เทพธิดารั่วอู่อยู่ในชุดกระโปรงสีแดงเพลิง ผิวขาวราวกับหิมะ เงาร่างสูงเพรียวที่โดดเด่นถูกล้อมรอบด้วยเปลงเพลิงอันงดงามและพร่าเลือนมากมาย
นางเป็นทายาทวิหคชาด พรสวรรค์ยอดเยี่ยม น่าทึ่งอย่างที่สุด เป็นผู้กล้าหญิงแห่งยุคที่ผู้คนในแดนเก้าบนจับตามอง ราวกับเทพธิดาอันที่เป็นเคารพของผู้แข็งแกร่งจำนวนนับไม่ถ้วน
อุปนิสัยของนางกลับเย็นชาอย่างมาก ไปมาอย่างอิสระเพียงลำพัง
เพียงแต่ไม่มีใครคาดคิดว่า ตอนนี้นางถึงกับเลือกคู่ต่อสู้ที่ทุกคนคิดไม่ถึง
“สหายยุทธ์หลินสวิน เชิญ”
เทพธิดารั่วอู่ยืนตระหง่านอยู่ในสนามประลอง ไม่สนใจสายตาแปลกประหลาดรอบข้างเลยสักนิด เพียงเคลื่อนนัยน์ตาสุกใสเป็นประกายมองไปทางหลินสวินเพียงผู้เดียว
สายตามากมายก็ล้วนมองไปที่หลินสวิน ต่างอดสงสัยไม่ได้ว่าหรือเทพมารหลินเคยมีเรื่องบาดหมางกับเทพธิดารั่วอู่
มิฉะนั้นเหตุใดนางจึงไม่เลือกคนอื่น แต่เจาะจงเลือกหลินสวิน
นี่เสี่ยงเกินไปแล้ว ไม่ว่าใครที่เลือกหลินสวินเป็นคู่ต่อสู้ เกรงว่าต้องแบกรับแรงกดดันมหาศาล การกระทำเช่นนี้ดูไม่ฉลาดนัก
แต่เทพธิดารั่วอู่ดันทำเช่นนี้ นี่ต่างหากที่ทำให้ทุกคนประหลาดใจและตกตะลึง
“เอ๋ พี่ใหญ่เสน่ห์แรงถึงขั้นนี้แล้วหรือ”
อาหลู่สีหน้าคลุมเครือเต็มประดา
“หึ ข้ายอมรับแค่แม่นางจ้าว พี่สะใภ้ของข้าก็มีเพียงแม่นางจ้าวคนเดียวเท่านั้น”
เจ้าคางคกแค่นเสียงเย็นเยียบ
จ้าวจิ่งเซวียนที่อยู่ข้างๆ หน้าแดง เหลือบมองเจ้าคางคกด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยไอสังหารปราดหนึ่ง หากไม่ใช่เพราะสถานการณ์ไม่เหมาะสม นางก็อยากเตะเจ้าคางคกให้ตายเสียเดี๋ยวนี้
“พวกเจ้าน่ะเด็กเกินไป ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันผู้ชายหลายเมียก็เป็นเรื่องปกติมากมิใช่หรือ ข้าสนับสนุนให้หลินสวินไปโปรยเสน่ห์ ดื่มด่ำความสุขสำราญ นั่นถึงจะเรียกว่าอิสระที่แท้จริง เป็นต้นแบบของคนรุ่นเรา”
นกทมิฬส่ายหน้าไปมา
ปัง!
หลินสวินสะบัดฝ่ามือใส่ศีรษะมัน เจ้าหมอนี่รนหาที่ตายจริงๆ ไม่เห็นหรือว่าสีหน้าของจ้าวจิ่งเซวียนดำมืดเป็นก้นหม้อแล้ว
จากนั้นหลินสวินก็เดินเข้าสนามไป
แม้เขาเองก็ประหลาดใจอยู่บ้าง แต่ย่อมไม่กลัวการต่อสู้
“ข้าอยากดูนักว่าเขาจะไว้ไมตรีหรือไม่”
ด้านหลังเสียงของจ้าวจิ่งเซวียนดังมาด้วยความสงสัย
หลินสวินเพียงรู้สึกเสียวสันหลัง ในใจหัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้ เขากระทำการอย่างตรงไปตรงมา จะกลัวเรื่องพวกนี้ได้อย่างไร!?
พอหลินสวินเข้าสู่สนาม ทุกสายตาต่างหันขวับมาโดยพร้อมเพรียงกัน ในใจเต็มไปด้วยความคาดหวัง
คนหนึ่งคือผู้กล้าหญิงแห่งยุคที่อยู่ในอันดับสองของกระดานทองคำผู้กล้า
อีกคนหนึ่งคือเทพมารไร้พ่ายที่เคยเอาชนะอวิ๋นชิ่งไป๋
ระหว่างทั้งสองจะเกิดการต่อสู้ที่ดุเดือดเพียงใด
“เชิญ”
ในสนามสีหน้าของหลินสวินนิ่งสงบ พลังขับเคลื่อนรอบตัวโคจรออกมา
“ไม่ว่าจะได้รับอริยะนำพาหรือไม่ ได้สู้กับพี่หลินสักสนามก็เป็นความปรารถนาของข้ามาโดยตลอด หวังว่าพี่หลินจะไม่ออมมือ”
ฝั่งตรงข้ามเสียงของเทพธิดารั่วอู่สดใสชัดเจน ดังราวกับเสียงน้ำหยด ก้องอยู่ในสนาม
ผมยาวของนางพลิ้วไหว รูปลักษณ์งดงามไร้ที่ติ ในฐานะทายาทวิหคชาดย่อมมีความสง่าไร้เทียมทานอันเป็นเอกลักษณ์แต่กำเนิด
หลินสวินยิ้มน้อยๆ “ได้”
“แม่นางจ้าวเจ้าดู พี่ใหญ่กับผู้หญิงคนนั้นยักคิ้วหลิ่วตากัน ต่อไปเจ้าต้องคุมให้ดี อย่าให้เขาเหิมเกริมเกินไป!”
เจ้าคางคกรีบพูด
จ้าวจิ่งเซวียนพูดอย่างไม่อภิรมย์ “เจ้ารีบหุบปากซะ!”
“ดูสิ โกรธแล้วใช่ไหม ข้าก็รู้อยู่แล้วว่าเจ้าเองก็ขัดหูขัดตา น่าเสียดาย น้องชายอย่างข้าไม่สามารถไปคุมพี่ใหญ่ได้ มิฉะนั้นต้องออกหน้าแทนเจ้าอย่างแน่นอน”
เจ้าคางคกถอนหายใจกล่าว
จ้าวจิ่งเซวียนรู้สึกเพียงเดือดดาลจนกัดฟัน ถึงขั้นอยากจะบีบเจ้าหมอนี่ให้ตาย การต่อสู้กำลังจะปะทุขึ้นแล้ว ควรหยุดสักครู่ไหม
ในสนามการต่อสู้ปะทุขึ้น
เงาร่างของเทพธิดารั่วอู่คล่องแคล่ว แต่อานุภาพราวกับเพลิงที่ลุกโชน มือหยกเรียวยาวลูบเบาๆ คราหนึ่ง ละอองแสงงดงามก็แปรเปลี่ยนเป็นแส้ยาวเส้นหนึ่งฟาดฟันลงมา
เพี๊ยะ!
ห้วงอากาศดุจกระดาษเปื่อย ระเบิดแหลกละเอียดโดยพลัน ไม่สามารถแบกรับพลังกฎเกณฑ์ของแส้ได้เลยสักนิด
พลังที่แข็งแกร่งรุนแรงอย่างที่สุดนั่นทำให้ผู้แข็งแกร่งไม่น้อยหัวใจเต้นระทึก อดสูดหายใจเย็นเยียบไม่ได้
หลินสวินก้าวขึ้นหน้า ไม่ถอยไม่หลบ กำหมัดเข้าปะทะอย่างจัง
ปัง!
เสียงปะทะสะเทือนหูดังก้องขึ้น ก็เห็นแส้ยาวที่ควบรวมจากวิชามรรค ดุจดั่งสายฟ้าร่ายระบำบ้าคลั่ง ยืดหยุ่นเปล่งประประกายสายนั้น เปลี่ยนเป็นเงาแส้หลายวงมัดตัวหลินสวินเอาไว้ทันใด
ในที่นั้นเกิดเสียงอุทานตกใจดังขึ้นระลอกหนึ่ง
“ไม่เลว!”
กลับเห็นเงาร่างของหลินสวินขยายออก เงาแส้แต่ละวงที่มัดไว้บนตัวพลันระเบิดออกทีละชุ่น ไม่สามารถพันธนาการการเคลื่อนไหวของเขาได้สักนิด
ตูม!
ในเวลาเดียวกันเขาสะบัดหมัดออกไป พลังหมัดกระจายเป็นวงกว้าง เรียบง่ายทรงพลัง เขย่าฟ้าสะเทือนดิน ปั่นป่วนเมฆลม พุ่งคำรามออกไป
ชั่วพริบตาเท่านั้นทั้งสองประลองกันมากกว่าร้อยครั้งแล้ว คนหนึ่งเงาร่างโค้งงอน่าเกรงขามราวกับวิหคชาด พลิ้วไหวอยู่บนเก้าชั้นฟ้า อีกคนหนึ่งดุจเทพมารมาเยือน เยื้องย่างพาดขวาง สำแดงการต่อสู้ชั้นยอด
นอกสนามเสียงอุทานอย่างตกใจดังขึ้นอย่างไม่ขาดสาย เหล่าผู้กล้าต่างจิตใจปั่นป่วน จับตามองอย่างไม่คลาดสายตา กลัวจะพลาดรายละเอียดจุดใดจุดหนึ่ง
แม้แต่บุคคลเช่นองค์ชายเซ่าเฮ่าก็ยังชมการต่อสู้อย่างตั้งใจ
“แม่นางรั่วอู่ หากยังไม่ใช้พลังทั้งหมดอีก การต่อสู้ครั้งนี้เจ้าแพ้แน่”
ในสนามเสียงกังวานของหลินสวินดังขึ้น ก็เห็นทั่วร่างเขาเปล่งแสงอร่าม แสงมรรคไหลเวียน ผมยาวทั้งศีรษะพลิ้วไหว อานุภาพดุจสายรุ้ง ผงาดผยองอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
แม้เคยเห็นท่าทางตอนหลินสวินสังหารอวิ๋นชิ่งไป๋แล้ว แต่ตอนนี้พอเห็นเขาโจมตีอีกครั้ง ก็ยังคงทำให้เหล่าผู้กล้าในที่นั้นรู้สึกตะลึงและใจสั่นอย่างที่สุด
ต้องยอมรับว่าเทพมารหลินแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ แล้ว!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์