Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1454

พรวดๆๆ!

ค้างคาวอาฆาตวิญญาณเลือดขนาดประมาณหินโม่มากมายระเบิดเป็นเสี่ยงๆ เปลี่ยนเป็นหมอกสีเลือดกระจายออกมา

ร่างหลินสวินราวกับเหล็กหมาดเล่มหนึ่ง ก้าวบนเส้นทางลำเลียงกระดูกขาวนั่น เพราะเป็นการพุ่งสังหาร ไม่ถึงกับไว แต่ไม่ช้าแน่

ถึงอย่างไรค้างคาวอาฆาตวิญญาณเลือดเหล่านั้นก็ไม่ธรรมดา ความแข็งแกร่งของพลังต่อสู้ถึงขั้นเทียบกับหนิวทุนเทียนและเมิ่งเหลียนชิงได้

หลินสวินคนเดียวเผชิญกับการล้อมโจมตีและสามารถสังหารเส้นทางเลือดออกมาเส้นหนึ่งได้ ภาพนี้หากเหล่าผู้แข็งแกร่งค่ายจักรวรรดิเห็นเข้า คงตะลึงอย่างต่อเนื่องอีกแน่

สวบๆๆ…

เพียงแต่สิ่งที่หลินสวินคิดไม่ถึงคือ พอเขาก้าวขึ้นเส้นทางลำเลียงกระดูกขาวและพุ่งไปข้างหน้า ในหมอกสีเทาเหนือทางลำเลียงนั่น ค้างคาวอาฆาตวิญญาณเลือดนับร้อยพันพุ่งออกมาอีกครั้ง

และพุ่งมาไม่ขาดสาย!

ภาพนั้นราวกับคลื่นสัตว์ปะทุ ฟ้าดินเต็มไปด้วยเสียงร้องแหลมอย่างที่สุด กึกก้องสะเทือนหู

สิ่งมีชีวิตพวกนี้ถนัดโจมตีด้วยเสียงอยู่แล้ว

และตอนนี้เมื่อกรีดร้องโจมตีพร้อมกัน หากเป็นผู้แข็งแกร่งคนอื่นคงต้านทานไม่ไหวตั้งนานแล้ว

แต่หลินสวินไม่ถอยแม้แต่ก้าวเดียว

ฮูม…

รอบตัวเขาปราณกระบี่ไท่เสวียนหนาแน่นพุ่งออกมา สว่างไสวราวกับรุ้งศักดิ์สิทธิ์ชั้นยอด เปลี่ยนเป็นค่ายกลกระบี่สังหารพิฆาตนรกและโคจรโดยพลัน

ชั่วขณะเดียวมีค้างคาวอาฆาตวิญญาณเลือดหลายสิบตัวถูกสังหารอย่างไร้ปรานี!

คาวเลือดเข้มข้น พรั่งพรูอย่างต่อเนื่องประหนึ่งน้ำตก สถานการณ์น่าทึ่งอย่างที่สุด

แต่สีหน้าของหลินสวินนิ่งสงบ ไม่เคยหยุดมือตั้งแต่ต้นจนจบ

ดาบหักที่ขาวเจิดจ้าราวกับหิมะโฉบผ่านอากาศ ถูกจิตรับรู้ควบคุม สำแดงหกกระบวนเฉือนวัฏจักรฟ้า ดุร้ายรุนแรงหาที่เทียบไม่ได้ ไอสังหารตะลึงฟ้า

รอบตัวเขาแสงมรรคเก้าพิสุทธิ์เปลี่ยนเป็นหุบเหวใหญ่ นอกจากเป็นวิธีป้องกันที่เรียกได้ว่าน่ากลัวแล้ว ยังเป็นไม้ตายที่กำราบคู่ต่อสู้

ส่วนปราณกระบี่ไท่เสวียนเปลี่ยนเป็นค่ายกลกระบี่เปิดทางอยู่ด้านหน้า ปราณกระบี่สุกสกาวตัดสลับไปมา บุกขึ้นหน้าอย่างง่ายดายตลอดทาง

ยามนี้พลังหลอมจิต หลอมกายและหลอมปราณของหลินสวินโคจรพร้อมกัน ระเบิดอานุภาพออกมา เพียงพอจะทำให้อริยะตะลึง

จากจุดนี้สามารถดูออกว่าการโจมตีของค้างคาวอาฆาตวิญญาณเลือดเหล่านี้แข็งแกร่งเพียงใด มิฉะนั้นไม่มีทางบีบให้หลินสวินต้องต่อสู้เต็มกำลังแน่

ครู่หนึ่งหลังจากนั้น

หลินสวินได้สังหารมาถึงจุดสิ้นสุดของเส้นทางลำเลียงกระดูกขาว นั่นเป็นกำแพงหน้าผาของภูเขาที่สูงตระหง่านลูกหนึ่ง ระหว่างกำแพงหน้าผาเปิดช่องว่างช่องหนึ่ง ทำให้คนสามารถลอดไปได้

เห็นเช่นนี้หลินสวินพลันพุ่งไปอย่างไม่ลังเล

แม้เขาไม่กลัวค้างคาวอาฆาตวิญญาณเลือดเหล่านั้น แต่จำนวนของสัตว์ประหลาดพวกนี้มากเกินไป ราวกับฆ่าไม่หมด ทำให้อดหงุดหงิดไม่ได้

ตูม!

แต่ยังไม่ทันที่หลินสวินจะก้าวไปอีกฝั่งของเส้นทางลำเลียงกระดูกขาว ค้อนกระดูกขาวด้ามหนึ่งพลันพุ่งออกจากช่องว่างกำแพงหน้าผา ทุบมาทางหลินสวินอย่างแรง

ไวเกินไปแล้ว!

การโจมตีนี้เหมือนเตรียมการมานาน รอเพียงหลินสวินปรากฏตัว

อีกอย่างกลิ่นอายที่แผ่ออกจากค้อนกระดูกขาวก็ยิ่งใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ อานุภาพแข็งแกร่งอย่างที่สุด

ในช่วงเวลาอันตรายที่สุดนี้ แผ่นหลังของหลินสวินปรากฏปีกผลาญเทพสีดำสนิทคู่หนึ่ง เงาร่างพริบไหวหลบการโจมตีนี้ได้อย่างหวุดหวิด

ในเวลาเดียวกัน ในที่สุดหลินสวินก็เห็นผู้ลงมือชัดแล้ว…

พ่อมดอริยะโลหิตทมิฬ!

เงาร่างผอมซูบของเขาราวกับเงามืด ยืนอยู่บนทางเดินกำแพงหน้าผานั่น สีหน้าเย็นชา

“เป็นเฒ่าสารเลวอย่างเจ้าอีกแล้ว!”

หลินสวินสีหน้าทะมึน

เมื่อไม่นานมานี้ในศึกถกมรรคบนเขาพินิจมรรค เขาเคยถูกพ่อมดอริยะโลหิตทมิฬตามฆ่า มีหรือจะจำเจ้าเฒ่าสารเลวคนนี้ไม่ได้

“ส่งปีกที่อยู่บนหลังเจ้ามาแล้วข้าจะปล่อยเจ้าไป”

พ่อมดอริยะโลหิตทมิฬสีหน้าเย็นเยียบ ประกายศักดิ์สิทธิ์ที่น่ากลัววับวาบในดวงตา

หลินสวินนึกขึ้นได้ว่าก่อนจะมาที่นี่ เขาเคยได้ยินเสียงร้องแหลมสูงระลอกหนึ่ง

เห็นได้ชัดว่าตอนที่พ่อมดอริยะโลหิตทมิฬข้ามเส้นทางลำเลียงกระดูกขาวนี่ ก็เคยถูกค้างคาวอาฆาตวิญญาณเลือดโจมตีเช่นกัน

“เฒ่าสารเลว เจ้าบาดเจ็บสาหัสจำต้องหนีมาที่นี่แล้ว กลับยังมีเฝ้านึกถึงสมบัติของข้า ทะเยอทะยานจริงๆ”

หลินสวินยิ้มเยาะ

ตูม โครม โครม!

เพิ่งจะสิ้นเสียงค้างคาวอาฆาตวิญญาณเลือดฝูงหนึ่งก็พุ่งเข้ามาหาหลินสวิน ทำให้เขาไม่อาจสนใจอย่างอื่น จำต้องเปิดการต่อสู้

เห็นเช่นนี้พ่อมดอริยะโลหิตทมิฬก็อดหัวเราะเยาะไม่ได้ “เจ้าตัวน้อย คนตายเพราะทรัพย์ นกตายเพราะอาหาร เจ้าจนตรอกแล้ว ยังไม่ยอมมอบสมบัติสักชิ้นออกมาหรือ”

มีคนหนุนหลังจึงไม่เกรงกลัว

เพราะเขาเคยสำรวจที่แห่งนี้แล้ว รู้ดีว่าขอเพียงแค่ยังอยู่บนเส้นทางลำเลียงกระดูกขาว หลินสวินก็จะถูกค้างคาวอาฆาตวิญญาณเลือดโจมตีอย่างต่อเนื่อง

และทางออกเดียวที่มีตอนนี้ก็ถูกเขาควบคุมแล้ว!

ด้านหลังพ่อมดอริยะโลหิตทมิฬมีชายหญิงคู่หนึ่ง หน้าตาผู้ชายหล่อเหลา ผิวขาวกระจ่าง ทั้งร่างอยู่ในเงามืดชั้นหนึ่ง

ส่วนร่างของผู้หญิงแผ่กลิ่นอายสว่างไสวออกมารอบๆ ใบหน้าหยกงดงามไร้ที่ติ สง่างามน่าเกรงขาม ราวกับเทพธิดาองค์หนึ่ง

พวกเขาก็คืออัจฉริยะพ่อมดเถื่อนที่มีสมาญนามว่า ‘คู่แฝดรุ่งรัตติกาล’

“เป็นเขาหรือที่ฆ่าพวกหนิวทุนเทียน เมิ่งเหลียนชิง”

ชายคนนั้นอ้าปาก เขานามว่าอั้นหลิงเจิน ในดวงตาที่มองมาทางหลินสวินแฝงความรังเกียจ

“แน่นอนว่าเป็นเขา ยังไม่บรรลุอริยะก็สามารถบุกผ่านเส้นทางลำเลียงกระดูกขาวโดยลำพัง พลังต่อสู้น่ากลัวมากจริงๆ”

ดวงตาเย็นเยียบของผู้หญิงวูบไหว นางนามว่ากวงฝู่ชิง

“ใต้เท้าพ่อมดอริยะ รีบฆ่าเขาเถอะ จะให้เขามีชีวิตรอดไม่ได้!”

อั้นหลิงเจินสีหน้ามืดทะมึน จากตัวหลินสวินทำให้เขาสัมผัสได้ถึงภัยคุกคามอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ทำเอาเขารู้สึกใจสั่น

“ดี!”

พ่อมดอริยะโลหิตทมิฬพยักหน้า เสียงวู้มดังขึ้นคราหนึ่ง ค้อนกระดูกขาวโฉบขึ้นอีกครั้ง พุ่งไปทางหลินสวิน

ตูม!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์