เผ่าผึ้งมารลายดำ!
แวบเดียวหลินสวินก็ตัดสินที่มาของผึ้งสีดำที่ดูไม่สะดุดตาอย่างมากตัวนั้นได้แล้ว
ฉัวะ!
แทบจะในเวลาเดียวกัน ดาบหักพลันโฉบออกมาและเฉือนสังหารออกไป
“เจ้าหนีไม่พ้นหรอก”
ไม่ได้เหนือความคาดหมาย ผึ้งมารลายดำตัวนั้นถูกฆ่า ร่างกายถูกบดขยี้แหลกละเอียด ก่อนตายสัตว์ร้ายตัวนี้ยังทิ้งคำพูดเย็นเยียบไว้ประโยคหนึ่ง
หลินสวินไม่ได้หยุด จากไปด้วยความเร็วเต็มที่
ก่อนจะมาสมรภูมิเก้าดินแดน เขาก็ได้รู้สถานการณ์โดยคร่าวๆ ของอีกแปดดินแดนแล้ว และรู้ดีถึงความรับมือยากของเผ่าผึ้งมารลายดำ
เผ่านี้มีตาประกอบแปลกประหลาดสามสิบหกคู่ สามารถมองทะลุการอำพรางและมายาลวง มีพรสวรรค์ไล่ล่าแต่กำเนิด
หากถูกพวกเขาจับจ้องเข้า แม้แต่อริยะก็ดิ้นไม่หลุด
หลินสวินไม่อยากถูกจับจ้องเอาตอนนี้ เช่นนั้นจะต้องเป็นฝ่ายถูกกระทำเกินไป
“แม้เป้าหมายหนีไปได้ แต่ข้าได้จับกลิ่นอายของเขาได้แล้ว”
ไม่นานเด็กหนุ่มที่คลุมชุดนกกระเรียนสีทองที่ผมราวกับหิมะปรากฏตัว กลิ่นอายที่แผ่ออกมาน่าสะพรึงกลัวอย่างที่สุด
บนไหล่เขาเผ่าผึ้งมารลายดำขนาดราวนิ้วหัวแม่มือตัวหนึ่งเกาะอยู่ ผู้พูดก็คือเผ่าผึ้งมารลายดำตัวหนึ่ง
เด็กหนุ่มเสื้อคลุมนกกระเรียนสีทองพยักหน้า เงาร่างพริบไหว พลันเคลื่อนย้ายไป
ไม่นานก็มีเงาร่างกลุ่มหนึ่งปรากฏขึ้น มีทั้งชายและหญิง แต่ละคนสีหน้าเหี้ยมโหด ผู้นำก็คือผู้แข็งแกร่งขอบเขตมกุฎระดับอมตะเคราะห์ด่านเก้า
“อยู่ทางนั้น!”
คนที่ชี้ทางให้พวกเขาก็เป็นผึ้งมารลายดำตัวหนึ่ง
“ไป!”
คนทั้งกลุ่มเคลื่อนไหวทันที
ภาพเช่นเดียวกันนี้เกิดขึ้นในพื้นที่แตกต่างกัน
มีลูกหลานเผ่าผึ้งมารลายดำนำทาง ทำให้เหล่าผู้แข็งแกร่งที่มาช่วยเหลือไม่ต้องค้นหาไปทั่วเหมือนแมลงวันอีกต่อไป มีความสามารถที่จะตามล่าเป้าหมายแล้ว
……
ตูม!
เวลาหนึ่งก้านธูปหลังจากนั้น หลินสวินถูกผู้แข็งแกร่งกลุ่มหนึ่งขวางทาง และเกิดการเข่นฆ่าขึ้นทันที
หลินสวินเด็ดขาดชัดเจน เรียกดาบหักออกมา ในเวลาเดียวกันก็สำแดงปราณกระบี่ไท่เสวียน ปราณกระบี่และประกายแหลมคมที่สว่างไสวม้วนตัวออกไป
ครู่หนึ่งหลังจากนั้น
หลินสวินทะลวงอากาศจากไป
ส่วนบริเวณนั้นหลงเหลือศพและคาวเลือดเต็มพื้น
การปะทะอย่างกะทันหันครั้งนี้ มกุฎราชันระดับอมตะเคราะห์ด่านแปดเจ็ดคน และผู้แข็งแกร่งทั่วไประดับอมตะเคราะห์ด่านเก้าสิบสี่คนถูกฆ่า
และเป็นการต่อสู้ครั้งนี้ที่ทำให้หลินสวินตระหนักได้ว่า ในดินแดนอื่นๆ ไม่ใช่ทุกคนจะสามารถก้าวสู่มกุฎมรรคาได้
คิดๆ แล้วก็ถูก
ผู้แข็งแกร่งที่อยู่ในแดนมกุฎในปีนั้นมีนับล้าน แต่คนที่สามารถเข้าสู่แดนเก้าบนกลับไม่ถึงหนึ่งในสิบ
เช่นเดียวกัน ในแดนเก้าบนคนที่สามารถเหยียบย่างขอบเขตมกุฎก็แค่กลุ่มหนึ่งเท่านั้น คนอื่นๆ แม้มีโอกาสทะลวงระดับมกุฎราชัน แต่ถ้าข้ามด่านเคราะห์ล้มเหลวก็ไม่สามารถคว้าโอกาสไว้ได้!
ในอีกแปดดินแดน มกุฎมรรคาอาจจะดำรงอยู่มาโดยตลอดไม่เคยขาด แต่มรรคาระดับนี้ใช่ว่าใครจะก้าวเข้าไปง่ายๆ ได้
ลองคิดถึงหลินสวิน คิดถึงพวกองค์ชายเซ่าเฮ่า เทพธิดารั่วอู่ ผู้แข็งแกร่งที่เหยียบขอบเขตมกุฎคนใดบ้างที่ไม่ได้ผ่านการเคี่ยวกรำและการแสวงหามามากมาย
……
หนึ่งชั่วยามหลังจากนั้น
หลินสวินถูกขวางอีกครั้ง ครั้งนี้คู่ต่อสู้คือเด็กหนุ่มชุดเสื้อคลุมนกกระเรียนสีทองคนหนึ่ง บุคคลขอบเขตมกุฎระดับอมตะเคราะห์ด่านเก้า!
ตอนที่ตัดสินเรื่องนี้ออกมา หลินสวินมีเพียงความคิดเดียว โจมตีสังหารอีกฝ่ายเต็มกำลัง จะเสียเวลาไม่ได้เด็ดขาด เพราะหากถูกรั้งไว้ความวุ่นวายจะไม่จบสิ้นแน่
ในเวลาเดียวกันเด็กหนุ่มชุดคลุมนกกระเรียนสีทองคนนั้นราวกับเผชิญศัตรูใหญ่ เขาสังเกตเห็นว่าคู่ต่อสู้ดินแดนรกร้างโบราณคนนี้ไม่ธรรมดา
แต่เขาไม่ได้กลัวมากนัก ตรงกันข้าม เขาคิดว่าด้วยพลังของตนบางทีอาจไม่สามารถสังหารอีกฝ่ายได้ในเวลาอันสั้น แต่หากอยากจะรั้งอีกฝ่ายเอาไว้กลับเป็นเรื่องที่ง่ายมาก
เพราะฉะนั้นต่อให้ยังไม่เคยลงมือ เขาก็ได้ตัดสินใจได้แล้วว่าแค่รักษาตัวรอดไว้ก็พอ
แต่พอลงมือจริงๆ เด็กหนุ่มชุดคลุมกระเรียนสีทองจึงรู้ว่าคู่ต่อสู้ในครั้งนี้น่ากลัวเพียงใด!
ตูม!
เงาร่างของหลินสวินพลันพุ่งออกมา เริ่มจากหนึ่งดรรชนีที่สั่งสมอานุภาพวสันต์สารทชั่วพริบตา ซัดเด็กหนุ่มชุดคลุมนกกระเรียนสีทองเซถอยไป ในปากกระอักเลือด จากนั้นร่างกายซัดปราณกระบี่ไท่เสวียนที่สว่างไสวออกมา ปกคลุมร่างของอีกฝ่ายไว้โดยตรง
ทว่าเด็กหนุ่มชุดคลุมกระเรียนสีทองเองก็ร้ายกาจอย่างที่สุด ฝืนสู้กับอันตรายของการถูกแหกอกเปิดท้อง เรียกดาบศึกสีดำสมบัติอริยะในมือออกมาเล่มหนึ่ง ฟันใส่หลินสวิน
หลินสวินไม่ถอยไม่หนี ฝ่ามือกำหมัด เสียงตูมดังขึ้นคราหนึ่ง กระแทกจนดาบศึกสีดำนั่นร้องครวญ ถลาถอยออกไป
และตอนนี้หลินสวินทะลวงมาถึงตรงหน้าแล้ว ฝ่ามือหนึ่งกดลงล ประทับปี้อั้นที่แทรกด้วยพลังมรรคดับดารากลืนกินควบรวมออกมา กระแทกใส่ร่างเด็กหนุ่มชุดคลุมกระเรียนสีทองอย่างแรง
เดิมทีเด็กหนุ่มคนนี้ก็ถูกปราณกระบี่ไท่เสวียนแทงบาดเจ็บแล้ว ยามไม่ทันตั้งตัวยังถูกซัดดาบศึกสีดำปลิวออกไปอีก จึงตระหนักได้ถึงอันตรายตั้งนานแล้ว กำลังคิดจะถอยหนี แต่ไม่คิดว่าการกระทำของหลินสวินจะรุนแรงและเผด็จการขนาดนี้ ไม่ให้โอกาสเขาพักหายใจเลยจริงๆ
นี่มันตัววิปริตอะไรกันเนี่ย
แม้แต่เด็กหนุ่มชุดคลุมกระเรียนสีทองยังเกือบปลิวออกไป หากเขารู้แต่แรกว่าคู่ต่อสู้ที่ตามล่าครั้งนี้จะดุร้ายและน่ากลัวขนาดนี้ เขาจะไม่มายุ่งเกี่ยวด้วยเด็ดขาด
เดิมทีในมือเขายังมีไพ่ไม้ตายอีกจำนวนหนึ่ง
แต่ประเด็นคือ การรุกโจมตีของหลินสวินรุนแรงเกินไป ไม่ให้โอกาสเขาโต้ตอบสักนิด
พลาดเพียงก้าวเดียวก็ถูกกำราบทุกย่างก้าวอย่างแท้จริง!
ตูม!
ประทับปี้อั้นทะลวงกดข่มลงมา กดร่างเด็กหนุ่มชุดคลุมกระเรียนสีทองจนระเบิดโดยตรง เปลี่ยนเป็นกองโคลนเต็มพื้น สลายทั้งกายเนื้อและจิตวิญญาณ
ทว่าตั้งแต่หลินสวินลงมือจนถึงตอนนี้ ก็เพียงแค่หนึ่งชั่วลมหายใจเท่านั้น ตั้งแต่ต้นจนจบเผด็จการแข็งกร้าวอย่างยิ่ง
บางทีในสายตาคนอื่น บุคคลขอบเขตมกุฎระดับอมตะเคราะห์ด่านเก้าอาจจะน่ากลัวพอแล้ว แต่ในสายตาหลินสวินตอนนี้ ก็เพียงเท่านี้!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์