เบื้องหน้าเขาพินิจมรรค
ขณะที่จ้าวซิงเย่พาพวกหลินสวินมาถึง ก็เห็นว่ามีคนรออยู่ตรงนั้นตั้งแต่ต้นแล้ว
เป็นกำลังคนของพันธมิตรหมื่นเผ่า
ผู้นำก็คือหนิวเจิ้นอวี่ อริยะที่เป็นผู้ควบคุมดูแลพันธมิตรหมื่นเผ่า เงาร่างของเขาสูงใหญ่ ผมเผ้าหนวดเคราดั่งทวน ผิวหนังดำคล้ำ นัยน์ตาประหนึ่งสายฟ้า อานุภาพชวนสยองอย่างถึงที่สุด
ข้างกายหนิวเจิ้นอวี่มีเงาร่างสิบสายยืนอยู่ มีทั้งชายหญิง ล้วนมีบุคลิกไม่ธรรมดา กลิ่นอายโดดเด่น แต่ละคนล้วนแข็งแกร่งยิ่ง
ตอนที่เห็นพวกหลินสวินมาถึง ทันใดนั้นในลานก็เกิดเสียงแค่นหัวเราะดังขึ้นระลอกหนึ่ง
“ในที่สุดพวกขี้แพ้ก็มาสักที ไม่รู้ว่าครั้งนี้พวกเขาเตรียมตัวถูกฆ่ามาหรือยัง”
“ฮ่าๆ ใครคือหลี่ตู๋สิง ฟังไว้ให้ดี ครั้งนี้ข้าเสวียนหลัวจื่อจะตัดหัวเจ้าให้ได้!”
ในน้ำเสียงแฝงกลิ่นอายเย้ยหยันและดูถูก ถากถางและกดข่มผู้แข็งแกร่งจากค่ายจักรวรรดิอย่างไม่เกรงใจ
ทุกคนต่างรู้ดีว่านี่คือการยั่วโทสะ แต่ก็ยังอดฉุนเฉียวไม่ได้อยู่ดี
“พูดเหลวไหลมากซะจริง ล้างคอให้สะอาดรอดูแล้วกัน ใครกลัวใครกันแน่”
พวกสืออวี่ตะโกนลั่น
“ครั้งนี้จะต้องแก้แค้นล้างอายให้ได้!”
ผู้แข็งแกร่งจักรวรรดิส่วนหนึ่งต่างตาแดงก่ำ
ในศึกถกมรรคเขาพินิจมรรคก่อนหน้านี้ ฝ่ายจักรวรรดิมีพวกชั้นยอดมากมายที่ตายไปพร้อมความแค้นในศึกนองเลือดแห่งนี้
ในอดีตมีความอัปยศอดสูและไม่จำยอมมากเกินไป ไม่ว่าใครที่รู้เรื่องในอดีตล้วนไม่มีใครไม่ปวดใจ ไม่มีไม่เก็บกลั้นเพลิงโทสะเอาไว้
ครั้งนี้พวกเขาจะชะล้างรอยเลือดและความเกลียดชัง แก้แค้นให้ได้!
ต่อให้เป็นหลินสวินก็ยังคิดไม่ถึงว่าเพิ่งมาถึงหมาดๆ บรรยากาศก็เปลี่ยนเป็นตึงเครียดปานนี้ ราวกับศัตรูที่พบกันบนทางแคบ แต่ละคนต่างอดไม่ไหวอยากฆ่าอีกฝ่ายให้ตายไปเสีย
ด้วยเหตุนี้ก็สื่อให้เห็นว่าในศึกถกมรรคเขาพินิจมรรคที่ผ่านมา ความเคียดแค้นที่ผูกพยาบาทระหว่างฝ่ายจักรวรรดิและพันธมิตรหมื่นเผ่านั้นยิ่งใหญ่ปานใด
เมื่อเห็นผู้แข็งแกร่งฝ่ายจักรวรรดิถูกยั่วโทสะจนมีสภาพเช่นนี้ ยอดฝีมือฝ่ายพันธมิตรหมื่นเผ่าต่างไม่มีใครไม่ระเบิดหัวเราะลั่นขึ้นมา ปราศจากความเกรงกลัว รู้สึกมั่นใจหายห่วง
แต่ไม่นานก็มีคนร้องตกใจแกมสงสัยขึ้น “เห! เจ้าหมอนั่นคือหลินเสวียนไม่ใช่หรือ”
พร้อมๆ กับเสียงนั้น สายตาประหนึ่งอสนีสายหนึ่งก็มองมายังหลินสวิน
นั่นคือชายหนุ่มคนหนึ่ง เขามีผมยาวสีฟ้าคราม รูปร่างสูงยาวกำยำ ทั่วร่างไหลเวียนด้วยพยับหมอกสีฟ้าที่เหมือนภาพฝันมายา บุคลิกกลับเฉียบคมราวกับหอกยาวสะท้านโลกเล่มหนึ่ง หมายจะเสียบทะลวงเวิ้งฟ้า!
ทายาทเผ่าเต่าทมิฬ เสวียนหลัวจื่อ!
พวกสืออวี่ต่างพากันอึ้งงัน พวกเขาย่อมรู้จักเสวียนหลัวจื่อกันอยู่แล้ว เป็นถึงพวกสะท้านโลกคนหนึ่งของฝ่ายพันธมิตรหมื่นเผ่า ครองห้าอันดับแรกในกระดานพลังต่อสู้หมื่นเผ่า กร้าวแกร่งอย่างที่สุด
ในศึกถกมรรคที่ผ่านมา ฝ่ายจักรวรรดิเคยมีพวกชั้นนำไม่น้อยที่ตายใต้เงื้อมมือเสวียนหลัวจื่อ!
สิ่งที่ทำให้พวกสืออวี่ข้องใจคือ เหตุใดเขาถึงเรียกหลินสวินว่าหลินเสวียน คงไม่ได้จำคนผิดหรอกกระมัง
“หลินเสวียน? เป็นเขาจริงๆ ด้วย!”
ทันใดนั้นเสียงกึกก้องประหนึ่งฟ้าคำรามสายหนึ่งก็ดังกระหึ่มกลางฟ้าดิน
คนที่พูดเป็นชายหนุ่มชุดดำคนหนึ่ง รูปร่างของเขาสูงใหญ่ล่ำสันราวกับภูเขาตระหง่าน พลุ่งพล่านด้วยแสงทมิฬน่าสะพรึงดั่งกระแสน้ำเชี่ยว หว่างคิ้วเต็มไปด้วยกลิ่นอายเผด็จการแสนเหยียดหยัน นัยน์ตามีประกายเย็นเยียบ วางท่าเหิมเกริมประหนึ่งเหนือฟ้าใต้ปฐพีมีเพียงข้าที่ยิ่งใหญ่
ทายาทเผ่าวัวมารทรงพลัง หนิวทุนเทียน!
พวกชั้นยอดในพันธมิตรหมื่นเผ่า ชื่อเสียงอำมหิตเกรียงไกร
เพียงแต่สายตาที่เขามองหลินสวินกลับเจือแววแปลกประหลาดวูบหนึ่ง จากนั้นก็ถูกแทนที่ด้วยความเคียดแค้น
“หลินเสวียน คิดไม่ถึงว่าพวกเราจะได้เจอกันอีก”
ทายาทเผ่าหงส์หิรัณย์ เมิ่งเหลียนชิง!
เงาร่างอรชรสูงเพรียวของนางดั่งภาพฝันมายา ทั่วร่างทอแสงทองเปล่งประกาย ประหนึ่งทองคำกำลังไหลเวียน เจิดจรัสบาดตา
ในความเลือนรางเหมือนจะมองเห็นคล้ายว่าข้างหลังนางมีหงส์ทองตัวหนึ่งกำลังร่ายรำอยู่กลางฟ้า หมายจะประชันความสูงกับท้องฟ้า
ขณะพูดกลางนัยน์ตาที่นางทอดมองทางหลินสวินก็เจือกลิ่นอายเยียบเย็น
ฝั่งค่ายจักรวรรดิต่างพากันฉงนสนเท่ห์หาใดเปรียบ รู้สึกมืดแปดด้าน หลินสวินกลายเป็นหลินเสวียนตามที่คนต่างเผ่าพวกนั้นพูดตั้งแต่เมื่อไรกัน
“มาก็ดี แค้นในปีนั้นก็จะได้ถึงคราวจบสิ้นกันเสียที!”
บุตรเทพเผ่าโหว่เมฆา ข่งซิ่ว
ประกายอสนีตัดผ่านกลางนัยน์ตาเขา สยดสยองหาใดเปรียบ บนผมยาวสีดำนุ่มสลวยทั่วศีรษะรายล้อมด้วยประจุสายฟ้าสีเงินที่เดี๋ยวสว่างเดี๋ยวดับสายแล้วสายเล่า ส่องสะท้อนจนเขาเป็นเหมือนเทพที่อาบประกายสายฟ้ามาเกิด
ทุกคนยิ่งนึกสงสัยมากขึ้นเรื่อยๆ
แม้แต่ฝ่ายพันธมิตรหมื่นเผ่าก็ยังเหมือนประหลาดใจมาก
ขณะนี้สายตาทุกคู่ล้วนมองทางไปหลินสวินคนเดียว แม้แต่ราชินีกระหายเลือดจ้าวซิงเย่ หนิวเจิ้นอวี่ยังรู้สึกข้องใจอยู่เนืองๆ
“เจ้ารู้จักพวกเขาหรือ” สืออวี่อดถามขึ้นมาไม่ได้
“พวกขี้แพ้ มีหรือข้าจะไม่รู้จัก”
หลินสวินสีหน้าราบเรียบ ประโยคเดียวก็ทำให้ทั่วลานฮือฮา
แต่สิ่งที่เขาพูดก็คือเรื่องจริง!
สมัยยังเยาว์วัย เขาเคยเข้าไปในแดนลับอสูรมารอริยะในแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ พร้อมกับจ้าวจิ่งเซวียนและกลุ่มผู้สืบทอดแดนศักดิ์สิทธิ์สมบัติวิญญาณ
และตอนนั้น เพื่อจะแย่งชิง ‘วิชาอริยะยุทธ์’ ที่อยู่ในตำหนักแห่งคีรีดวงกมล หลินสวินประสบกับการปิดล้อมโจมตีจากพวกหนิวทุนเทียน เมิ่งเหลียนชิง เสวียนหลัวจื่อ ข่งซิ่ว
ท้ายที่สุดวิชาอริยะยุทธ์ก็ถูกหลินสวินครอบครอง และพวกหนิวทุนเทียนถูกหลินสวินซัดพ่ายแพ้ทั้งหมด!
ทว่าขนาดหลินสวินเองยังคิดไม่ถึง ว่าเวลาผ่านไปตั้งนานหลายปีเช่นนี้ จะถึงกับได้พบศัตรูเก่าเหล่านี้ในสมรภูมิกระหายเลือดได้
พวกขี้แพ้!
พวกสืออวี่ต่างพากันสูดหายใจ
ในช่วงสิบกว่าปีในสมรภูมิกระหายเลือดแห่งนี้ พวกเขาต่างรู้ดีว่าพลังต่อสู้ของพวกหนิวทุนเทียนแข็งแกร่งปานใด
แต่หลินสวินกลับเรียกพวกเขาว่าพวกขี้แพ้!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์