เพลิงพิลึกขั้นห้าก็ไปทางเมืองศักดิ์สิทธิ์ ก็ไม่น่าจะมีดวงได้เจอกัน
ภายในจิตใจของเย่เจียหยูประหลาดใจอย่างมาก และยิ้มออกมาอย่างเบิกบานราวกับว่าจะมองเพลิงพิลึกอันบริสุทธิ์เป็นของในกระเป๋าตนเอง
นางเป็นกังวลว่าเซี่ยซือห้าวจะไม่เต็มใจที่จะออกเงิน จึงรีบกระซิบกับเขาอย่างนุ่มนวลสองสามคำ เกลี้ยกล่อมให้เขาอารมณ์ดีขึ้น ทำให้เขาเข้าใจผิดคิดว่าเขามีโอกาสต่อตนเอง
“วางใจได้ น้องหยู ข้าจะต้องช่วยเจ้าเอาเพลิงพิลึกมาให้ได้แน่นอน ครั้งนี้จะต้องไม่มีผู้ใดมาแย่งเป็นแน่”
พอเซี่ยซือห้าวนึกถึงว่ามีความเป็นไปได้ที่จะแต่งนางเข้ามาในตระกูล ในอนาคตนางกลายเป็นนักกลั่นยาขั้นสูง นั่นก็เป็นเกียรติยศตระกูลเซี่ยของพวกเขาด้วยเช่นกัน ดังนั้นเขาก็เลยเต็มใจที่จะช่วยนางประมูลเพลิงพิลึกขั้นห้ามาให้ได้
บนเวที นักประมูลป่าวประกาศราคาด้วยเสียงสูงว่า
“เพลิงพิลึกขั้นห้าที่บริสุทธิ์ เริ่มต้นที่ราคาสองพันตำลึง ด้านล่างเริ่มประมูลได้”
พอราคานี้ประกาศออกไป คนที่อยากจะเข้าแข่งประมูลอยู่เดิมนั้นก็ใจหายกันเลยทีเดียว
แต่ว่าราคาก็เป็นไปตามที่ทุกคนคาดไว้เช่นกัน อย่างไรเสียเพลิงพิลึกขั้นห้าเป็นอะไรที่หาได้ยากยิ่ง ปริมาณก็น้อยนักจนยากที่จะอธิบายได้ ที่สำคัญก็คือเพลิงพิลึกที่มีปัญญามันช่างเจ้าเล่ห์และอันตรายมากเกินไป จับยากยิ่งกว่าลูกอสูรศักดิ์สิทธิ์เสียอีก
“สองพันหนึ่งร้อยตำลึง!”
“ข้าออกสองพันหนึ่งร้อยสามสิบตำลึง!”
“ข้าให้เพิ่มยี่สิบตำลึง!”
ในลานประมูลมีคนเพิ่มราคาไม่หยุดหย่อน ต่างเป็นอาจารย์กลั่นยาที่ขึ้นชื่อของเมืองหลวงกันทั้งนั้น
เซี่ยซือห้าวปล่อยให้คนอื่นเพิ่มราคากันไปสักพัก เขาไม่สามารถเริ่มพูดเป็นคนแรกสุดได้ เพื่อหลีกเลี่ยงหลังจากที่เขาพูดแล้วไม่มีใครกล้าเพิ่มราคาอีก ถึงตอนนั้นโรงประมูลจะไม่พอใจในตัวเขาเอาได้
ยังไงก็เป็นการเพิ่มแค่สิบตำลึงไม่ก็กี่สิบตำลึงเอง มันตัดสินอะไรไม่ได้หรอก
พอเห็นว่าถึงเวลาอันสมควรแล้วเขาจึงเอ่ยปากขึ้นช้าๆ ว่า
“ข้าออกสองพันแปดร้อยตำลึง”
“เจ้าพระยาเซี่ยเพิ่มราคาประมูลแล้ว!”
“เจ้าพระยามือหนักทีเดียว แค่คำเดียวก็เพิ่มไปห้าร้อยกว่าตำลึง เชื่อว่าไม่มีใครกล้าจะแย่งกับเจ้าพระยาแล้วล่ะ”
ผู้คนต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ ต่างพากันคิดว่าเพลิงพิลึกขั้นห้าจะต้องตกไปอยู่ในมือของเซี่ยซือห้าวแน่นอน
แคว้นหงส์แดงเป็นเพียงแค่แคว้นเล็กๆ อาจารย์กลั่นยาไม่เยอะ หากเพลิงพิลึกขั้นห้าประมูลอยู่ที่เมืองศักดิ์สิทธิ์จะต้องประมูลได้ราคาที่ขัดแย้งกับความเป็นจริงแน่นอน จะเพิ่มไปสักกี่เท่าก็ไม่ใช่ปัญหา แต่ใครเรียกให้มายังแคว้นเล็กๆ ที่ห่างไกลเช่นนี้
เย่เจียหยูจู่ๆ ก็กำผ้าเช็ดหน้าในมือแน่นอย่างไม่รู้ตัว ตัวสั่นเล็กน้อยด้วยความตื่นเต้น
อีกแค่ประเดี๋ยวเดียวเพลิงพิลึกขั้นห้าก็จะเป็นของนางแล้ว เพียงแค่นางผนึกรวมเพลิงพิลึกได้แล้ว ระดับการกลั่นยาก็จะต้องเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน ไม่แน่ว่าอาจจะทะลุไปถึงขั้นอาจารย์กลั่นยาขั้น 3 ก็ว่าได้ กลายเป็นอันดับรองจากองค์หญิงหลิงหยุนที่มีพรสวรรค์ในการกลั่นยา
พี่สาวของนางเป็นนักสะกดวิญญาณที่มีพรสวรรค์ และนางเป็นอาจารย์กลั่นยาที่มีพรสวรรค์ พอรอไปถึงเมืองศักดิ์สิทธิ์พวกนางก็ใช้ความสามารถของหญิงงามทั้งสองแห่งตระกูลเย่คว้าชื่อเสียงมาได้ และได้แต่งงานกับตระกูลที่มีฐานะ ในใจของนางนั้นคิดถึงความฝันอันสวยงามอยู่ มุมปากก็เลยค่อยๆ ยกขึ้น
“สามพันตำลึง!”
และในตอนนั้นเองเสียงใสสะอาดของหญิงสาววัยเยาว์ดังมาจากห้องรับรอง
แขวก!
เพราะว่าแรงมากเกินไป เล็บของเย่เจียหยูฉีกขาดออกเป็นซีกๆ เลือดไหลซึมออกมา แต่นางยังไม่รู้ตัว และดวงตาที่แฝงไว้ด้วยชั่วร้ายมองไปที่ห้องรับรองอย่างแน่นิ่ง
เสียงนั้นมันน้องสี่ของนางนั่นเอง คิดว่านางจะฟังไม่ออกเช่นนั้นหรือ!
เนื่องจากเสียงที่ดังออกมาจากห้องรับรองอย่างกะทันหันทำให้ลานประมูลขนาดใหญ่เงียบลงโดยฉับพลันจนได้ยินแม้แต่เสียงเข็มตก
จากนั้นผู้คนต่างพากันกระซิบกระซาบกันว่า
“ดูเหมือนว่าจะเป็นคุณหนูสี่เย่!”
“มีเพียงเย่จายซิงที่เข้าไปในห้องรับรองของอ๋องเซ่อเจิ้ง นอกจากนางจะเป็นใครไปได้ล่ะ?”
“นางเป็นแค่พวกไร้ความสามารถ จะเอาเพลิงพิลึกไปทำอะไรกัน?”
“ไม่แน่ว่าต้องการจะเรียกร้องความสนใจจากเจ้าพระยาเซี่ยก็เป็นได้ อ๋องเซ่อเจิ้งยังอยู่ข้างในเลยนะ นางช่างไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีเลย”
“อ๋องเซ่อเจิ้งอาจจะไม่ชอบนาง นางอัปลักษณ์ขนาดนั้น แม้แต่ขอทานยังไม่อยากจะมองเลย”
“เซี่ยซือห้าวฟังเสียงกระซิบกระซาบต่างๆ นานา รอบๆ ตัวเขา ใบหน้าของเขาไม่สามารถปิดบังซ่อนเร้นความรังเกียจได้ เหตุใดเย่จายซิงจึงตามหลอกหลอนไม่หยุดหย่อนเสียที
ต้องเป็นเพราะเมื่อก่อนตนเห็นแก่หน้านาง ดังนั้นก็เลยได้คืบเอาศอกเช่นนี้!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา
มาอ่านเรื่องนี้ต่อค่ะ หวังว่าจะลงเนื้อหาจนจบ...
115จนถึงถึง159ไม่มีเลยค่ะลงต่อให้ครบได้มั้ยค่ะ😂...
ตอนที่ 115-159 หายไปค่ะ อ่านต่อไม่ได้อ่ะค่ะ...
115-159หายไปไหนอ่าคะ...
อัพวันละหลายๆตอนได้มั้ยค่ะ ขอบคุณค่ะ...