อากาศสั่นไหว เสียงของเขาราวกับฟ้าร้อง แท่นบัวเทพนรกที่แดงราวกับเลือดเปลี่ยนเป็นประทับฝ่ามือ กลับนำพาพายุแสงมรรคที่น่ากลัวเข้ามาในสังเวียนเทพมาร
เมื่อเรียกใช้การโจมตีนี้ เหล่าสัตว์ประหลาดเฒ่าล้วนไม่สามารถสงบได้
นี่ยังเป็นพลังที่อริยะแท้คนหนึ่งสามารถครอบครองได้อีกหรือ
น่าทึ่งเกินไปแล้ว
หลินสวินหน้าไม่แสดงอาการ ต่อยหนึ่งหมัดออกไป
พริบตานั้นพลังอริยะยิ่งใหญ่ไร้ขอบเขตพวยพุ่งออกจากร่างของเขา แสงเทพไร้สิ้นสุดส่องสว่างท้องฟ้า!
ราวกับสะท้อนภาพเตาหลอม เผยลักษณ์ป่วนโลก
ตูมโครม!
ฟ้าดินสั่นไหว สุริยันจันทราไร้แสง
สามารถมองเห็นได้ว่าตำแหน่งที่พลังหมัดของหลินสวินผ่าน ไม่มีสิ่งใดไม่ทลาย ไม่สลาย ไม่สามารถขวางกั้น และไม่อาจทัดเทียม
การโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดของบุตรนรกน่ากลัวและพลิกฟ้าเพียงใด ทว่าเผชิญกับหมัดนี้ กลับถูกกระแทกออกไปทั้งอย่างนั้น
เปรี๊ยะ!
แท่นบัวเทพนรกที่แดงราวกับเลือดนั่นระเบิดออกทันที เปราะบางเหมือนกระดาษเปื่อยอย่างไรอย่างนั้น
และภายใต้สายตาตะลึงของเหล่าสัตว์ประหลาดเฒ่า พลังของหมัดนี้กระแทกใส่จนบุตรนรกปลิวออกไปอย่างแรง
เสียงพรูดดังขึ้นคราหนึ่ง บุตรนรกจมูกปากหลั่งเลือด เสื้อผ้าตรงหน้าอกแหลกละเอียด เผยให้เห็นเกราะลวดลายลึกลับสีดำเข้ม
นี่คงจะเป็นสมบัติโบราณที่มีพลังป้องกันตะลึงโลกชิ้นหนึ่ง แต่ตอนนี้บนเกราะนี้กลับยุบเป็นรอยหมัด มีท่าทีว่าจะแตก
สามารถคาดการณ์ได้ว่าหากไม่มีเกราะนี้กีดขวาง บาดแผลที่บุตรนรกจะได้รับครั้งนี้จะหนักเพียงใด!
ก็หมายความว่าหนึ่งหมัดของหลินสวิน ไม่เพียงซัดการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดของบุตรนรกจนย่อยยับ ยังทำให้อีกฝ่ายกระเด็นลอยได้รับบาดเจ็บ!
ในลานเงียบกริบ พวกซุ่นจี้ ฮูหยินมู่ต่างสีหน้าเลื่อนลอย
แม้พวกเขาเป็นกึ่งจักรพรรดิ ประสบการณ์หลากหลายหาใดเปรียบ แต่เคยเห็นการต่อสู้ชั้นยอดเช่นนี้เสียที่ไหน
วิชาชั้นยอดที่บุตรนรกสำแดงออกมาก่อนหน้านี้ก็น่าสะพรึงกลัวและไม่สามารถจินตนาการได้แล้ว ใครจะคิดว่าหลินสวินกลับยิ่งกว่า!
“สหายน้อยหลินสวิน… เป็นคนที่ยอดเยี่ยมจริงๆ”
“บุตรนรกเพิ่งจะสร้างวิชาแห่งตนได้เมื่อไม่นานมานี้ แต่สิ่งที่มั่นใจได้คือ สหายน้อยหลินสวินคงจะก้าวสู่ระดับนี้นานแล้ว!”
“เมื่อเทียบกับพวกเขา พวกเราในตอนนั้นด้อยกว่ามากเกินไปแล้ว”
ชั่วขณะหนึ่งเหล่าสัตว์ประหลาดเฒ่าหัวใจกระเพื่อมไหว บ้างทอดถอนใจ บ้างอุทานด้วยความตกใจ
คนรุ่นเยาว์สองคน แต่ละคนแข็งแกร่งกว่า ดุดันและยิ่งใหญ่กว่าอีกคน ทำให้พวกเขาได้เปิดโลกไปด้วย การรับรู้ที่มีก่อนหน้านี้แทบจะถูกล้มล้างทั้งหมดแล้ว
“เป็นไปไม่ได้ บนโลกนี้มีวิชาแห่งตนเช่นนี้ได้อย่างไร”
ยามนี้สีหน้าของบุตรนรกขาวซีดและดุร้าย เต็มไปด้วยความยากจะเชื่อ
การโจมตีนี้ของหลินสวินเป็นเหมือนค้อนหนัก กระแทกความเย่อหยิ่งและความมั่นใจของบุตรนรกจนแทบจะทรุดทลายแล้ว
เขาไม่อาจคิดได้ว่าหลินสวินถึงกับก้าวสู้เส้นทางอริยะแท้ไร้ศัตรูก่อนตนแล้ว อีกทั้งวิชาแห่งตนที่สร้างออกมายังน่ากลัวขนาดนั้น!
“โง่เขลา การสร้างวิชาแห่งตนขึ้นมา มีแต่ต้องเตรียมรากฐานพลังที่ไร้ศัตรูของตน อยากไร้ศัตรูในหมู่มกุฎอริยะใต้หล้า อย่างเจ้ายังไม่มีคุณสมบติ”
เสียงของหลินสวินราบเรียบ นัยน์ตาดำเย็นเยียบ
ยามเอ่ยพูด เขาก็เปิดการโจมตี ทะยานออกไปกลางอากาศแล้ว
ต่อสู้มาถึงตอนนี้ เขารับรู้รากฐานพลังของบุตรนรกโดยสิ้นเชิงแล้ว การต่อสู้ครั้งนี้ไม่จำเป็นต้องยืดเยื้ออีกต่อไป
ตูม!
ร่างของหลินสวินราวกับเตาหลอม ชี้ฟ้ากวาดดิน ล้วนมีอานุภาพหลอมหมื่นมรรค
“เหลวไหล เจ้าเป็นใคร มีสิทธิ์อะไรมาชี้แนะข้า”
บุตรนรกเดือดดาล พุ่งโจมตีอออกไป
อานุภาพของเขายังคงน่ากลัวเหมือนก่อนหน้านี้ เพียงแต่สิ่งที่ต่างออกไปคือสถานการณ์ได้พลิกผันไปอย่างสิ้นเชิงแล้ว
วิชามหัศจรรย์นับพัน วิชามรรคนับหมื่นของเขา ล้วนถูกบดขยี้จนแหลกสลายราวกับฟองอากาศ ให้ความรู้สึกเหมือนมดแดงเขย่าต้นไม้ใหญ่!
เพราะหลินสวินในตอนนี้ประหนึ่งไร้ศัตรูแล้วจริงๆ ทุกการเคลื่อนไหวล้วนแฝงอานุภาพกำราบหมื่นกาลอย่างไม่มีข้อยกเว้น
เตาหลอมดุจร่างกาย อานุภาพกดข่มศัตรูทุกคนในระดับนี้!
สิบลมหายใจหลังจากนั้น บุตรนรกก็ถูกกำราบจนเงยหน้าไม่ขึ้นแล้ว กระอักเลือดต่อเนื่อง หน้าซีดเซียวเผ้าผมยุ่งเหยิง
สามสิบลมหายใจหลังจากนั้น
พร้อมกับเสียงกึกก้องสะเทือนหู เกราะสีดำเข้มที่ป้องกันอยู่เบื้องหน้าร่างบุตรนรกพลันระเบิดแตกกะทันหัน กลายเป็นชิ้นส่วนลอยกระเด็น
และในระหว่างนี้ หลินสวินทะยานเข้ามา อานุภาพทะลวงฟ้า!
สัตว์ประหลาดเฒ่าเหล่านั้นต่างมองหน้ากัน สูดหายใจด้วยความตกใจไม่หยุด เพิ่งจะตระหนักได้ว่าคนหนุ่มที่ถูกหอฤทธิ์เทพส่งมากำแพงเมืองด่านจักรพรรดิผู้นี้สุดยอดเพียงใด
ที่น่าขันคือ ตอนแรกพวกเขากลับไม่ได้สนใจ มองข้ามเขาไป…
“ข้าจะสู้ตายกับเจ้า!”
ในสังเวียนเทพมาร บุตรนรกที่เผ้าผมยุ่งเหยิงบ้าคลั่งอย่างสิ้นเชิงแล้ว ดวงตาแทบถลน โจมตีออกไปโดยไม่สนอะไรแล้ว
หลายปีก่อนในแดนมกุฎ เขาพ่ายแพ้ในมือหลินสวินต่อเนื่องหลายครั้ง ทุกครั้งล้วนเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของเขา ขายหน้าจนไม่เหลือ อับอายถึงขีดสุด
หากไม่ใช่เพราะมีกาหลอมจิต เขาคงร่วงหล่นไปไม่รู้กี่ครั้งแล้ว
ก็เพราะเช่นนี้ ในหลายปีมานี้เขาจึงฝึกปราณอย่างบ้าคลั่งในกำแพงเมืองด่านจักรพรรดิแห่งนี้ เพื่อแก้แค้น ทวงคืนเกียรติและศักศรีดิ์ของตัวเองกลับมา
ใครจะคิดว่าในการต่อสู้ครั้งนี้ แม้เขาสร้างวิชาแห่งตนขึ้นมาแล้ว กลับล้วนถูกทำลายทั้งหมด นี่จะให้บุตรนรกทนได้อย่างไร
ชิ้ง!
กระบี่อเวจีที่ดำสนิทและหมอกมารคละคลุ้งโฉบออกมา ปราณกระบี่พุ่งทะลวง ปรากฏภาพน่ากลัวที่สิบทิศล้วนหลอมละลาย
“ฆ่า!”
บุตรนรกคำราม สีหน้าบิดเบี้ยวดุดัน
“นี่เป็นทรัพย์หลังศึกของข้า เจ้าจะเอาไปใช้ได้อย่างไร เอามา”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์