บัลลังก์ชายาหมอเทวดา นิยาย บท 78

โส่วเหล่าซานตื่นตระหนก

ค่ายกลหลอนจิตสิบกว่าค่ายไม่มีเงาของชายผู้นั้นเลย ราวกับหายไปในอากาศอย่างนั้น

แต่เห็นชัด ๆ ว่าชายผู้นั้นเป็นแค่แดนราชาทิพย์ จะหายไปจากค่ายกลของเขาอย่างไร้เสียงได้อย่างไร?

สีหน้าของเขาซีดเผือด รู้สึกถึงหายนะที่ซ่อนเร้นอยู่ เหยียดขาจะวิ่งเข้าไปในพระราชวัง

ในเวลานี้เอง  หมัดกำใหญ่ดุจพลานุภาพเขาไท่ซานก็พุ่งมายังเขาเหมือนเงาสายฟ้าแล่บ จากนั้นเขาก็ถูกกดทับ  แม้แต่ขยับก็ไม่สามารถขยับได้

ของวิเศษใต้ฝ่าเท้าโส่วเหล่าซานส่องแสงเคลื่อนไหว ของวิเศษประจำกายของเขาก็คือรองเท้า สามารถเปิดค่ายกลเพื่อเผ่นหนี เขาใช้ความเร็วเผ่นหนีที่ไวที่สุด แต่ล่องหนเร็วกว่า เสียงกระแทกดังโครม เขาถูกกดลงไปในหลุมลึก ของวิเศษใต้ฝ่าก็เท้าร้าวออก!

เลือดกระอักออกจากปาก ตับและถุงน้ำดีแตกร้องลั่นเรียก : “ฝ่าบาทช่วยด้วย!”

อยู่ ๆ วังหลวงก็อยู่ท่ามกลางหมอกดำ สีหน้าของโส่วเหล่าซานสิ้นหวัง มองดูชายหนุ่มที่เดินออกมาจากไอพิษ เขาไม่เคยเห็นคนที่มีไอสังหารแรงเช่นนี้มาก่อน ต่อให้เป็นหลงเฟยหลี สีหน้าก็ไม่เลือดเย็นเท่ากับเขา ดวงตาสีดำคู่นั้นของเขาหนาวเหน็บเข้าไปถึงกระดูก

“นางอยู่ที่ไหน?”

ในมือของชายหนุ่มมีกระบี่หนึ่งเล่ม เสียงพูดราวกับจอมมารที่ปีนขึ้นมาจากขุมนรก

“ข้า ข้าไม่รู้……”

โส่วเหล่าซานรอให้หลงเฟยหลีออกมาช่วยชีวิตเขา จึงคิดจะถ่วงเวลา

กระบี่ยาวลอยมาจากใบหน้าเย็นชาของจวินหยวน อ่านความคิดของโส่วเหล่าซานออก เหมือนเห็นหลังไว ๆ มือข้างหนึ่งจับศีรษะของโส่วเหล่าซานไว้

“นึกไม่ถึงว่าเจ้าจะค้นหาวิญญาณเป็น!”

โส่วเหล่าซานร้องลั่นเสียงดัง เลือดไหลออกปาก เจ็บปวดจนใบหน้าบิดเบี้ยว นัยน์ตาเริ่มหลั่งเลือด

สุดท้ายเหลือกตาขาว กองลงไปที่พื้นอย่างไร้เสียง

จวินหยวนเดินเหยียบลงที่ศพของเขา จนถึงด้านหน้าพระราชวังที่ปกคลุมไปด้วยหมอกดำ  เพราะค้นวิญญาณแล้ว เขาจึงรู้ว่าน้องซิงปลอดภัย แต่ใบหน้าของเขายังคงไม่น่าดู นางถูกลูกนอกสมรสราชาปีศาจนามว่าหลงเฟยหลีดูดเลือดไป

เขาไม่ยอมให้เส้นผมนางหลุดแม้แต่เส้นเดียว แต่กลับมีคนมาดูดเลือดของนางไป

เขาเหวี่ยงกระบี่ออกไป ลมปราณของกระบี่ผ่าหมอกดำออก เผยให้เห็นพระราชวังโบราณแห่งหนึ่งที่ซ่อนเร้นอยู่ จากนั้นก็ลอยมารวมตัวอย่างรวดเร็ว

หมอกดำจับตัวกันเป็นอสุรกายยิงฟันแยกเขี้ยวพุ่งมาที่เขา กัดกร่อนที่ชายเสื้อของเขา ในเวลานี้เองเขาก็ชักกระบี่ที่แกร่งกว่าออกมา เหมือนเป็นลมปราณกระบี่ที่น่าเกรงขามตั้งแต่ฟ้าดินถือกำเนิด พอเขายกกระบี่ขึ้น  แสงก็ส่องสะท้อน  หมอกสีดำถูกแหวกออกอีกครั้ง เผยให้เห็นโฉมหน้าสมบูรณ์ของพระราชวัง

พระราชวังสั่นสะเทือนอยู่สองสามที

“เจ้าเห็นแล้วสินะว่าคู่หมั้นของข้าร้ายกาจมาก ปล่อยข้ากับเขาไปเถอะ อย่าให้ทั้งสองฝ่ายต้องบาดเจ็บ”

เย่นายซิงพูดกับหลงเฟยหลีที่หน้าดำคร่ำเครียด

“อย่าแม้แต่จะคิด”

หลงเฟยหลีขยับเข้าใกล้นาง นัยน์ตาสีแดงก่ำส่องประกายความหวาดระแวง ยื่นมือออกมาจงใจกระชากคอเสื้อของนางให้ขาด

“เจ้าทำอะไร !”

นางรีบถอยหลังทันที ปิดคอเสื้อไว้ ปกป้องตัวมองดูเขา

หลงเฟยหลีไม่พูดจา ปีศาจอสูรดวงตาแดงก่ำตนหนึ่งถูกเขาเรียกเข้ามา ส่วนเขาก็หายตัวพรึ่บไปจากตรงนั้น

เย่จายซิงร้อนใจมาก ที่นี่เป็นถิ่นของหลงเฟยหลี นางกลัวว่าจวินหยวนจะเสียเปรียบ แต่พระราชวังอยู่กั้นจากโลกภายนอก นางไม่สามารถรับรู้ภายนอกได้ และไม่สามารถพูดกับจวินหยวนได้

แล้วตอนนี้ก็มีอสูรปีศาจจับตาดูนางอยู่ คิดจะหาโอกาสหลบหนีก็ไม่ได้

ผึ้งหน้าผีตัวหนึ่ง ปีศาจอสูรขั้นแปด รูปร่างหน้าตาเหมือนผีที่ดุร้าย มีลำตัวเป็นผึ้ง ปีกทั้งคู่โปร่งใส ตรงปลายมีเข็มพิษร้ายแรงแขวนอยู่

ผึ้งหน้าผีตัวเท่าแค่ศีรษะมนุษย์ แต่กลับมีภูมิทิพย์ที่สูงในบรรดาอสูรปีศาจ และมีสารพิษรุนแรงที่สุดด้วย

นางไม่กล้าบุ่มบ่าม แต่ในเวลานี้นางสังเกตว่า อาณาเขตที่หลงเฟยหลีตั้งเอาไว้ได้ทลายลงแล้ว ถูกกระบี่ทลายศิลาสะเทือนชั้นฟ้าของจวินหยวนทลายเข้าเมื่อครู่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา