ฟ้าถล่มดินทลาย สั่นสะเทือนและปั่นป่วน
ในสนามรบ หลินสวินพลันส่งเสียงคำรามยาว กลางจุดชีพจรรอบกายปลดปล่อยปราณกระบี่ไท่เสวียนไร้สิ้นสุดออกมา
ปราณกระบี่ขนัดแน่น ไพศาลโชติช่วง เจิดจ้าไร้ขอบเขต ตัดสลับไปมากลายเป็นภูเขาแห่งกระบี่เจ็ดสิบสองลูก
เขากระบี่แต่ละลูกนั้นล้วนมีปราณกระบี่ไท่เสวียนสามพันแปดร้อยสายก่อตัว สำแดงออกมาเป็นอสูรปฐพีเจ็ดสิบสองตน
ฉะนั้นจึงเรียกว่า ‘เขากระบี่อสูรปฐพี’!
ตูม!
ฟ้าดินร้องโหยหวน เขากระบี่อสูรปฐพีเจ็ดสิบสองลูกแผ่ขยาย ดั่งหมายจะสยบสังหารกลางโลก ปลดปล่อยปราณกระบี่อันน่าสะพรึงไร้ขอบเขตออกมา
ชั่วพริบตาเสียงอุทานดังขึ้นในที่นั้น
ก็เห็นเขากระบี่แต่ละลูกกดทับลงมา ในสนามรบมีผู้แข็งแกร่งสิบกว่าคนหลบไม่ทันถูกเขากระบี่กดทับร่างจนระเบิดแหลก กลายเป็นฝนเลือดแดงฉานสาดกระเซ็น
ภาพที่เผด็จการนองเลือดนั่น ทำเอาคนมากมายหน้าเปลี่ยนสียกใหญ่ วิญญาณเกือบกระเด็นหลุดออกมา
แข็งแกร่งเกินไปแล้ว!
ต่อหน้าหลินสวิน มกุฎมหาอริยะแพ้ไม่เป็นท่าในการโจมตีเดียวปานกระดาษเปื่อย ถูกสังหารดั่งเชือดไก่ เรียบง่ายสบายมือ อานุภาพไม่อาจต้าน
“ไก่ดินสุนัขกระเบื้อง ต่อให้มีมากแค่ไหนก็ไร้ประโยชน์”
หลินสวินเสียงเย็นเยียบ สองกระบี่ในมืออย่างอเวจีและยอดสังหารส่งเสียงดังชิ้งๆ กลายเป็นโลกันตร์ที่น่าสะพรึงกับและธารนรกสีแดงฉานออกห้ำหั่น
เงาร่างของเขาก็เหมือนเหวใหญ่เคลื่อนที่!
มาดเทพมารที่ประหนึ่งไร้ทัดเทียมนั่นทำให้พวกเหวินฉิงเสวี่ย เมิ่งอี้ต่างมือเท้าเย็นวาบ ภายในใจปรากฏกระแสหนาวเหน็บที่ไม่อาจควบคุม
นี่…
เป็นสัตว์ประหลาดพลิกฟ้าแบบไหนกันแน่
ตัวคนเดียวนะ!
กลับเหมือนไร้ศัตรู อาละวาดในสนามรบ ออกห้ำหั่นอย่างเหิมเกริม!
วู้ม…
มีคนเรียกไพ่ตายออกมา นั่นเป็นอักษรมรรคบทหนึ่ง ประทับกลิ่นอายมหามรรค แต่ละอักษรดุจอาทิตย์ดวงใหญ่ที่บาดตาลุกโชน น่าสะพรึงลึกลับอัศจรรย์
แต่แค่พริบตาเดียวก็ถูกหลินสวินใช้เจดีย์มหามรรคไร้สิ้นสุดสยบ อักษรมรรคทั้งบทแตกกระจายลอยล่อง มอดดับกลางห้วงอากาศ
เปลืองแรงเปล่าอย่างสมบูรณ์
ผู้แข็งแกร่งที่เรียกไพ่ตายออกมาคนนั้นถูกหลินสวินฉวยจังหวะฟันสังหารตรงๆ กระบี่คู่สลับไขว้ดุจดั่งกรรไกรตัดสวรรค์ ฟาดฟันคนผู้นั้นออกเป็นชิ้นๆ!
“เขาแข็งแกร่งขนาดนี้ได้อย่างไรกัน”
“บัดซบ!!”
“ทำไม… ทำไมถึงเป็นเช่นนี้…”
ในสนามรบผู้แข็งแกร่งไม่รู้เท่าไหร่ตกใจเดือดดาล สีหน้าบิดเบี้ยวเขียวคล้ำ ตาแทบถลน ไม่อยากเชื่อว่าชายหนุ่มที่มาจากดินแดนรกร้างโบราณคนหนึ่งเท่านั้น กลับพลิกฟ้าเช่นนี้ได้อย่างไรกัน
พลังต่อสู้ระดับนั้นก็เหมือนนายสูงสุดในระดับมกุฎมหาอริยะ มีมาดสยบศัตรูทั้งปวง และทำให้จิตใจคนหนาวสะท้านหวาดสะพรึง
ส่วนอีกด้านหนึ่งอาหูควบคุมสมบัติวิเศษอัศจรรย์มากมาย ทั้งบุกทั้งรับพร้อมพรัก ต่อสู้กับศัตรูทั้งกลุ่มอย่างชำนาญ
แม้จะไม่ได้ได้เปรียบเสียทีเดียว แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ได้ถูกกดข่ม อยู่ในสถานการณ์พอฟัดพอเหวี่ยงอย่างสมบูรณ์
แต่แม้จะเป็นเช่นนี้ก็ยังทำให้คนตกใจไม่หาย
ตัวคนเดียวเหมือนกัน พลังต่อสู้ที่อาหูสำแดงออกมาบางทีอาจไม่ได้เผด็จการและโหดเหี้ยมเท่าหลินสวิน แต่ก็ไม่ได้ด้อยกว่าตรงไหน!
พรวด!
ในสนามรบหลินสวินฆ่าคนเหมือนฉีกภาพวาด เพียงแค่ชั่วอึดใจ ก็ฟันคู่ต่อสู้คนหนึ่งอีกครั้ง สำแดงท่วงท่าที่บดขยี้โดยสมบูรณ์
นี่ก็ทำให้คนยิ่งกริ่งเกรงมากขึ้นเรื่อยๆ
“ฮว่าซิงหลี จวนอวี๋เหิง หากพวกเจ้าร่วมมือกับข้า เข้าร่วมในสนามรบด้วยกัน เจ้าหมอนี่ต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย”
ไกลออกไปซวีหลิงคุนทายาทเผ่าจักรพรรดิตระกูลซวี อันดับที่สิบสามบนกระดานมหาอริยะฟ้าดาราพลันเอ่ยปาก
แววตาเขาวาววามเหมือนอาทิตย์ดวงใหญ่ กล้ามเนื้อทั่วกายมีประกายแสงทองไหลริน พลังขับเคลื่อนส่งเสียงกึกก้อง อานุภาพน่าหวั่นหวาด
ความแข็งแกร่งของหลินสวิน ทำให้เขารู้สึกอยากลงมือจนแทบทนไม่ไหวแล้ว!
“เฮอะ ข้าไม่ได้เคียดแค้นพยาบาทกับเขา เหตุใดต้องเข้าไปพัวพันด้วย”
จวนอวี๋เหิงสีหน้าไร้ความรู้สึก
เขาสวมชุดขนนก กอดกระบี่แนบอก เงาร่างสูงยาวกำยำ หน้าตาหล่อเหลาห้าวหาญ นัยน์ตาทั้งคู่เจือแววยโสและเรียบเฉยจากภายในสู่ภายนอก
ในฐานะทายาทเลือดบริสุทธิ์ของเผ่าจักรพรรดิตระกูลจวนอวี๋ บุคคลแห่งยุคที่ไต่เต้าสู่สิบอันดับแรกของกระดานมหาอริยะฟ้าดาราคนหนึ่ง จวนอวี๋เหิงย่อมมีความคิดและความภาคภูมิในตัวเอง
ฮว่าซิงหลีก็เอ่ยปากเช่นกัน ใบหน้ารูปงามที่ซีดขาวเหมือนคนป่วยเผยแววยิ้มเยาะ “ขออภัย ข้าฮว่าซิงหลีหลายปีมานี้ถึงแม้จะฆ่าศัตรูนับไม่ถ้วน แต่ไม่ชอบการล้อมโจมตีเป็นที่สุด”
เซวี่ยชิงอีที่อยู่ข้างๆ ร้อนรนจนแทบจะร้องออกมา โอกาสดีขนาดนี้แล้วแท้ๆ! เหตุใด… เหตุใดถึงปฏิเสธเช่นนี้เล่า
ซวีหลิงคุนแววตาวาววาบ แปลกใจอยู่บ้าง แต่สุดท้ายก็ยังเงียบไป
ในสนามรบการต่อสู้ยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
ผู้แข็งแกร่งมากมายที่ล้อมโจมตีหลินสวิน จิตต่อสู้เริ่มสั่นคลอนรุนแรง ภายในใจสั่นระรัว เรียกความแข็งกร้าวและเหิมหาญก่อนหน้านี้ไม่ขึ้นอีกต่อไป
เพราะต่อสู้มาจนถึงเวลานี้ มีผู้แข็งแกร่งอย่างน้อยสามสิบคนถูกสังหารไปแล้ว ถูกหลินสวินใช้วิธีการเลือดเย็นเข่นฆ่า ร่างและจิตล้วนดับสูญ
หากอยู่โลกภายนอก มกุฎมหาอริยะเหล่านี้ไม่มีใครไม่ใช่บุคคลทรงอิทธิพลที่ชื่อเสียงก้องแดนดินแห่งหนึ่ง เป็นผู้ที่ขุมอำนาจใหญ่ให้ความสำคัญ ถูกคนรุ่นเดียวกันเลื่อมใสชื่นชม ถูกคนที่ลำดับอาวุโสน้อยกว่าเคารพนับถือ…
ทว่าอยู่ต่อหน้าหลินสวิน กลับถูกเชือดเหมือนไก่ดินสุนัขกระเบื้อง!
นี่สะท้านสะเทือนเกินไปอย่างไม่ต้องสงสัย น่าตกใจสะท้านโลกเกินไป หากแพร่ออกไปต้องสะเทือนฟ้าดารา ทำให้ใต้หล้าล้วนแตกตื่นเพราะเหตุนี้อย่างแน่นอน
ผลัวะ!
ผู้แข็งแกร่งคนหนึ่งถูกเท้าข้างหนึ่งของหลินสวินเหยียบหัวเละ ร่างกายเหมือนดาวตกที่ร่วงหล่น กระแทกพื้นเสียงดังสนั่น กลิ่นคาวเลือดและฝุ่นควันลอยคลุ้งเต็มฟ้า
เพียงแต่ตอนที่หลินสวินหมายจะเข่นฆ่าต่อไป จู่ๆ ในที่นั้นก็มีคนร้องเสียงดังด้วยความตื่นเต้นออกมา
“กระแสน้ำหลากมหามรรคหายไปแล้ว!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์