ภาพนองเลือดและเผด็จการนั้น ทำให้บรรยากาศ ณ ที่นั้นเงียบไปอย่างน่าประหลาด
เวลานี้หลินสวินกล่าวราบเรียบ “ทุกท่านโปรดดู ซากศพและเลือดพวกนั้นจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของวัตถุดิบสร้างเมือง”
พูดถึงตรงนี้นัยน์ตาดำของหลินสวินราบเรียบกล่าวเสริม “แน่นอนว่านี่เป็นแค่ส่วนน้อยเท่านั้น ยังห่างไกลจากคำว่าพอ”
คุนป้าชิวและมกุฎอริยะทั้งหมดสีหน้าอึมครึมลงไม่น้อย
แต่ก็แค่ล้มตายหลักพันเท่านั้น
ทั้งในหมู่ผู้แข็งแกร่งที่ตายไป ก็มีอริยะแท้แค่ไม่กี่คน ความสูญเสียแค่นี้ยังไม่อาจสร้างการโจมตีอะไรให้กับพวกเขาได้
“ทุกท่าน แบ่งกำลังส่วนหนึ่งไปต้านและถล่มค่ายกลใหญ่นั่น!”
มีคนตวาดลั่น
ค่ายกลแดนพิฆาตที่ห่างออกไปยังโคจรอยู่ สาดปราณกระบี่เรือนพันเรือนหมื่นออกมาสังหารทั่วทิศ สร้างความเสียหายให้กับผู้แข็งแกร่งเจ็ดดินแดนที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงอย่างดุดันรุนแรง
ทันใดนั้นก็มีมกุฎอริยะสิบกว่าคนออกเคลื่อนไหวพร้อมกัน ไปกำราบและรุมโจมตีพลังของค่ายกลสังหารแดนพิฆาต
“ทุกท่าน นี่เพิ่งจะเริ่ม ต่อให้อยากทำลายค่ายกลก็ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน”
หลินสวินสีหน้าราบเรียบไร้คลื่นลม ไม่ผิดคาดแม้แต่น้อย เหมือนทุกอย่างล้วนอยู่ในการคาดเดาของเขาแล้ว
“ฮึ! เจ้าสวะ ชีวิตเจ้าจะไม่ยืดอยู่แล้ว ยังกล้าเห่าหอนอีก!”
คุนป้าชิวตวาดลั่น เรียกสมบัติอริยะนานัปการออกมาถล่มค่ายกลสังหารยอดนภาอย่างเกรี้ยวกราดเหมือนมกุฎอริยะคนอื่นๆ
หลินสวินชี้ไปยังทิศทางหนึ่งที่ห่างออกไปแล้วกล่าว “ข้าบอกแล้ว เรื่องยอดเยี่ยมเพิ่งจะเริ่ม พวกเจ้าดูใหม่อีกครั้ง”
น้ำเสียงเพิ่งแผ่วลง บนทางราบที่ห่างออกไปมีสายฟ้าทะยานขึ้นมา!
ตูม…
ใต้ปฐพีกระบวนอักขระส่องประกายเหลือคณาพุ่งดังสนั่นเหมือนมังกรดินพลิกตัว สร้างเป็นค่ายกลใหญ่กลางอากาศ
ในค่ายกลใหญ่อสนีน่าครั่นคร้ามบาดตา รัศมีสายฟ้าพลุ่งพล่านไปทั่ว แน่นขนัดราวน้ำตกอสนีบาตป่วนคลั่งฟาดผ่า
สายฟ้านานัปการทั้งสีม่วง สีชาด สีฟ้า สีเขียว สีดำ สีเงิน… ล้วนเต็มไปด้วยอานุภาพทำลายล้างฟ้าดิน พอจะทำลายความกล้าของเทพผี!
ค่ายกลสังหารทลายเทพ!
ทันทีที่ปรากฏก็ฟ้าคะนองสะเทือนเลื่อนลั่น ผู้แข็งแกร่งนับร้อยคนหลบไม่ทัน ถูกสังหารกระจุยหายวับไปในพริบตา
กลิ่นอายสังหารที่แข็งแกร่งดุดันนั้น ทำให้ทั่วทั้งลานร้องเสียงหลงอีกครั้ง
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือ อสนีบาตพวกนั้นยืดขยายออกไปราวโซ่ตรวน คลั่งระบำอยู่กลางฟ้าดิน ส่องประกายเจิดจ้า แต่กลับฆ่าฟันอริยะแท้ได้อย่างดุเดือด!
ในค่ายชั่วคราวบรรยากาศพลุ่งพล่านถึงขีดสุด เมื่อผู้แข็งแกร่งของดินแดนรกร้างโบราณทุกคนที่หลบอยู่ในค่ายกลแปดพิทักษ์ได้เห็นภาพทำลายล้างนี้กับตาตนเอง ต่างก็อารมณ์ปั่นป่วน โลหิตเดือดพล่าน
พวกเขาคาดการณ์ได้ว่าฝีมือของหลินสวินต้องไม่ได้มีแค่นี้แน่ แต่กลับคิดไม่ถึงว่าอานุภาพของค่ายกลนี้จะสั่นสะเทือนใต้หล้าเช่นนี้!
“หลบเร็ว!”
“น่าชังนัก! พวกเราถูกไอ้สวะนั่นหลอกแล้ว!”
เสียงกรีดร้องโหยหวนดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เห็นภาพนี้แล้ว คุนป้าชิวและมกุฎอริยะทั้งหมดหน้าเปลี่ยนสีอีกครั้งอย่างอดไม่อยู่
ระหว่างทางมาที่นี่พวกเขาก็เคยตรวจสอบและสัมผัสแล้ว เห็นชัดว่าไม่พบร่องรอยและกลิ่นอายของพลังผนึกใดๆ
แต่ตอนนี้กลับมีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง นี่ทำให้พวกเขามีความรู้สึกว่ารับมือไม่ทัน
“ผิดคาดมากใช่ไหม แต่จะว่าไปหากให้พวกเจ้าสังเกตเห็น แล้วข้าจะจับตะพาบในไหอย่างพวกเจ้าได้อย่างไร”
หลินสวินกล่าวเฉยชา
ช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ ยามเขาวางกระบวนค่ายกลได้ใคร่ครวญสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นไว้หมดแล้ว
ก็เหมือนค่ายกลที่ปกคลุมในรัศมีร้อยลี้นี้ เพื่อไม่ให้ศัตรูหวาดระแวง หลินสวินจึงใช้ความคิดอย่างมาก ในการใช้พลังเฉพาะตัวของค่ายกลลายมรรคมาตัดกลิ่นอายทั้งหมด
ไม่อย่างนั้นศัตรูมีหรือจะกล้าเข้ามาใกล้อย่างไม่กลัวสิ่งใดเช่นนี้
นี่ก็คือสิ่งที่เรียกว่าจับตะพาบในไห!
ประโยคเดียวทำให้สีหน้าของพวกคุนป้าชิวไม่น่าดูขึ้นมา เจ้าสวะบัดซบนี่คิดจริงๆ หรือว่าวางกระบวนค่ายกลใหญ่พวกนี้แล้วจะพลิกสถานการณ์กลับมาได้
“พวกเราไปถล่มค่ายกลใหญ่นั่นให้ราบ!”
ทันใดนั้นก็มีมกุฎอริยะสิบกว่าคนออกเคลื่อนไหว พุ่งโฉบไปที่ค่ายกลสังหารทลายเทพ
ไม่ว่าจะเป็นค่ายกลสังหารแดนพิฆาตหรือค่ายกลสังหารทลายเทพก็ล้วนแข็งแกร่งเกินไป ต่างกำจัดอริยะแท้ได้
หากไม่ทำลายมัน ยิ่งปล่อยเวลาเนิ่นนานคงได้สร้างการโจมตีอย่างไม่อาจจินตนาการให้กับทัพใหญ่เจ็ดดินแดนแน่
เมื่อเห็นว่าอานุภาพของค่ายกลสังหารทลายเทพถูกสกัด พวกคุนป้าชิวก็สีหน้าผ่อนคลายลงทันที ล้วนเหลือบสายตาเยียบเย็นมองไปที่หลินสวิน
“เจ้าสวะ ยังมีอีกไหม สำแดงออกมาให้หมด!”
มีคนตวาดลั่น
ขณะกล่าวพวกเขายังโจมตีค่ายกลสังหารยอดนภาที่หลินสวินอยู่ไปด้วย ค่ายกลนี้สั่นสะเทือนรุนแรง โหมซัดไม่หยุด หากเป็นไปดังคาดไม่นานก็จะถูกทำลาย!
ถึงตอนนั้น…
ในแววตาของพวกคุนป้าชิวมีไอสังหารเข้มข้นวาบผ่าน ถึงตอนนั้นเจ้าหมอนี่ต้องตายอย่างไร้ข้อกังขา!
ส่วนค่ายกลใหญ่ที่ปกปักคุ้มครองอยู่บนท้องฟ้าเหนือค่ายชั่วคราวนั่น กลับไม่ถูกพวกคุนป้าชิวเห็นอยู่ในสายตา รอสังหารหลินสวินแล้ว ด้วยพลังของพวกเขาย่อมต้องล้มและทำลายที่นั่นให้พินาศย่อยยับได้อย่างง่ายดายแน่
กลับเห็นหลินสวินดีดนิ้วกล่าว “เจ้าเดรัจฉานเฒ่าสายตาไม่เลว เดาถูกแล้ว พวกเจ้าดูนะ”
เขาพูดพลางยื่นมือชี้ออกไป
พวกคุนป้าชิวต่างชะงัก เกือบสบถด่าอยู่ในใจ ยังมีอีกจริงรึ
ในจุดที่ห่างออกไปมีพลังอักขระเหมือนละอองฝนเซียนเหินปรากฏขึ้นอย่างไร้สุ้มเสียง สร้างเป็นค่ายกลใหญ่สลัวรางค่ายหนึ่ง
หมอกควันขมุกขมัวตลบอบอวล ในพื้นที่ใกล้เคียงมีเสียงลุ่มลึกหนึ่งดังขึ้น ผู้แข็งแกร่งแถบแล้วแถบเล่าเบิกตากว้าง ร่วงลงไปกองกับพื้น
ร่างกายของพวกเขาสมบูรณ์ไร้ความเสียหาย แต่จิตวิญญาณกลับถูกกำจัด!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์