ไป๋หลงถิงลงมือแล้ว!
เหล่าผู้กล้าภายในลานจิตใจฮึกเหิม สองปีมานี้ไป๋หลงถิงเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในนายเหนือหัวที่ถูกจับตามองมากที่สุดในแดนเก้าบน
ถึงขั้นว่ารุ่งเรืองคมประกาย ชื่อเสียงก้องเกียรติ เมื่อเทียบกับหลินสวินเมื่อสองปีก่อนถือว่าห่างกันไม่มากนัก
พรสวรรค์ที่น่าเหลือเชื่อและพลังต่อสู้อันเลิศล้ำของเขา ตามคำร่ำลือมีความเป็นไปได้มากว่าเขาใช้เวลาอีกไม่นานก็จะบรรลุอมตะเคราะห์ครั้งที่เจ็ด!
การจู่โจมของนายเหนือหัวเช่นนี้ ย่อมน่าตื่นตาตื่นใจเป็นธรรมดา
“ต้องตายหรือ เจ้านับเป็นตัวอะไรถึงกล้ากล่าวคำโอหังกับข้าเช่นนี้”
หลินสวินสีหน้าเย็นชา ปล่อยหมัดหนึ่งออกไปจนทำให้ผู้แข็งแกร่งคนหนึ่งที่อยู่ด้านข้างตายทันใด ภายใต้หยาดเลือดที่สาดกระเซ็น เขาทะยานสู่ห้วงนภาพุ่งเข้าสังหารไป๋หลงถิง
“เจ้าจะระห่ำเกินไปแล้ว”
ไป๋หลงถิงสีหน้าเรียบเฉย พัดขนนกในมือโบกสะพัดเพียงเล็กน้อย ทันใดนั้นก็ปรากฏรุ้งเทพห้าสีแปลงเป็นจักระปัญจธาตุประวงหนึ่ง ประหนึ่งเครื่องโม่ขนาดมหึมา บดขยี้ครันครืนห้วงอากาศ
‘จักระเทพปัญจธาตุ!’
สิ่งนี้เป็นวิชามรรคอมตะที่น่าหวาดเกรงจำพวกหนึ่ง โอบล้อมด้วยพลังกฎเกณฑ์ปัญจธาตุ ห้าธาตุมารวมบรรจบ สาสามารถหลอมกลั่นจักรวาล บดขยี้ทุกสรรพสิ่ง
หนำซ้ำเมื่อจักระเทพปัญจธาตุหมุนวน พลังมหามรรคห้าชนิดโคจร ราวกับถือกำเนิดไม่มีที่สิ้นสุด นัยเร้นลับไร้จำกัด
ครืน!
เมื่อทันทีที่ไป๋หลงถิงลงมือห้วงอากาศก็พังครืนลงมา อานุภาพที่หยิ่งผยองทำให้ทั่วทั้งลานต้องสั่นสะเทือนและตื่นตระหนก
หลินสวินสีหน้าขรึมนิ่ง ไม่ถอยทั้งยังบุกเข้าไป รอบกายเขามรรคดับดารากลืนกินโคจรและปลดปล่อยออกมา เพียงชั่วพริบตาเงาร่างของเขาราวกับกลายเป็นหุบเหวลึก
มหึมาประหนึ่งห้วงอากาศ ยิ่งใหญ่ไร้ขอบเขต!
“ถึงกับพุ่งไปเช่นนี้แล้ว”
คนไม่น้อยผงะ
“รนหาที่ตาย!”
ภายในใจของไป๋หลงถิงกลับอดยิ้มเยาะไม่ได้ พลังจักระเทพปัญจธาตุที่ถือกำเนิดไม่สิ้นสุดของเขาเป็นกระบวนสังหารชั้นยอด แม้แต้บุคคลขอบเขตมกุฎรุ่นเดียวกันยังต้องใช้กำลังทั้งหมดสกัดกั้น แต่หลินสวินกลับพุ่งเข้ามาเช่นนี้ ไม่ต่างอะไรกับการรนหาที่ตาย
แต่ยามเมื่อปะทะกัน
ไป๋หลงถิงรู้สึกเพียงแค่จักระเทพปัญจธาตุคล้ายจมสู่หลุมโคลน พลังทำลายล้างที่น่าหวาดกลัวเป็นชั้นๆ หมุนวนอย่างบ้าคลั่ง พาให้จักระเทพปัญจธาตุของเขาหยุดชะงักอยู่อย่างนั้นในทันที ไม่ว่าจะจู่โจมเช่นไรก็ไร้หนทางหลุดพ้นจากการกลืนกินของพลังมหามรรคอันน่าเกรงขามนี้
นี่…
ไป๋หลงถิงสีหน้าแปรเปลี่ยนเล็กน้อย
พร้อมกันนี้เงาร่างของหลินสวินพลันแผ่ขยาย เสียงครืนดังขึ้นคราหนึ่ง เหวลึกแผ่ขยายตัวในทันที บดขยี้จักระเทพปัญจธาตุทีละชุ่นๆ ละอองแสงและพลังที่พังทลายของมันล้วนถูกดับทำลายหายไป
มองจากไกลๆ ดูเหมือนถูกกลืนกินจนหายวับในชั่วพริบตา!
ทันใดนั้นผู้คนทั้งลานล้วนตกตะลึงตาค้าง เพียงแค่พลังการโจมตีของเงาร่างก็สามารถทลายการจู่โจมน่าหวาดกลัวของไป๋หลงถิงลงได้เชียวเหรอ
ในเวลาเดียวกันนี้ไป๋หลงถิงส่งเสียงอึดอัดจากลำคอ เลือดลมพลิกตลบ กระบวนท่าสังหารเมื่อครู่ถูกทำลายลงเช่นนี้ ทำเอาเขาอดตัวสั่นไม่ได้ ถูกพลังย้อนกลับ
แต่ไม่รอให้เขามีปฏิกิริยาตอบกลับ หลินสวินก็พุ่งเข้าโจมตีแล้ว ปล่อยหมัดออกไป
ตูม!
ห้วงอากาศเสมือนน้ำที่เดือดพล่าน เจือเสียงอึกทึกครึกโครม ก็เห็นพลังหมัดที่เรียบง่ายแวววาวสายหนึ่งปรากฏขึ้นมากลางอากาศ
หมัดนี้แฝงแสงมรรค อานุภาพแผ่ฟ้าคลุมดิน กดข่มจนฟ้าดินแถบนี้พังทลายระเบิดครวญอย่างไม่อาจควบคุมได้
ผู้แข็งแกร่งไม่น้อยต่างลมหายใจสะดุด ไม่กล้าจินตนาการถึงความน่ากลัวของการโจมตีนี้
ด้วยเพราะหมัดนี้ ไปถึงระดับกระจ่างจิต!
“ประทับห้าธาตุ จงทลาย!”
สีหน้าของไป๋หลงถิงก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมขึ้นอย่างหาได้ยากโดยพลัน ทั่วร่างราวกับกำลังลุกโชน พลังมหามรรคทองไม้น้ำไฟดินทั้งห้าชนิดรวมเป็นหนึ่ง แปลงเป็นประทับใหญ่ ประหนึ่งภูเขาเทพลอยเหนือห้วงอากาศก็ไม่ปาน!
ตูม!
ยามทั้งสองเข้าปะทะเสียงกึกก้องสะเทือนโลก แสงมรรคน่าหวาดหวั่นม้วนตลบโหมซัด เคลื่อนกวาดทั่วทั้งฟ้าดิน ผู้แข็งแกร่งไม่น้อยหลบไม่ทันพลอยถูกกระแทกโซซัดโซเซ กระอักเลือดไม่หยุด
จากจุดนี้ก็เห็นแล้วว่าการปะทะกันครั้งนี้น่าประหวั่นเพียงใด
จากนั้นในเวิ้งฟ้าก็เห็นเงาร่างของไป๋หลงถิงโซเซถอยหลังไปสิบกว่าก้าว ทุกย่างก้าวความห้วงอากาศทรุดตัวลงเป็นหลุม
เมื่อเขาสามารถยืนมั่นได้อีกครั้ง สีหน้ากลับเปลี่ยนเป็นซีดขาว อดกระอักเลือดออกมาไม่ได้
ยามมองไปยังหลินสวินอีกครั้ง เงาร่างกลับตั้งตรง ไม่แปดเปื้อนโลกีย์ อานุภาพประดุจเทพมาร
สิ่งนี้ทำให้ทั้งลานตกตะลึง!
ก่อนหน้านั้นยามไป๋หลงถิงเพิ่งออกโรง ทุกคนล้วนเต็มเปี่ยมไปด้วยความหวัง คิดว่าเขาสามารถประลองตัดสินกับหลินสวินได้
แต่ใครเล่าจะคาดคิด ว่าแค่เพิ่งเริ่มปะทะกัน หลินสวินก็สำแดงอานุภาพราวหักทำลายได้ทุกสิ่ง ใช้ความแข็งแกร่งสยบไป๋หลงถิงในครั้งเดียว!
อีกทั้งทำให้เขากระอักเลือดออกมา!
เทียบกันเช่นนี้ พลังต่อสู้ของเทพมารหลินยามนี้จะแข็งแกร่งจนถึงเพียงใดกัน
ภายในใจของคนมากมายต่างสั่นสะท้าน
“หาว่าข้าระห่ำ แต่เป็นเจ้าเองที่ไม่รู้ชัดว่าอะไรเรียกว่าความแข็งแกร่งที่แท้จริง!”
โจมตีได้โดยสะดวกในครั้งเดียว หลินสวินไม่หยุดแม้แต่น้อย ก้าวย่างบนห้วงอากาศ โจมตีใส่ไป๋หลงถิง
ตูม!
แต่ก็เป็นเวลาเดียวกันนี้ กลางห้วงอากาศทวนศึกสีครามเข้มด้ามหนึ่งโฉบพุ่งออกไปโดยพลัน ประดุจแสงทะลวงฟ้า พุ่งเข้าหาหลินสวินด้วยความเร็วที่ไม่อาจคาดคิด
เจ้าของทวนศึกครามเข้มนี้ ก็คือบุตรนรก!
ทั่วร่างของเขาห่อหุ้มด้วยเกราะศึก แผ่ไอสังหารพลิกฟ้า ไม่ออกมือยังไม่เท่าไร แต่เมื่อลงมือก็ประหนึ่งอสนีบาต
เร็ว!
เร็วเกินไปแล้ว!
ไม่ว่าใครก็คิดไม่ถึงว่าบุตรนรกซึ่งเลื่องชื่อลือนามผู้นี้กลับเลือกลอบโจมตี ทำเอาผู้อื่นตั้งรับไม่ทัน
เคร้ง!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์