ฟุ่บ!
เงาร่างของหลินสวินลอยล่องลงสู่พื้น สายตากวาดมองซากศพของติงซานเหอ เมื่อแน่ใจว่าอีกฝ่ายตายสนิทจึงผ่อนลมหายใจออกมายาวๆ
ก่อนหน้านี้เขาเคยสังหารอริยะไม่ใช่แค่ครั้งเดียว แต่เกือบทั้งหมดล้วนเป็นการพึ่งพาพลังภายนอก
อย่างการใช้พลังของ ‘จิตสถูปปลิดชีพ’ มาสังหารเหล่าอริยะที่นอกเมืองหม่อนหิมะ
มีเพียงตอนนี้ที่เขาได้ใช้พลังของตนสังหารอริยะ!
ไม่ว่าจะเป็นหญิงสาวชุดแดงที่ฆ่าไปในตอนต้น หรือจะเป็นพวกอริยะอย่างติงซานเหอก็ล้วนเป็นเช่นนี้!
โดยเฉพาะยามสังหารติงซานเหอ ถึงแม้จะมีเสี่ยวอิ๋นและผีเสื้อมารแยกฟ้าคอยช่วย แต่หลินสวินก็ไม่ได้ใช้อภินิหารหยุดเวลา กลับจู่โจมสังหารในการต่อสู้ซึ่งหน้าอย่างแข็งกร้าว
และด้วยเหตุนี้ ค่าตอบแทนที่หลินสวินต้องจ่ายก็เป็นแค่การบาดเจ็บหนักเท่านั้น
ไม่จำเป็นต้องสงสัยเลยว่าเมื่อผลงานการต่อสู้นี้เปิดเผย จะต้องชักนำคลื่นลมใหญ่เป็นแน่!
ถึงอย่างไรตั้งแต่โบราณมา ไม่ใช่แค่ในดินแดนรกร้างโบราณ ต่อให้อยู่ในแปดดินแดนอื่น ผู้แข็งแกร่งที่สามารถใช้พลังปราณระดับอมตะเคราะห์ข้ามระดับมาสังหารอริยะได้เหมือนหลินสวินคงแทบจะหาไม่พบ
ถ้าจะพูดให้ถูกคือ เรื่องที่สะเทือนใต้หล้านี้ก็เหมือนตำนานที่เป็นไปไม่ได้อย่างหนึ่ง
“ยินดีด้วยขอรับนายท่าน”
เสี่ยวอิ๋นพุ่งเข้ามาจากจุดที่ห่างออกไป สีหน้าเจือความเคารพนับถือ
ขณะกล่าวเขายกมือเหวี่ยงเฟิงผิงจื่อกลิ้งลงไปกองกับพื้น ในการต่อสู้ก่อนหน้านี้ เสี่ยวอิ๋นฉวยโอกาสจับตัวอีกฝ่ายไว้นานแล้ว
“นายท่าน ควรจัดการอย่างไรดีขอรับ” เสี่ยวอิ๋นถาม
ฟุ่บ!
คำตอบของหลินสวินนั้นง่ายมาก เงื้อดาบฟาดฟัน สังหารอีกฝ่ายจนจิตสิ้นวิญญาณสลาย
ก่อนหน้านี้หากไม่ใช่เจ้าเฟิงผิงจื่อที่มาจากเผ่าผึ้งมารลายดำนี่นำทาง เขามีหรือจะถูกตามฆ่าถึงขั้นนี้
หลังจากนั้นหลินสวินเริ่มจัดการกับทรัพย์หลังศึก
การสังหารพวกติงซานเหอ ทำให้หลินสวินรวบรวมสมบัติอริยะได้หลายชิ้น และมีสมบัติล้ำค่าอย่างลูกกลอนโอสถ เจตวัตถุอีกบางส่วน
หากอยู่ในสายตาคนอื่น ทรัพย์หลังศึกเช่นนี้เรียกได้ว่าน่าตื่นตาตื่นใจ
แต่สำหรับหลินสวินในตอนนี้ก็ไม่เท่าไร
กลับเป็นชะตามรรคและผลงานรบที่ได้มาจากการล่าอริยะหลายคนที่ทำให้หลินสวินพอใจยิ่งนัก
“นายท่าน ตอนนี้อันตรายถูกกำจัดไปหมดแล้ว พวกเราจะจากไปเลยหรือไม่ พวกเราสังหารอริยะไปมากเช่นนี้จะต้องปิดบังไม่อยู่แน่ ถ้าดึงให้มกุฎอริยะมาลงมือ เช่นนั้นก็คงยุ่งยากแล้ว”
เสี่ยวอิ๋นกล่าว
หลินสวินใคร่ครวญครู่หนึ่งก็กล่าว “ช่วงนี้พวกเราไม่รู้เรื่องอะไรที่เกิดขึ้นในโลกภายนอก สามารถฉวยโอกาสนี้มาทำความเข้าใจสักหน่อย”
แดนลับวังใต้ดินยังมีการเคี่ยวกรำและบททดสอบไม่น้อย ทั้งผีเสื้อมารแยกฟ้ายังต้องดูดกลืนพลังของซากศพอสูรอริยะอากาศนั่นด้วย
หลินสวินตัดสินใจแล้วว่าจะให้แดนลับวังใต้ดินเป็น ‘จุดพัก’ ที่ใช้หลบพิบัติเคราะห์ ถ้าเจอกับอันตรายที่ไม่อาจคลี่คลายได้อีกก็จะกลับมาที่แดนลับวังใต้ดิน
“ทางนั้น!”
ทันใดนั้นเสียงตะโกนโหวกเหวกดังขึ้นแต่ไกล
ไม่นานเงาร่างมากมายก็ปรากฏ มีผู้แข็งแกร่งของเผ่างูมารทองคำ และมีบุคคลร้ายกาจของเผ่าอื่นในดินแดนโบราณมารโลหิตบางส่วน
มีมากนับร้อยคน
พวกเขาต่างได้รับข่าวจากเฟิงผิงจื่อก่อนหน้านี้ จึงมาที่นี่ตามคำสั่ง
แต่เมื่อมาถึงและได้เห็นสภาพนองเลือดไปทั่วหัวระแหง แต่ละคนก็เบิกตากว้าง เผยสีหน้าตระหนก
ในข่าวที่พวกเขาเข้าใจ เหยื่อที่มีชื่อว่าหลินสวินนั้นถูกอริยะหลายคนปิดล้อมอยู่ที่นี่
ไหนเลยจะคิดว่าเมื่อมาถึงนี่กลับเห็นภาพน่าสยดสยองเช่นนี้ได้
บนพื้นดินมีซากศพหลายร่าง มีแอ่งโลหิตนอง พื้นดินใกล้เคียงยังทรุดตัวแตกระแหง เป็นภาพที่เต็มไปด้วยความเกลื่อนกลาดระเนระนาดและพังทลาย
“สวรรค์! เป็นใต้เท้าติงซานเหอ เขา… เขาประสบเคราะห์แล้ว!”
มีคนร้องเสียงหลง ก่อให้เกิดความแตกตื่นในที่นั้นทันที
“แม้แต่ใต้เท้าจี้ชิ่งก็ตายแล้ว นี่เป็นไปได้อย่างไร”
ไม่นานจี้ชิ่งก็ถูกคนพบศพ ผู้แข็งแกร่งแต่ละเผ่าที่กลุ้มรุมกันมาพวกนั้น แต่ละคนสีหน้าแปรเปลี่ยนยกใหญ่ เหงื่อกาฬเย็นเยียบไปทั้งตัวราวกับถูกฟ้าผ่า
เป้าหมายยังไม่บรรลุอริยะไม่ใช่หรือ แต่ทำไมอริยะพวกนี้ถึงประสบเคราะห์ได้เล่า
“เป็นเจ้าหมอนั่น!”
ในชั่วขณะหนึ่งสายตามากมายต่างมองไปยังหลินสวินที่กำลังนั่งสมาธิห่างออกไปพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
เสื้อผ้าเขาเปื้อนเลือด ผมเผ้าสยายยุ่ง บนร่างเต็มไปด้วยบาดแผล ดูแล้วน่าอนาถเป็นอย่างยิ่ง
“เป็นฝีมือเขาจริงรึ”
ผู้คนมากมายสีหน้าปรวนแปรไม่หยุด ไม่กล้าเชื่ออย่างสิ้นเชิง การตายของพวกติงซานเหอจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับบุคคลขอบเขตมกุฎระดับอมตะเคราะห์ที่ท่าทางดูน่าอนาถคนนี้หรือ
“ทำไมข้าถึงรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดแปลกไปอยู่บ้างเล่า”
มีคนกล่าวเสียงสั่นเครือ
“คิดเรื่องพวกนี้ไปทำไม สังหารเจ้าเด็กนั่นก่อน ดูไม่ออกรึว่าเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส!”
มีคนก้าวออกมา นัยน์ตาฉายแววดุดัน
ตึง!
น้ำเสียงเพิ่งแผ่วลง ร่างของคนผู้นี้พลันล้มพับลงไปกองกับพื้น ดวงตาเบิกกว้าง แต่จิตวิญญาณของเขาถูกลบหายไปแล้ว
ทุกคนแข็งทื่อไปทั้งตัวในชั่วขณะเดียว พากันหลบหลีกตามจิตใต้สำนึก
ผิดแปลกเกินไปแล้ว!
บนสนามรบนองเลือด ภาพที่อริยะถูกสังหารเดิมทีก็ทำให้ผู้คนพรั่นพรึง รู้สึกคาดไม่ถึงอยู่แล้ว
แต่ตอนนี้ถึงกับมีคนตายคาที่กะทันหันเพราะประโยคเดียว
บรรยากาศที่น่ากลัวเช่นนี้ทำเอาทุกคน ณ ที่นั้นสั่นสะท้าน แต่ละคนต่างตกใจจนจิตวิญญาณสั่นระรัว สัมผัสได้ถึงความหนาวเย็นเสียดกระดูก
เวลานี้หลินสวินยืนขึ้นมา แม้ร่างกายเขาจะเปื้อนเลือด ผมเผ้ายุ่งเหยิง แต่นัยน์ตาดำยังล้ำลึก สีหน้าราบเรียบ มีความน่าเกรงขามที่ยากจะบรรยาย
“ไม่มีอริยะนำทางก็กล้ามาที่นี่ ไม่กลัวประสบเคราะห์หรือ”
หลินสวินเอ่ยปาก
“ใช้อุบายลวงคน พวกเราจะฆ่าเจ้าเสียตอนนี้!”
เสียงหวีดร้อง คำราม ก่นด่าด้วยความเกรี้ยวกราดและสิ้นหวัง ก้องสะท้อนอยู่กลางฟ้าดินอย่างต่อเนื่อง
แต่ไม่ว่าพวกเขาจะร้องโหยหวนอย่างไร ตั้งแต่ต้นจนจบหลินสวินก็ไม่สงสารแม้แต่น้อย สีหน้าเยียบเย็นไม่มีคลื่นอารมณ์แม้เศษเสี้ยว
นี่คือหนี้เลือด ไม่จำเป็นต้องสงสารแม้แต่น้อย!
ในสมรภูมิเก้าดินแดนนี้ หลินสวินได้เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าถ้าอยากจะรอดต่อไปก็จำเป็นต้องใจแข็งเหมือนเหล็ก สังหารอย่างไร้ปรานี
มีบางคนหนีไปได้ แต่ระหว่างทางก็ยังถูกเสี่ยวอิ๋นและผีเสื้อมารแยกฟ้าร่วมมือกันปลิดชีพอย่างไร้สุ้มเสียง
บ้างร้องขอความเมตตา แต่แน่นอนว่าเปล่าประโยชน์ ถูกสังหารอย่างหมดจดชัดเจน
หลังผ่านไปครู่หนึ่ง
ในสนามรบนองเลือดนี้ก็มีซากศพหลายสิบกองอยู่
อีกทั้งเหตุการณ์นองเลือดนี้ยังคงแสดงอย่างต่อเนื่อง
ผู้แข็งแกร่งบางส่วนหนีเข้าไปในป่าหลอมจิต แต่หลินสวินก็ตามหลังพวกเขาไปติดๆ อาศัยความเร็วที่เทียบได้กับการเคลื่อนย้ายของปีกผลาญเทพ ทำให้หลินสวินคร่าชีวิตไปได้ไม่รู้เท่าไหร่ตลอดทาง
“บังอาจ!”
ทันใดนั้นเสียงตวาดเดือดดาลราวฟ้าคำรามดังก้องขึ้น ชายวัยกลางคนเสื้อผ้าหรูหราทองอร่ามไปทั้งตัวคนหนึ่ง มีลักษณะพลังของระดับอริยะแผ่กระจาย พุ่งวาบมากลางอากาศ
นี่ทำให้คนไม่น้อยเผยสีหน้ายินดี คิดว่าใกล้จะได้รับความช่วยเหลือ
แต่ยังไม่รอให้ชายวัยกลางคนชุดหรูคนนั้นเข้าใกล้ ก็เห็นเขาส่งเสียงหวีดร้องอย่างเจ็บปวดหาใดเปรียบทันที สองมือกุมขมับ ร่วงลงมาจากกลางอากาศ
เป็นเสี่ยวอิ๋นและผีเสื้อมารแยกฟ้าออกโจมตีพร้อมกัน!
หากเป็นติงซานเหอ แน่นอนว่าคงไม่มีทางโง่จนไม่ป้องกันตัวเอง ด้วยเขารับรู้ถึงความผิดแปลกและน่ากลัวของพวกเสี่ยวอิ๋นยามสังหารจี้ชิ่งและอริยะสองคนมาก่อนแล้ว
ที่น่าเสียดายคือชายวัยกลางคนขี้โมโหนี้ดันด่วนเข้ามาช่วย ด้วยความที่ไม่รู้อะไรจึงถูกโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัวทันที
ฟุ่บ!
ดาบหักตัดผ่านอากาศ ไม่รอให้ชายวัยกลางคนชุดหรูได้ตอบสนองก็ตัดหัวเขาแล้ว
ผู้แข็งแกร่งที่เผยสีหน้าปิติยินดีเหล่านั้นต่างพังทลายไปทั้งอย่างนั้นในชั่วขณะเดียว อริยะแท้คนหนึ่งเชียวนะ! แต่เพียงพริบตาก็ถูกสังหารไปแล้ว!?
ใครจะกล้าเชื่อ
“เผ่นโว้ย!”
“รีบหนีเร็ว เจ้าหมอนั่นคือมารร้าย ไม่ น่ากลัวยิ่งกว่ามารร้ายเสียอีก!”
เสียงคำรามลนลานและหวาดกลัวต่างๆ ดังขึ้นในป่าหลอมจิตอย่างต่อเนื่อง
ส่วนหลินสวินก็ยังไล่ตามต่อไป
ตอนแรกเขาถูกศัตรูพวกนั้นตามฆ่าทุกวิถีทาง แต่ตอนนี้กลับเปลี่ยนเป็นเขาที่โจมตีกลับแล้ว!
ในป่าหลอมจิตที่กว้างใหญ่นั้น บรรยากาศที่เดิมเงียบสงัดถูกทำลายลง ผู้แข็งแกร่งคนอื่นๆ ที่เดิมทีกระจายตัวอยู่ในป่าล้วนถูกทำให้ตกใจ พากันหยุดการเคลื่อนไหว
แต่ไม่รอให้พวกเขาได้รู้สถานการณ์แน่ชัด การสังหารจากหลินสวินก็มาเยือน!
ครั้งนี้หลินสวินคิดจะก่อเรื่องให้เต็มที่ จากนั้นค่อยหาโอกาสจากไป มิฉะนั้นเขาคงไม่อาจระงับความชิงชังในใจที่สะสมมานานนี้ลงได้!
…………………….
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์