“เสด็จอา ข้าว่าพวกเขาจะมีแผนสำรองนะ พวกเราควรลงมือก่อนดีหรือไม่?”
เมื่อพวกเขามาถึงสถานที่ที่มีผู้คนพลุกพล่านเย่จายซิงก็กระซิบกับจวินหยวน
คนไม่ได้เกิดมาเพื่อให้สวรรค์ลงโทษ
ถ้าใครจะฆ่าเรา เราต้องลงมือฆ่าก่อน
เย่จายซิงไม่ใช่แม่พระ นางรู้ดีว่าเวลาไหนควรลงมือ ในฐานะราชินีทหารรับจ้าง สัมผัสที่หกของนางนั้นแม่นยำเสมอ
นางรู้สึกว่าพี่น้องของลู่จือเหลยต้องมีแผนชั่วช้ารออยู่แน่นอน หากพวกเขาถูกเจอตัว แล้วถูกคนพวกนั้นล้อมโจมตี ในสถานการณ์ที่จวินหยวนบาดเจ็บมันต้องน่ากลัวมากแน่นอน
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ทำไมไม่ลงมือก่อนเพื่อเปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาส
“ข้ามีแผนดีๆ”
จวินหยวนให้นางเอาหูไปใกล้
นางรีบเข้าไปใกล้ทันที และฟังความคิดเห็นของเขา แต่เสียงที่ต่ำนั้นกลับเต็มไปด้วยแรงดึงดูด ทำให้กูของนางจั๊กจี้ และนางก็ต้องตั้งสมาธิเพื่อฟังสิ่งที่เขาพูด
เมื่อฟังไปเรื่อยๆ ดวงตาของนางก็สว่างขึ้น นางพูด้หมือนกับนางเพิ่งรู้จัก “เสด็จอา ข้าไม่นึกเลยว่าเจ้าจะจะมีด้านที่แย่ขนาดนี้ด้วย!”
ความคิดนั้นร้ายกาจพอสมควร
ฮิฮิ แต่นางชอบ!
เมื่อพูดก็ลงมือทำทันที พวกเขาหาลานว่าง และจวินหยวนก็สร้างค่ายกลหลอนจิตในทันที
นี่คือสิ่งที่เขาได้เรียนรู้หลังจากค้นหามารหนู เดิมทีเป็นค่ายกลหลอนจิตของราชาปีศาจ มันถูกมารหนูขโมยจวินหยวนจึงนำมันมาพัฒนาให้เป้นค่ายกลที่แข็งแกร่งมากขึ้น
หลังจากตั้งค่ายกลหลอนจิตสองแห่งในที่ไม่ไกลมาก จวินหยวนและเย่จายซิงก็แยกกันเข้าไปค่ายกลหลอนจิต
จวินหยวนปล่อยพลังกดดันออกมา
นอกจวนเจ้าเมือง สองพี่น้องที่กำลังเตรียมจะเผาแก่นโลหิตเพื่อใช้วิชาต้องห้ามก็มองหน้ากันด้วยความสงสัย ก่อนจะวิ่งไปยังสถานที่ที่พลังฝึกตนปรากฏขึ้น
เจ้าเมืองโชคดีที่รักษาชีวิตไว้ได้ ตกใจจนกลิ่งกลับจวนเจ้าเมือง
ลู่จือเหลยใช้ความเร็วที่เร็วมาก หายใจเพียงไม้กี่ครั้งก็ถึงนอกค่ายกลหลอนจิตแล้ว เมื่อเขาเห็นจวินหยวนสวมหน้ากากอยู่ในค่ายกล ก็แค่นเสียงเย็นชา
“แค่ค่ายกลหลอนจิตก็คิดว่าจะขังข้าได้หรือ ช่างน่าขำ! ให้คนพวกอาณาจักรต่ำต้อยอย่างเจ้าได้เห็นว่าฝีมือการทำลายค่ายกลของข้านั้นร้ายกาจขนาดไหน แค่ชีวิตน้อยๆ ของเจ้ามันคณามือข้าหรอก!”
เขาก้าวเข้าไปในค่ายกลหลอนจิต
แต่ทันทีที่เขาเข้ามา เขาพบว่าค่ายกลหลอนจิตนี้ไม่ได้กำจัดง่ายอย่างที่เขาคิด
ลู่จือเหลยโกรธมากจนอาเจียนเป็นเลือด ทายาทผู้สูงศักดิ์ของตระกูลลู่ที่อยู่ในอาณาจักรเวหาทิพย์ตกอยู่ในแผนการของผู้ฝึกตนของอาณาจักรระดับต่ำ!
ขณะที่ลู่จือเหลยกำลังจะเข้าไป นางก็รู้สึกถึงกลิ่นอายของไข่มุกกลียุค
“ไข่มุกกลียุคอยู่อีกด้านหนึ่ง!”
หนูเทพที่อยู่ในอ้อมกอดก็กระโดดออกมาแล้ววิ่งออกไปทันที นางเองก็ตามไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ตามหาอยู่ในค่ายกลหลอนจิต
หนูเทพแกะรอยวิ่งเข้าไปในค่ายกลเหมือนสายฟ้า
ลู่จือหรุ่ยก็กัดฟันแล้วเดินตามเข้าไป นางไม่เชื่อว่านางจะทำลายค่ายกลหลอนจิตไม่ได้
อย่างไรก็ตาม หลังจากเข้ามา นางก็มีอารมณ์เดียวกันกับพี่ชาย คิดไม่ถึงว่านางจะประเมินค่าค่ายกลหลอนจิตนี้ต่ำไป จนถูกดึงดูดเข้าไปในภาพมายา
สิ่งที่นางและลู่จือเหลยไม่รู้ก็คือมีภาพมายามากกว่าหนึ่งโหลรอพวกเขาอยู่
จวินหยวนเป็นยอดฝีมือแห่งค่ายกล และค่ายกลที่เขาวางขึ้นมาเองก็เพียงพอจะถ่วงเวลาให้พวกเขาได้กินน้ำชาสักเหยือก
เย่จายซิงอยู่ในใจกลางของค่ายกล ปลอดภัยมาก และมีกิเลนคอยปกป้องนางอยู่ข้างๆ แต่ทันทีที่หนูเทพติดตามเข้าไป กิเลนก็บินออกไปอย่างรวดเร็ว และหลังจากนั้นไม่นานมันก็กลับมาพร้อมกับเสียงเลอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา
มาอ่านเรื่องนี้ต่อค่ะ หวังว่าจะลงเนื้อหาจนจบ...
115จนถึงถึง159ไม่มีเลยค่ะลงต่อให้ครบได้มั้ยค่ะ😂...
ตอนที่ 115-159 หายไปค่ะ อ่านต่อไม่ได้อ่ะค่ะ...
115-159หายไปไหนอ่าคะ...
อัพวันละหลายๆตอนได้มั้ยค่ะ ขอบคุณค่ะ...