บัลลังก์ชายาหมอเทวดา นิยาย บท 97

เสี่ยวไป๋ไม่แนะนำให้เย่จายซิงฝึกวิชาลิขิตสวรรค์

ถึงอย่างไรก็เป็นซากตำรา ไม่มีใครรู้ว่าส่วนครึ่งหลังอยู่ที่ไหน ถึงขั้นว่าดับสูญไปในแม่น้ำแห่งกาลเวลานานแล้ว หายสาบสูญไปแล้ว

“เสี่ยวไป๋ เจ้ายังจำคำที่ข้าพูดหลังจากพบวิชานี้ในมิติได้หรือไม่?”

เย่จายซิงถือกระดาษตำราเหลืองคร่ำเอาไว้ นึกถึงตอนที่เข้าไปในภาพมิติหลังจากหลั่งเลือดผูกนายโดยไม่ระวัง

มิติในเวลานั้น มีขนาดเท่าห้องไม่กี่ห้อง บ่อน้ำแห้งเหือด ไร้ชี่ทิพย์  ดินแปรเปลี่ยนเป็นทราย มองไม่เห็นความเขียวขจีเลยแม้แต่น้อย

แต่นางดีใจยิ่งยวด เพราะมีเสี่ยวไป๋ มีตำรายาหลายเล่ม ตำราฮู้ ตำรากลั่นภัณฑ์ ยังมีตำราวิชายุทธโบราณอื่นๆ อีก นางกระหายซึมซับความรู้ที่มาจากต่างโลก อย่างท่วมท้นหาใดเปรียบ

ต่อมานางได้พบวิชาที่ฉีกขาดเล่มนี้ อยากฝึกจนใจจะขาด แต่พลังวิญญาณใต้หล้ามีข้อจำกัด นางเรียนวิชาจิตได้ แต่กลับบำเพ็ญตบะไม่สำเร็จ สิ่งใดที่โค่นบรรพตคว่ำสมุทรถล่มฟ้าทลายดิน ล้วนไม่อาจเอื้อมถึง

นางโหยหาพลังอันแข็งแกร่ง ตอนนั้นพูดกับเสี่ยวไป๋ว่า รอให้นางบำเพ็ญเพียรได้ก่อน จะฝึกวิชาเล่มนี้ไปจนถึงจุดสูงสุดให้ได้

เสี่ยวไป๋ผงกศีรษะ แน่นอนว่าเขาจำเรื่องก่อนหน้านั้นได้

วิชาเล่มนี้คือความฝันที่ไม่อาจเอื้อมของนายหญิงในตอนนั้น ดังนั้นต่อให้ตอนนี้จะมีตัวเลือกที่ดีกว่า นางก็อยากฝึกวิชานี้อยู่ดี

“นายหญิง ท่านต้องไตร่ตรองให้ดี วิชายกระดับหลักสามารถเรียนได้เพียงชนิดเดียวเท่านั้น เนื่องจากลมปราณทุกเส้นในวิชาแต่ละแบบล้วนแตกต่างกัน หากท่านเปลี่ยนไปเรียนวิชายกระดับชนิดอื่นในภายหน้า จะต้องเสียวรยุทธแล้วเริ่มฝึกใหม่ไปโดยปริยาย”

อย่างอื่นในวิชานี้ไม่ใช่ว่าไม่ดี ในทางกลับกัน นี้เป็นวิชาระดับเทพ เป็นวิชาบำเพ็ญที่ดีที่สุดในโลกแห่งนี้ และแข็งแกร่งกว่าคนทั่วไปในแดนขั้นเดียวกันมาก ทว่าเสียดายที่มีเศษตำราเพียงครึ่งเดียว

เย่จายซิงเอ่ย: “แทนที่จะเลือกวิชาแย่ๆ สู้เลือกที่ดีที่สุดไม่ดีกว่าหรือ แม้วิชาลิขิตสวรรค์จะเป็นเพียงเศษซากตำรา แต่สามารถเรียนรู้ไปจนถึงแดนเทวทิพย์ได้ตลอดทาง ส่วนแดนต่อไป ค่อยมาคิดวิชาอีกทีก็ได้”

พอคิดๆ ดูแล้ว เสี่ยวไป๋เองก็รู้สึกว่ามีเหตุผล:

“ก็จริง ยามนี้นายหญิงมีรากทิพย์กลียุค ท้ายที่สุดจะต้องแปรเปลี่ยนเป็นร่างกายจอมยุทธแน่ ผนวกกับโลหิตแท้วิหคเพลิงกำลังตื่นตัว ต่อไปไม่แน่ว่าอาจฝึกจนได้เศษตำราครึ่งหลังมา เรือจะแล่นไปที่ปลายสะพานด้วยตัวมันเอง”

ความจริงเขาเองก็ไม่อยากให้นายหญิงฝึกวิชาระดับสูงทั่วไปเช่นกัน  นี่เป็นสิ่งที่ต้องเลือกไม่ใช่หรือ?

“อืม ข้าจะเริ่มฝึกแล้ว ง้าวของข้ากระหายจนแทบทนไม่ไหวแล้ว”

สุดท้ายก็ได้ฝึกเสียที นางอยากมีวรยุทธและพลังอันแข็งแกร่งโดยเร็ว

มิติในเวลานี้ ชี่ทิพย์อัดแน่นกว่าโลกภายนอกหลายเท่า นางยังไม่ทันฝึก ชี่ทิพย์ก็พรั่งพรูเข้ามาในกายของนางเองแล้ว 

นางนั่งขัดสมาธิ เคลื่อนวิชาจิตอยู่ในใจ เป็นฝ่ายรุกนำชี่ทิพย์หลอมรวมเข้ามาในร่าง ชี่ทิพย์รอบกายจึงพุ่งเข้าหานางทันที ก่อตัวเป็นกระแสชี่ทิพย์วนรอบตัวนาง 

เสี่ยวไป๋อ้าปากเหวอ หากคนนอกเห็นฉากนี้เข้า เกรงว่าลูกตาคงได้ถลนออกมานอกเบ้า มีใครที่ที่ไหนเพิ่งฝึกบำเพ็ญตบะก็สามารถดูดซับชี่ทิพย์ได้มากมายถึงเพียงนี้ จะไม่สิ้นชีพเพราะร่างระเบิดใช่หรือไม่?

เย่จายซิงรู้สึกได้ถึงชี่ทิพย์อันไร้ขีดจำกัด มันหลั่งไหลเข้าสู่ร่างกาย หมุนติ้วอยู่ในเส้นลมปราณอย่างรวดเร็ว  หลังจากโคจรรอบจุลจักรวาลไปหลายรอบก็ไหลเข้าสู่จุดตันเถียน กลายเป็นพลังวิญญาณ

ในที่สุดนางก็มีพลังวิญญาณแล้ว!

นางตั้งสมาธิบำเพ็ญต่อเนื่อง หลังจากครึ่งวัน ในร่างก็เกิดเสียงแตกโป๊ะป๊ะติดต่อกันขึ้น ทะลวงผ่านแล้ว!

“นายหญิงทะลวงเข้าสู่แดนศิษย์ทิพย์ขั้นสามในรวดเดียว!”

ใบหน้าของเสี่ยวไป๋เปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้น

เพิ่งฝึกบำเพ็ญก็ก้าวเข้าสู่ขั้นสามแล้ว เรียกได้ว่าไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน!

เย่จายซิงหลับสองตาแน่น พลังวิญญาณที่ไหลเวียนไม่ขาดสายในมิติถูกนางดูดกลืน ยามนี้ผ่านไปหลายวันแล้ว นางเพิ่งจะลืมตาขึ้น แล้วถอนหายใจหนักๆ หนึ่งเฮือก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา