Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1629

สีหน้าอิ๋นฮวนสงบนิ่งไม่ไหวติง

หลินสวินในฐานะ ‘อันดับหนึ่งในสมรภูมิเก้าดินแดน’ สามารถต้านการโจมตีของอ๋าวเจิ้นเทียนไว้ได้ เดิมก็สมเหตุสมผล หาไม่ก็เป็นเพียงพวกดีแต่อ้างชื่อคนหนึ่งเท่านั้น

แต่อ๋าวเจิ้นเทียนกลับนัยน์ตาแข็งทื่อ กล่าวอย่างโมโห “นัยเร้นลับเจินหลง หัวขโมยอย่างเจ้าถึงกับกล้าฝึกมรรคเผ่าข้า!”

อะไรนะ!

เวลานี้อิ๋นฮวนก็ตกใจเช่นกัน

มหามรรคเจินหลง นั่นเป็นพลังมหามรรคของเผ่าเจินหลง หลินสวินนี่เป็นเผ่ามนุษย์ชัดๆ เหตุใดถึงสามารถหยั่งถึงและเชี่ยวชาญพลังมหามรรคระดับนี้ได้

นี่ผิดปกติยิ่ง!

หลินสวินหมุนตัวกล่าวเสียงเรียบ “มหามรรคเจินหลงนี่เป็นเพียงหนึ่งในหมื่นมรรคทั้งมวล เหตุใดข้าถึงจะฝึกไม่ได้”

ดวงหน้าหล่อเหลาของอ๋าวเจิ้นเทียนมืดทะมึน ไอสังหารกลางนัยน์ตาพลุ่งพล่าน กล่าวว่า “ข้าเข้าใจแล้ว ที่เจ้าฝึกคือมังกรเคราะห์เก้ากระบวนแปร มีแต่วิชามังกรเคราะห์เก้ากระบวนแปรเท่านั้น จึงจะสามารถทำให้หัวขโมยต่ำช้าอย่างเจ้าลักลอบหยั่งถึงพลังมหามรรคแห่งเจินหลงได้!”

มังกรเคราะห์เก้ากระบวนแปร!

อิ๋นฮวนพยายามครุ่นคิด ก็คิดไม่ออกว่าบนโลกนี้เหตุใดถึงมีมรดกส่วนนี้อยู่ได้

“ต่ำช้า? หัวขโมย? ลักลอบ?”

นัยน์ตาดำของหลินสวินลุ่มลึกเย็นชา เอามือไพล่หลัง มองอ๋าวเจิ้นเทียนแล้วกล่าว “หรือเจ้าคิดจริงๆ ว่าข้าคนแซ่หลินไม่กล้าสังหารมังกร”

ขณะพูดเขาย่างเท้าก้าวออกไป กลิ่นอายทั่วร่างโคจรโดยพลัน ประหนึ่งเตาหลอมที่หลอมละลายสรรพสิ่งทั่วจักรวาล อานุภาพน่าสะพรึงแผ่กว้าง ทำให้ห้วงอากาศยังร้องครวญ

เมื่อเทียบกับท่าทางราบเรียบนิ่งสงบก่อนหน้านี้ ช่างต่างกันราวกับเป็นคนละคน!

นัยน์ตาอิ๋นฮวนแข็งทื่อ แข็งแกร่งยิ่ง!

“สังหารมังกร? ไม่รู้จักดีชั่ว!”

อ๋าวเจิ้นเทียนคำรามเสียงดัง เงาร่างสูงกำยำดุจเจินหลงปรากฏบนโลก กลิ่นอายปกคลุมฟ้าดิน

เหนือศีรษะของเขาปรากฏลักษณ์ประหลาดฟ้าดาราอย่างหนึ่ง เจินหลงตัวหนึ่งท่องทะยานอยู่ในนั้น ร่างกายทอดขยายดุจไร้สิ้นสุด บดขยี้ธารดารานับล้านเป็นผุยผง

สวบ!

เขายื่นกรงเล็บทะลวงห้วงอากาศว่างเปล่าเข้าใส่หลินสวิน

พลังนิ้วมือคมกริบไร้เทียมทานนั่นปกคลุมด้วยเกล็ดลายมรรคคลุมเครือ คล้ายสามารถฉีกฟ้าแหวกดิน ปั่นป่วนหยินหยาง

เพียงแค่กลิ่นอายที่แผ่ออกมาก็สามารถทำให้มกุฎอริยะยังหวั่นหวาด!

น่ากลัวเกินไปแล้ว!

ทำให้ผู้คนรู้สึกเหมือนกำลังต่อสู้กับเจินหลงบนสวรรค์ แต่ตนเป็นเพียงมด เล็กจ้อยหาใดเปรียบ นี่คือการขู่ขวัญทางจิตวิญญาณอย่างหนึ่ง

สีหน้าหลินสวินไม่สุขไม่ทุกข์ ไม่แม้แต่จะมอง ในใจสะท้อนภาพเตาหลอมมหามรรค หลอมรวมแก่นแท้หมื่นมรรค วิวัฒน์เป็นความอัศจรรย์แห่งหมื่นวิชา

เมื่อเขากดมือออกไป

ตูม!

กลางห้วงอากาศมีเงามายาเตาหลอมปรากฏ ยิ่งใหญ่ไร้ขอบเขต มีอานุภาพกำราบกาลนิรันดร์ อมตะยืนนาน

คัมภีร์เตาหลอมมหามรรค!

นี่เป็นครั้งแรกที่หลินสวินใช้ในการต่อสู้หลังจากสร้างวิชาแห่งตน

พริบตาเดียวพลังกรงเล็บของอ๋าวเจิ้นเทียนก็ถูกบดขยี้ เกิดเสียงก้องกระหึ่มสะเทือนโสตจนหูแทบหนวก

และเตาหลอมก็แผ่อานุภาพ กำราบอย่างต่อเนื่อง

เมื่อดูให้ดีเตาหลอมนี้ให้ความรู้สึกไพศาลหนักแน่นที่ ‘เป็นหนึ่งเดียวอันสัมบูรณ์’ แก่ผู้คน

ภายในเตาหลอม มหามรรคมากมายผสมผสาน หยินหยางโคจรบังเกิดยอดเอกอุ น้ำไฟหลอมรวมกลายเป็นแข็งแกร่งอ่อนโยน เจินหลงไร้มรณะท่องกลางหุบเหว นัยเร้นลับดับดารากลืนกินซุ่มซ่อนภายในเตา!

และรอบด้านของเตาหลอม ประทับวิชาคลุมเครือเหลือล้น มีเงาร่างสะเทือนฟ้าดินสำแดงวิชาหมัด มีปราณกระบี่นับล้านเดือดพล่านดั่งมหาสมุทร มี…

เตาหลอมใบหนึ่ง กลับบรรจุนัยเร้นลับมหามรรคหมื่นวิชา!

เพียงแต่นัยเร้นลับและภาพมายาภายในนั้นมีเพียงหลินสวินที่สามารถสัมผัสถึง ในสายตาผู้อื่น เตาหลอมนี้มีเพียงลักษณะเดียว…

ไม่มีสิ่งใดไม่ถูกทำลาย!

อ๋าวเจิ้นเทียนยังไม่ทันตั้งตัวก็ถูกเตาหลอมมหามรรคกระแทกลอย ร่างกระเด็นอัดผนังโถงใหญ่อย่างจัง กระอักเลือดออกปากจมูก

พลังคุ้มกันร่างของเขาหอบม้วนขึ้นมาอย่างรุนแรง หากไม่เป็นเช่นนี้ ลำพังแค่การโจมตีนี้ก็สามารถทำให้เขาพะอืดพะอมได้แล้ว

นี่คือวิชาแบบไหนกัน

ในที่สุดอิ๋นฮวนก็ไม่อาจสงบนิ่งได้ นัยน์ตางามเปลี่ยนไป ถูกทำให้ตกใจแล้ว

ท่วงท่าผ่าเผยของการโจมตีเพียงเล็กน้อยนั่นกลับเปี่ยมด้วยนัยเร้นลับนับไม่ถ้วน เพียงแค่มองยังทำให้นางตกใจไม่อาจบรรยาย สะท้านสะเทือนไม่สิ้น

ก่อนหน้านี้แม้จะยอมรับสถานะ ‘อันดับหนึ่งในสมรภูมิเก้าดินแดน’ ของหลินสวิน แต่สำหรับอิ๋นฮวนที่ชื่ออยู่ในอันดับเก้ากระดานยอดจรัสฟ้าดารา ก็ยังไม่ถึงขั้นกริ่งเกรงหรือให้ความสำคัญอีกฝ่ายนัก

แต่ตอนนี้นางเพิ่งค้นพบว่าตนดูเบาดินแดนรกร้างโบราณ และดูเบาหลินสวินตรงหน้านี่ไปเสียแล้ว!

‘เยี่ยมยอด!’

ท่านเมี่ยวเสวียนลอบชื่นชมในใจ

เดิมทียามที่หลินสวินและอ๋าวเจิ้นเทียนปะทะกัน เขายังหวั่นใจอยู่บ้าง ถึงอย่างไรฝ่ายหลังก็มาจากทางเดินโบราณฟ้าดารา สถานะยิ่งเป็นทายาทสายตรงของเผ่าเจินหลง รากฐานแข็งแกร่งจนน่ากลัว

แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าหลินสวินก็ไม่ได้ด้อยกว่าสักนิด ถึงขั้นเหนือกว่าด้วยซ้ำ!

“ทายาทเจินหลงเลือดบริสุทธิ์ ไม่เอาไหนปานนี้เชียวหรือ”

ท่ามกลางความเงียบ หลินสวินเอ่ยพูดเสียงเรียบ

ไกลออกไปอ๋าวเจิ้นเทียนตะกายขึ้นจากพื้น เงาร่างสูงใหญ่กำยำอาบไล้ประกายเทพ ดูเพียงภายนอก อาการบาดเจ็บไม่ถือว่าสาหัส

แต่การโจมตีครั้งนี้กลับทำให้เขารู้สึกอัปยศ อับอายขายขี้หน้า!

บนทางเดินโบราณฟ้าดารา เขาอ๋าวเจิ้นเทียนแม้จะไม่ถึงกับแข็งแกร่งไร้ศัตรู แต่ก็เป็นบุคคลที่เด่นสะดุดตาชื่อสะท้านแดนดินฝั่งหนึ่ง ตัวเขามีอานุภาพยิ่งยงมาเนิ่นนาน

แต่ตอนนี้ ในดินแดนรกร้างโบราณที่ถูกเขาดูแคลนอย่างสิ้นเชิงนี้ กลับถูกผู้อื่นโจมตีลอยกระเด็น นี่เหมือนโดนกระบองตีแสกหน้าชัดๆ ทำให้ศักดิ์ศรีของเขาถูกโจมตีอย่างจัง

“เข้ามาอีก!”

อ๋าวเจิ้นเทียนตวาดลั่น

“เจ้าน่าจะรู้ดี หากข้าต้องการสังหารเจ้า ไม่ต้องรอถึงตอนนี้เลยด้วยซ้ำ หากยังไม่รู้ชั่วดีอีก ตายไปก็สมควร”

หลินสวินเอ่ยปากเย็นชา

ที่นี่คือหอฤทธิ์เทพ ถึงแม้ก่อนหน้านี้ท่านเมี่ยวเสวียนจะไม่ได้ยื่นมือเข้าแทรก แต่เขากล้ามั่นใจว่าหากตนมีความคิดจะฆ่าอ๋าวเจิ้นเทียน ท่านเมี่ยวเสวียนย่อมไม่อาจไม่เหลียวแลอย่างแน่นอน

ดังคาด ท่านเมี่ยวเสวียนยื่นมือเข้าแทรกแล้ว มือข้างหนึ่งกดที่ไหล่อ๋าวเจิ้นเทียน กล่าวว่า“องค์ชายเจ็ด ควรพอได้แล้ว”

นัยน์ตาอ๋าวเจิ้นเทียนแดงก่ำ ดวงตาแทบถลน แต่ท้ายที่สุดเขาก็สูดหายใจลึกหลายเฮือก ฝืนข่มเพลิงโทสะที่เดือดพล่านเอาไว้ จ้องหลินสวินเขม็งไม่วางตาครู่ใหญ่ ก่อนสะบัดแขนเสื้อออกไป

ก่อนหน้านี้หน้าของเขาแทบจะไม่เหลือประกายแล้ว ไหนเลยจะมีหน้าอยู่ต่ออีก

เขาไม่ใช่คนซื่อบื้อ ย่อมรู้ดีว่าหากไม่ใช่เพราะมีท่านเมี่ยวเสวียนอยู่ หลินสวินนั่นต้องกล้าสังหารตนโดยไม่ลังเลแน่นอน!

‘น่าชังนัก! เหตุใดดินแดนรกร้างโบราณนี่ถึงมีพวกพลิกฟ้าเช่นนี้โผล่มาได้ แล้วใครกันที่ถ่ายทอดวิชามังกรเคราะห์เก้ากระบวนแปรให้เขา นั่นเป็นถึงความลับต้องห้ามที่บรรพบุรุษเผ่าข้าทิ้งเอาไว้…’

ภายในใจอ๋าวเจิ้นเทียนเดือดพล่าน

การโจมตีที่ประสบพบเจอในครั้งนี้หนักหนาเกินไป ทำให้จิตใจของเขาเสียสมดุลไปบ้าง ต้องสงบสติอารมณ์ลงสักหน่อย

……

ในโถงใหญ่เมื่ออ๋าวเจิ้นเทียนจากไป บรรยากาศก็เปลี่ยนเป็นเปราะบางขึ้นมา

ดวงหน้างามของอิ๋นฮวนซับซ้อน สายตาที่มองหลินสวินก็เปลี่ยนไป เห็นการพ่ายแพ้ครั้งแล้วครั้งเล่าของอ๋าวเจิ้นเทียนกับตา ย่อมสร้างแรงโจมตีที่ไม่เคยมีมาก่อนภายในใจอิ๋นฮวนด้วยเช่นกัน

กระทั่งนางยังไม่อยากเชื่อด้วยซ้ำว่าคนแบบนี้ถึงกับถือกำเนิดในดินแดนรกร้างโบราณแห่งนี้ นี่ลบล้างความรู้ความเข้าใจที่ผ่านมาของนางไปอย่างสิ้นเชิง

หากรู้แต่แรกว่าหลินสวินนี่เป็นพวกน่าเหลือเชื่อเช่นนี้ นางคงไม่ ‘มองข้าม’ อย่างเช่นก่อนหน้าขนาดนั้น

น่าเสียดาย ตอนนี้พูดเรื่องพวกนี้ไปก็สายไปแล้ว

‘หลินสวิน เรื่องนี้คนผิดไม่ใช่เจ้า แต่ว่าต่อไปหากเจ้าอยากมุ่งหน้าไปทางเดินโบราณฟ้าดาราก็ต้องระวังแล้ว’

ท่านเมี่ยวเสวียนสื่อจิตเอ่ยเตือน

หลินสวินพยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจ

ทว่าก็แค่อ๋าวเจิ้นเทียนคนเดียวเท่านั้น ต่อให้เบื้องหลังมีเผ่าเจินหลงทั้งเผ่าหนุนอยู่ เขาก็ไม่มีทางระส่ำระสายและหวาดกลัวเพราะเหตุนี้แน่

“อันที่จริงเจ้าเข้าใจผิดแล้ว คุณชายอ๋าวมาครั้งนี้ก็เพื่อมารับแม่นางจิ่งเซวียนคนนั้นกลับเผ่าเจินหลง ทั้งสองคนเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด คงไม่ทำร้ายนางแน่”

จู่ๆ อิ๋นฮวนก็เอ่ยปากกล่าวว่า “หากเป็นไปได้ ข้ายังหวังว่าเจ้าจะใจกว้างพอ ช่วยคุณชายอ๋าวสักครั้ง ดังคำกล่าวที่ว่าความแค้นเคืองพึงละไม่พึงผูก ถือโอกาสนี้อาจจะแก้ไขความสัมพันธ์ของเจ้าและคุณชายอ๋าวได้บ้าง”

หลินสวินพูดตัดบท “นี่เป็นเพียงความคิดของคุณชายอ๋าวผู้นั้นฝ่ายเดียว เว้นแต่จิ่งเซวียนเต็มใจตามเขากลับไปเอง หาไม่ ใครก็ไม่อาจบังคับได้”

อิ๋นฮวนลอบทอดถอนใจเบาๆ ไม่ได้คิดจะรั้งอยู่ต่อ หันตัวออกจากโถงใหญ่ไป

ในใจนางอันที่จริงก็รู้สึกเสียใจภายหลังอยู่บ้าง แต่ไม่นานก็ถูกนางกำจัดทิ้งไป

นางมาจากทางเดินโบราณฟ้าดารา ส่วนหลินสวิน อาจมีพรสวรรค์เลิศล้ำ รากฐานโดดเด่น แต่เขาทั้งเกิดในดินแดนรกร้างโบราณ ทั้งยังไม่รู้ว่าอนาคตจะไปถึงโลกกว้างใหญ่ไพศาลแห่งนั้นได้หรือไม่

อย่างไรเสีย บนโลกนี้ก็ใช่ว่าใครๆ ล้วนมีคุณสมบัติมุ่งสู่ทางเดินโบราณฟ้าดารา!

——

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์