นกหัวขโมยตัวนี้อีกแล้ว!
หลินสวินชะงัก ประหลาดใจอย่างที่สุด ดูเหมือนทุกครั้งที่เจอเจ้าหมอนี่ก็ไม่มีทางมีเรื่องดีอะไร
‘ชู่ว!’
ห่างออกไป นกทมิฬชูกรงเล็บ ในปากทำเสียงชู่วทีหนึ่ง จากนั้นใช้กระทะคลุมหัวตัวเองอย่างอนาถ
ทันใดนั้นเงาร่างของมันพลันหายไป
‘สหายน้อย ที่มาของบุตรนรกคนนี้ไม่ธรรมดา ฐานะแทบจะเทียบเคียงกับกู่ฝอจื่อแห่งอารามกษิติครรภ์ ทว่าบุตรนรกคนนี้ไม่ธรรมดายิ่งกว่า ปู่ของเขาเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่มีอิทธิพลอย่างมากในทางเดินโบราณฟ้าดารา เป็นคนร้ายกาจประเภทที่สามารถสังหารอริยะได้’
นกทมิฬสื่อจิต พูดด้วยเสียงลึกลับ ‘รู้หรือไม่ว่าเหตุใดเขาจึงสามารถหลับใหลอยู่ในแดนมกุฎแห่งนี้ได้ ก็เพราะกาหลอมจิตในมือของเขาอย่างไรเล่า!’
พูดถึงตรงนี้หลินสวินสัมผัสได้ถึงเสียงกลืนน้ำลายอย่างฉับไว ไม่ต้องเดาก็รู้ว่านกหัวขโมยตัวนี้หมายปองกาหลอมจิตในมือบุตรนรกเข้าแล้ว
‘อือ สหายน้อย เดี๋ยวหากเจ้าช่วยอะไรข้าสักอย่าง เล่นงานบุตรนรกนี่ให้ร่วง ข้าจะบอกความลับที่ยิ่งใหญ่อย่างหนึ่งกับเจ้า รับรองว่าจะทำให้เจ้าเบิกบานใจอย่างแน่นอน เป็นอย่างไร’
นกทมิฬยื่นข้อเสนอหนึ่ง
ตอนนี้ในที่นั้นฮือฮาราวกับฟ้าร้อง เงาร่างของหวังเสวียนอวี๋โซซัดโซเซ ถอยหลังกลางอากาศไปหลายก้าว
หันกลับไปดูด้านบุตรนรก อานุภาพราวกับสายรุ้ง ไม่เคยถอยแม้แต่ก้าวเดียว
นี่ทำให้เกิดความโกลาหลในที่นั้น เหล่าผู้แข็งแกร่งต่างหวั่นไหว
กระบวนท่าที่หนึ่ง หวังเสวียนอวี๋เสียเปรียบอย่างเห็นได้ชัด!
หลินสวินหรี่ตาลง ในหัวคิดถึงแต่ละภาพที่บุตรนรกกับหวังเสวียนอวี๋ประลองกันเมื่อครู่นี้ไปพลาง สื่อจิตอย่างง่ายๆ ‘ไม่มีความสนใจ’
นกทมิฬไม่ยอมแพ้สักนิด ยังคงโน้มน้าวต่อ ‘สหายน้อย ในตัวบุตรนรกมีสมบัติไม่น้อย ล้วนเป็นสมบัติที่ปู่เขาหลงเหลือไว้ ทุกชิ้นต่างเป็นสมบัติล้ำค่าที่หายากในโลก เจ้าไม่หวั่นไหวสักนิดเลยหรือ’
ในที่นั้นการต่อสู้ปะทุขึ้นอีกครั้ง สีหน้าของหวังเสวียนอวี๋จริงจังขึ้นไม่น้อยอย่างเห็นได้ชัด เริ่มโคจรพลังทั้งหมด
ส่วนบุตรนรกเองก็กำลังเผยกระบวนท่าไม้ตายเช่นกัน
ในสายตาของหลินสวิน พลังต่อสู้ของทั้งสองล้วนแข็งแกร่งกว่าอูหลิงเต้าองค์ชายสิบสามเผ่าอีกาทอง!
‘ไม่หวั่นไหว’ หลินสวินพูดอย่างไม่ใส่ใจ
นกทมิฬลนลานขึ้นมาบ้าง ร้องว่า ‘ไม่ช่วยจริงหรือ’
หลินสวินกล่าว ‘ช่วยก็ได้ แต่ข้ามีเงื่อนไขหนึ่ง’
นกทมิฬกัดฟันกล่าว ‘รู้อยู่แล้วว่าเจ้าหนูอย่างเจ้าไม่เห็นกระต่ายไม่ปล่อยเหยี่ยว[1]’
หลินสวินพูด ‘เป็นหนี้บุญคุณข้าครั้งหนึ่ง’
นกทมิฬอึ้งงันไปก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นตอบรับอย่างสุขใจ ‘ตกลง’
หลินสวินพูดเรียบๆ ‘หากเจ้ากล้าบิดพลิ้ว อย่ามาโทษที่ข้าเอาคัมภีร์มหาครรภ์จุติกับไม้โพธิ์ให้อารามกษิติครรภ์ล่ะ’
นกทมิฬก่นด่าขึ้นมาทันที ท่าทางตื่นตระหนกอย่างมาก
แต่หลินสวินมองข้ามโดยสิ้นเชิง สุดท้ายนกทมิฬยอมประนีประนอมตอบตกลง มันย่อมรู้ดีว่า ‘หนี้บุญคุณ’ ไม่ใช่สิ่งที่ควรติดค้างกันได้ง่ายๆ ขนาดนั้น!
หลินสวินยิ้มออมาทันที
นกทมิฬความลับเต็มอก โดยเฉพาะเรื่องของอริยสงฆ์ตู้จี้และนางพญาหงส์ทมิฬ รู้อย่างแจ่มแจ้งราวกับนิ้วบนฝ่ามืออย่างแน่นอน
ในอนาคตหากต้องเป็นศัตรูกับอารามกษิติครรภ์จริงๆ จำเป็นต้องมัดนกทมิฬนี่ขึ้นรถศึกของตน!
ตูม!
กระบวนท่าที่สองได้แยกออกจากกันแล้ว
บุตรนรกถอยหลังหลายก้าว ร่างกายสั่นเล็กน้อย แต่ไม่ได้บาดเจ็บหนัก
แต่ฝั่งตรงข้ามหวังเสวียนอวี๋กำลังกระอักเลือด!
ในที่นั้นเงียบกริบขึ้นมาชั่วขณะ
หวังเสวียนอวี๋ บุคคลขอบเขตมกุฎแห่งยุคปัจจุบันที่เป็นดั่งตำนาน ด้วยพลังต่อสู้ของเขาในตอนนี้ ทอดสายตามองไปในหมู่ทุกคนในที่นั้น ก็เรียกได้ว่าไม่เป็นรองใคร
แต่ตอนนี้ในระหว่างประลองกับบุตรนรก กลับเสียเปรียบอย่างต่อเนื่อง!
นี่สามารถพิสูจน์ได้เพียงเรื่องเดียว รากฐานพลังและความสามารถของบุตรนรก เห็นได้ชัดว่าแข็งแกร่งกว่าหวังเสวียนอวี๋!
‘ไม่เสียทีที่เป็น ‘คัมภีร์มรรคนรกสิบทิศ’ ซึ่งสืบทอดมาจากจักรพรรดินรก เมื่อใช้ออกมาก็สามารถสำแดงพลังต่อสู้ที่แข็งแกร่งขึ้นเป็นเท่าตัวในช่วงเวลาสั้นๆ หากต่อสู้กันในระยะยาว หวังเสวียนอวี๋นี่ไม่แน่ว่าจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของบุตรนรก… น่าเสียดาย’
นกทมิฬถอนหายใจ
ข้อมูลที่เปิดเผยจากคำพูดทำให้ในใจหลินสวินสะท้าน
ปะทุพลังต่อสู้เป็นเท่าตัวในระยะเวลาอันสั้น วิชายุทธ์ระดับนี้นับว่ามีความมหัศจรรย์คล้ายคลึงกับ ‘โทสะหยาจื้อ’
“สหายยุทธ์ หากหยุดตอนนี้ข้ายอมให้โอกาสเจ้าอีกครั้ง”
กลางอากาศ เสียงของบุตรนรกต่ำลึก แฝงความย่ามใจ
“หยุดพูดจาไร้สาระ!”
สีหน้าของหวังเสวียนอวี๋ซีดเซียว หว่างคิ้วกลับแน่วแน่ อานุภาพที่แผ่ออกมาทั่วร่างยิ่งรุนแรงกว่าเดิม ราวกับกระบี่สมบัติพลิกฟ้า สาดแสงส่องสว่างเก้าสวรรค์
สีหน้าของบุตรนรกเย็นชากว่าเดิม “ลืมบอกเจ้าเรื่องหนึ่ง ที่นี่เป็นสถานที่หลับใหลของข้า พลังกฎระเบียบทั้งหมดที่ปกคลุมอยู่แม้มิได้ควบคุมโดยข้า แต่ข้าสามารถใช้ได้ หากต้องการกำราบเจ้า กระบวนท่าเดียวก็เพียงพอแล้ว!”
ประโยคเดียวทำให้สีหน้าของทุกคนพลันเปลี่ยนไป
ทุกคนล้วนรู้สึกไม่สงบ ไม่คิดเลยว่าบุตรนรกจะมีไม้ตายเช่นนี้!
แม้แต่หลินสวินยังตกใจ หากเป็นเช่นนี้จริง อย่าว่าแต่หวังเสวียนอวี๋เลย แม้เขาลงมือก็ใช่ว่าจะชนะได้!
ตูม!
และตอนนี้เอง บุตรนรกออกโจมตีแล้ว แม่น้ำเลือดสายหนึ่งพาดขวางกลางอากาศ ราวกับร่วงหล่นลงมาจากเก้าสวรรค์ กำจายกลิ่นอายคลุมเครือและน่าหวาดผวา
เขาดูออกแล้วว่าหวังเสวียนอวี๋ไม่มีทางเป็นคนของเขาได้ ในใจจึงเกิดไอสังหารแรงกล้าแล้ว
“เฉือน!”
หวังเสวียนอวี๋สูดหายใจเข้าลึกๆ ร่างกายของเขาราวกับกระบี่ จิตใจก็ดุจดั่งกระบี่
เพียงแต่ยังไม่รอให้การโจมตีนี้สำแดงออกไป ทั้งตัวเขาก็ถูกกระทะดำใบหนึ่งปกคลุม ในเวลาเดียวกันเงาร่างของนกทมิฬก็ปรากฏขึ้น ร้องว่า “เจ้าหนู ฝากเจ้าด้วย!”
หลินสวินลอบก่นด่าในใจ นกหัวขโมยตัวนี้ลงมือก็ไม่บอกกันล่วงหน้าสักคำ
แต่ตอนนี้ไม่ทันคิดมากแล้ว
ฟุ่บ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์