เคร้ง!
เสียงกึกก้องสะเทือนหูดังขึ้น พลังหมัดอันน่ากลัวปานผลักภูผาคว่ำสมุทรพุ่งเข้ามา ทำเอาง่ามนิ้วชืออู๋ซู่สะท้านไหว ทวนศึกกระดูกขาวปลิวหลุดมือไปในชั่วขณะ
และพลังหมัดที่ซัดสาดนั่นก็ทะลวงสังหารเข้ามา
เป็นพลังที่น่ากลัวมาก!
สีหน้าของชืออู๋ซู่เปลี่ยนไปอย่างยิ่ง บนหน้าอกพลันปรากฏสายฟ้าสีม่วงที่เจิดจ้าหาที่เปรียบไม่ได้ แปลงเป็นสัญลักษณ์มรรคอสนีศักดิ์สิทธิ์เร้นลับขวางอยู่ตรงหน้าหมัดของหลินสวิน
ตูม!
พลังหมัดและสัญลักษณ์อสนีปะทะกัน ชั่วขณะนี้ชืออู๋ซู่ถูกกระแทกจนปลิวออกไป จมูกปากหลั่งเลือด สายตาพร่ามัว
เขาอดตกใจไม่ได้
แต่หลินสวินฉวยโอกาสโจมตีเข้ามาอีกครั้ง พร้อมๆ กับกระบี่ครวญดั่งระลอกคลื่น กระแสธารที่แปลงมาจากปราณกระบี่ไท่เสวียนระลอกแล้วระลอกเล่าแผ่กว้างในอากาศ
ปราณกระบี่สว่างไสวท่วมท้นฟ้าดิน เบียดเต็มจักรวาล!
กระบี่สามสิบสามชั้น!
ชืออู๋ซู่แตกตื่นยกใหญ่ ชั่วขณะนี้ความรู้สึกหายใจไม่ออก สิ้นหวัง และไร้ที่พึ่งแผ่กระจายไปทั่วตัว พาให้เขาหวาดผวาอย่างสิ้นเชิง
เขาไม่ทันได้คิดมาก สู้สุดตัว โคจรวิชาปกป้องชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุดของตน พริบตานั้นผิวหนังมนุษย์ที่ประทับรอยสักสีแดงเลือดแน่นขนัดปรากฏขึ้น
จักรพรรดิลอกคราบ!
ผิวหนังมนุษย์นี้ เป็นสิ่งที่เมธีคนหนึ่งของเผ่าจักรพรรดิตระกูลชือเหลือทิ้งไว้หลังจากแจ้งมรรคล้มเหลว ถูกเก็บไว้อย่างดี สลักสัญลักษณ์ลายมรรคลึกลับเอาไว้
ตัวมันเองก็เป็นสมบัติประหลาดที่เหลือเชื่อมากชิ้นหนึ่ง แข็งแกร่งยิ่งกว่าสมบัติอริยะเสียอีก มีกลิ่นอายมรรคจักรพรรดิเสี้ยวหนึ่ง น่าสะพรึงกลัวยิ่ง
สมบัติเช่นนี้แม้อยู่ในเผ่าจักรพรรดิตระกูลชือยังเรียกได้ว่าเป็นสมบัติพลิกฟ้า ไม่ใช่แค่จำนวนจำกัด สูญเสียไปชิ้นหนึ่งก็ลดน้อยลงชิ้นหนึ่ง
หากไม่ใช่เพราะชืออู๋ซู่เป็นบุคคลระดับผู้นำรุ่นเยาว์ของดินแดนโบราณจิ่วหลี ด้วยตำแหน่งและฐานะของเขาในเผ่าจักรพรรดิตระกูลชือ ไม่มีทางครอบครองสมบัติระดับนี้ได้แน่
ตูม!
จักรพรรดิลอกคราบส่งเสียง เกิดสัญลักษณ์น่ากลัวคล้ายมีเสียงแห่งมรรคจักรพรรดิดังขึ้นรางๆ ยิ่งใหญ่ไร้จำกัด สะท้านเก้าชั้นฟ้า
ตอนที่ปราณกระบี่แต่ละชั้นพุ่งมา พลันเกิดเสียงพุ่งชนที่ดุเดือดอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
สกัดไว้ได้แล้ว!
ชั่วขณะนี้ชืออู๋ซู่รู้สึกรอดตายหวุดหวิด ตกใจขวัญหาย
เพียงแต่ยังไม่รอเขาโล่งอก กระแสปราณกระบี่รุนแรงที่ทับซ้อนกันนั้นก็โหมซัดเข้ามาประหนึ่งคลื่นกระหน่ำ อานุภาพสั่งสมเพิ่มขึ้นในทุกครั้งอย่างต่อเนื่อง
จากนั้นจักรพรรดิลอกคราบเริ่มสั่นอย่างรุนแรง สัญลักษณ์ลายมรรคถูกกระแสปราณกระบี่ที่ดุร้ายอย่างที่สุดบดขยี้และระเบิดออกทุกกระเบียด
ทั้งหมดนี้แค่เพียงเวลาไม่นาน จักรพรรดิลอกคราบถูกฉีกทึ้งเป็นรอยแยกน่าตกใจภายใต้เสียงปะทะที่ทำเอาเทพผีสะท้านสะเทือน
ตูมโครม!
ครู่ต่อมาชืออู๋ซู่เพียงรู้สึกแสบตา ร่างกายถูกปราณกระบี่ยิ่งใหญ่ไร้ขอบเขตกลบมิด เลือดเนื้อเอ็นกระดูกราวกับถูกแล่เป็นชิ้นๆ และระเบิดออก
“ไม่…! นี่มันมรดกมรรคกระบี่อะไร เหตุใดจึงน่ากลัวเช่นนี้!”
ในกระแสปราณกระบี่ ชืออู๋ซู่ส่งเสียงโหยหวนน่าอนาถออกมา ปรากฏกลิ่นอายหวาดหวั่นไม่ยินยอมไปทั้งตัว
ทว่าทันใดนั้นปราณกระบี่สามสิบสามชั้นพลันถมทับ กลบตัวและเสียงของเขาไปโดยสมบูรณ์
มองลงมาจากบนฟ้า ปราณกระบี่ราวกับกระแสน้ำเชี่ยว ซัดใส่ห้วงอากาศจนทรุด ลบชืออู๋ซู่หายไปจากโลกอย่างสิ้นเชิง!
พูดแล้วเหมือนช้า แต่ความเป็นจริงตั้งแต่ตอนที่หลินสวินออกมาจากกระบวนค่ายกลใหญ่สยบฟ้ากำราบมหาสมุทร โจมตีทวนศึกกระดูกขาวด้วยหมัด กำราบจักรพรรดิลอกคราบด้วยปราณกระบี่ จนกระทั่งชืออู๋ซู่ประสบเคราะห์ ทั้งหมดนี้เสร็จสิ้นในชั่วพริบตา
ใครก็คิดไม่ถึงว่าหลินสวินจะกล้าเดินออกจากกระบวนค่ายกลมาสู้กับชืออู๋ซู่ ยิ่งคิดไม่ถึงว่าทันทีที่ประมือกัน ชืออู๋ซู่ก็ถูกกำราบโดยสมบูรณ์ ร่างและจิตดับสลายคาที่!
ดังนั้นตอนที่พวกคุนเซ่าอวี่อยากจะช่วยก็ไม่ทันแล้ว ทำได้เพียงมองดูการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้เกิดขึ้นโดยไม่สามารถทำอะไรได้
แข็งแกร่งยิ่ง!
นี่คือการรับรู้แรกของทุกคน ท่าทางที่ผงาดกร้าวของหลินสวินทำเอาพวกเขาขนลุก จิตใจได้รับความกระทบกระเทือน
ทันใดนั้นสีหน้าพวกเขาต่างเปลี่ยนไป
ชืออู๋ซู่!
ผู้นำของค่ายทัพดินแดนโบราณจิ่วหลี บุคคลพลิกฟ้าที่ชื่อเสียงเลื่องลือ ผู้นำทัพของเผ่าจักรพรรดิตระกูลชือ ชื่อเสียงบารมีของเขาดังในดินแดนหนึ่งนานแล้ว พลังต่อสู้ยิ่งแข็งแกร่งจนเป็นที่ประจักษ์ชัดแจ้งแก่สายตาทุกคน
แต่ตอนนี้กลับจากไปพร้อมความแค้น ณ ที่แห่งนี้!
สำหรับค่ายทัพดินแดนโบราณจิ่วหลี นี่ต้องเป็นแรงโจมตีที่หนักหน่วงอย่างหาที่เปรียบไม่ได้แน่ และสำหรับทุกคนในที่นั้น ต่างอดรู้สึกเห็นใจและหวาดผวาขึ้นมาไม่ได้
ตาย… ง่ายๆ เช่นนี้เลยหรือ
น่าตะลึงเกินไปแล้ว!
ในเวลาเดียวกัน นี่ก็คือบุคคลระดับผู้นำคนที่สองที่ตายในมือหลินสวินต่อจากเจี้ยนชิงเฉิน แปดยอดนภาคราม ตอนนี้เหลือเพียง ‘หกยอด’ แล้ว
สำหรับหลินสวิน การโจมตีชืออู๋ซู่เป็นเรื่องที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้!
แม้กระบวนค่ายกลพันผีนี้จะแข็งแกร่งอย่างที่สุด แต่จนตอนนี้ในบรรดาศัตรูที่ถูกจู่โจมสังหาร ยังไม่มีบุคคลระดับผู้นำแม้แต่คนเดียว
และเหมือนอย่างที่จู๋อิ้งคงพูด ภายใต้การโคจรเต็มกำลังของกระบวนค่ายกลนี้ จะสามารถยืนหยัดได้เพียงหนึ่งเค่อเท่านั้น
ตอนนี้เวลาได้ผ่านไปกว่าครึ่งแล้ว ภายในเวลาที่เหลืออยู่ ด้วยพลังของกระบวนค่ายกลนี้ไม่มีทางสร้างแรงโจมตีต่อบุคคลระดับผู้นำเหล่านั้นได้อย่างแท้จริง
ดังนั้นหลินสวินจึงลงมือเองโดยไม่ลังเล!
พูดอย่างไม่เกินจริง แม้เป็นการเผชิญหน้ากันตัวต่อตัว หลินสวินก็มั่นใจอย่างยิ่งว่าจะสังหารชืออู๋ซู่ได้
ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ยังมีพลังของกระบวนค่ายกล ทำให้เขาครองความได้เปรียบในตอนที่เล่นงานชืออู๋ซู่
และเมื่อถึงคราวลงมืออย่างแท้จริง หลินสวินก็ไม่ได้ออมมือเช่นกัน หมัดที่ใช้คือหนึ่งหมัดสะเทือนสวรรค์ กระบี่ที่ใช้คือกระบี่สามสิบสามชั้น ล้วนเป็นพลังยุทธ์ที่เขาหลอมรวมไว้แล้วทั้งสิ้น!
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ การสังหารชืออู๋ซู่ก็ไม่มีอะไรต้องห่วงนานแล้ว
ควรรู้ว่าทีแรกที่โจมตีสังหารเจี้ยนชิงเฉิน พลังปราณของหลินสวินคือระดับมกุฎอริยะแท้ขั้นต้นเท่านั้น แต่ตอนนี้เขาเป็นผู้ฝึกปราณระดับมกุฎอริยะแท้ขั้นกลางแล้ว!
“ลงมือพร้อมกัน ฆ่าเขาซะ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์