แน่นอนว่าบุคคลแห่งยุคที่มีความเชื่อมั่นต่อศักยภาพตัวเองยิ่ง ไม่จำเป็นต้องร้อนรนกระวนกระวายเช่นนั้น
ตรงกันข้ามพวกเขาส่วนใหญ่ไม่รีบขึ้นเขา แต่จะรอเวลาผ่านไปเล็กน้อยค่อยใคร่ครวญเส้นทางของคู่แข่งที่ตนระวัง จากนั้นจึงตัดสินใจว่าจะปีนยอดเขาลูกไหน
เมื่อเป็นเช่นนี้ก็สามารถเลี่ยงบุคคลที่ยากจัดการส่วนหนึ่งได้ บรรลุเป้าหมาย ‘ราชันเลี่ยงราชัน’
ส่วนการตัดสินว่าใครเป็น ‘ราชัน’ ที่ไม่อาจหาเรื่องนั้น ผู้กล้าทุกคนต่างมีการประเมินและเกณฑ์ของตน ไม่สามารถใช้มาตรฐานเดียวกัน
ก็เหมือนในสายตายอดผู้กล้าส่วนหนึ่ง เหล่าบุคคลแห่งยุคนั้นแน่นอนว่าคือ ‘ราชัน’ ที่ไม่อาจหาเรื่อง
แต่ในสายตาบุคคลแห่งยุค ย่อมมีดุลยพินิจต่อพลังต่อสู้และปราณที่ต่างออกไป
“หลินสวิน ข้าไปก่อนนะ!”
เซียวชิงเหอทำการตัดสินใจ โบกมือลาหลินสวิน หันหลังพุ่งไปบนเส้นทางประกายทองสายหนึ่ง
“น่าเบื่อ ไปทางไหนล้วนเหมือนกันไม่ใช่รึ”
อาหลู่พูดพลางย่างก้าว เงาร่างสูงใหญ่ดั่งบรรพตพุ่งตรงไปยังทางขึ้นเขาที่อยู่ใกล้เขาที่สุด เห็นได้ว่าเรียบง่ายหยาบกระด้างนัก
‘หลินสวิน เจ้าต้องระวังตัว ผู้แข็งแกร่งแต่ละสำนักโบราณที่เข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้แม้มีมาก แต่ทุกสำนักจะฝากความหวังไว้กับผู้สืบทอดที่แกร่งสุดคนหนึ่งเท่านั้น’
ข้างหูหลินสวินก้องเสียงสื่อจิตเตือนของจ้าวจิ่งเซวียน
‘สำหรับคนอื่นแม้มีสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขัน แต่พวกเขาก็เป็นเพียงตัวสำรองเท่านั้น’
‘ตัวสำรอง?’ หลินสวินถาม
‘ถูกต้อง เจ้าอย่าได้ดูถูกเชียว พวกตัวสำรองเหล่านี้มีจุดประสงค์อื่น หนึ่งเพื่อป้องกันผู้แกร่งที่สุดของสำนักตนไม่ให้ถูกสำนักอื่นโอบล้อมและขัดขวาง’
‘สองก็เพื่อรุมโจมตีและกีดขวางผู้แกร่งที่สุดของสำนักอื่น!’
จากคำพูดของจ้าวจิ่งเซวียน การแข่งขันกระดานยอดมกุฎรุ่นเยาว์ไม่ใช่แค่การประลองพลังต่อสู้ส่วนบุคคลง่ายๆ เช่นนั้น
เพื่อรับรองความเป็นไปได้สูงสุดที่ผู้สืบทอดสำนักจะสามารถดันตนขึ้นสู่สามสิบหกอันดับแรกกระดานยอดมกุฎรุ่นเยาว์ สำนักโบราณจะส่งศิษย์แกนหลักจำนวนมากเข้าร่วมพร้อมกันเพื่อปกป้องผู้แข็งแกร่งที่สุดหนึ่งคน
เมื่อเป็นเช่นนี้ ในการแข่งขันปีนเขาและครองภูผาก็ไม่ต้องกลัวเกิดเหตุการณ์ถูก ‘ล้อมโจมตี’ อย่างคาดไม่ถึง
เช่นเดียวกัน ระหว่างสำนักโบราณก็มีการแข่งขันและเป็นอริกันอยู่แล้ว ไม่อาจเลี่ยงเหตุการที่เพ่งเล็งและลอบทำร้ายซึ่งกันและกัน
ในอดีตที่ผ่านมา เรื่องคล้ายคลึงกันนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง!
สรุปง่ายๆ คือ การแข่งขันกระดานยอดมกุฎรุ่นเยาว์ครานี้เป็นทั้งการแข่งขันพลังต่อสู้ส่วนบุคคล และยังเป็นการประจัญศักยภาพระหว่างสำนักมากมายโดยปริยาย
หลินสวินโดดเดี่ยวตัวคนเดียว ทั้งเคยผูกพยาบาทกับผู้สืบทอดสำนักต่างๆ มากมาย คิดจากคำพูดของจ้าวจิ่งเซวียนแล้ว เมื่อเขาปีนเขาต้องถูกสายตาคิดไม่ซื่อมากมายจับจ้องแน่!
ด้วยเหตุนี้นางจึงกล่าวเตือนทันที เลี่ยงไม่ให้หลินสวินประมาทพลาดท่า
‘เจ้าวางใจเถอะ ข้าหวังให้พวกเขากล้าทำเช่นนั้นยิ่ง!’
หลินสวินมุมปากโค้งเป็นรอยยิ้มเย็น สายตากวาดมองพวกฉู่เป่ยไห่ จินมู่อวิ๋น หลี่ชิงผิง อวี่หลิงคง โก่วเหยียนเจินที่ยังไม่เริ่มเคลื่อนไหวทีละคน
จากนั้นเขาเก็บสายตา เลือกเส้นทางประกายทองสายหนึ่งที่พาขึ้นสู่ยอดเขา ชายเสื้อพลิ้วไหวโฉบขึ้นไปบนนั้น
‘เจ้าหมอนี่คลุ้มคลั่งอีกแล้ว ดูท่าการถูกพุ่งเป้าหลายครั้งก่อนหน้าจะทำให้เขาไม่พอใจ สะสมเพลิงโทสะไว้มากนัก’
จ้าวจิ่งเซวียนชะงัก นัยน์ตากระจ่างทอดมอง ใบหน้าผุดผ่องงามสง่าเผยความจนปัญญาวูบหนึ่ง
แม้ไม่เจอกันหลายปี แต่ในที่นี้คงไม่มีคนเข้าใจนิสัยหลินสวินดีกว่านาง เจ้าหมอนี่ไม่ใช่พวกกล้ำกลืนความเจ็บช้ำเสียด้วย
…
“ลงมือได้!”
เห็นเงาร่างหลินสวินจากไป ในดวงตาฉู่เป่ยไห่เผยไอสังหารเข้มข้น
ทันใดนั้นผู้สืบทอดแดนศักดิ์สิทธิ์แกนสวรรค์หลายคนข้างเขาเริ่มปฏิบัติการ พุ่งทะยานไปยังทางขึ้นเขาที่หลินสวินเลือก
…
“จงจำไว้ ขวางเจ้านี่โดยไม่ต้องคำนึงถึงสิ่งตอบแทนใด!”
หลี่ชิงผิงเอ่ยราบเรียบ สั่งผู้สืบทอดสำนักยุทธ์สมุทรครามข้างกาย
บนภูเขาเทพไร้มรณะ แม้เกิดความขัดแย้งถึงที่สุดก็จะไม่ปรากฏ ‘ความตาย’ ที่แท้จริง เพราะนี่คือภูเขาเทพไร้มรณะ
ต่อให้ร่างถูกซัดแหลก จิตวิญญาณถูกจู่โจมสังหาร ก็เป็นเพียง ‘การตายหลอก’ จะถูกกฎระเบียบของเขาเทพไร้มรณะ ‘ช่วยกลับคืน’ มา
สรุปง่ายๆ คือ ผู้ฝึกปราณที่ปีนภูเขาเทพไร้มรณะไม่มีทางตายเด็ดขาด!
แต่แน่นอนว่าหลัง ‘การตายหลอก’ จะถูกคัดออก
…
“พวกบ้านนอกของโลกชั้นล่างที่ไร้สำนักไร้พรรคคนหนึ่ง ยังกล้าฝันถึงกระดานยอดมกุฎรุ่นเยาว์ ช่างเพ้อพกละเมอครวญ!”
“พวกเจ้าน่าจะรู้ว่าต้องทำเช่นไรกระมัง”
ส่วนลึกของนัยน์ตาอวี่หลิงคงฉายแววเกลียดชังเข้ากระดูก เขาลืมความอัปยศที่หลินสวินมอบให้แก่ตนตอนเทศกาลโคมกถามรรคไม่ลง
ด้านข้างเขา ผู้สืบทอดแดนพิสุทธิ์อมตะทั้งกลุ่มรับคำสั่งออกปฏิบัติการ
…
“ข้าไม่ต้องการให้พวกเจ้าช่วยคุ้มกันข้า และไม่ต้องการให้พวกเจ้าช่วยข้าจัดการขุมอำนาจอื่น ที่พวกเจ้าต้องทำก็คือขวางไอ้สวะนี่! อย่าให้มัน ‘ครองภูผา’ สำเร็จ!”
ชุดดำของโก่วเหยียนเจินพลิ้วสะบัด ในดวงตาแดงก่ำเปี่ยมความอำมหิตน่าเกรงขาม
ไม่ว่าแดนฐิติประจิมหรือแดนชัยบูรพา ผู้แข็งแกร่งเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬที่ตายในมือหลินสวินล้วนมีจำนวนไม่น้อย
แม้ครั้งนี้โก่วซวีสิงไม่ร้องขอ โก่วเหยียนเจินก็ไม่มีทางนิ่งดูดาย!
…
“เห็นหรือยัง ขุมอำนาจที่หมายจัดการเด็กนี่คราวนี้มากนัก พวกเราสำนักกระบี่เทียมฟ้าเองก็อย่าได้พลาด พวกเจ้าไปเถอะ เป็นเวลามอบบทเรียนเจ็บแสบให้แก่เทพมารหลินแล้ว!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์