เสี่ยวไป๋ไม่แนะนำให้เย่จายซิงฝึกวิชาลิขิตสวรรค์
ถึงอย่างไรก็เป็นซากตำรา ไม่มีใครรู้ว่าส่วนครึ่งหลังอยู่ที่ไหน ถึงขั้นว่าดับสูญไปในแม่น้ำแห่งกาลเวลานานแล้ว หายสาบสูญไปแล้ว
“เสี่ยวไป๋ เจ้ายังจำคำที่ข้าพูดหลังจากพบวิชานี้ในมิติได้หรือไม่?”
เย่จายซิงถือกระดาษตำราเหลืองคร่ำเอาไว้ นึกถึงตอนที่เข้าไปในภาพมิติหลังจากหลั่งเลือดผูกนายโดยไม่ระวัง
มิติในเวลานั้น มีขนาดเท่าห้องไม่กี่ห้อง บ่อน้ำแห้งเหือด ไร้ชี่ทิพย์ ดินแปรเปลี่ยนเป็นทราย มองไม่เห็นความเขียวขจีเลยแม้แต่น้อย
แต่นางดีใจยิ่งยวด เพราะมีเสี่ยวไป๋ มีตำรายาหลายเล่ม ตำราฮู้ ตำรากลั่นภัณฑ์ ยังมีตำราวิชายุทธโบราณอื่นๆ อีก นางกระหายซึมซับความรู้ที่มาจากต่างโลก อย่างท่วมท้นหาใดเปรียบ
ต่อมานางได้พบวิชาที่ฉีกขาดเล่มนี้ อยากฝึกจนใจจะขาด แต่พลังวิญญาณใต้หล้ามีข้อจำกัด นางเรียนวิชาจิตได้ แต่กลับบำเพ็ญตบะไม่สำเร็จ สิ่งใดที่โค่นบรรพตคว่ำสมุทรถล่มฟ้าทลายดิน ล้วนไม่อาจเอื้อมถึง
นางโหยหาพลังอันแข็งแกร่ง ตอนนั้นพูดกับเสี่ยวไป๋ว่า รอให้นางบำเพ็ญเพียรได้ก่อน จะฝึกวิชาเล่มนี้ไปจนถึงจุดสูงสุดให้ได้
เสี่ยวไป๋ผงกศีรษะ แน่นอนว่าเขาจำเรื่องก่อนหน้านั้นได้
วิชาเล่มนี้คือความฝันที่ไม่อาจเอื้อมของนายหญิงในตอนนั้น ดังนั้นต่อให้ตอนนี้จะมีตัวเลือกที่ดีกว่า นางก็อยากฝึกวิชานี้อยู่ดี
“นายหญิง ท่านต้องไตร่ตรองให้ดี วิชายกระดับหลักสามารถเรียนได้เพียงชนิดเดียวเท่านั้น เนื่องจากลมปราณทุกเส้นในวิชาแต่ละแบบล้วนแตกต่างกัน หากท่านเปลี่ยนไปเรียนวิชายกระดับชนิดอื่นในภายหน้า จะต้องเสียวรยุทธแล้วเริ่มฝึกใหม่ไปโดยปริยาย”
อย่างอื่นในวิชานี้ไม่ใช่ว่าไม่ดี ในทางกลับกัน นี้เป็นวิชาระดับเทพ เป็นวิชาบำเพ็ญที่ดีที่สุดในโลกแห่งนี้ และแข็งแกร่งกว่าคนทั่วไปในแดนขั้นเดียวกันมาก ทว่าเสียดายที่มีเศษตำราเพียงครึ่งเดียว
เย่จายซิงเอ่ย: “แทนที่จะเลือกวิชาแย่ๆ สู้เลือกที่ดีที่สุดไม่ดีกว่าหรือ แม้วิชาลิขิตสวรรค์จะเป็นเพียงเศษซากตำรา แต่สามารถเรียนรู้ไปจนถึงแดนเทวทิพย์ได้ตลอดทาง ส่วนแดนต่อไป ค่อยมาคิดวิชาอีกทีก็ได้”
พอคิดๆ ดูแล้ว เสี่ยวไป๋เองก็รู้สึกว่ามีเหตุผล:
“ก็จริง ยามนี้นายหญิงมีรากทิพย์กลียุค ท้ายที่สุดจะต้องแปรเปลี่ยนเป็นร่างกายจอมยุทธแน่ ผนวกกับโลหิตแท้วิหคเพลิงกำลังตื่นตัว ต่อไปไม่แน่ว่าอาจฝึกจนได้เศษตำราครึ่งหลังมา เรือจะแล่นไปที่ปลายสะพานด้วยตัวมันเอง”
ความจริงเขาเองก็ไม่อยากให้นายหญิงฝึกวิชาระดับสูงทั่วไปเช่นกัน นี่เป็นสิ่งที่ต้องเลือกไม่ใช่หรือ?
“อืม ข้าจะเริ่มฝึกแล้ว ง้าวของข้ากระหายจนแทบทนไม่ไหวแล้ว”
สุดท้ายก็ได้ฝึกเสียที นางอยากมีวรยุทธและพลังอันแข็งแกร่งโดยเร็ว
มิติในเวลานี้ ชี่ทิพย์อัดแน่นกว่าโลกภายนอกหลายเท่า นางยังไม่ทันฝึก ชี่ทิพย์ก็พรั่งพรูเข้ามาในกายของนางเองแล้ว
นางนั่งขัดสมาธิ เคลื่อนวิชาจิตอยู่ในใจ เป็นฝ่ายรุกนำชี่ทิพย์หลอมรวมเข้ามาในร่าง ชี่ทิพย์รอบกายจึงพุ่งเข้าหานางทันที ก่อตัวเป็นกระแสชี่ทิพย์วนรอบตัวนาง
เสี่ยวไป๋อ้าปากเหวอ หากคนนอกเห็นฉากนี้เข้า เกรงว่าลูกตาคงได้ถลนออกมานอกเบ้า มีใครที่ที่ไหนเพิ่งฝึกบำเพ็ญตบะก็สามารถดูดซับชี่ทิพย์ได้มากมายถึงเพียงนี้ จะไม่สิ้นชีพเพราะร่างระเบิดใช่หรือไม่?
เย่จายซิงรู้สึกได้ถึงชี่ทิพย์อันไร้ขีดจำกัด มันหลั่งไหลเข้าสู่ร่างกาย หมุนติ้วอยู่ในเส้นลมปราณอย่างรวดเร็ว หลังจากโคจรรอบจุลจักรวาลไปหลายรอบก็ไหลเข้าสู่จุดตันเถียน กลายเป็นพลังวิญญาณ
ในที่สุดนางก็มีพลังวิญญาณแล้ว!
นางตั้งสมาธิบำเพ็ญต่อเนื่อง หลังจากครึ่งวัน ในร่างก็เกิดเสียงแตกโป๊ะป๊ะติดต่อกันขึ้น ทะลวงผ่านแล้ว!
“นายหญิงทะลวงเข้าสู่แดนศิษย์ทิพย์ขั้นสามในรวดเดียว!”
ใบหน้าของเสี่ยวไป๋เปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้น
เพิ่งฝึกบำเพ็ญก็ก้าวเข้าสู่ขั้นสามแล้ว เรียกได้ว่าไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน!
เย่จายซิงหลับสองตาแน่น พลังวิญญาณที่ไหลเวียนไม่ขาดสายในมิติถูกนางดูดกลืน ยามนี้ผ่านไปหลายวันแล้ว นางเพิ่งจะลืมตาขึ้น แล้วถอนหายใจหนักๆ หนึ่งเฮือก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา
มาอ่านเรื่องนี้ต่อค่ะ หวังว่าจะลงเนื้อหาจนจบ...
115จนถึงถึง159ไม่มีเลยค่ะลงต่อให้ครบได้มั้ยค่ะ😂...
ตอนที่ 115-159 หายไปค่ะ อ่านต่อไม่ได้อ่ะค่ะ...
115-159หายไปไหนอ่าคะ...
อัพวันละหลายๆตอนได้มั้ยค่ะ ขอบคุณค่ะ...