บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1407

บทที่ 1407 เหตุพลิกผันที่อันตราย

บทที่ 1407 เหตุพลิกผันที่อันตราย

ทันทีที่สิ้นคำ ทั้งห้องก็เต็มด้วยจิตสังหาร!

แรงกดดันในอากาศ เปรียบเสมือนภูเขาจำนวนนับไม่ถ้วนที่กดทับผู้คนจนหายใจไม่ออก

เจ้าเปลี่ยนใจแล้วหรือไม่?

แม้แต่คนโง่ก็ยังเข้าใจ มันคือการเตือนครั้งสุดท้ายจากจั่วชิวไท่อู่!

เฉินซีหายใจติดขัด รับรู้ถึงจิตสังหารและอันตรายอย่างชัดเจน จนขนลุกไปทั้งร่างกาย

ในขณะเดียวกันเขาก็สมเพชอยู่ในใจ… นี่แหละจั่วชิวไท่อู่ มีเพียงตระกูลจั่วชิวอยู่เต็มหัวใจ และเพื่อประโยชน์ของตระกูลจั่วชิว คนผู้นี้สามารถเพิกเฉยต่อความเป็นปฏิปักษ์และความเมตตา ไม่สนใจสิ่งถูกผิด และแม้กระทั่งถึงขั้น… ที่กล้าสละชีวิตเพื่อฆ่าข้าอย่างแน่นอน!

ใช่ แม้จะต้องสละชีวิต!

ฟังดูน่าหัวเราะ เพราะสำหรับราชันเซียน การฆ่าเซียนปราชญ์นั้นง่ายไม่ต่างจากบดขยี้มด แล้วจะถึงขั้นสละชีวิตได้อย่างไร?

นั่นเป็นเพราะเฉินซีไม่เหมือนกับในอดีต เขาเป็นผู้สืบทอดของเขาเทพพยากรณ์ มีความสัมพันธ์ที่พิเศษกับตำหนักเต๋าหนี่หวา และยังได้รับมรดกของจักรพรรดิเต๋า ทำให้บรรดาผู้อาวุโสในสำนักตั้งความหวังไว้กับเขามาก

หากจั่วชิวไท่อู่ฆ่าเขา ก็เท่ากับขุดหลุมฝังตัวเอง ในเวลานั้น คงไม่มีใครยอมปล่อยจั่วชิวไท่อู่มีชีวิตอยู่ต่อไปได้!

เห็นได้ชัดว่าจั่วชิวไท่อู่ก็รู้เรื่องนี้ดี แต่ก็ยังคงตัดสินใจเช่นนั้น ยอมสละชีวิตเพื่อตระกูลจั่วชิว และนี่คือสาเหตุที่เฉินซีรู้สึกสมเพชยิ่งนัก

หากมองจากมุมมองของจั่วชิวไท่อู่ เฉินซีจะรู้สึกชื่นชมในความภักดีของจั่วชิวไท่อู่

แต่เมื่อมองในมุมเขาเอง การกระทำของจั่วชิวไท่อู่นั้นโง่เขลาอย่างยิ่ง

“ข้าได้ยินมาว่า ความขัดแย้งภายในตระกูลจั่วชิวไม่ใช่เพราะข้า แต่เป็นเพราะท่านแม่และจั่วชิวเฟิง ซึ่งเป็นผู้นำตระกูลคนปัจจุบัน” เฉินซีระงับอารมณ์ต่าง ๆ ในใจและกล่าวช้า ๆ “ไม่ว่าท่านจะยอมรับหรือไม่ก็ตาม ลำพังท่านไม่มีทางขจัดความขัดแย้งนี้ได้หรอก”

ดวงตาของจั่วชิวไท่อู่หรี่ลง ใบหน้าที่เหี่ยวย่นและไม่แยแสไม่ได้เผยอารมณ์ที่ผันผวนมากนัก ทว่าเขากลับลอบถอนหายใจยาว

เพราะเฉินซีกล่าวไม่ผิด หากทำได้ คงไม่มาปลีกวิเวกอย่างสันโดษในสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋า และไม่สนใจต่อทุกสิ่งที่เกิดขึ้นภายในตระกูลจั่วชิวเช่นนี้แน่

ท้ายที่สุดแล้ว เป็นเพราะเขาต้องการจะหลบเลี่ยง!

ชายชราตระหนักถึงเรื่องนี้ดี แต่นี่คือทั้งหมดที่ทำได้ และมันคือความโศกเศร้าที่ฝังอยู่ในใจ

“ความขัดแย้งดังกล่าวอาจปกปิดได้ แต่ไม่ช้าก็เร็วมันก็จะปะทุ” เฉินซีไม่สนว่าสีหน้าของจั่วชิวไท่อู่จะเปลี่ยนไปหรือไม่ และเขาก็กล่าวต่อไปว่า “แต่ข้ารับประกันได้ว่า ตราบใดที่ท่านสนับสนุนตัวข้าและท่านแม่ ตระกูลจั่วชิวจะไม่มีวันพินาศ ตรงกันข้าม ตระกูลจั่วชิวที่ฟื้นขึ้นมาจากเถ้าถ่าน จะต้องแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอน!”

เมื่อได้ยินเฉินซีกล่าวเช่นนี้ ใบหน้าของจั่วชิวไท่อู่ก็จมดิ่งลง “นี่คือคำตอบของเจ้าหรือ?”

จิตสังหารในห้องโถงหนาแน่นขึ้นทันที!

ด้วยประสบการณ์ของชายชรา เขาจะมองไม่ออกได้อย่างไร ว่าคำพูดของเฉินซียังคงมีความมุ่งมั่นที่จะแก้แค้นตระกูลจั่วชิว และเป้าหมายคือการกำจัดจั่วชิวเฟิง ซึ่งนี่คือสิ่งที่เขาไม่เต็มใจที่จะเห็นมันเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

คนอื่นอาจจะไม่รู้ แต่จั่วชิวไท่อู่ทราบดีว่ากองกำลังของจั่วชิวเฟิง คิดเป็นเกือบหกในสิบส่วนของกองกำลังตระกูลจั่วชิวทั้งหมด เมื่อพวกเขาถูกกำจัดแล้ว ความแข็งแกร่งของตระกูลจั่วชิวจะลดลงอย่างมาก หากเป็นเช่นนั้น แล้วตระกูลจั่วชิวยังคงมีคุณสมบัติใดที่จะเป็นหนึ่งในเจ็ดตระกูลโบราณที่ยิ่งใหญ่อยู่อีก?

บางทีหลังจากที่มันเสียหายอย่างใหญ่หลวง ไม่เพียงแต่มันจะไม่สามารถฟื้นฟูความรุ่งโรจน์ในอดีตได้เท่านั้น มันยังอาจตกต่ำลงอย่างสมบูรณ์ และถึงขั้นล่มสลายอีกด้วย!

เพราะตระกูลจั่วชิวที่ตกต่ำจะต้องเป็นเหมือนสัตว์ตัวอ้วนที่สูญเสียเขี้ยวเล็บ และกองกำลังอื่น ๆ ก็จะคว้าโอกาสบดขยี้มัน!

กลิ่นอายของความอันตรายในบริเวณโดยรอบนั้นเริ่มหนาแน่นขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่แรงกดดันที่เสียดกระดูกก็เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน ทว่าสีหน้าของเฉินซียังคงสงบราวกับไม่สังเกตว่าอันตรายกำลังใกล้เข้ามา

“ผู้อาวุโส ท่านไม่รู้จริง ๆ หรือว่าทำไมข้าถึงบอกว่าตระกูลจั่วชิวจะไม่ถูกทำลายล้าง และจะแข็งแกร่งยิ่งขึ้นแทน?” เฉินซีตอบกลับด้วยคำถาม

จั่วชิวไท่อู่กล่าวอย่างเฉยเมย “ข้ายอมรับว่าหากเจ้าและมารดาของเจ้าเข้าควบคุมตระกูลจั่วชิว จากนั้นอาศัยกองกำลังต่าง ๆ ที่เจ้ามี แต่การพึ่งพาความแข็งแกร่งภายนอกเพียงอย่างเดียว ไม่อาจทำให้ตระกูลจั่วชิวแข็งแกร่งยิ่งกว่าที่เป็นอยู่ได้”

เขาหยุดครู่หนึ่งแล้วกล่าวต่อ “ท้ายที่สุดแล้ว การรุ่งเรืองและการล่มสลายของตระกูล ขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งของตนเอง โดยเฉพาะตอนนี้กลียุคของสามภพกำลังจะเกิดขึ้น และตระกูลจั่วชิวก็ไม่สามารถทนกับสิ่งนี้ได้!”

ความหมายที่อยู่เบื้องหลังคำพูดนี้ คือถ้าเป็นเวลาปกติ บางทีเขาอาจจะเชื่อ แต่ก่อนที่กลียุคของสามภพจะมาถึง เขาจะไม่ยอมให้เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นเด็ดขาด

เฉินซีถามอย่างตรงไปตรงมา “ข้าขอถามผู้อาวุโส ตอนนี้มีระดับขอบเขตเทวาอยู่ในตระกูลจั่วชิวหรือไม่”

ขอบเขตเทวา!

นัยน์ตาของจั่วชิวไท่อู่หดตัวลง สายตาอันคมกริบราวกับดาบจ้องเฉินซีอย่างเย็นชา

เขาปิดปากเงียบสนิท แต่มันก็เป็นการเตือนรูปแบบหนึ่ง ซึ่งได้ผลชะงัด

ราวกับเขาจะกล่าวว่า ‘ข้าจะบอกเจ้าเกี่ยวกับความลับอันยิ่งใหญ่ของตระกูลได้อย่างไร’

“ดูเหมือนว่าตระกูลจั่วชิวอาจมีผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเทวา แต่จำนวน… อาจมีเพียงไม่กี่คน”

เฉินซีสามารถรับรู้เบาะแสจากความเงียบของอีกฝ่าย และกล่าวด้วยเสียงแผ่วเบา

จั่วชิวไท่อู่ขมวดคิ้ว “เจ้าหนู ข้าชักจะหมดความอดทนแล้ว”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]