ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นผู้สืบทอดสำนักกระบี่เทียมฟ้าหรือผู้ฝึกปราณที่ดูอยู่ห่างออกไป ล้วนกล่าวว่าเขาอย่างไม่เกรงใจเลยสักนิด
แต่ในเวลานี้พวกเขากลับอึ้งตาค้าง
ในฐานะลำดับที่เก้าของสิบสามกระบี่ แม้กระบี่นี้ของฮว่าอวิ๋นเจินจะธรรมดาเพียงใด แต่ก็ใช่ว่าผู้ฝึกปราณทั่วไปจะต้านทานได้!
ตอนที่เขาลงมือ ในหัวทุกคนต่างปรากฏฉากนองเลือดตามจิตใต้สำนึก ภาพที่ว่าคนหนุ่มคนนั้นถูกสังหาร แม้ตายก็ไม่รู้ว่าตายอย่างไร
แต่ความจริงกลับแตกต่างอย่างสิ้นเชิง!
กระบี่นี้ของฮว่าอวิ๋นเจินยังไม่ทันเข้าใกล้ด้วยซ้ำ ก็ถูกคนหนุ่มคนนั้นสะบัดมือตบจนแหลกละเอียดอย่างสบายๆ!
การกระทำลวกๆ ขนาดนั้น ง่ายดายเหมือนไล่แมลงที่รบกวนเวลานอนอย่างไรอย่างนั้น
แต่ยิ่งเป็นเช่นนี้ก็ยิ่งสะเทือนใจคน!
มีเพียงเซียวชิงเหอที่ราวกับคิดไว้แล้วว่าต้องเป็นเช่นนี้ แต่พอเห็นหลินสวินสลายเจตกระบี่ที่พุ่งสังหารเข้ามาอย่างง่ายดายเช่นนี้ก็ยังรู้สึกเหนือความคาดหมายเล็กน้อย
“นิ่งอยู่ทำไม รีบไป!” หลินสวินถลึงตาใส่เขาวูบหนึ่งแล้วเดินนำออกห่างไป
เซียวชิงเหอยังไม่หายอึ้งนัก
ความจริงเขากลับอยากให้หลินสวินกับฮว่าอวิ๋นเจินดวลกันสักครั้ง จะได้ดูว่าพลังต่อสู้ของคนที่ถูกเขามองว่าเป็นตัวประหลาดวิปริตเพียงใด
แต่เห็นได้ชัดว่าหลินสวินไม่มีกะจิตกะใจสนใจฮว่าอวิ๋นเจินตั้งแต่แรก เขารีบร้อนจะจากไป
“หึ!”
ด้านหลังสีหน้าของฮว่าอวิ๋นเจินอึมครึม พุ่งเข้ามาอีกครั้ง
กระบี่ก่อนหน้านี้ถูกทำลายจนแหลกละเอียด ทำให้เขาประหลาดใจและตะลึงเช่นกัน เจ้าหนุ่มคนนี้ไม่ได้ธรรมดาอย่างที่ตนคิดแน่
เดิมทีเขายังคิดจะทนไปก่อน เพื่อสืบที่มาของอีกฝ่ายสักหน่อยค่อยตัดสินใจว่าจะลงมือหรือไม่
แต่หลินสวินไม่ให้โอกาสเขาเลย คิดจะไปก็ไป มองเขาเป็นอากาศธาตุตั้งแต่ต้นจนจบ!
นี่ทำให้ฮว่าอวิ๋นเจินไม่สามารถทนได้
วู้ม!
กระบี่ครวญราวกับกระแสน้ำ
กระบี่เฉือนวิญญาณเคลื่อนผ่านอากาศ วาดเจตกระบี่สว่างไสวที่เพียงพอจะทำให้ท้องฟ้ามืดสลัว
แดงชาดราวกับเลือด งามเพริศพริ้งดุจเปลวเพลิง!
“เยี่ยม!”
กลุ่มผู้สืบทอดสำนักกระบี่เทียมฟ้าดวงตาทอประกาย จิตใจตะลึงกับอานุภาพของกระบี่นี้อย่างรุนแรง
วิชากระบี่เล่มนี้นามว่า ‘เถ้าโลหิตเพลิงลาม’ หนึ่งในมรดกวิถีกระบี่ที่มีพลังทำลายล้างที่สุดของสำนักกระบี่เทียมฟ้า
เล่าลือกันว่าเป็นมรดกที่อริยะวิถีกระบี่สร้างขึ้นอย่างยากลำบาก อานุภาพยิ่งใหญ่มหัศจรรย์ไร้เทียมทาน
หากสำแดงออกมา เจตกระบี่ประหนึ่งแสงโลหิตเพลิงลาม สามารถเปลี่ยนทุกสิ่งให้กลายเป็นเถ้าถ่าน!
ฮว่าอวิ๋นเจินเอาจริงแล้วอย่างไม่ต้องสงสัย
ฟ้าดินกู่ก้อง อากาศยุบทลาย เจตกระบี่สายนี้กวาดออกมา อานุภาพราวกับสายฟ้าพุ่งทะยานเก้าสวรรค์ เคลื่อนไหวราวกับสุริยันอันแรงกล้าทำลายภูผาธารา
สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปอย่างมาก ต่างรู้สึกประหนึ่งว่าหายใจไม่ออก
อานุภาพของบุคคลขอบเขตมกุฎ ยามนี้ได้แสดงออกมาอย่างสิ้นเชิง
ในระยะไกล หลินสวินกับเซียวชิงเหอมุ่งหน้าอย่างเร่งรีบ
ตอนที่สังเกตเห็นกระบี่นี้ เซียวชิงเหอแผ่นหลังแข็งทื่อ กระวนกระวายอย่างมาก หันขวับไปอย่างควบคุมไม่อยู่ พลังขับเคลื่อนรอบตัวพลุ่งพล่าน
นี่เป็นสัญชาตญาณในการต่อสู้อย่างหนึ่ง หลังจากตระหนักได้ถึงอันตรายของกระบี่นี้ก็พลันตอบสนอง
หลินสวินยังคงเดินหน้าโดยไม่หันกลับมามอง ราวกับไม่รู้ตัวอย่างไรอย่างนั้น
เซียวชิงเหอหรี่ตาเล็กน้อย เจ้าคนวิปริตนี่หยิ่งผยองขนาดนี้เชียว หรือคิดจะให้ตนลงมือ ช่วยเขาสลายกระบี่นี้
เซียวชิงเหอหมดคำพูด เขารู้สึกว่าตนกำลังจะกลายเป็นผู้คุ้มกันอย่างเต็มรูปแบบแล้ว ก่อนหน้านี้ช่วยอีกฝ่ายเผชิญหน้ากับฮว่าอวิ๋นเจิน ตอนนี้ยังต้องเป็นห่วงและปกป้องความปลอดภัยของเจ้าหมอนี่อีก นี่มัน…
แต่ไม่ว่าในใจจะปฏิเสธอย่างไร เมื่อเผชิญหน้ากับกระบี่นี้ เซียวชิงเหอไม่กล้าประมาทแต่อย่างใด!
ล้วนเป็นบุคคลขอบเขตมกุฎเหมือนกัน เขารู้ถึงความน่าสะพรึงกลัวในการโจมตีนี้ของฮว่าอวิ๋นเจินเป็นอย่างดี จะต้องรับมืออย่างจริงจัง
ตูม!
เพียงแต่ไม่รอให้เซียวชิงเหอลงมือ ก็เห็นเจตกระบี่ที่ทะลวงอากาศเข้ามาสายนั้นแตกกระจายกลางคันอีกครั้ง
การเคลื่อนไหวรุนแรงมาก ราวกับเสียงฟ้าร้องสนั่นหู แสงเลือดพรั่งพรูกลางอากาศ ก่อตัวเป็นเมฆก้อนใหญ่น่ากลัว ท่วมท้นฟ้าดินในระยะพันจั้ง
บรรดาผู้ฝึกปราณในระยะไกลหลายคนต่างหัวใจกระตุก ส่งเสียงอึดอัด มีคนที่ทนไม่ไหวยิ่งสั่นไปทั้งตัว ตกใจจนทรุดนั่งลงกับพื้น
ผู้สืบทอดสำนักกระบี่เทียมฟ้าเหล่านั้นสีหน้าซีดเซียวขึ้นมา
กระบี่ที่ทรงพลังและแข็งแกร่งเพียงนี้ ถูกทำลายอีกครั้งได้อย่างไร
แตกต่างจากครั้งที่ผ่านมา ครั้งนี้อีกฝ่ายไม่ได้ลงมือด้วยซ้ำ!
ภาพนั้นดูแปลกประหลาดและเหลือเชื่อเกินไป ราวกับมีมือใหญ่ที่มองไม่เห็นขวางกั้นอยู่ ทำลายล้างเถ้าโลหิตเพลิงลามนั่นอย่างง่ายดาย!
ฮว่าอวิ๋นเจินนัยน์ตาหดรัดทันควัน สีหน้าเคร่งขรึมอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
พลังเจตจำนงมรรคแข็งแกร่งมาก!
ในฐานะคนในเหตุการณ์ เขายิ่งรู้ดีว่าการโจมตีนี้ของเขาถูกพลังมหามรรคอันคลุมเครือไร้รูปโจมตีจนยับเยิน
ยอดฝีมือขอบเขตมกุฎ!
ทันใดนั้นสายตาที่เขามองแผ่นหลังของหลินสวินแฝงความระแวงและหวาดหวั่น
เพียงแต่คนผู้นี้เป็นใครกันแน่ เหตุใดจึงแข็งแกร่งถึงเพียงนี้
“ทำไม่ไม่ขยับแล้ว ขืนยังไม่ไปเดี๋ยวจะไม่ทันเอานะ”
เสียงของหลินสวินดังขึ้นข้างหูเซียวชิงเหอ ทำให้มุมปากของเขาอดกระตุกอย่างแรงไม่ได้ เจ้าหมอนี่… แม่งวิปริตจริงๆ!
เขาถอนหายใจคราหนึ่ง ส่ายหน้าแล้วมุ่งหน้าต่อ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์