ทะเลสาบสีเขียวมรกตกว้างสุดลูกหูลูกตา เหมือนคันฉ่องบานหนึ่งที่ฝังประดับอยู่กลางหุบเขา ด้านบนมีดอกบัวสีแดงดุจเพลิงผลาญมากมาย
เดิมทิวทัศน์ของที่นี่ดุจภาพวาด แต่ยามนี้ในอากาศกลับเต็มไปด้วยไอสังหาร
มกุฎอริยะสิบกว่าคนที่มาจากโลกต้าหลัว แต่ละคนกลิ่นอายเยียบเย็นปิดล้อมพื้นที่แถบนั้น แค่กลิ่นอายที่แผ่ออกมาจากตัวก็ทำให้ฟ้าดินเปลี่ยนสี
มกุฎอริยะเหล่านี้มีทั้งชายและหญิง มีเด็กหนุ่มรูปงามสง่า และมีคนชราผมขาวแกมเทา แต่ไม่มีใครไม่พกกระบี่ติดตัว
บ้างพาดกระบี่ไว้ที่หลัง บ้างกอดกระบี่แนบอก บ้างพาดกระบี่ไว้ที่แข้ง บ้างสะพายกระบี่ไว้ข้างเอว บ้างก็คล้องกระบี่ไว้หน้าตัว
ล้วนเป็นมกุฎอริยะกระบี่กลุ่มหนึ่ง!
ดินแดนโบราณต้าหลัวคือโลกของผู้ฝึกกระบี่ สำนักกระบี่แออัดเรียงราย ผู้ฝึกกระบี่มีอยู่มาก ผู้คนก็มองว่ากระบี่นั้นสูงสุด
ในเก้าดินแดนใหญ่ พูดถึงเฉพาะด้านพลังต่อสู้ ดินแดนโบราณต้าหลัวสามารถอยู่ในสามอันดับแรกได้อย่างมั่นคง สาเหตุอยู่ที่ผู้ฝึกกระบี่ในดินแดนนี้มีมากเกินไป พลังต่อสู้ก็เลยดุดันน่ากลัวที่สุด
เพียงแต่หลินสวินกลับคิดไม่ถึงว่าหน้าทะเลสาบบนยอดเขาสูงชันที่ยากจะพบร่องรอยผู้คนเช่นนี้ จะมีอริยะกระบี่มากขนาดนี้ปรากฏตัว
อีกทั้งแต่ละคนยังก้าวสู่ระดับมกุฎบนมรรคกระบี่แล้วด้วย!
แต่หลินสวินก็แค่มุ่นคิ้ว ไม่หยุดแต่ก้าวไปข้างหน้า สายตามองไปบนทะเลสาบ
ที่นั่นมีบานประตูลึกลับบานหนึ่งปรากฏอยู่กลางอากาศดุจมายา
ไม่จำเป็นต้องคาดเดาอย่างสิ้นเชิง มกุฎอริยะกระบี่ของดินแดนโบราณต้าหลัวพวกนี้ ล้วนมาเพื่อโลกลี้ลับนี่ อีกทั้ง ‘นายน้อย’ ที่พวกเขาพูดถึงก็เห็นได้ชัดว่าเข้าไปในบานประตูลึกลับนั่นแล้ว
“คนดินแดนรกร้างโบราณคนหนึ่ง”
“ไม่ นี่เป็นผู้แข็งแกร่งระดับมกุฎอริยะคนหนึ่ง!”
ขณะเดียวกันมกุฎอริยะกระบี่ของดินแดนโบราณต้าหลัวสิบกว่าคนนั้นก็ต่างมุ่งเป้ามาที่ร่างของหลินสวินทันที แววตาวับวาว บนสีหน้าเจือแววประหลาดใจ
“หรือว่าจะเป็นเขา”
ฮูหยินงามชุดดำที่กอดกระบี่แนบอกคนหนึ่งคล้ายเดาอะไรออก เลิกคิ้วเรียวยาวดุจใบหลิวเล็กน้อย
“ใครรึ”
“ดินแดนรกร้างโบราณตอนนี้มีมกุฎอริยะแค่สามคน คนหนึ่งคือเซ่าเฮ่า อีกคนคือรั่วอู่ และอีกคนแน่นอนว่าต้องเป็นหลินสวินที่ชื่อเสียงเหี้ยมโหดโจษจันนั่น”
ฮูหยินงามชุดดำกล่าวเนิบช้า ในดวงตากลับมีเจตกระบี่ไหลเคลื่อนราวเส้นไหมถักทอ เฉียบคมหาใดเปรียบ เฉือนตัดห้วงอากาศจนเกิดรอยแยกแตกละเอียดนับไม่ถ้วน
“คนผู้นี้ยังหนุ่ม กลิ่นอายละโลกีย์ เหมือนหลินสวินในข่าวลือไม่มีผิด ตอนนี้พวกเจ้าคิดว่าเจ้าหมอนี่เป็นใครกันล่ะ”
น้ำเสียงเพิ่งแผ่วลง ทุกคนในที่นั้นพลันแตกตื่น
เป็นเขา!?
มกุฎอริยะกระบี่ทั้งหมดนัยน์ตาหดรัดพร้อมกัน เก็บความดูถูกภายในใจ ทั้งตัวไม่มีที่ใดไม่เปี่ยมกลิ่นอายดุดันไร้รูป
พวกเขาขับเคลื่อนพลังเล็งไปที่หลินสวิน บ้างกระเหี้ยนกระหือรือ บ้างไอสังหารไหลวน บ้างเผยสีหน้าประหลาดใจ บ้างก็ยิ้มอย่างนึกสนุก
หลินสวิน เจ้าหมอนี่ถึงกับกล้าปรากฏตัวที่โลกต้าหลัวของพวกเขา!
บนทะเลสาบเขียวมรกต ดอกบัวสีชาดมากมายแตกละเอียดเป็นฝุ่นผงพลิ้วลอยล่อง พร่างพรมย้อมผืนทะเลสาบเป็นสีแดง
บรรยากาศกลางฟ้าดินในยามนี้กดดันจนทำให้ผู้คนหายใจไม่สะดวก!
ชื่อของคนเหมือนเงาของต้นไม้ หลินสวินในตอนนี้เป็นที่รู้จักในหมู่ผู้แข็งแกร่งแต่ละเผ่าทั้งเก้าดินแดนนานแล้ว เรื่องที่เกี่ยวกับเขาจนถึงทุกวันนี้ยังเป็นหนึ่งในประเด็นสนทนาที่ถูกพูดถึงมากที่สุดบนสมรภูมิเก้าดินแดน
เขาเคยสร้างเรื่องใหญ่ที่โลกมารโลหิต บุกสังหารจนดินแดนโบราณมารโลหิตเสียหน้าไม่เหลือ
และเคยวางกระบวนผนึกอริยะฝังทัพพันธมิตรเจ็ดดินแดน สังหารมกุฎอริยะเจ็ดสิบคน ทำลายทัพใหญ่สองแสนหนึ่งหมื่นจนย่อยยับ
บุคคลร้ายกาจแห่งยุคคนหนึ่งที่สองมือเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือด ชื่อเสียงเหี้ยมโหดโจษจันเช่นนี้ ใครเล่าจะไม่รู้จัก และใครเล่าจะกล้าดูถูก
เพียงแต่มกุฎอริยะกระบี่โลกต้าหลัวพวกนี้กลับคิดไม่ถึงว่าจะได้เจอหลินสวินที่นี่
นี่ทำให้ผู้คนรู้สึกผิดคาดเกินไป!
“หลินสวิน เจ้าถึงกับกล้าบุกรุกโลกต้าหลัวของข้า ไม่กลัวตายรึ เท่าที่ข้ารู้เจ้าเป็นถึงผู้นำของดินแดนรกร้างโบราณ หากเจ้าตายไป… ค่ายทัพดินแดนรกร้างโบราณจะต้องพังทลายจนสลายหายไปแน่!”
สาวงามที่พาดกระบี่คนหนึ่งสีหน้าเย่อหยิ่ง แววตาเยียบเย็น
ประโยคเดียวทำให้ไอสังหารในที่นั้นเข้มข้นยิ่งกว่าเดิม
เปลี่ยนเป็นอริยะแท้ทั่วไปคนหนึ่งมาอยู่ตรงนี้ แค่ไอสังหารน่ากลัวในที่นั้นก็ทำให้เจตจำนงของเขาพังทลาย ตกอยู่ในความสิ้นหวังได้แล้ว
แต่เมื่อถูกเหล่าศัตรูรุมจ้องเช่นนี้ หลินสวินกลับทำเหมือนมองไม่เห็น วาดปลายนิ้วร่างม่านแสงสายหนึ่งเป็นเงาร่างของจ้าวจิ่งเซวียน
“พวกเจ้าเคยเจอคนผู้นี้ไหม”
ยังคงเป็นคำพูดนี้ ทว่าขอเพียงเป็นผู้แข็งแกร่งที่เคยได้ยินคำนี้ ปัจจุบันก็ล้วนถูกสังหารหมดแล้ว
มกุฎอริยะกระบี่พวกนี้ต่างชะงัก เกือบจะสับสน
ก่อนหน้านี้พวกเขายังคิดว่าที่หลินสวินออกโรงด้วยตัวเอง ย่อมเป็นเพราะได้ยินข่าวอะไรมาแน่ ถึงได้มาทำลายปฏิบัติการของพวกเขา ด้วยเหตุนี้ในใจจึงให้ความสำคัญยิ่งนัก ไม่กล้าละเลย
แต่ไหนเลยจะคิดว่าเจ้าหมอนี่มาครานี้ ก็เพื่อมาหาคน!?
ฮูหยินงามชุดดำที่กอดกระบี่นั้นพลันยิ้มหยัน “นี่คือคนรู้ใจของเจ้ารึ ดูไปแล้วก็งามใช่ย่อย แต่ดูจากสถานการณ์เกรงว่านางคงประสบเคราะห์ไปแล้ว มิฉะนั้นหากนางได้ยินชื่อเสียงของเจ้าในสมรภูมิเก้าดินแดนยามนี้ มีหรือจะไม่ไปหาเจ้า”
ในเสียงเจือเจตนาคลุมเครือ มีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น
“น่าขัน!”
และมีคนสีหน้าเยียบเย็นกล่าว “หากพวกเราเจอผู้หญิงคนนี้ เจ้าคิดว่า… นางจะยังมีชีวิตอยู่ไหม”
“ทะเล่อทะล่าวิ่งมาสืบข่าวกับศัตรู เจ้าหลินสวินไร้หัวคิดหรืออย่างไร ต่อให้พวกเราเคยเจอผู้หญิงคนนี้ มีหรือจะยอมบอกเจ้า”
และมีคนเยาะหยัน รู้สึกว่าพฤติกรรมหาคนเช่นนี้ของหลินสวินช่าง… ปัญญานิ่มเกินไปแล้ว!
หลินสวินเก็บปลายนิ้วที่วาดม่านแสงลง สายตากวาดมองมกุฎอริยะกระบี่ทั้งหมดแล้วกล่าว “สิ่งที่พวกเจ้าฝึกล้วนแต่เป็นมรรคกระบี่หรือ”
“ไร้สาระ!”
ทุกคนยิ้มหยันกันอีกครั้ง
ดินแดนโบราณต้าหลัวมีผู้แข็งแกร่งคนไหนไม่ฝึกกระบี่
“ข้ามีกระบี่เดียว ทุกท่านกล้าลองดูไหม”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์