Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1563

สรุปบท ตอนที่ 1563 ข้ามีกระบี่เดียว ทุกท่านกล้าลองดูไหม: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

อ่านสรุป ตอนที่ 1563 ข้ามีกระบี่เดียว ทุกท่านกล้าลองดูไหม จาก Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet

บทที่ ตอนที่ 1563 ข้ามีกระบี่เดียว ทุกท่านกล้าลองดูไหม คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายกำลังภายใน Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ทะเลสาบสีเขียวมรกตกว้างสุดลูกหูลูกตา เหมือนคันฉ่องบานหนึ่งที่ฝังประดับอยู่กลางหุบเขา ด้านบนมีดอกบัวสีแดงดุจเพลิงผลาญมากมาย

เดิมทิวทัศน์ของที่นี่ดุจภาพวาด แต่ยามนี้ในอากาศกลับเต็มไปด้วยไอสังหาร

มกุฎอริยะสิบกว่าคนที่มาจากโลกต้าหลัว แต่ละคนกลิ่นอายเยียบเย็นปิดล้อมพื้นที่แถบนั้น แค่กลิ่นอายที่แผ่ออกมาจากตัวก็ทำให้ฟ้าดินเปลี่ยนสี

มกุฎอริยะเหล่านี้มีทั้งชายและหญิง มีเด็กหนุ่มรูปงามสง่า และมีคนชราผมขาวแกมเทา แต่ไม่มีใครไม่พกกระบี่ติดตัว

บ้างพาดกระบี่ไว้ที่หลัง บ้างกอดกระบี่แนบอก บ้างพาดกระบี่ไว้ที่แข้ง บ้างสะพายกระบี่ไว้ข้างเอว บ้างก็คล้องกระบี่ไว้หน้าตัว

ล้วนเป็นมกุฎอริยะกระบี่กลุ่มหนึ่ง!

ดินแดนโบราณต้าหลัวคือโลกของผู้ฝึกกระบี่ สำนักกระบี่แออัดเรียงราย ผู้ฝึกกระบี่มีอยู่มาก ผู้คนก็มองว่ากระบี่นั้นสูงสุด

ในเก้าดินแดนใหญ่ พูดถึงเฉพาะด้านพลังต่อสู้ ดินแดนโบราณต้าหลัวสามารถอยู่ในสามอันดับแรกได้อย่างมั่นคง สาเหตุอยู่ที่ผู้ฝึกกระบี่ในดินแดนนี้มีมากเกินไป พลังต่อสู้ก็เลยดุดันน่ากลัวที่สุด

เพียงแต่หลินสวินกลับคิดไม่ถึงว่าหน้าทะเลสาบบนยอดเขาสูงชันที่ยากจะพบร่องรอยผู้คนเช่นนี้ จะมีอริยะกระบี่มากขนาดนี้ปรากฏตัว

อีกทั้งแต่ละคนยังก้าวสู่ระดับมกุฎบนมรรคกระบี่แล้วด้วย!

แต่หลินสวินก็แค่มุ่นคิ้ว ไม่หยุดแต่ก้าวไปข้างหน้า สายตามองไปบนทะเลสาบ

ที่นั่นมีบานประตูลึกลับบานหนึ่งปรากฏอยู่กลางอากาศดุจมายา

ไม่จำเป็นต้องคาดเดาอย่างสิ้นเชิง มกุฎอริยะกระบี่ของดินแดนโบราณต้าหลัวพวกนี้ ล้วนมาเพื่อโลกลี้ลับนี่ อีกทั้ง ‘นายน้อย’ ที่พวกเขาพูดถึงก็เห็นได้ชัดว่าเข้าไปในบานประตูลึกลับนั่นแล้ว

“คนดินแดนรกร้างโบราณคนหนึ่ง”

“ไม่ นี่เป็นผู้แข็งแกร่งระดับมกุฎอริยะคนหนึ่ง!”

ขณะเดียวกันมกุฎอริยะกระบี่ของดินแดนโบราณต้าหลัวสิบกว่าคนนั้นก็ต่างมุ่งเป้ามาที่ร่างของหลินสวินทันที แววตาวับวาว บนสีหน้าเจือแววประหลาดใจ

“หรือว่าจะเป็นเขา”

ฮูหยินงามชุดดำที่กอดกระบี่แนบอกคนหนึ่งคล้ายเดาอะไรออก เลิกคิ้วเรียวยาวดุจใบหลิวเล็กน้อย

“ใครรึ”

“ดินแดนรกร้างโบราณตอนนี้มีมกุฎอริยะแค่สามคน คนหนึ่งคือเซ่าเฮ่า อีกคนคือรั่วอู่ และอีกคนแน่นอนว่าต้องเป็นหลินสวินที่ชื่อเสียงเหี้ยมโหดโจษจันนั่น”

ฮูหยินงามชุดดำกล่าวเนิบช้า ในดวงตากลับมีเจตกระบี่ไหลเคลื่อนราวเส้นไหมถักทอ เฉียบคมหาใดเปรียบ เฉือนตัดห้วงอากาศจนเกิดรอยแยกแตกละเอียดนับไม่ถ้วน

“คนผู้นี้ยังหนุ่ม กลิ่นอายละโลกีย์ เหมือนหลินสวินในข่าวลือไม่มีผิด ตอนนี้พวกเจ้าคิดว่าเจ้าหมอนี่เป็นใครกันล่ะ”

น้ำเสียงเพิ่งแผ่วลง ทุกคนในที่นั้นพลันแตกตื่น

เป็นเขา!?

มกุฎอริยะกระบี่ทั้งหมดนัยน์ตาหดรัดพร้อมกัน เก็บความดูถูกภายในใจ ทั้งตัวไม่มีที่ใดไม่เปี่ยมกลิ่นอายดุดันไร้รูป

พวกเขาขับเคลื่อนพลังเล็งไปที่หลินสวิน บ้างกระเหี้ยนกระหือรือ บ้างไอสังหารไหลวน บ้างเผยสีหน้าประหลาดใจ บ้างก็ยิ้มอย่างนึกสนุก

หลินสวิน เจ้าหมอนี่ถึงกับกล้าปรากฏตัวที่โลกต้าหลัวของพวกเขา!

บนทะเลสาบเขียวมรกต ดอกบัวสีชาดมากมายแตกละเอียดเป็นฝุ่นผงพลิ้วลอยล่อง พร่างพรมย้อมผืนทะเลสาบเป็นสีแดง

บรรยากาศกลางฟ้าดินในยามนี้กดดันจนทำให้ผู้คนหายใจไม่สะดวก!

ชื่อของคนเหมือนเงาของต้นไม้ หลินสวินในตอนนี้เป็นที่รู้จักในหมู่ผู้แข็งแกร่งแต่ละเผ่าทั้งเก้าดินแดนนานแล้ว เรื่องที่เกี่ยวกับเขาจนถึงทุกวันนี้ยังเป็นหนึ่งในประเด็นสนทนาที่ถูกพูดถึงมากที่สุดบนสมรภูมิเก้าดินแดน

เขาเคยสร้างเรื่องใหญ่ที่โลกมารโลหิต บุกสังหารจนดินแดนโบราณมารโลหิตเสียหน้าไม่เหลือ

และเคยวางกระบวนผนึกอริยะฝังทัพพันธมิตรเจ็ดดินแดน สังหารมกุฎอริยะเจ็ดสิบคน ทำลายทัพใหญ่สองแสนหนึ่งหมื่นจนย่อยยับ

บุคคลร้ายกาจแห่งยุคคนหนึ่งที่สองมือเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือด ชื่อเสียงเหี้ยมโหดโจษจันเช่นนี้ ใครเล่าจะไม่รู้จัก และใครเล่าจะกล้าดูถูก

เพียงแต่มกุฎอริยะกระบี่โลกต้าหลัวพวกนี้กลับคิดไม่ถึงว่าจะได้เจอหลินสวินที่นี่

นี่ทำให้ผู้คนรู้สึกผิดคาดเกินไป!

“หลินสวิน เจ้าถึงกับกล้าบุกรุกโลกต้าหลัวของข้า ไม่กลัวตายรึ เท่าที่ข้ารู้เจ้าเป็นถึงผู้นำของดินแดนรกร้างโบราณ หากเจ้าตายไป… ค่ายทัพดินแดนรกร้างโบราณจะต้องพังทลายจนสลายหายไปแน่!”

สาวงามที่พาดกระบี่คนหนึ่งสีหน้าเย่อหยิ่ง แววตาเยียบเย็น

ประโยคเดียวทำให้ไอสังหารในที่นั้นเข้มข้นยิ่งกว่าเดิม

เปลี่ยนเป็นอริยะแท้ทั่วไปคนหนึ่งมาอยู่ตรงนี้ แค่ไอสังหารน่ากลัวในที่นั้นก็ทำให้เจตจำนงของเขาพังทลาย ตกอยู่ในความสิ้นหวังได้แล้ว

แต่เมื่อถูกเหล่าศัตรูรุมจ้องเช่นนี้ หลินสวินกลับทำเหมือนมองไม่เห็น วาดปลายนิ้วร่างม่านแสงสายหนึ่งเป็นเงาร่างของจ้าวจิ่งเซวียน

“พวกเจ้าเคยเจอคนผู้นี้ไหม”

ยังคงเป็นคำพูดนี้ ทว่าขอเพียงเป็นผู้แข็งแกร่งที่เคยได้ยินคำนี้ ปัจจุบันก็ล้วนถูกสังหารหมดแล้ว

มกุฎอริยะกระบี่พวกนี้ต่างชะงัก เกือบจะสับสน

ก่อนหน้านี้พวกเขายังคิดว่าที่หลินสวินออกโรงด้วยตัวเอง ย่อมเป็นเพราะได้ยินข่าวอะไรมาแน่ ถึงได้มาทำลายปฏิบัติการของพวกเขา ด้วยเหตุนี้ในใจจึงให้ความสำคัญยิ่งนัก ไม่กล้าละเลย

แต่ไหนเลยจะคิดว่าเจ้าหมอนี่มาครานี้ ก็เพื่อมาหาคน!?

ฮูหยินงามชุดดำที่กอดกระบี่นั้นพลันยิ้มหยัน “นี่คือคนรู้ใจของเจ้ารึ ดูไปแล้วก็งามใช่ย่อย แต่ดูจากสถานการณ์เกรงว่านางคงประสบเคราะห์ไปแล้ว มิฉะนั้นหากนางได้ยินชื่อเสียงของเจ้าในสมรภูมิเก้าดินแดนยามนี้ มีหรือจะไม่ไปหาเจ้า”

ในเสียงเจือเจตนาคลุมเครือ มีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น

“น่าขัน!”

และมีคนสีหน้าเยียบเย็นกล่าว “หากพวกเราเจอผู้หญิงคนนี้ เจ้าคิดว่า… นางจะยังมีชีวิตอยู่ไหม”

“ทะเล่อทะล่าวิ่งมาสืบข่าวกับศัตรู เจ้าหลินสวินไร้หัวคิดหรืออย่างไร ต่อให้พวกเราเคยเจอผู้หญิงคนนี้ มีหรือจะยอมบอกเจ้า”

และมีคนเยาะหยัน รู้สึกว่าพฤติกรรมหาคนเช่นนี้ของหลินสวินช่าง… ปัญญานิ่มเกินไปแล้ว!

หลินสวินเก็บปลายนิ้วที่วาดม่านแสงลง สายตากวาดมองมกุฎอริยะกระบี่ทั้งหมดแล้วกล่าว “สิ่งที่พวกเจ้าฝึกล้วนแต่เป็นมรรคกระบี่หรือ”

“ไร้สาระ!”

ทุกคนยิ้มหยันกันอีกครั้ง

ดินแดนโบราณต้าหลัวมีผู้แข็งแกร่งคนไหนไม่ฝึกกระบี่

“ข้ามีกระบี่เดียว ทุกท่านกล้าลองดูไหม”

มรรคกระบี่เดิมก็เป็นมรรคสังหารที่ดุดันที่สุดบนโลก

แต่กระบี่นี้กลับเผยภาพของความไร้สิ้นสุด ไร้จำกัด ไม่มีที่ใดไปไม่ถึงออกมา ดุดันถึงที่สุดและน่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง

ตูม!

ฟ้าดินแถบนี้เหมือนระเบิดออก แบกรับอานุภาพของกระบี่นี้ไว้ไม่อยู่ ทั่วสารทิศเต็มไปด้วยปราณกระบี่กว้างใหญ่ไพศาล

ในที่นั้นมีเสียงปะทะดุเดือดดังขึ้น สลับกับเสียงร้องบันดาลโทสะ ปราณกระบี่โลดแล่นทั่ว ส่องแสงเจิดจ้าบาดตา สุริยันจันทราหม่นแสง

มกุฎอริยะกระบี่รูปงามเหมือนเด็กหนุ่มต้านไม่อยู่เป็นคนแรก กระบี่อริยะบริสุทธิ์ตรงหน้าคร่ำครวญ ส่วนเขาก็เลือดออกเจ็ดทวาร คำรามเสียงอึดอัดอย่างเจ็บปวด

ตามมาด้วยร่างกายของฮูหยินงามชุดดำที่ถูกปราณกระบี่หลายสายเฉือนตัด ไม่อาจต้านทานและสลายได้อย่างสิ้นเชิง เพียงพริบตาก็เลือดเนื้อปะปน โฉมหน้าแปรเปลี่ยน

ต่อมามกุฎอริยะกระบี่คนแล้วคนเล่าในที่นั้นต่างถูกโจมตีอย่างหนัก บ้างถูกแทงทะลุร่าง บ้างถูกฟันแขนขาด บ้างถูกฟันตัวขาด…

ทุกอย่างล้วนเกิดขึ้นในชั่วขณะเดียว!

ปราณกระบี่กว้างใหญ่ไพศาลเหมือนไร้สิ้นสุดนั้นยังคงคำรามก้อง ทำให้ใต้หล้าทั่วสารทิศมืดมน ฟ้าดินม้วนตลบ

“เป็นไปไม่ได้!”

“นี่คือมรรคกระบี่อะไร ทำไมถึงน่ากลัวเช่นนี้”

“นี่… นี่คือศัตรูคู่อาฆาตของดินแดนโบราณต้าหลัวของพวกเรา มรดกของจักรพรรดิกระบี่ไท่เสวียน!”

เสียงหวีดร้อง ทุรนทุราย คำรามก้องอยู่ในกระแสปราณกระบี่โหมกระหน่ำ

ยามนี้มกุฎอริยะสิบกว่าคนล้วนบาดเจ็บหนัก หน้าเปลี่ยนสีถึงที่สุด ไม่มีความเชื่อมั่นที่ราบเรียบนิ่งสงบเหมือนก่อนหน้านี้อีก

พวกเขาพยายามดิ้นรนสุดกำลัง แต่กลับไม่อาจหนีรอด

ปราณกระบี่นั้นน่าหวาดกลัวเกินไป ดำรงอยู่ทุกแห่งหน ไม่มีที่ใดไปไม่ถึง ทั้งซ่อนเร้นและลึกลับ อัศจรรย์เกินคาดเดา!

นี่ทำให้พวกเขานึกถึงคนผู้หนึ่งขึ้นมา บุคคลน่ากลัวที่เคยกำราบผู้ฝึกกระบี่ทุกคนในดินแดนโบราณต้าหลัวจนไม่อาจเงยหน้าขึ้น…

จักรพรรดิกระบี่ไท่เสวียน!

ชายคนนั้นที่ถูกขนานนามว่าเป็นจักรพรรดิกระบี่อันดับหนึ่งของดินแดนรกร้างโบราณในสมัยดึกดำบรรพ์!

เมื่อปราณกระบี่เลือนหาย เถ้าธุลีซ่านสลาย

ผืนฟ้าปฐพีอลหม่านไปทั้งแถบ พื้นที่ในครรลองสายตาล้วนเป็นภาพพังทลายมลายล้าง

แม้แต่ทะเลสาบกว้างใหญ่เขียวมรกตนั้นยังเปลี่ยนเป็นช่องแคบมหึมาลึกล้ำยากหยั่งถึง รอยแยกไขว้พาดกระจายอยู่แน่นหนา

และมกุฎอริยะกระบี่สิบกว่าคนนั้นก็เลือดอาบไปทั้งตัว ได้รับบาดเจ็บสาหัส ท่าทางอเนจอนาถถึงที่สุด ไม่มีมาดสง่างามเหมือนก่อนหน้านี้อีก

กระบี่เดียว โจมตีมกุฎอริยะกระบี่สิบกว่าคนบาดเจ็บสาหัส

ยามนี้ฟ้าดินต่างเงียบสงัด!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์