ฮู่ว…
ยามดึก หลินสวินนั่งขัดสมาธิอยู่ในสถานที่ฝึกสมาธิ เริ่มฟื้นฟูอาการบาดเจ็บ
การต่อสู้กับอวิ๋นชิ่งไป๋ แน่นอนว่าเป็นการต่อสู้ที่ยากลำบากและอันตรายที่สุดตั้งแต่เขาฝึกปราณมา
ดูเหมือนรอบคอบทุกอย่างก้าว กำชัยไว้แล้ว แต่เบื้องหลังแท้จริงกลับแบกรับแรงกดดันและความทุ่มเทที่ไม่สามารถจินตนาการได้
หากไม่ใช่ว่าช่วงสุดท้ายได้ประโยชน์จากชีพจรปราณวิญญาณต้นกำเนิด คิดจะขวางการโจมตี ‘พลีชีพสังเวยกระบี่’ นั่นของอวิ๋นชิ่งไป๋ก็ยากนัก!
ทว่าผ่านการประลองแห่งยุคเช่นนี้ ก็ทำให้หลินสวินได้รับประสบการณ์และหยั่งรู้ในการต่อสู้อย่างไม่เคยมีมาก่อน
เขามีลางสังหรณ์อย่างหนึ่งว่าเมื่ออาการบาดเจ็บฟื้นฟู พลังปราณของเขาต้องรุดหน้ายิ่งกว่าเดิม พอที่จะก้าวสู่ขั้นสมบูรณ์ของระดับอมตะเคราะห์ด่านเจ็ด
ถึงขั้นที่ว่าการทะลวงระดับก็ไม่ใช่เรื่องยาก
ทั้งการสังหารอวิ๋นชิ่งไป๋ยังเหมือนการกำจัดโจรกลางใจ ขจัดมารในสภาวะจิต ทำให้จิตมรรคของหลินสวินราวกับทลายพันธนาการ ได้รับการยกระดับเช่นกัน
การฝึกปราณก็คือขั้นตอนของการฝึกใจ
การเปลี่ยนแปลงของสภาวะจิตเร้นลับที่สุด แต่กลับมีประโยชน์ต่อการฝึกปราณอย่างไม่อาจประเมิน
วู้ม…
แสงมรรคหลายสายราวแสงมายาครอบคลุมตัวหลินสวินอยู่ภายใน ดูบริสุทธิ์สันโดษ
…
ผ่านไปเจ็ดวัน
“หืม?”
“นั่นคือ?”
“ช่างเป็นลักษณ์ประหลาดที่น่าอัศจรรย์!”
วันนี้ผู้แข็งแกร่งที่กระจายอยู่ต่างบริเวณในแดนเก้าบน ไม่ว่ากำลังทำอะไรก็ล้วนหยุดการกระทำในมืออย่างพร้อมเพรียง สายตามองไปยังเวิ้งฟ้า
บนฟ้านั่นไม่รู้ปกคลุมด้วยแสงทองพร่างพรายชั้นหนึ่งตั้งแต่เมื่อไหร่ ส่องประกายราวกับทองเทพ ย้อมผืนฟ้ากลายเป็นสีทองทั้งแถบ สว่างเรืองรองดุจเพลิงผลาญ
ในความรางเลือนสามารถมองเห็นแดนลับแห่งหนึ่งปรากฏอยู่ในแสงทองบนเวิ้งฟ้านั่น ลักษณะคล้ายสนามประลองมหึมาหาใดเปรียบ ภายในมีรูปปั้นเก่าแก่และลึกลับยืนตระหง่านอยู่มากมาย
เพียงแต่ภาพนั้นยังเลือนรางอย่างยิ่ง ถูกปกคลุมด้วยแสงทองพร่างพราย มองเห็นเป็นระยะๆ ไม่ว่าจะตรวจสอบอย่างไรก็ไม่อาจสังเกตเห็นโฉมหน้าในนั้นได้
แต่ต่อให้เป็นเช่นนั้นก็ยังทำให้ผู้แข็งแกร่งทุกคนต่างไหวหวั่น
ขณะเดียวกันหน้าศิลาศึกทุกแห่งในแดนเก้าบนเกิดการเปลี่ยนแปลงประหลาดขึ้น
บนท้องฟ้าเหนือศิลาศึกแต่ละแห่งล้วนปรากฏอุโมงค์อากาศหนึ่ง ราวกับรุ้งเทพหลากสีงามแปลกตาทะลวงอากาศขึ้นไป ไม่รู้ว่าเชื่อมต่อไปที่ไหน
และวันนี้ข่าวเกี่ยวกับ ‘แดนยอดมรดก’ มาเยือนโลก ก็ราวกับลมพายุหอบหนึ่งม้วนกลืนแดนเก้าบน
“ไป!”
“ในที่สุดก็เปิดออกแล้ว…”
“ท้ายที่สุดอริยะนำพาจะตกสู่มือใคร”
ผู้แข็งแกร่ง ยักษ์ใหญ่ ราชันนายเหนือหัวนับไม่ถ้วน พากันมุ่งไปยังหน้าศิลาศึกที่กระจายอยู่ในแดนเก้าบนราวได้รับการเรียกหา
…
“นี่ต้องเป็นศุภโชคสุดท้ายก่อนที่แดนมกุฎจะปิดฉากแน่ ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องไปช่วงชิงเต็มกำลัง”
องค์ชายเซ่าเฮ่าอาภรณ์สะบัดโบก แววตาเต็มไปด้วยประกายวาววามน่าพรั่นพรึง
“ผู้คนรู้แค่ว่านายน้อยถ่อมตัวประหนึ่งหยก ไม่คิดแก่งแย่งกับใคร แต่กลับไม่รู้ว่าหากนายน้อยออกแรงเต็มกำลัง แดนเก้าบนนี้จะต้องไร้ผู้ต่อกร”
สาวใช้หวั่นอินแววตาไหลวนแสงอัศจรรย์ สีหน้าเต็มไปด้วยความเคารพเลื่อมใส
มีเพียงนางที่รู้ชัดว่านายน้อยของตนแข็งแกร่งแค่ไหน!
“ไร้ผู้ต่อกร? วาจานี้กล่าวเกินไปแล้ว การช่วงชิงวาสนา หนึ่งดูพลัง สองดูโชคชะตา เกิดเป็นคนต้องทำให้ดีที่สุด นอกเหนือจากนั้นก็แล้วแต่ฟ้าลิขิต”
เซ่าเฮ่ายิ้ม เวลานี้เขานึกถึงคนผู้หนึ่งขึ้นมาอย่างน่าประหลาด ก็ไม่รู้ว่าอาการบาดเจ็บของเจ้าหมอนั่นฟื้นฟูหรือยัง…
วันนั้นเขานำผู้ที่อยู่ใต้อาณัติทั้งหมดมุ่งหน้าไปยังแดนยอดมรดก
…
“อริยะนำพา ไม่รู้ว่าจะมหัศจรรย์เหมือนที่เล่าลือจริงหรือไม่… ไม่ว่าอย่างไรสิ่งยิ่งใหญ่เช่นนี้ต้องช่วงชิงมาให้ได้”
วันนี้มีคนเห็นเทพธิดารั่วอู่แปลงเป็นรุ้งเพลิงสายหนึ่ง พุ่งออกมาจากสถานที่ปิดด่าน
…
“เจ้าลิง พวกเราควรไปแล้ว”
ราชันเผิงปีกทองน้อยยืดเส้นยืดสายเล็กน้อย ในดวงตาสีทองฉายประกายแสงชวนประหวั่น
หลายปีนี้เขาเก็บงำตนเองมานานเกินไปแล้ว ได้เวลาเผยคมประกายเสียที!
ตูม!
ไม่นานหยวนฝ่าเทียนก็ออกด่าน กลิ่นอายทะลุทะลวงอหังการหยิ่งผยอง “ราชันเผิงน้อย เจ้าว่าหลินสวินนั่นจะเข้าร่วมด้วยไหม”
ราชันเผิงปีกทองน้อยส่ายหัว “ยากนัก จนถึงวันนี้เขาไม่เคยทำการทดสอบกระดานทองคำผู้กล้า เกรงว่าคงเพราะบาดเจ็บหนักเกินไป ถึงขั้นต้องละทิ้งการเคลื่อนไหวครั้งนี้แล้ว”
หยวนฝ่าเทียนชะงัก ถอนหายใจกล่าว “น่าเสียดายเกินไปแล้ว”
ราชันเผิงปีกทองน้อยเยาะหยัน “ข้าว่าในใจเจ้าน่าจะดีใจมากกระมัง ถึงอย่างไรหากเจ้าหมอนี่เข้าร่วมจริง คงนำมาซึ่งแรงกดดันมหาศาลให้กับใครก็ตาม”
“พูดไร้สาระให้น้อยหน่อย รีบไปเถอะ”
หยวนฝ่าเทียนกลอกตาใส่ นำหน้าทลายอากาศไปก่อน
…
แดนวารีอุดร
หน้าศิลาศึกผู้กล้า ผู้แข็งแกร่งคนหนึ่งพุ่งขึ้นไปทางอุโมงค์อากาศที่อยู่ใต้เวิ้งฟ้านั่น
ปึง!
ทว่าจากนั้นเขาก็ถูกพลังไร้รูปหนึ่งซัดจนถอยกลับมา ซวนเซตกลงสู่พื้น สีหน้าเศร้าสลดกล่าว “จริงดังว่า หากชื่อไม่เคยปรากฏอยู่บนกระดานทองคำผู้กล้าก็ไม่อาจเข้าไปในแดนยอดมรดกได้”
เห็นดังนี้ผู้แข็งแกร่งมากมายในที่นั้นทอดถอนใจ สีหน้ามืดมน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์