เพิ่งจะสิ้นเสียงหญิงกระโปรงเขียวก็ออกกระบวนท่ามือเปล่า
บนท้องฟ้า จู่ๆ สายฟ้าสีเขียวบาดตาก็ร่วงลงมา แตกต่างจากก่อนหน้านี้ สายฟ้านี้พลันควบรวมเป็นประทับใหญ่ที่ราบเรียบโบราณและคลุมเครือ เขียวอร่ามสะดุดตาอย่างที่สุด
ประทับอสนีเทพไม้เขียว!
เพียงมองจากระยะไกลก็ทำให้พวกคุนเซ่าอวี่หนังหัวชาวาบ ราวกับเผชิญเคราะห์สวรรค์ หัวใจสั่นไหวระลอกหนึ่ง
ผู้หญิงคนนี้ไร้ศัตรูในระดับเดียวกันแล้วหรือ
ไม่เช่นนั้นจะครอบครองพลังที่น่ากลัวเช่นนี้ได้อย่างไร การโจมตีที่เรียบง่ายเช่นนี้ก็ทำให้คนในสะท้านแล้ว!
ดวงตาดำของหลินสวินเย็นเยียบ ถูกทำให้โกรธแล้ว
เดิมทีกับคนที่ไม่มีความบาดหมาง เขาก็ไม่คิดจะหักหน้าอีกฝ่าย แต่ดูผู้หญิงคนนี้ลงมือโดยไม่พูดสักคำ บีบบังคับกันเหลือเกิน!
พร้อมกับการโคจรพลังขับเคลื่อนรอบตัวหลินสวิน ประทับซวนหนีปรากฏ หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับนัยเร้นลับมังกรเคราะห์โดยสมบูรณ์ ประทับเดียวเท่านั้น กลับเหมือนสัตว์ปีศาจซวนหนีที่แท้จริงตัวหนึ่ง มีอานุภาพบดขยี้ภูผาธารา กำราบเวิ้งฟ้า
ตูม!
ในเสียงปะทะน่ากลัว ฟ้าดินแถบนี้ล้วนสั่นไหว ราวกับภูเขาเทพดึกดำบรรพ์สองลูกชนกัน สะท้านฟ้าสะเทือนดิน
ชั่วพริบตาเงาร่างของหญิงกระโปรงเขียวและหลินสวินต่างส่ายไหวเล็กน้อย
จากนั้นสายตาของทั้งสองสบกันกลางอากาศ ต่างแฝงไอสังหารเย็นเยียบเสียดกระดูก
“เซียนท่านนี้ ต้องการให้พวกเราช่วยลงมือหรือไม่”
ทันใดนั้นคุนเซ่าอวี่พูดเสียงกังวาน
เซวี่ยชิงอีและจู๋อิ้งคงพยักหน้า หากฉวยโอกาสนี้ยืมพลังของหญิงกระโปรงเขียวกำจัดศัตรูตัวฉกาจอย่างหลินสวินได้ในคราเดียว นั่นย่อมดีกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย
“หึ! เล่นงานหัวขโมยคนหนึ่งเท่านั้น ต้องให้คนอื่นช่วยซะที่ไหน”
หญิงกระโปรงเขียวงดงามมาก ผิวเซียนกระดูกเทพ ท่วงท่าสง่างามยืนอยู่กลางอากาศ ความงดงามเช่นนั้นทำให้ภูผาธาราและสรรพสิ่งหม่นแสง
แต่นางกลับหยิงทระนงและเย็นชาอย่างที่สุด ตั้งแต่ต้นจนจบเผยท่าทางสูงส่งเย่อหยิ่ง
แม้แต่คำพูดยังไม่ปกปิดความเย่อหยิ่งวางอำนาจ
ไม่ต้องสงสัยเลยว่านางมีความมั่นใจในรากฐานพลังของตนอย่างที่สุด จึงหล่อหลอมให้เกิดบุคลิกเช่นนี้
นี่ทำให้สีหน้าของพวกคุนเซ่าอวี่อดชะงักไม่ได้ ในใจเดือดดาล แต่ไม่กล้าพูดอะไรมาก ต่างดูออกว่าผู้หญิงซึ่งที่มาลึกลับคนนี้ไม่ควรมีเรื่องด้วย
“พวกเจ้าเป็นถึงผู้นำดินแดนหนึ่ง เป็นบุคคลระดับแปดยอดนภาคราม แต่ตอนนี้กลับดีนัก ถูกข้าคนแซ่หลินโจมตีจนฉี่ราด หนีตายลนลาน ตอนนี้ถึงขั้นประจบเอาใจผู้หญิงคนหนึ่งอย่างไม่ห่วงหน้า ไม่รักศักดิ์ศรีของตนหน่อยหรือ”
หลินสวินซึ่งอยู่ห่างไปหังเราะเย้ย ในคำพูดเต็มไปด้วยความถากถางดูถูก
เขาจะดูไม่ออกได้อย่างไร ว่าพวกคุนเซ่าอวี่คิดจะยืมพลังของผู้หญิงคนนี้มาเล่นงานตน น่าเสียดายที่ผู้หญิงคนนี้ไม่สนใจสักนิด
พวกคุนเซ่าอวี่เดือดดาลยกใหญ่ สีหน้ามืดทะมึน
ส่วนหลินสวินคร้านจะสนใจพวกเขาแล้ว เขาก้าวขึ้นห้วงอากาศ ผมดำปลิวสยาย แผ่อานุภาพกดดันทั่วตัว พูดด้วยสายตาดุร้าย
“แล้วก็เจ้าผู้หญิงอัปลักษณ์ คิดว่าข้ากลัวเจ้าจริงๆ หรือ”
“เจ้าบอกว่าข้าอัปลักษณ์หรือ”
หญิงกระโปรงเขียวอึ้งเหมือนยากจะเชื่อ ดวงหน้าหยกที่งดงามไร้ที่ติปรากฏไอสังหารอย่างไม่ปกปิด
ไม่มีผู้หญิงคนไหนทนให้คนอื่นด่าตนว่าอัปลักษณ์ได้ โดยเฉพาะคนหยิ่งทระนงอย่างนาง ต่อให้อยู่ในสำนัก ยังถูกมองว่า ‘โดดเด่นที่สุด ราวกับเซียนมาเยือนโลก’ เป็นที่เคารพและชื่นชมของคนรุ่นเดียวกันไม่รู้เท่าไหร่
แม้แต่บรรดาเฒ่าดึกดำบรรพ์ในสำนักยังมองว่านางเป็นสมบัติล้ำค่าในฝ่ามือ
แต่ตอนนี้กลับถูกคนด่าว่าเป็น ‘หญิงอัปลักษณ์’ ต่อหน้า!
ไม่ใช่เพราะหญิงกระโปรงเขียวไม่หนักแน่นพอ แต่สำหรับนาง นี่เป็นการท้าทายที่ตรงไปตรงมาและไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงที่สุด!
“ดูท่าเจ้าจะไม่ใช่แค่อัปลักษณ์อารมณ์ร้าย หูก็ยังไม่ดีด้วย หากข้าเป็นเจ้าคงฆ่าตัวตายไปนานแล้ว จะได้ไม่อับอายขายหน้า ทำให้คนอื่นหัวเราะเยาะ”
หลินสวินพูดเสียงเรียบ
ตูม!
ในอากาศสายฟ้าสีเขียวหมื่นล้านสายปรากฏกะทันหัน ตัดสลับทับซ้อน แปรเปลี่ยนเป็นม้วนภาพที่แปลกประหลาดหนึ่งเดียว กางออกในห้วงอากาศ
ในม้วนภาพสายฟ้าราวกับผืนทะเลเขียว!
นี่ก็คือคำตอบของหญิงกระโปรงเขียว นางโกรธจนดวงหน้างามเย็นชาไปหมดแล้ว ดวงตาคู่งามแฝงความดุร้าย หมายจะฟันหัวขโมยปากร้ายอย่างหลินสวินให้ตายทั้งเป็น
“ทะยาน!”
คำพูดของหลินสวินแม้จะกำเริบเสิบสาน แต่ตอนที่ลงมือจริงๆ ก็ไม่มีความประมาทใดๆ พุ่งขึ้นไปอย่างไม่ลังเล หุบเหวใหญ่รอบตัวปรากฏ ปราณกระบี่กึกก้องดั่งกระแสน้ำ
ชั่วขณะนั้นการต่อสู้ปะทุขึ้น สายฟ้าดั่งเกรี้ยวกราด ปราณกระบี่พาดขวาง สังหารจนฟ้าดินขมุกขมัว สุริยันจันทราไร้แสง
พลังขับเคลื่อนของหลินสวินราวกับเตาหลอมที่เดือดพล่าน ทั้งร่างพร่างพราวเป็นประกาย เส้นผมทุกเส้นมีแสงมรรคงดงามไหวเวียน ทุกการโจมตีล้วนปรากฏแก่นสมบูรณ์แบบอย่างที่สุด ความแข็งแกร่งของอานุภาพสั่นคลอนจักรวาลฟ้าดิน
หญิงกระโปรงเขียวคนนั้นก็แข็งแกร่งจนน่าตกใจเช่นกัน เสื้อผ้าของนางพลิ้วไปตามลม ร่างเซียนรางเลือน ทุกอิริยาบถล้วนแฝงนัยเร้นลับมหามรรค
สายฟ้าสีเขียวมากมายปานมังกรยักษ์ ถูกนางคว้ามาตามอำเภอใจ สะเทือนไปทั่วทิศ กลิ่นอายทำลายล้างมืดฟ้ามัวดิน
ชายหนึ่งหญิงหนึ่ง ถึงกับเผยการต่อสู้ครั้งใหญ่ที่สามารถสะเทือนอดีตปัจจุบันได้ในยามนี้
หากเป็นมกุฎอริยะคนอื่นๆ อย่าว่าแต่แทรกแซง เพียงแค่ผลกระทบจากคลื่นลูกหลงของพลังต่อสู้ ไม่ตายก็คงบาดเจ็บสาหัส!
พวกคุนเซ่าอวี่ต่างหลบไปไกลทันที ตอนที่เห็นการต่อสู้เช่นนี้ ในใจพวกเขาก็ไม่สามารถสงบได้ เดือดพล่านไม่หยุด
เดิมคิดว่าพวกเขาเป็นผู้นำดินแดนหนึ่งแล้ว เป็นยอดมกุฎแห่งหมื่นอริยะ เหมือนกับผู้ยิ่งใหญ่ที่โดดเด่น สามารถอาละวาดได้ตามอำเภอใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์