เสียงตะโกนที่เต็มไปด้วยความเดือดดาลของจู๋อิ้งคง ทำให้ร่างกายของพวกคุนเซ่าอวี่ที่เดิมคิดจะถอยทัพแข็งทื่อไปทันที
สถานการณ์ผิดปกติ!
ทุกคนที่สามารถเข้าสู่สมรภูมิเซียนเหินแห่งนี้ได้ ล้วนเป็นบุคคลผู้มีชื่อเสียงชั้นยอดของดินแดนหนึ่ง ทั้งพลัง สติปัญหาและประสบการณ์ล้วนเหนือกว่าคนทั่วไป
ชั่วขณะนี้แทบจะเพราะสัญชาตญาณอย่างหนึ่ง พลังขับเคลื่อนรอบตัวพวกเขาโคจรทั้งหมด เตรียมพร้อมลงมือ
ทันใดนั้นประกายแสงมรรคที่สว่างไสวแผ่ออกจากร่างของพวกเขาแต่ละคนราวกับกระแสน้ำ สะท้านฟ้าสะเทือนดิน อานุภาพท่วมฟ้า
ความสามารถในการตอบสนองระดับนี้ ทำเอาหลินสวินยังต้องยอมรับว่าบุคคลพลิกฟ้าที่มาจากแปดดินแดนเหล่านี้แข็งแกร่งมากจริงๆ!
น่าเสียดายที่สุดท้ายก็สายไปแล้ว
สถานการณ์ตอนนี้ ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ด้วยการตอบสนองที่เร็วหรือช้าแล้ว
ตูม โครม!
ห่างออกไปเหล่าวิญญาณเซียนเหินที่เดิมพุ่งสังหารเข้ามาพร้อมกันโดยมีจู๋อิ้งคงเป็นคนควบคุม ยามนี้จู่ๆ ก็เปลี่ยนเป้าหมาย พุ่งเข้าหาพวกคุนเซ่าอวี่และจู๋อิ้งคงแทน
“นี่…”
“สมควรตาย!”
“จู๋อิ้งคง นี่มันเกิดอะไรขึ้น”
เสียงตะโกนเดือดดาลดังก้องขึ้น พวกคุนเซ่าอวี่แต่ละคนหน้าเปลี่ยนสีไป ตีหัวจนแตกพวกเขาก็คิดไม่ถึงว่าเกิดเรื่องเหลือเชื่อเช่นนี้ได้อย่างไร
ควรรู้ว่าที่พวกเขามีความมั่นใจไม่เกรงกลัว ก็เพราะจู๋อิ้งคงเป็นคนวางกระบวนค่ายกลกับมือ
แต่ตอนนี้ทุกอย่างเหมือนจะหลุดจากการควบคุมแล้ว!
ภายใต้เสียงตะโกน ทุกคนถูกวิญญาณเซียนเหินที่ยิ่งใหญ่เกรียงไกรท่วมท้นปานกระแสน้ำไปแล้ว สัตว์ร้ายเหล่านี้มีเป็นกลุ่มเป็นก้อน ไอชั่วร้ายพุ่งทะลวงฟ้า แต่ละตนไม่ด้อยกว่ามกุฎอริยะ
ยามนี้ไม่ฟังการควบคุมของจู๋อิ้งคง ก็เหมือนกระแสน้ำไหลบ่า ปิดล้อมเงาร่างของพวกคุนเซ่าอวี่อย่างแน่นหนาในทันที
ตูม!
การต่อสู้ปะทุขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย ฟ้าดินสั่นไหว สุริยันจันทราอับแสง
ไม่ว่าจะเป็นบุคคลระดับผู้นำอย่างพวกคุนเซ่าอวี่ ชืออู๋ซู่ เซวี่ยชิงอี หรือบุคคลชั้นยอดแต่ละดินแดนที่ติดตามพวกเขามา แต่ละคนโจมตีเต็มกำลัง ไม่กล้าออมมือเลยสักนิด
เพียงแต่ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นกะทันหันนี้ ทำให้พวกเขาแต่ละคนสีหน้าแปลกประหลาดอย่างที่สุด โกรธจนแทบกระทืบเท้าสบถคำหยาบ!
หลุมพรางนี้พวกล้วนเขาขุดให้หลินสวิน แต่ตอนนี้พวกเขากลับตกลงไปเสียเอง นี่ไม่ต่างอะไรกับการหาเรื่องใส่ตัว หาเหาใส่หัว ยกก้อนหินขึ้นมากลับหล่นทับเท้าตัวเอง
“ทุกคนอย่าตื่นตระหนก ลงมือพร้อมกัน แหวกทางออกจากการปิดล้อมก่อน!”
สีหน้าของจู๋อิ้งคงย่ำแย่ที่สุด การประสบเคราะห์อย่างไม่เคยเป็นมาก่อนเช่นนี้พาให้เขาถูกกระเทือนมากที่สุด รู้สึกเหมือนถูกตบหน้าอย่างแรง จากนั้นถูกคนชี้หน้าหัวเราะเยาะว่านี่ก็คือกระบวนค่ายกลที่เจ้าวางหรือ
แน่นอนว่าสิ่งที่เสียหายไม่ใช่แค่หน้าตาของเขา
ที่ทำให้เขาไม่สามารถรับได้ที่สุดคือ ตั้งแต่ชั่วขณะนี้ไม่ว่าเขาจะพยายามกู้คืนอย่างไร ก็ไม่สามารถครอบครองสิทธิ์ในการควบคุมกระบวนค่ายกลพันผีได้อีก!
“ทุกคนลงหลุมไปแล้ว อยากออกไปไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกนะ”
ในกระบวนค่ายกลหลินสวินพูดเสียงเรียบ ในฝ่ามือเขามุกอริยะกำราบสมุทรเม็ดหนึ่งมีประกายเทพแน่นขนัดและลึกลับไหลเวียน
พอใจคิด พลังของทั้งกระบวนค่ายกลพันผีก็ถูกโคจรโดยสมบูรณ์
ก็เห็นสี่ด้านแปดทิศโดยมีที่นี่เป็นจุดศูนย์กลาง มีภูเขาใหญ่ที่สูงตระหง่านเทียมฟ้าผุดขึ้นจากพื้นดิน มีธารดารากว้างใหญ่ไพศาลม้วนตัวลงมา มีหินหนืดที่ปลดปล่อยเปลวเพลิงเดือดคลั่ง…
ทันใดนั้นทั้งบนฟ้าใต้ดิน เหนือใต้ออกตก ทั่วทิศแปดด้านราวกับกรงขังแห่งหนึ่ง ปิดล้อมพื้นที่แห่งนี้เอาไว้โดยสมบูรณ์
เห็นภาพนี้พวกคุนเซ่าอวี่ต่างอึ้งตาอ้าง ท่าทางเหมือนถูกฟ้าผ่าอย่างไรอย่างนั้น
พวกเขาคุ้นเคยกับภาพนี้เกินไปแล้ว!
เริ่มแรกเพื่อขังหลินสวินหมายจะถอยเอาไว้ จู๋อิ้งคงก็ใช้วิธีเช่นนี้ทำการสกัดกั้นอีกฝ่าย
ตอนนั้นเห็นหลินสวินหนีหัวซุกหัวซุนราวกับแมลงวันแล้ว พวกเขาอดหัวเราะเสียงดังไม่ได้ รู้สึกสะใจ ชื่นชมฝีมือการวางกระบวนค่ายกลของจู๋อิ้งคงอย่างมาก
แต่ตอนนี้ทั้งหมดกลับมาตกอยู่ที่พวกเขา!
ความรู้สึกเช่นนี้เหมือนนักล่าที่เจ้าเล่ห์ที่สุด จู่ๆ ก็ตกลงไปในหลุมพรางที่ตนวางไว้อย่างรอบคอบ กระทบกระเทือนจิตใจเกินไปแล้ว
“จู๋อิ้งคง นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!”
สีหน้าของคุนเซ่าอวี่โกรธจนคล้ำเขียวอย่างที่สุดแล้ว ตาแทบถลนออกมา
ตอนนี้พวกเขาถูกขังอยู่ในการปิดล้อมของวิญญาณเซียนเหินนับพัน แม้สามารถสังหารเปิดทางออกจากการปิดล้อมอันแน่นหนาได้ แต่สี่ทิศแปดด้านยังมีภูเขาและแม่น้ำมากมายขวางกั้นอยู่ ราวกับกำแพงธรรมชาติปิดกั้น!
ไม่ว่าใครตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ ก็คงอดมีความรู้สึก ‘ไร้ทางหนี’ ไม่ได้
สีหน้าของจู๋อิ้งคงเองก็ย่ำแย่อย่างที่สุด กัดฟันจนแทบแหลกแล้ว
“จู๋อิ้งคง เจ้าพูดอะไรสักอย่างสิ!”
ชืออู๋ซู่ตะเบ็งเสียง เขาสัมผัสได้ถึงความผิดปกติแล้ว เดือดดาลยากจะทนได้
คนอื่นๆ ก็สีหน้ามืดทะมึนเช่นกัน
จู๋อิ้งคงสูดหายใจเข้าลึกๆ คราหนึ่ง เอ่ยว่า “ทุกท่าน พลังของกระบวนค่ายกลนี้ถูกเจ้าหมอนั่นควบคุมโดยสมบูรณ์แล้ว…”
พูดถึงสุดท้าย เขารู้สึกเพียงว่าหนังหน้าเหมือนถูกคนลอกออก เจ็บจนทรมาน ทำให้คนที่เย่อหยิ่งไร้ที่เปรียบอย่างเขายอมรับเรื่องนี้ ช่างเป็นกระเทือนศักดิ์ศรีของเขาอย่างหนักหน่วง
“สมควรตาย!”
ทุกคนได้ยินเช่นนี้โมโหจนแทบกระอักเลือด
หลายวันมานี้พวกเขาให้ความร่วมมือกับการวางกระบวนค่ายกลของจู๋อิ้งคงมาโดยตลอด ลงมือกำราบวิญญาณเซียนเหินนับพันเต็มกำลัง เดิมคิดว่าด้วยกระบวนค่ายกลนี้ จะต้องสามารถสังหารหลินสวินได้อย่างง่ายดายราวกับดีดนิ้ว
ทว่าท้ายที่สุดจู๋อิ้งคงกลับบอกพวกเขา ว่ากระบวนค่ายกลที่พวกเขาร่วมมือเตรียมการอย่างยากลำบากนี้กลับถูกหลินสวินควบคุม!
นี่ก็หมายความ ความทุ่มเททั้งหมดล้วนเป็นการทำเพื่อคนอื่นไม่ใช่หรือ
และที่แย่ที่สุดคือ อานุภาพของกระบวนค่ายกลนี้น่ากลัวอย่างที่สุด ไม่เช่นนั้นพวกเขาก็คงไม่ต้องทุ่มเทเตรียมการอย่างยากลำบากเช่นนั้น
และตอนนี้พวกเขาติดอยู่ในนี้ จะหลุดรอดออกไปได้อย่างไร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์