เสียงของชายหนุ่มยังคงกึกก้องอยู่ข้างหู อยู่ ๆ เย่จายซิงก็มองไปยังจวินหยวน
“เสด็จอา คงไม่ใช่ความบังเอิญกระมัง จุลสุเมรุนี้หรือจะเป็นผู้แข็งแกร่งผู้นั้นที่เริ่มคิดค้นมันขึ้นมา? จุลสุเมรุแห่งแรกของโลก?”
เมื่อก่อนจวินหยวนเคยบอกว่า คนรักของผู้แข็งแกร่งผู้นั้นตัดสินใจทอดทิ้งเขา ถึงขั้นไม่เสียดายที่ดวงวิญญาณแตกซ่าน
ดังนั้นเขาจึงจมปลักไม่ดับสูญ
“อาจจะกระมัง”
จวินหยวนพูดเสียงเรียบ ๆ สำหรับความรู้สึกของคนอื่นเขาไม่อะไรต้องเห็นใจ และไม่มีอะไรให้ต้องทอดถอนใจ ในเรื่องนี้ เขายังคงเป็นคนเลือดเย็นเหมือนอย่างก่อน เว้นแต่มีใจหวั่นไหวต่อนางก็ไม่มีใครที่ทำให้เขาเกิดอารมณ์ที่แตกต่างได้อีก ส่วนซากวิญญาณของผู้แข็งแกร่งผู้นี้เกือบจะไหว้ฟ้าดินกับนาง เขาไม่สามารถทนดูได้จึงเกิดจิตสังหารขึ้น เศษของความจมปลักที่มีมานานกว่าหมื่นปี นึกไม่ถึงว่าจะถูกกำจัดออกแบบจับพลัดจับผลู
เย่จายซิงแค่ถามเรื่อยเปื่อย ส่วนใครจะเป็นใครนั้นก็ไม่ได้สำคัญอะไร
“ฟังความหมายของคนผู้นั้นแล้ว ในเจดีย์โบราณแห่งนี้มีสมบัติอยู่ พวกเราไปหากันเถอะ”
จวินหยวนบอก
นางตกใจ เอาของล้ำค่ามาชดเชย นางควรจะดีใจ ไม่เหลือพยับเมฆเอาไว้
จิตใจของเย่จายซิงแข็งแกร่งมาก ไม่เหลือความรู้สึกอะไรแล้ว เพียงแต่ตอนนั้นเกลียดตัวเองที่ไม่สามารถหลุดพ้นจากแดนลวงตาได้เท่านั้น
แต่หากได้ของล้ำค่า ใครบ้างจะไม่ดีใจ
นางค้นหาของล้ำค่าในเจดีย์โบราณกับจวินหยวน แต่หาอยู่รอบนึงกลับไม่พบของล้ำค่าอะไร
สิ่งของที่มีอายุนานแรมปี แค่ลมพัดก็กลายเป็นผุยผง
หรือชายผู้นั้นจงใจหลอกพวกเราเพียงเพราะแค้นกระบี่ของจวินหยวน?
“ไม่สิ!ข้ารู้แล้ว เสด็จอา ของล้ำค่าอยู่ในชั้นที่โต๊ะเครื่องแป้งของห้องหญิงสาวผู้นั้น!”
อยู่ ๆ ก็มีแสงว่าบเข้ามาในความคิดเย่จายซิงว่าคิดอะไรขึ้นได้
นางลากจวินหยวนกลับไป เปิดลิ้นชักที่โต๊ะเครื่องแป้งออก
เครื่องประดับที่หวีผมต่าง ๆ ข้างใจไม่เหลือแม้แต่ฝุ่นนานแล้ว เต็มไปด้วยหยากไย่
เมื่อก่อนนางเคยเปิดดูแต่ไม่ได้เอามาใส่ใจ
แต่ภายหลังนางนึกขึ้นได้ว่าในแดนลวงตา ชายหนุ่มมักจะเอาหวีและที่เขียนคิ้วเป็นต้น โดยต้องไปทุกวัน
เขาช่างรักอะซู่เหลือเกิน ดังนั้นหากเขาซ่อนของล้ำค่าไว้ ต้องซ่อนไว้ในห้องของนางแน่
ห้องนี้มีความเป็นไปได้ที่สุด ก็คือโต๊ะเครื่องแป้งตัวนี้
เย่จายซิงยื่นมือเข้าไปคลำ เป็นอย่างที่คาด นางคลำเจอหยกที่เย็นเฉียบชิ้นหนึ่ง!
“เสด็จอา ข้าหาพบแล้ว!”
“น้องซิงเก่งจริง ๆ ”
จวินหยวนมองนางแล้วยิ้ม
ในมือของนางคือหยกขาวชิ้นหนึ่ง มีสีอบอุ่น
แต่พอถูกอากาศ หยกก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีหม่นไร้แสง จากนั้นแสงสีสาวก็แวววับ หยกกลายเป็นผง มีของสองสามอย่างตกลงมาจากหยก ถูกชายแขนของจวินหยวนรับเอาไว้
เป็นของสามสิ่ง ได้แก่กระจกสัมฤทธิ์ ปิ่นปักผมและตุ้มหู
ล้วนเป็นของใช้สำหรับผู้หญิง
ทุกชิ้นเหมือนออกมาใหม่
“นี่คงเป็นของที่เขาเตรียมไวให้หญิงสาวที่ชื่ออะซู่ น่าจะยังไม่ทันส่งออกไป อะซู่ก็เกิดเรื่องก่อน”
นางคาดเดา
จวินหยวนเอาไปดู:
“ไม่มีร่องรอยการใช้มาก่อนจริง ๆ เป็นของใหม่หมด ของทั้งสามสิ่งล้วนเป็นของศักดิ์สิทธิ์ น้องซิงเอาไว้ป้องกันตัวดีที่สุด”
“ล้วนเป็นของศักดิ์สิทธิ์?”
เย่จายซิงประหลาดใจอย่างยิ่ง ของศักดิ์สิทธิ์ในแผ่นดินเทียนเหย้ามีให้เห็นน้อยมาก ทั้งหมดเคยมีให้เห็นไม่กี่อย่าง นางกลับพบทั้งหมดสามอย่างขึ้นที่นี่
พลานุภาพของสิ่งศักดิ์สิทธิ์มหาศาลมาก แต่จวินหยวนบอกนางว่า นอกจากกระจกสัมฤทธิ์แล้ว ปิ่นปักผมกับต่างหูเป็นของศักดิ์สิทธิ์ที่เอาไว้พิทักษ์ตัว สามารถต้านการโจมตีของผู้แข็งแกร่งจากแดนมหาจักรพรรดิทิพย์ได้
“แล้วกระจกสัมฤทธิ์เอาไว้ทำอะไร?”
นางถามด้วยความสงสัย
กระจกสัมฤทธิ์ฉายให้เห็นใบหน้าที่มีปานแดงของนาง อยู่ ๆ นางก็รู้สึกว่าปานแดงขวางตาขึ้นมา
ดูแล้วขวางความงดงามจริง ๆ
จวินหยวนไม่รู้สึกว่านางน่าเกลียดหรือ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา
มาอ่านเรื่องนี้ต่อค่ะ หวังว่าจะลงเนื้อหาจนจบ...
115จนถึงถึง159ไม่มีเลยค่ะลงต่อให้ครบได้มั้ยค่ะ😂...
ตอนที่ 115-159 หายไปค่ะ อ่านต่อไม่ได้อ่ะค่ะ...
115-159หายไปไหนอ่าคะ...
อัพวันละหลายๆตอนได้มั้ยค่ะ ขอบคุณค่ะ...