Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1071

อย่างไรก็ตาม ชื่นชมก็ส่วนชื่นชม ถ้าอีกฝ่ายดื้อดึงไม่ยอมรับ คิดแต่จะเป็นศัตรูกับตน เมื่อได้พบกันในอนาคตหลินสวินก็จะไม่ปรานีจินมู่อวิ๋นเพราะเหตุนี้แน่

หลินสวินนั่งขัดสมาธิบนพื้น จ้องมองการต่อสู้บนสนามประลองที่อยู่ห่างไปพลางสรุปประสบการณ์การต่อสู้ก่อนหน้านี้

อย่างที่ทุกคนเห็นก่อนหน้านี้ ตั้งแต่การแข่งขันกระดานยอดมกุฎรุ่นเยาว์เริ่มขึ้นเขาก็ออมมือมาโดยตลอด!

ไม่ว่าจะเป็นการพุ่งสังหารตอนขึ้นเขา ครองภูผา หรือการประลองในรอบแรกและรอบที่สอง ล้วนไม่เคยทำให้หลินสวินสำแดงพลังออกมาอย่างเต็มที่

ชิงเหวินเจวี้ยนทำไม่ได้ โก่วเหยียนเจินทำไม่ได้ หลี่ชิงผิงและปี้ตงหลิ่วเองก็ทำไม่ได้เช่นกัน!

บางทีคนเหล่านี้ล้วนเป็นผู้กล้าขอบเขตมกุฎชั้นหนึ่งแห่งยุค

แต่สำหรับหลินสวิน ไม่ได้มีพลังคุกคามที่แท้จริง

มีเพียงตอนที่ประลองกับจินมู่อวิ๋นเมื่อครู่นี้ที่ทำให้เขาระเบิดพลังออกมาอย่างสิ้นเชิง ไม่เพียงแค่ใช้โทสะหยาจื้อ แม้แต่วิชาอริยะยุทธ์ก็ยังถูกเอามาใช้ด้วย

อีกทั้งยังสำแดงนัยเร้นลับที่แท้จริงของเคล็ดวิชาเก้าหมัดสะเทือนสวรรค์ และมังกรเคราะห์เก้ากระบวนแปรอย่างเต็มศักยภาพ!

ซึ่งก่อนหน้านี้หลินสวินไม่เคยใช้เลย

เหตุผลง่ายมาก ก็เพราะไม่นานมานี้เขาเพิ่งหยั่งถึงแก่นพิสุทธิ์ของวิชาลับของสองวิชานี้ โดยอาศัยวิญญาณแห่งพลังจิต

อย่างเช่นเคล็ดวิชาเก้าหมัดสะเทือนสวรรค์ มรดกวิชาที่มาจากห้องโถงมรรคาสวรรค์ อานุภาพลึกล้ำไม่อาจคาดเดา นัยเร้นลับของหมัดเก้ากระบวนท่ารวมเข้าด้วยกัน ก็สามารถสำแดงอานุภาพอันยอดเยี่ยมของมัน…

หนึ่งหมัดสะเทือนสวรรค์!

แน่นอนว่าถูกจำกัดด้วยพลังปราณในตัว แม้หนึ่งหมัดสะเทือนสวรรค์จะแข็งแกร่งอย่างมาก แต่ถ้าใช้ในมือราชันที่แท้จริง เพียงแค่หมัดเดียวก็สามารถเขย่าท้องฟ้าแปดทิศ สังหารศัตรูอย่างง่ายดายราวกับฉีกภาพวาด

ส่วนมังกรเคราะห์เก้ากระบวนแปรนั้น ได้รับมาจากเก้าศิลาประตูมังกรในภาคีนักสลักวิญญาณแห่งจักรวรรดิจื่อเย่า

มรดกวิชานี้แปรเป็นคำว่า ‘เคราะห์’ ที่เก่าแก่เรียบง่ายและแปลกประหลาด ลอยอยู่ในห้วงนิมิตของหลินสวินตลอดมา

จนถึงตอนนี้เขาฝึกวิชานี้มาหลายปีแล้ว แต่ช่วงที่ผ่านมานี้เพิ่งพอจะเข้าใจนัยเร้นลับทั้งหมดของเก้ากระบวนแปร

และตอนนี้เองที่หลินสวินเพิ่งค้นพบว่า เมื่อใช้พลังแห่ง ‘เก้ากระบวนแปร’ พร้อมกัน สามารถสำแดงอานุภาพที่เหนือจินตนาการได้

เขาถึงขั้นสงสัยว่า นี่ต่างหากที่เป็นนัยเร้นลับที่แท้จริงของมังกรเคราะห์เก้ากระบวนแปร หลอมรวมความมหัศจรรย์ของเก้ากระบวนแปร ผสานรวมเข้าไปในการต่อสู้ พลังอำนาจระดับนั้น แข็งแกร่งจนทำให้หลินสวินเองยังรู้สึกตกใจ

‘นัยเร้นลับของหนึ่งหมัดสะเทือนสวรรค์รู้ทะลุปรุโปร่งแล้ว อยากยกระดับอานุภาพนี้ ต้องอาศัยการเปลี่ยนแปลงของพลังปราณและพลังมหามรรคเท่านั้น’

‘ส่วนอานุภาพมังกรเคราะห์เก้ากระบวนแปร กลับควบคุมได้เพียงขั้นเริ่มต้นเท่านั้น ห่างจากการหลอมรวมอย่างสมบูรณ์อีกระยะหนึ่ง หากต้องการยกระดับอานุภาพนี้ จะต้องใช้เวลากับมันมากกว่านี้’

หลินสวินใคร่ครวญและสรุปเงียบๆ

‘หลังจากเพิ่มพลังของดาบหัก หลอมรวมแก่นมรรคธาตุน้ำ โทสะหยาจื้อและวิชาอริยะยุทธ์ กระบวนเฉือนเกิดดับที่สำแดงออกมาดุเดือดรุนแรงถึงที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย’

‘แต่นี่ยังไม่ใช่ขีดจำกัดของวิชานี้…’

หลินสวินสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วไม่คิดมากอีก

ไม่มีใครรู้ว่าเขายังมีไพ่ใบเอกที่แท้จริงอีกใบที่ยังไม่ได้ใช้ หากไม่ถึงขั้นที่ถูกบีบจนไม่มีทางเลือก เขาจะไม่มีทางเปิดเผย!

……

ในสนาม การประลองระหว่างจินมู่อวิ๋นและเซี่ยวชางเทียนกำลังจะจบลงแล้ว

อย่างที่ทุกคนกังวล จินมู่อวิ๋นที่เพิ่งผ่านความเป็นตายมา ข้อเสียเปรียบของสภาวะจิตที่ไม่มั่นคงเผยออกมาในการต่อสู้ ทำให้เขาถูกเซี่ยวชางเทียนกดข่มไว้ตั้งแต่ยังสู้ไม่ถึงห้าร้อยกระบวนท่าแล้ว

ตอนที่ต่อสู้กันถึงแปดร้อยกระบวนท่า เขาก็ไม่มีแรงจะโต้ตอบแล้ว ทำได้เพียงหลบเลี่ยงป้องกันตัว

สุดท้ายเขาก็พ่ายแพ้

ไม่มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น ถูกดาบหนึ่งของเซี่ยวชางเทียนสะเทือนจนกระอักเลือดตัวลอย ร่วงตกลงบนพื้น

ทุกคนต่างถอนหายใจ การพ่ายแพ้ในมือหลินสวิน สร้างแรงสะเทือนอันใหญ่หลวงต่อจินมู่อวิ๋นอย่างไม่ต้องสงสัย

หากไม่เป็นเช่นนี้ แม้เขาไม่สามารถเอาชนะได้ แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะพ่ายแพ้ไวขนาดนี้

เพียงแต่เหนือความคาดหมายของทุกคน จินมู่อวิ๋นที่พ่ายแพ้แล้ว แม้เงาร่างจะสะบักสะบอม ใบหน้าจะซีดเซียว แต่แววตาของเขากลับเจิดจ้าและแน่วแน่ แสดงความมุ่งมั่นออกมา ไม่ได้หดหู่เหมือนก่อนหน้านี้

‘ไม่เสียทีที่เป็นบุคคลขอบเขตมกุฎชั้นยอด ผ่านการต่อสู้ครั้งหนึ่ง กลับทำให้เขาใช้การต่อสู้นี้ค่อยๆ คลี่คลายเงามืดในจิตมรรค ผ่านการเคี่ยวกรำครั้งนี้ ทำให้เขามีสัญญาณว่ากำลังจะเปลี่ยนแปลงรางๆ อีกครั้ง!’

หลินสวินหรี่ตาลง สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงอันน้อยนิดในตัวจินมู่อวิ๋น

ทำให้เขาจำต้องยอมรับว่าจินมู่อวิ๋นสามารถฟาดฟันเข้ามาอยู่ในสี่อันดับแรกได้ ถือว่าไม่ธรรมดาเลยจริงๆ ใช่ว่าบุคคลขอบเขตมกุฎในความหมายทั่วๆ ไปจะสามารถเทียบได้

ทว่านี่ไม่มีผลใดๆ ต่อหลินสวิน ต่อให้จินมู่อวิ๋นมีการพัฒนาเปลี่ยนแปลง เขาก็มั่นใจว่าจะสังหารอีกฝ่ายได้อีกครั้ง!

“ฝีมือเจ้าไม่เลว ครั้งนี้ข้าได้เปรียบไปมาก ต่อไปหากมีโอกาสสามารถประลองกันอีกครั้งได้”

เซี่ยวชางเทียนพูดจบก็หมุนตัวจากไป

จินมู่อวิ๋นเงียบและหมุนตัวจากไปเช่นเดียวกัน

สีหน้าของเขายิ่งดูนิ่งสงบ ไม่ได้เศร้าสร้อย แต่เป็นความรู้สึกที่เก็บซ่อนประกายคมอย่างหนึ่งหลังจากผ่านการเคี่ยวกรำ

“ดี!”

ผู้อาวุโสคนหนึ่งของสำนักกระบี่เทียมฟ้าเห็นเช่นนี้ สายตาพลันทอประกาย “คมกระบี่สมบัติผ่านการตีหลอม ข้ามผ่านความตาย หากสามารถเดินออกจากเงามืดได้ มู่อวิ๋นจะต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงที่น่าตกใจอย่างแน่นอน นี่อาจเป็นความโชคดีในความโชคร้าย!”

เมื่อคำพูดนี้ดังออกมา ก็ดึงดูดสายตาอิจฉาจำนวนไม่น้อยทันที

เหล่าผู้แข็งแกร่งสำนักกระบี่เทียมฟ้าเองก็ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม

แต่ตอนนี้เอง เสียงหยาบกระด้างแปลกประหลาดของอาหลู่กลับสะท้อนก้องในลาน “เพราะฉะนั้นพวกเจ้าควรซาบซึ้งในบุญคุณของเทพมารหลินใช่หรือไม่ หากไม่มีเขาชี้แนะด้วยตัวเอง จะมีโอกาสให้จินมู่อวิ๋นได้เปลี่ยนแปลงเสียที่ไหน”

ทันใดนั้นบนใบหน้าของคนเหล่านั้นพลันย่ำแย่อย่างที่สุด โกรธจนจมูกเบี้ยว แทบอยากจะเข้าไปสู้กับอาหลู่สุดชีวิตเสียเดี๋ยวนี้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์