ตอนที่ 1544 อานุภาพของเขาดุจเทพ – ตอนที่ต้องอ่านของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์
ตอนนี้ของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายกำลังภายในทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 1544 อานุภาพของเขาดุจเทพ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
เสียงของรั่วอู่ราบเรียบง่ายดาย ราวกับว่านางกำลังพูดถึงเรื่องปกติที่สุดเรื่องหนึ่ง
แต่เมื่อเข้าหูทุกคนในดินแดนรกร้างโบราณ ล้วนอดอึ้งไปไม่ได้ ตั้งแต่เมื่อใดกัน นี่เทพธิดารั่วอู่หมายถึงอะไร
นางคิดว่าหลินสวินคนเดียวสามารถสยบศัตรูทั้งหมดได้เชียวหรือ
แม้แต่เซ่าเฮ่าก็ยังตกตะลึง หลินสวินคนเดียว… ไหวหรือ
แต่คำนี้เข้าหูมกุฎอริยะแปดดินแดน กลับกลายเป็นการยั่วโทสะและดูถูกครั้งใหญ่ ทำให้พวกเขาหัวเราะด้วยความโกรธ
ผู้หญิงคนนี้ ฝีปากกล้าอะไรเยี่ยงนี้!
“เฮอะ เดิมทีแค่อยากจะฆ่าปลาใหญ่ตัวหนึ่ง แต่ไม่คิดว่าจะล่อเพิ่มได้อีกสองตัว สามารถตุ๋นรวมในหม้อเดียวได้เลย”
มีคนเยาะเย้ย
“ข้าจะให้เจ้านั่นตายซะ!”
ชายดุร้ายที่มีเคราสีแดงสีหน้าอึมครึม ก่อนหน้านี้ภายใต้สถานการณ์ไม่ทันตั้งตัว ก็ถูกนิ้วเดียวของหลินสวินซัดสะเทือนกระเด็นกลางอากาศ ทำให้เขารู้สึกขายหน้า สีหน้าล้วนวางไม่อยู่เล็กน้อย
“ไม่ใช่แค่เจ้าหนุ่มนั่น คราวนี้พวกเขาล้วนหนีไม่พ้น”
มีคนเอ่ยแก้ด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ มองพวกหลินสวินเป็นเหยื่อ ต้องการจับรวบทั้งหมด
สิ่งนี้ทำให้หัวใจของผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างโบราณหนักอค้ง ได้สติจากความตื่นเต้นฮึกเหิมในคราแรกขึ้นมาไม่น้อย
ตอนนี้เซ่าเฮ่าได้รับบาดเจ็บสาหัส แม้ว่าจะมีหลินสวินและรั่วอู่มาช่วย แต่เมื่อเทียบกับมกุฎอริยะสิบกว่าคนของอีกฝ่ายก็ยังห่างไกลกันมากโข!
“พี่หลิน พวกเจ้ามาทันเวลาพอดี อีกเดี๋ยวเจ้าพาสหายดินแดนรกร้างโบราณของพวกเราออกไปพร้อมกัน ที่เหลือมอบให้ข้าก็พอ”
เซ่าเฮ่าสูดหายใจเข้าลึกๆ พูดอย่างเด็ดขาด
ไม่ว่าจะเป็นหลินสวินหรือรั่วอู่ พลังต่อสู้ย่อมแข็งแกร่งอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ท้ายที่สุดก็แค่สองคน เขาไม่อยากให้หลินสวินและรั่วอู่มาสู้สุดชีวิตด้วยกันที่นี่หรอก
ถ้าเกิดระดับผู้นำทั้งหมดล่มสลาย ค่ายทัพดินแดนรกร้างโบราณก็จบอย่างสมบูรณ์แล้ว!
‘หากเจ้ารู้ผลงานการต่อสู้ในโลกมารโลหิตของเจ้าหมอนี่ คงจะไม่พูดเช่นนี้เด็ดขาด’
สีหน้าของรั่วอู่แปลกพิกล สื่อจิตเอ่ยเตือนเซ่าเฮ่า ให้เขารอชมปาหี่ก็พอแล้ว
เซ่าเฮ่าเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่เห็นว่ารั่วอู่มั่นใจขนาดนั้นเขาก็ได้แต่เชื่อไปก่อน ในใจตั้งมั่นไว้แล้วว่าหากสถานการณ์ไม่เข้าที อย่างมากก็แค่เอาชีวิตเข้าเสี่ยง อย่างไรก็ไม่ยอมให้เรื่องที่ทั้งค่ายทัพดับสลายเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
“พวกเจ้าก็ไม่รู้หรือว่าเขาเป็นใคร”
และเวลานี้ รั่วอู่ก็ทอดสายตามองไปทางมกุฎอริยะเหล่านั้นอีกครั้ง
สัตว์ประหลาดเฒ่าพวกนั้นต่างอึ้งไป ในช่วงที่ผ่านมานี้พวกเขาเอาแต่ไล่ล่าและล้อมจับเซ่าเฮ่า ย่อมไม่มีทางรู้เรื่องอื่นที่เกิดขึ้นในสมรภูมิเก้าดินแดน
“แค่เจ้าหนุ่มที่เหยียบย่างระดับมกุฎอริยะเท่านั้นแหละ ยังจะเป็นใครได้อีก”
สัตว์ประหลาดเฒ่าคนหนึ่งหัวเราะเยาะหยัน
คนอื่นๆ ต่างก็หัวเราะเสียงเย็นไม่สิ้นเช่นกัน ยังคิดจะข่มขวัญพวกเขาอยู่หรือ คนหนุ่มสาวดินแดนรกร้างโบราณพวกนี้ช่างไร้เดียงสาน่าขันซะจริง
เห็นเช่นนี้รั่วอู่ก็มั่นใจชัด ว่าเจ้าเฒ่าพวกนี้ไม่รู้วีรกรรมที่หลินสวินสร้างไว้ในโลกมารโลหิตจริงๆ นัยน์ตาสุกใสอดฉายแววเวทนาขึ้นมาไม่ได้
“พี่ใหญ่ เจ้ามั่นใจแค่ไหนกันแน่”
เจ้าคางคกอดเอ่ยถามไม่ได้
“แค่ฆ่าเฒ่าเดรัจฉานกลุ่มหนึ่งเท่านั้น ง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือ”
หลินสวินกล่าวง่ายๆ
ประโยคเดียวราวหินทลายฟ้าสะเทือน ทำเอาพวกเซ่าเฮ่าล้วนตาค้าง จนป่านนี้แล้วเทพมารหลินยังคงเผด็จการทานทน บารมีเต็มเปี่ยมเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน!
มกุฎอริยะจากแปดดินแดนอื่นก็โกรธจัดจนหัวเราะออกมาเช่นกัน เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้พบชายหนุ่มที่บ้าระห่ำเช่นนี้
คิดจริงๆ หรือว่าบรรลุมกุฎอริยะแล้วจะสามารถไม่เกรงกลัวสิ่งใดได้
“ข้าสังหารเจ้ามารผจญนี่ก่อนแล้วกัน!”
ชายวัยกลางคนที่ผมเคราประหนึ่งลุกโชนคนนั้นสาวเท้าก้าวออกไปหนึ่งก้าว ทันใดนั้นก็มาหยุดอยู่เบื้องหน้าหลินสวิน กำฝ่ามือดั่งค้อน แสงเรืองศักดิสิทธิ์เจิดจ้า ซัดออกไปสนั่นหวั่นไหว
หมัดเดียวสะเทือนเทพผี!
รากฐานพลังและอานุภาพของมกุฎอริยะคนหนึ่ง ปลดปล่อยอย่างเต็มเม็ดเต็มเหนี่ยวในหมัดนี้
ในใจเซ่าเฮ่ายังอดบีบรัดไม่ได้
ส่วนคนอื่นล้วนไม่อาจตอบสนองได้สักนิด สาเหตุไม่ใช่อื่นใด เพราะความเร็วที่ชายวัยกลางคนผู้นี้ลงมือฉับไวเกินไป!
มีเพียงรั่วอู่ที่สีหน้าเรียบนิ่งไม่ไหวติงตั้งแต่ต้นจนจบ
เกือบจะในเวลาเดียวกัน หลินสวินเองก็ลงมือ นิ้วมือกำเป็นหมัด ใช้พลังหลอมกายผสานพลังหลอมปราณและหลอมจิต ไตรมรรครวมเป็นหนึ่ง ทั้งหมดล้วนรวมอยู่ในหมัดเดียว
ตูม!
ท่ามกลางเสียงกระแทกสะเทือนจวนหูจะหนวก พลังหมัดของชายวัยกลางคนอาจหาญแตกระเบิดเป็นชิ้นๆ ราวกระดาษเปื่อย แขนขวาของเขาก็แตกระเบิดตามไปด้วย เลือดเนื้อกระเด็นกระจาย
เขาตกใจยกใหญ่ หัวใจสยองวาบ ไหนเลยจะคาดคิดว่าเพิ่งประมือกันครั้งแรกเท่านั้น ตนถึงกับไม่ใช่คู่ต่อสู้อย่างสิ้นเชิงเชียวหรือ
แทบจะโดยสัญชาตญาณ เขาข่มความเจ็บเบี่ยงหลบ
เพียงแต่พลังหมัดของหลินสวินน่าสะพรึงปานใด ไม่ยอมปล่อยให้เขาหลบเลี่ยงสักนิด ซัดสาดออกไปอย่างจัง ประหนึ่งเขาถล่มคลื่นยักษ์โหยครวญ ประทุเดือนในชั่วพริบตา
ปึง!
ครู่ต่อมา แผงอกของชายวัยกลางคนผู้นี้ยุบตัว พลังพิทักษ์กายทั่วร่างล้วนแตกกระจาย ถูกโจมตีลอยคว้างออกไปตรงๆ อวัยวะภายในทั้งหมดล้วนได้รับบาดเจ็บ ทรุดลงกับพื้นเสียงดังครืด ฝุ่นควันคละคลุ้ง
การโจมตีเดียว ราบเรียบง่ายดาย ทำร้ายมกุฎอริยะคนหนึ่งเจ็บหนัก!
บรรยากาศในลานเงียบสนิทแปลกพิกล
พวกเจ้าคางคกล้วนตาแข็งค้าง หัวใจสะท้าน ร้ายกาจเกินไปแล้วกระมัง
เซ่าเฮ่ายังอดสูดหายใจเย็นเฮือกหนึ่งไม่ได้
ส่วนมกุฎอริยะจากแปดดินแดนเหล่านั้น แต่ละคนล้วนหน้าเปลี่ยนสี รอยยิ้มเย็นบนใบหน้าค้างเติ่ง จิตใจสั่นไหว
อานุภาพหมัดเดียวถึงกับแข็งแกร่งเช่นนี้เชียวหรือ
เมื่อมองดูหลินสวินอีกครั้ง สายตาของพวกเขาเจือแววตกใจแกมสงสัยและเคร่งขรึม เจ้านี่โผล่มาจากที่ไหนกัน
ตอนที่ร่างของเขาร่วงลงพื้น ร่างกายก็ถึงกับกระตุกเกร็งอย่างควบคุมไม่อยู่ คล้ายลมบ้าหมูกำเริบ นั่นเป็นเพราะพลังในปราณกระบี่ไท่เสวียนเผด็จการเกินไป รุกเข้าร่างกายของเขา กำลังทำร้ายภายในกายเขา และทำให้เขาบาดเจ็บสาหัส
ภาพเหตุการณ์นี้ทำเอาทั่วลานสะท้านสะเทือนอีกครั้ง ไม่มีใครไม่ละสายตา ไม่มีใครไม่สยดสยอง!
ครั้งแล้วครั้งเล่า พลังที่หลินสวินสำแดงออกมา โจมตีและสั่นคลอนความรู้ความเข้าใจของพวกเขา นี่คือสิ่งที่ใครต่างก็คิดไม่ถึง
มกุฎอริยะทั้งกลุ่มจากแปดดินแดน เวลานี้เหมือนเผชิญหน้ากับศัตรูตัวฉกาจ สีหน้าเคร่มขรึมถึงขีดสุด โง่แค่ไหนก็ยังตระหนักได้ว่าชายหนุ่มตรงหน้าผู้นี้ไม่ใช่คนที่ตอแยด้วยได้!
ส่วนเซ่าเฮ่าในที่สุดก็เข้าใจ ว่าความมั่นใจที่รั่วอู่มีต่อหลินสวินก่อนหน้านี้มาจากไหน ชั่วขณะหนึ่งเขาเองก็ทอดถอนใจไม่หายเช่นกัน
เจ้าหมอนี่ สมกับเป็นคนเดียวที่ทำให้ตนไม่อยากยอมแพ้ที่สุด และไม่อาจไม่เลื่อมใสจริงๆ!
ส่วนพวกเจ้าคางคก…
ล้วนจิตหลุดอย่างสิ้นเชิง หัวสมองมึนตื้อ
มกุฎอริยะน่ากลัวปานใด เพียงพอจะทำให้พวกเขาคนใดก็ตามสิ้นหวัง แต่เมื่ออยู่ภายใต้ฝ่ามือหลินสวิน กลับเห็นได้ชัดว่าไม่เท่าไหร่!
แล้วหลินสวินในตอนนี้ แข็งแกร่งขนาดไหนกัน
“ลงมือพร้อมกัน!”
ในลานมีคนตะโกนลั่น ตระหนักถึงความไม่เข้าที หมายจะรวมพลังบุกโจมตี
กลับเห็นริมฝีปากหลินสวินฉายแววเยาะหยัน “พวกโง่กลุ่มหนึ่ง ควรเป็นเช่นนี้แต่แรกแล้ว”
เสียงยังไม่ทันสิ้นสุด บนร่างที่สูงโปร่งผอมเพรียวของเขาผุดเผยแสงมรรคเจิดจ้าลุกโชนออกมา ไพศาลดุจไร้ขอบเขต โชติช่วงดั่งอาทิตย์แสงจ้า
และอานุภาพของเขา เวลานี้ก็ปั่นป่วนเมฆลมแปดทิศ ทำให้ห้วงอากาศพันลี้ต่างร้องโหยหวน!
“ถอยเร็ว!”
รั่วอู่และเซ่าเฮ่าแทบจะพาพวกเจ้าคางคกถอยหลบออกไปไกลๆ ตั้งแต่จังหวะแรก การต่อสู้แห่งยุคระดับนี้ หากถูกลูกหลง ผลที่ตามมาย่อมไม่อาจจินตนาการได้!
“ฆ่า!”
และพร้อมกันนั้นมกุฎอริยะสิบกว่าคนจากแปดดินแดนก็เคลื่อนไหวอย่างกร้าวแกร่ง ลงมือเต็มกำลัง
ต่อให้หลินสวินแข็งแกร่งแค่ไหน แต่พวกเขามั่นใจว่าหากร่วมมือกันก็สามารถดับสังหารเขาได้
ที่พวกเขาไม่รู้คือ ก่อนหน้านี้ที่นอกเมืองอารักษ์มรรคโลกมารโลหิต มกุฎอริยะทั้งกลุ่มอย่างพวกปี้เจี้ยนฉยงก็คิดเช่นนี้เหมือนกัน…
ตูม!
ท่ามกลางสภาพฟ้าถล่มดินทลาย หลินสวินจับจ้องชายวัยกลางคนที่ผมเคราแดงชาดคนนั้น ดาบหักดั่งประกายสายฟ้า ทะยานอากาศออกไป
และพร้อมกันนั้นสามพันปราณกระบี่ไท่เสวียนวิวัฒน์เป็นค่ายกลกระบี่ แผ่ครอบไปทางเผิงเทียนหลินมกุฎอริยะเผ่าเขาเงิน
สองคนนี้ต่างบาดเจ็บสาหัส ย่อมต้องอาศัยจังหวะที่เจ้าตัวอ่อนแอเอาชีวิตของพวกเขา!
ส่วนตัวหลินสวินก็พุ่งทะยานไปทางมกุฎอริยะคนอื่นๆ ที่โจมตีเข้ามา ความแข็งแกร่งของอานุภาพสะเทือนฟ้าดิน
ทั้งๆ ที่ตัวคนเดียว กลับให้กลิ่นอายเผด็จการ ดุจดั่งทั่วหล้ามีเพียงข้าที่ยิ่งใหญ่!
——
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์