เมื่อเห็นท่าทางไม่เกรงกลัวเช่นนั้นของพ่อมดอริยะโลหิตทมิฬ หนิวเจิ้นอวี่ก็ยิ้มอย่างโมโหโกรธาถึงขีดสุด “เสียแขนไปข้างหนึ่งแล้วอย่างไร เจ้านึกว่าข้าจะฆ่าไอ้แก่อย่างเจ้าไม่ได้หรือ”
พ่อมดอริยะโลหิตทมิฬสีหน้าไร้อารมณ์ “อยากพ่ายแพ้บาดเจ็บกันทั้งคู่หรือ ได้ ก็เข้ามาสิ”
ตูม!
แสงดำน่าหวาดหวั่นผุดขึ้นจากร่างหนิวเจิ้นอวี่โดยพลัน พุ่งทะลุเมฆา พลานุภาพน่าครั่นคร้าม
แทบจะในขณะเดียวกัน แสงสีโลหิตแถบแล้วแถบเล่าไหลวนรอบเงาร่างผอมซูบของพ่อมดอริยะโลหิตทมิฬ สำแดงเป็นกฎเกณฑ์อริยมรรคไหลเคลื่อนขึ้นลงเหมือนกระแสน้ำ
ครืนๆๆ!
ฟ้าดินถูกกดทับ ห้วงอากาศสั่นสะเทือน เกิดเป็นเสียงโครมครามดังลั่นจนหูแทบดับ
อริยะแท้สองคน แม้ต่างได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่พลานุภาพที่แผ่ออกมายังน่ากลัวดังเดิม
หนิวทุนเทียนกับอั้นหลิงเจินและกวงฝู่ชิงหน้าเปลี่ยนสี ตกตะลึงไม่ว่างเว้น ถอยหลบไปด้านหลัง
“ฆ่า!”
“ตายเสียเถอะ!”
แทบจะในขณะเดียวกัน หนิวเจิ้นอวี่กับพ่อมดอริยะโลหิตทมิฬถลาขึ้นไป
เพียงแต่ที่เหนือความคาดหมายก็คือ ระหว่างที่ทั้งสองกำลังตั้งท่า เงาร่างก็พลันพริบไหว สำแดงวิชาเคลื่อนย้ายผ่านอากาศหายลับไป
ครู่ต่อมา ทั้งสองถึงกับมาปรากฏตัวบริเวณที่หลินสวินซ่อนอยู่ก่อนหน้านี้
ตูม!
หนิวเจิ้นอวี่ใช้ฝ่ามือตบลงไปครั้งหนึ่งโดยไม่ลังเล อานุภาพมหาศาล ทำให้ห้วงอากาศยุบตัว พลังอริยมรรคเหมือนภูเขาถล่มสมุทรคำราม
ด้านพ่อมดอริยะโลหิตทมิฬเรียกค้อนกระดูกขาวออกมาแปรสภาพเป็นแสงขาวสายหนึ่ง ทุบโจมตีออกไปอย่างแรง อหังการแกร่งกล้าถึงที่สุด
ทั้งหมดนี้ดูกะทันหันนัก ตั้งแต่ทั้งสองขัดแย้งกันจนเกิดไอสังหาร จวบจนลงมือ ตั้งแต่เริ่มจนจบไม่ถึงชั่วพริบตาเท่านั้น รวดเร็วจนเหลือเชื่อ
ทว่าพวกเขาไม่ได้เข่นฆ่ากันเอง กลับเข้าจู่โจมหลินสวินด้วยกัน!
เห็นได้ชัดว่าก่อนหน้านี้อริยะแท้ทั้งสองสัมผัสได้ถึงการมีอยู่ของหลินสวินอย่างชัดเจน เปลือกนอกแสร้งทำเป็นไม่รู้ แต่ความจริงลอบสื่อสารกันไว้ก่อนแล้ว
ส่วนที่ทั้งสองโต้เถียงและขัดแย้งกันเมื่อกี้ ก็ย่อมเป็นการเล่นละครเท่านั้น ถือเป็นจริงเป็นจังไม่ได้!
ครืน!
ฟ้าถลมผืนดินแยก สุริยันจันทราอับแสง
การโจมตีที่อริยะสองคนสะสมไว้นานแล้วจะธรรมดาได้หรือ
ก็พบว่าพื้นที่รัศมีพันลี้เหมือนยุบตัวพังพินาศ แสงอริยะน่ากลัวไหลปั่นป่วนม้วนตลบ ประกายที่สามารถทำให้คนทั้งโลกหนาวเหน็บในใจฉายวาบ
“นี่…”
พวกหนิวทุนเทียนกับอั้นหลิงเจินต่างตกตะลึง ตอนนี้ถึงได้รู้ว่าสถานการณ์ไม่ชอบมาพากล ไม่ใช่อริยะทั้งสองต้องการเข่นฆ่ากันเอง แต่เป็นเพราะต้องการต่อกรคู่ต่อสู้อื่น!
เพียงแต่คู่ต่อสู้คนนั้นเป็นใคร
พวกเขาเก็บกลั้นความตื่นตระหนกในใจแล้วมองไปที่นั่น
ในขณะเดียวกันหนิวเจิ้นอวี่กับพ่อมดอริยะโลหิตทมิฬต่างหน้าเปลี่ยนสี การโจมตีที่พวกเขาร่วมมือกันอย่างแข็งขันกลับคว้าน้ำเหลว!
นี่ทำให้พวกเขาต่างทำใจเชื่อได้ยาก
“เดรัจฉานเฒ่า ในเมื่อข้ากล้าเข้ามาใกล้ คิดจริงๆ หรือว่าข้าจะมาหาที่ตาย”
ไกลออกไปเสียงหัวเราะเย้ยหยันเสียงหนึ่งดังขึ้น ก็เห็นว่าเงาร่างสูงโปร่งของหลินสวินปรากฏกลางฝุ่นธุลี เสื้อผ้าทั้งตัวโบกพลิ้วไปตามลม ไม่แปดเปื้อนแม้ฝุ่นควัน
เบื้องหลังเขา ประกายราวมายาไหววูบจากปีกผลาญเทพสีดำขมุกขมัวคู่หนึ่ง
ก่อนหน้านี้ก็เพราะอาศัยพลังของปีกผลาญเทพ ทำให้เขาหลบออกมาจากการโจมตีที่ลอบวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ได้อย่างปลอดภัย
“หลินสวิน!”
พวกหนิวทุนเทียน อั้นหลิงเจินและกวงฝู่ชิงต่างร้องตะลึงเสียงหลง ทำใจเชื่อได้ยาก ล้วนคิดไม่ถึงว่าเป้าหมายที่อริยะทั้งสองต้องการสังหารจะเป็นเขาเสียได้!
ผู้อยู่ต่ำกว่าระดับอริยะล้วนเหมือนมดตัวจ้อย แต่ตอนนี้กลับมีอริยะสองคนร่วมกันลงมือ วางแผนและสังหารมดตัวหนึ่ง นี่ย่อมน่าประหลาดใจยิ่งนัก
สีหน้าของหนิวเจิ้นอวี่กับพ่อมดอริยะโลหิตทมิฬต่างเคร่งเครียด
ก่อนหน้านี้พ่อมดอริยะโลหิตทมิฬก็บอกหนิวเจิ้นอวี่อย่างลับๆ ว่าแม้หลินสวินจะเป็นมด แต่จะดูเบาไม่ได้แม้แต่นิดเดียว ในมือครอบครองสมบัติที่สามารถคุกคามอริยะได้อยู่
ดังนั้นหนิวเจิ้นอวี่จึงเลือกร่วมมือกับพ่อมดอริยะโลหิตทมิฬ เข้าต่อกรกับชายหนุ่มที่เหมือนมดปลวกในสายตาเขาอย่างหลินสวิน
เดิมทีหนิวเจิ้นอวี่ยังคิดว่าทำเกินกว่าเหตุ แต่ตอนนี้หนิวเจิ้นอวี่กลับพบว่าเขาคิดผิดแล้ว ผิดมหันต์เสียด้วย
การโจมตีสังหารเด็ดขาดที่อริยะสองคนวางแผนเอาไว้ถูกหลบได้ นี่เป็นเรื่องที่มดปลวกธรรมดาตัวหนึ่งทำได้หรือ
“เจ้าเดาได้ก่อนว่าพวกเราจะลงมือหรือ”
พ่อมดอริยะโลหิตทมิฬยังคงทำใจเชื่อได้ยาก หน้าตาไม่น่าดูยิ่งนัก
“ไม่ได้เดาได้ แต่ข้าแน่ใจว่าด้วยพลังปราณของข้า ย่อมไม่อาจปิดบังการสัมผัสของอริยะแท้สองคนได้แน่ ทว่าเดรัจฉานเฒ่าอย่างพวกเจ้าสองคนดันตลกเป็นบ้า ยังตั้งใจเล่นละครทำเป็นไม่รู้อีก พวกเจ้าเป็นถึงอริยะแท้ ไม่รู้สึกว่าลงมือด้วยวิธีนี้น่าอายหรือ”
หลินสวินเอ่ยเหยียดหยาม
ใช่แล้ว เขาแน่ใจแต่แรกว่าเมื่อตนเข้าประชิด ต่อให้ใช้ไอซวนหนีบดบังกลิ่นอายทั้งตัวไว้ ก็ปิดหูปิดตาของอริยะไม่ได้สักนิด
ดังนั้นตอนที่ดูละครตบตาของหนิวเจิ้นอวี่กับพ่อมดอริยะโลหิตทมิฬจึงรู้สึกน่าขันนัก ขณะเดียวกันในใจก็ระแวดระวังอยู่นานแล้ว
เพราะฉะนั้นจึงอาศัยพลังของปีกผลาญเทพหลบการร่วมมือจู่โจมของอริยะทั้งสองได้อย่างปลอดภัยทันที
เมื่อได้ยินวาจาเหยียดหยามไม่มีปิดบังสักนิดของหลินสวิน สีหน้าของหนิวเจิ้นอวี่กับพ่อมดอริยะโลหิตทมิฬก็ยิ่งย่ำแย่ยิ่งขึ้น บูดเขียวด้วยความโกรธหาใดเทียบ
ถูกมดปลวกตัวหนึ่งหลบพ้นก็น่าอับอาย ทำให้พวกเขาเสียหน้ามากพอแล้ว ตอนนี้ยังถูกเหน็บแนมและเยาะเย้ยเช่นนี้อีก จะทำให้พวกเขาไม่โกรธได้อย่างไร
“เฮอะ ฝีปากคมนัก สวะตัวจ้อยอย่างเจ้ายังคิดว่าคราวนี้จะหนีพ้นหรือ”
พ่อมดอริยะโลหิตทมิฬเสียงน่าสะพรึงกลัว ไอสังหารแผ่พุ่ง พลังขับเคลื่อนทั้งตัวประหนึ่งดาบแหลมคมเล่มหนึ่ง เพ่งเป้าไปยังหลินสวินซึ่งอยู่ไกลออกไปแน่วนิ่ง
หลินสวินไม่ได้หนี ถึงกับเหมือนมองทะลุความคิดของพ่อมดอริยะโลหิตทมิฬได้ เอ่ยเสียงเรียบเฉยว่า “ไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลง เดรัจฉานเฒ่าอย่างเจ้าก็ไม่จำเป็นต้องกังวล คราวนี้ข้าจะไม่ใช้ขวดที่ทำให้เจ้าว้าวุ่นใบนั้น และจะไม่อาศัยความช่วยเหลือจากใครด้วย”
พ่อมดอริยะโลหิตทมิฬอึ้งไป คล้ายทำใจเชื่อได้ยาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์