บัลลังก์ชายาหมอเทวดา นิยาย บท 89

เสียงของชายหนุ่มยังคงกึกก้องอยู่ข้างหู อยู่ ๆ เย่จายซิงก็มองไปยังจวินหยวน

“เสด็จอา คงไม่ใช่ความบังเอิญกระมัง จุลสุเมรุนี้หรือจะเป็นผู้แข็งแกร่งผู้นั้นที่เริ่มคิดค้นมันขึ้นมา? จุลสุเมรุแห่งแรกของโลก?”

เมื่อก่อนจวินหยวนเคยบอกว่า คนรักของผู้แข็งแกร่งผู้นั้นตัดสินใจทอดทิ้งเขา ถึงขั้นไม่เสียดายที่ดวงวิญญาณแตกซ่าน

ดังนั้นเขาจึงจมปลักไม่ดับสูญ

“อาจจะกระมัง”

จวินหยวนพูดเสียงเรียบ ๆ สำหรับความรู้สึกของคนอื่นเขาไม่อะไรต้องเห็นใจ และไม่มีอะไรให้ต้องทอดถอนใจ ในเรื่องนี้ เขายังคงเป็นคนเลือดเย็นเหมือนอย่างก่อน เว้นแต่มีใจหวั่นไหวต่อนางก็ไม่มีใครที่ทำให้เขาเกิดอารมณ์ที่แตกต่างได้อีก ส่วนซากวิญญาณของผู้แข็งแกร่งผู้นี้เกือบจะไหว้ฟ้าดินกับนาง เขาไม่สามารถทนดูได้จึงเกิดจิตสังหารขึ้น เศษของความจมปลักที่มีมานานกว่าหมื่นปี นึกไม่ถึงว่าจะถูกกำจัดออกแบบจับพลัดจับผลู

เย่จายซิงแค่ถามเรื่อยเปื่อย ส่วนใครจะเป็นใครนั้นก็ไม่ได้สำคัญอะไร

“ฟังความหมายของคนผู้นั้นแล้ว ในเจดีย์โบราณแห่งนี้มีสมบัติอยู่ พวกเราไปหากันเถอะ”

จวินหยวนบอก

นางตกใจ เอาของล้ำค่ามาชดเชย นางควรจะดีใจ ไม่เหลือพยับเมฆเอาไว้

จิตใจของเย่จายซิงแข็งแกร่งมาก ไม่เหลือความรู้สึกอะไรแล้ว เพียงแต่ตอนนั้นเกลียดตัวเองที่ไม่สามารถหลุดพ้นจากแดนลวงตาได้เท่านั้น

แต่หากได้ของล้ำค่า ใครบ้างจะไม่ดีใจ

นางค้นหาของล้ำค่าในเจดีย์โบราณกับจวินหยวน แต่หาอยู่รอบนึงกลับไม่พบของล้ำค่าอะไร

สิ่งของที่มีอายุนานแรมปี แค่ลมพัดก็กลายเป็นผุยผง

หรือชายผู้นั้นจงใจหลอกพวกเราเพียงเพราะแค้นกระบี่ของจวินหยวน?

“ไม่สิ!ข้ารู้แล้ว เสด็จอา ของล้ำค่าอยู่ในชั้นที่โต๊ะเครื่องแป้งของห้องหญิงสาวผู้นั้น!”

อยู่ ๆ ก็มีแสงว่าบเข้ามาในความคิดเย่จายซิงว่าคิดอะไรขึ้นได้

นางลากจวินหยวนกลับไป เปิดลิ้นชักที่โต๊ะเครื่องแป้งออก

เครื่องประดับที่หวีผมต่าง ๆ ข้างใจไม่เหลือแม้แต่ฝุ่นนานแล้ว เต็มไปด้วยหยากไย่

เมื่อก่อนนางเคยเปิดดูแต่ไม่ได้เอามาใส่ใจ

แต่ภายหลังนางนึกขึ้นได้ว่าในแดนลวงตา ชายหนุ่มมักจะเอาหวีและที่เขียนคิ้วเป็นต้น โดยต้องไปทุกวัน

เขาช่างรักอะซู่เหลือเกิน ดังนั้นหากเขาซ่อนของล้ำค่าไว้ ต้องซ่อนไว้ในห้องของนางแน่

ห้องนี้มีความเป็นไปได้ที่สุด ก็คือโต๊ะเครื่องแป้งตัวนี้

เย่จายซิงยื่นมือเข้าไปคลำ เป็นอย่างที่คาด นางคลำเจอหยกที่เย็นเฉียบชิ้นหนึ่ง!

“เสด็จอา ข้าหาพบแล้ว!”

“น้องซิงเก่งจริง ๆ ”

จวินหยวนมองนางแล้วยิ้ม

ในมือของนางคือหยกขาวชิ้นหนึ่ง มีสีอบอุ่น

แต่พอถูกอากาศ หยกก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีหม่นไร้แสง จากนั้นแสงสีสาวก็แวววับ หยกกลายเป็นผง มีของสองสามอย่างตกลงมาจากหยก ถูกชายแขนของจวินหยวนรับเอาไว้

เป็นของสามสิ่ง ได้แก่กระจกสัมฤทธิ์ ปิ่นปักผมและตุ้มหู

ล้วนเป็นของใช้สำหรับผู้หญิง

ทุกชิ้นเหมือนออกมาใหม่

“นี่คงเป็นของที่เขาเตรียมไวให้หญิงสาวที่ชื่ออะซู่ น่าจะยังไม่ทันส่งออกไป อะซู่ก็เกิดเรื่องก่อน”

นางคาดเดา

จวินหยวนเอาไปดู:

“ไม่มีร่องรอยการใช้มาก่อนจริง ๆ เป็นของใหม่หมด ของทั้งสามสิ่งล้วนเป็นของศักดิ์สิทธิ์ น้องซิงเอาไว้ป้องกันตัวดีที่สุด”

“ล้วนเป็นของศักดิ์สิทธิ์?”

เย่จายซิงประหลาดใจอย่างยิ่ง ของศักดิ์สิทธิ์ในแผ่นดินเทียนเหย้ามีให้เห็นน้อยมาก ทั้งหมดเคยมีให้เห็นไม่กี่อย่าง นางกลับพบทั้งหมดสามอย่างขึ้นที่นี่

พลานุภาพของสิ่งศักดิ์สิทธิ์มหาศาลมาก แต่จวินหยวนบอกนางว่า นอกจากกระจกสัมฤทธิ์แล้ว ปิ่นปักผมกับต่างหูเป็นของศักดิ์สิทธิ์ที่เอาไว้พิทักษ์ตัว สามารถต้านการโจมตีของผู้แข็งแกร่งจากแดนมหาจักรพรรดิทิพย์ได้

“แล้วกระจกสัมฤทธิ์เอาไว้ทำอะไร?”

นางถามด้วยความสงสัย

กระจกสัมฤทธิ์ฉายให้เห็นใบหน้าที่มีปานแดงของนาง อยู่ ๆ นางก็รู้สึกว่าปานแดงขวางตาขึ้นมา

ดูแล้วขวางความงดงามจริง ๆ

จวินหยวนไม่รู้สึกว่านางน่าเกลียดหรือ?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา