาในทันที
ไม่นานนัก ภายใต้การจับจ้องของทุกคน เย่จายซิงจึงค่อย ๆ เปิดฝาเตากลั่นโอสถออกมา จิตสำนึกของผู้คนพลันรีบเข้าไปดูในทันที พลันเห็นเป็นเพียงเม็ดยาโอสถสีม่วงเข้มวางอยู่ในเตากลั่นโอสถมากถึงแปดเม็ด
“สีม่วง โอสถขั้นเจ็ด!”
“สามารถกลั่นโอสถขั้นเจ็ดออกมาได้ในคราวเดียว โหนางเก่งกาจยิ่งนัก!”
พวกเราทุกคนดูเบานางเกินไป นางเป็นอาจารย์กลั่นยาขั้นเจ็ดจริงๆ “!”
“อะไรนะ! อายุสิบเจ็ดเป็นถึงอาจารย์กลั่นยาขั้นเจ็ดแล้ว? ทั่วทั้งแผ่นดินหลิงเซียวของเราคงพบเจอนางได้เพียงคนเดียวกระมัง!”
“ใช่! นับว่าเป็นการทุบสถิติเชียว! อายุสิบเจ็ดเป็นถึงอาจารย์กลั่นยาขั้นเจ็ดได้ นับแต่นี้เป็นตันไป คงมมีเช่นนี้อีกแล้ว!”
พิธีการชรารีบเดินเข้าไปในทันที เขาใช้มือเดียวในการหยิบเม็ดโอสถขึ้นมา พร้อมกับพูดด้วยความตกตะลึงว่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา
มาอ่านเรื่องนี้ต่อค่ะ หวังว่าจะลงเนื้อหาจนจบ...
115จนถึงถึง159ไม่มีเลยค่ะลงต่อให้ครบได้มั้ยค่ะ😂...
ตอนที่ 115-159 หายไปค่ะ อ่านต่อไม่ได้อ่ะค่ะ...
115-159หายไปไหนอ่าคะ...
อัพวันละหลายๆตอนได้มั้ยค่ะ ขอบคุณค่ะ...