เรื่องเมืองหลินฟงเกิดสัตว์ร้ายอาละวาด แพร่ไปยังเมืองหลวงอย่างรวดเร็ว
“สัตว์ร้ายอาละวาดในครั้งนี้โหมกระหน่ำผิดปกติ มีอสูรปีศาจขั้นสูงมากมายปรากฏตัวอย่างคาดไม่ถึง!โชคดีที่อ๋องเซ่อเจิ้งยื่นมือเข้าช่วย ต้านทานพวกสัตว์ร้ายอาละวาด จึงไม่เกิดความเสียหายใหญ่หลวงขึ้น!”
“นั่นสิ ข้าได้ยินว่า ถ้าไม่ใช่เพราะอ๋องเซ่อเจิ้ง ประตูเมืองก็คงถูกตีแตก บาดเจ็บล้มตายนับไม่ถ้วนแล้ว!”
“นึกไม่ถึงว่าอ๋องเซ่อเจิ้งจะยื่นมือเข้าช่วยแม่ทัพที่ชายแดน!”
“เหมือนว่าเย่จายซิงขอร้อง อ๋องเซ่อเจิ้งจึงยอมยื่นมือเข้าช่วย”
ผู้คนตามโรงน้ำชาตามท้องถนนทั่วทุกที่ ต่างคุยกันเรื่องสัตว์ร้ายอาละวาด
“สัตว์ร้ายอาละวาดครั้งนี้ยังมีอสูรปีศาจขั้นแปดปรากฏตัวด้วย!มันจับตัวเย่จายซิงไป อ๋องเซ่อเจิ้งตามไปช่วยเหลือ และไม่ได้ข่าวอีกเลย”
มีคนที่รู้ละเอียดกว่านี้บอกว่า เขามีพี่น้องเป็นทหารในเมืองหลินฟง ใช้แผ่นหยกส่งเสียงเล่าเหตุการณ์ในตอนนั้นให้ฟังอย่างคร่าว ๆ
เนื่องจากแม่ทัพผางเล่าว่าเย่จายซิงจงใจหลอกล่อเจียวปีศาจขั้นแปดไปที่อื่น บวกกับที่นางมอบโอสถทิพย์ขั้นสี่มากมายให้กับทุกคน เหล่าทหารกล่าวชมเชยนางให้เหล่าสหายฟัง
คนผู้นี้ออกมาเล่าความจริงที่สหายบอกมาให้ฟังอีกครั้ง
“แม้เย่จายซิงไม่ได้มีรูปโฉมงดงาม แต่ลักษณะนิสัยไม่เลวเลย นางมอบโอสถทิพย์ขั้นสี่กว่าร้อยเม็ดออกมา ช่วยชีวิตผู้คนไว้ไม่น้อย”
“และเพราะนาง เห็นเจียวปีศาจแข็งแกร่ง จงใจยั่วเจียวปีศาจ ทำให้นางถูกจับตัวไป ช่วยชีวิตคนอื่นเอาไว้ได้”
“เพียงแต่คิดไม่ถึง อ๋องเซ่อเจิ้งไม่ได้คิดกับนางแบบทั่วไป พอเห็นนางถูกจับตัวไป ก็ไม่ลังเลที่จะไล่ตามเข้าไปในเทือกเขาที่ลึกที่สุด ครั้งนี้เกรงว่าจะตายไม่น่ารอดน่ะสิ”
พอฝูงคนได้ยิน มีทั้งที่เชื่อและไม่เชื่อ พวกเขาไม่คิดว่าเย่จายซิงจะมีโอสถทิพย์มากมายเช่นนั้น แล้วยังยั่วยุเจียวปีศาจ เพราะนางเป็นแค่เศษสวะที่ไม่สามารถฝึกฌานได้
อย่างไรก็ตามคนส่วนใหญ่ก็ทอดถอนใจกัน นึกไม่ถึงว่าอ๋องเจิ้งเซ่อจะดีต่อเย่จายซิงถึงขั้นนี้ ชายหนุ่มผู้เก่งกล้าแห่งราชสำนัก จะปักหลักอยู่ข้างกายสาวผู้อัปลักษณ์
เรื่องราวแพร่ไปถึงพระกรรณของฮ่องเต้ เวลานั้นทรงโสมนัสยิ่งนัก อาศัยการต้านทานสัตว์ร้ายอาละวาดเป็นหน้าฉากจัดงานเลี้ยงขึ้นในวังหลวง
ไม่มีใครคำนึงถึงจวินหยวนและเย่จายซิงจะรอดออกมาจากเทือกเขาอัสดงได้
ฮ่องเต้ทรงรู้สึกว่าหมอกทึบที่อยู่เหนือศีษะได้หายไปแล้ว ร่างกายสดใส ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
ในงานเลี้ยง มุมปากขององค์หญิงหลิงหยุนก็ยิ้มอยู่ตลอด คิดในใจว่า นี่เขาเรียกว่าคนชั่วย่อมถูกสวรรค์กำจัด เย่จายซิงคอยใช้จวินหยวนให้ท้ายนาง
แม้แต่องค์หญิงอย่างนางก็ไม่อยู่ในสายตา ดีแล้วที่ครั้งนี้ ทั้งสองคนตายคาปากของอสูรปีศาจ ซึ่งก็สมควรแล้ว
ผู้มาร่วมงานเลี้ยงวังหลวงยังมีองค์หญิงเหว้ยไฉเวย เหยียนฮั๋วกวง และเย่เจียหรง เย่เจียเยี่ยนสองพี่น้องจากประเทศเพื่อนบ้านด้วย
เหว้ยไฉเวยใจลอยบ้าง นางกังวลว่าเย่ยู่หยางรู้ข่าวนี้เข้าจะเสียใจ
แต่ในใจนางกลับรู้สึกว่าเป็นเรื่องดีอย่างหนึ่ง ไม่มีพี่สาวที่ร้ายกาจแบบนั้น วันข้างหน้าเย่ยู่หยางจะได้มีชีวิตที่ดีขึ้น
นางจะให้เหยียนฮั๋วกวงปล่อยน้ำตอนประลองยุทธ และจะกลับไปเฉินตูขอยานิพพานสักเม็ด เช่นนี้ ก็ถือว่านางได้ช่วยคนหลงผิดอย่างสุดความสามารถแล้ว
ไม่ใช่ว่านางไม่สามารถรักษาใจได้เหมือนเดิม ทว่าเย่ยู่หยางในเวลานี้ ทำให้นางผิดหวังเหลือเกิน
เย่เจียหรงและเย่เจียเยี่ยนสองพี่น้องกลับมีสีหน้าเศร้าสลดเล็กน้อย ยังกับเย่จายซิงผู้เป็นน้องสาวได้ตายจากไป จนร้องไห้เสียอกเสียใจ
เห็นท่าทางสองพี่น้องเช่นนี้ ผู้คนต่างชื่นชมความรักและความดีของคนทั้งสอง มีจิตใจที่สะอาดบริสุทธิ์
เมื่อสิ้นสุดงานเลี้ยง พอเข้าไปในรถม้า เย่เจียหยูก็อดปิดปากหัวเราะไว้ไม่อยู่ จนหัวไหล่สะเทือน
“สำรวมหน่อย กลับถึงบ้านแล้วค่อยหัวเราะ”
เย่เจียหรงพูดเสียงกระซิบกับนาง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา
มาอ่านเรื่องนี้ต่อค่ะ หวังว่าจะลงเนื้อหาจนจบ...
115จนถึงถึง159ไม่มีเลยค่ะลงต่อให้ครบได้มั้ยค่ะ😂...
ตอนที่ 115-159 หายไปค่ะ อ่านต่อไม่ได้อ่ะค่ะ...
115-159หายไปไหนอ่าคะ...
อัพวันละหลายๆตอนได้มั้ยค่ะ ขอบคุณค่ะ...