ทะเลเมฆลอยล่อง ยืนอยู่บนยานขนส่งอวกาศสามารถมองเห็นเขาขลุ่ยหิมะแต่ไกล รวมถึงสิ่งก่อสร้างเก่าแก่ที่เรียงรายกันบนภูเขา
นั่นเป็นที่อยู่ของสำนักกระบี่สวรรค์ดำเนิน เป็นสถานที่ที่ผู้ฝึกปราณจำนวนนับไม่ถ้วนของโลกลำนำสวรรค์ทำได้เพียงชื่นชม
หนานชิวแววตาเลื่อนลอย อึ้งงันตื่นตะลึง
มาถึงที่นี่จริงๆ นางจึงรู้สึกถึงความตื่นเต้นและกดดันอย่างบอกไม่ถูก
สำนักกระบี่สวรรค์ดำเนิน!
สำหรับนางที่เติบโตในโลกลำนำสวรรค์ตั้งแต่เด็ก ที่นี่ราวกับแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่ง สูงส่งไม่อาจเอื้อม ไม่อาจดูถูกได้
ทว่าวันนี้หลินสวินพานางมา ยิ่งไปกว่านั้นยังปรากฏตัวเหนือห้วงอากาศอย่างเปิดเผยเช่นนี้!
“กลัวไหม”
หลินสวินถามเสียงเบา
หนานชิวพยักหน้า แล้วก็ส่ายหน้า ดูสับสนมาก
หลินสวินถอนหายใจเบาๆ “ยัยโง่ ตอนที่สำนักกระบี่สวรรค์ดำเนินฉีกสัญญาหมั้นหมาย เคยห่วงความรู้สึกของเจ้าหรือไม่ ตอนที่มู่ซิวหย่วนเขียนหนังสือถอนหมั้น เคยคิดถึงความรู้สึกของเจ้าหรือไม่”
หนานชิวขอบตาแดงก่ำขึ้นมาทันที ความเดือดดาลที่อัดอั้นในใจมานานพุ่งออกมาราวกับภูเขาถล่มมหาสมุทรซัดสาด นางสูดหายใจเข้าลึกๆ คราหนึ่งพร้อมพูดว่า “ข้าไม่เคยชอบเขา ข้าเพียงเกลียดที่เหตุใดเขาต้องใช้วิธีเช่นนี้ดูหมิ่นข้า เหยียบย่ำศักดิ์ศรีของข้า ต่อไปข้าจะสู้หน้าคนได้อย่างไร”
หลินสวินพูดอย่างอ่อนโยน “ถูกต้องแล้ว พวกเขาทำผิดก็ต้องชดใช้ความผิดที่ทำ”
“ใครกันที่กล้าขนาดนี้ ถึงกับกล้าเคลื่อนตัวทางอากาศโดยพลการ!”
เสียงตะโกนดังมาจากเขาขลุ่ยหิมะที่อยู่ไกลออกไป
ครืนโครม!
ทะเลเมฆพลิกตลบแตกกระจาย แสงกระบี่สายหนึ่งทลายห้วงอากาศราวกับรุ้งเทพทะยานเข้ามา และเปลี่ยนเป็นชายในชุดแขนกว้างคนหนึ่ง
เท้าของเขาเหยียบกระบี่บิน เสื้อผ้าโบกสะบัด ผมยาวพลิ้วไหว ปราณกระบี่ทั่วตัวอึงอล ดุดันน่ากลัว
ในเมืองใต้ภูเขามีเสียงกู่ร้องด้วยความยินดีดังขึ้นระลอกหนึ่ง
“เป็นตวนมู่เจียง มกุฎราชันที่โดดเด่น หนึ่งในหกผู้สืบทอดแท้จริงแห่งยุคของสำนักกระบี่สวรรค์ดำเนิน ฝึก ‘กระบี่หมื่นเงาฟ้าดำเนิน’!’”
“นี่ก็คือความองอาจของผู้สืบทอดสำนักกระบี่สวรรค์ดำเนิน สุดยอดจริงๆ!”
“ฮ่าๆๆ เจ้าหมอนั่นซวยแน่ ขับยานสมบัติบินกลางอากาศอย่างเปิดเผย ไม่ใช่รนหาที่ตายหรือ”
ภายใต้เสียงวิพากษ์วิจารณ์ ตวนมู่เจียงเคลื่อนสายตามองหลินสวิน แววตาแหลมคมราวปลายกระบี่ เอ่ยพูดกดดัน
“ไม่ว่าเจ้าจะเป็นใคร เจ้าได้ทำผิดกฎที่สำนักกระบี่สวรรค์ดำเนินของข้าตั้งไว้แล้ว ให้โอกาสเจ้ากลับใจไถ่โทษครั้งหนึ่ง ไม่เช่นนั้น ตาย!”
น้ำเสียงเย็นชา
ในโลกลำนำสวรรค์ สำนักกระบี่สวรรค์ดำเนินก็คือนายเหนือหัว เป็นผู้ปกครองสูงสุด นี่ทำให้ตวนมู่เจียงเผยความแข็งกร้าวอย่างที่สุด โอหังเต็มเปี่ยม
“ตายหรือ”
หลินสวินยิ้ม ผู้สืบทอดสำนักในแดนดินแห่งหนึ่งเท่านั้น กลับเผด็จการเช่นนี้ ทำให้เขาประหลาดใจไม่น้อยจริงๆ
“ดูท่าว่าเจ้าจะไม่คิดแก้ไขข้อผิดพลาดสินะ!”
ตวนมู่เจียงสีหน้าเย็นเยียบ เสียงสวบดังขึ้นคราหนึ่ง กระบี่บินใต้เท้าพุ่งออกไป กลายเป็นรุ้งยาวทะลวงอากาศ ฟันยานขนส่งอวกาศจากไกลๆ
หลินสวินดีดนิ้วคราหนึ่ง
ปัง!
กระบี่บินระเบิดแหลก
ร่างของตวนมู่เจียงสั่นระริก กระอักเลือดออกมาทันที เขาตกใจจนหน้าถอดสี ตระหนักได้ถึงความผิดปกติจึงหมุนตัวหนีทันที
แต่สายไปแล้ว
หลินสวินจับคว้าผ่านห้วงอากาศลวกๆ ร่างของตวนมู่เจียงก็ถูกบีบแน่นราวกับลูกไก่ เสียงพรูดดังขึ้นคราหนึ่ง ร่างอีกฝ่ายระเบิดออกกลางอากาศ
ฝนเลือดสาดพรม
หนานชิวเบิกตาโต ในใจสับสนอลม่าน แข็งแกร่งมาก!
ในเมืองด้านล่างเงียบกริบ ผู้ฝึกปราณที่ตอนแรกมีท่าทางชมดูความครื้นเครง ตอนนี้แต่ละคนสีหน้าแข็งทื่อ อึ้งจนพูดไม่ออก
ฝ่ามือเดียว บีบตวนมู่เจียงตาย!?
ควรรู้ว่านี่เป็นถึงหนึ่งในหกผู้สืบทอดแท้จริงที่ยิ่งใหญ่ของสำนักกระบี่สวรรค์ดำเนิน!
“เจ้าหมอนี่… เห็นได้ชัดว่าไม่ได้มาดี” มีคนพูดเสียงสั่น
“เขาเป็นใคร เหตุใดที่ผ่านมาไม่เคยเห็นมากก่อน”
ครู่หนึ่งในเมืองก็ราวกับหม้อเดือด โกลาหลแตกตื่นอย่างสิ้นเชิง แววตาที่ทุกคนมองหลินสวินต่างแฝงความประหลาดใจ
และตอนนี้หลินสวินเก็บยานขนส่งอวกาศแล้ว เอ่ยออกมาว่า
“มู่ซิวหย่วนอยู่ไหน ไสหัวออกมา!”
ประโยคเดียวราวกับฟ้าคำราม สะเทือนชั้นเมฆสิบทิศจนแหลก ดังกระจายกึกก้อง ฟ้าดินราวกับสั่นไหวขึ้นมา
ผู้ฝึกปราณไม่น้อยรู้สึกเพียงเสียงวิ้งๆ ในหัว ทรมานจนแทบจะกระอักเลือด!
“มู่ซิวหย่วน… เขาถึงกับมาหามู่ซิวหย่วน!” และมีหลายคนร้องด้วยความตกใจ
ในเมืองยิ่งแตกตื่น ศึกราชันลำนำสวรรค์กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว บริเวณเขาเทพขลุ่ยหิมะมีผู้ฝึกปราณไม่รู้เท่าไหร่มารวมตัวตั้งนานแล้ว
ใครก็คิดไม่ถึงว่าในเวลาเช่นนี้ กลับมีคนทะยานมาทางอากาศ ปรากฏตัวหน้าประตูภูเขาสำนักกระบี่สวรรค์ดำเนิน ทั้งยังทำการท้าทายด้วย!
นี่น่าตกใจเกินไปแล้ว สำนักกระบี่สวรรค์ดำเนินเป็นถึงขุมอำนาจใหญ่อันดับหนึ่งของโลกลำนำสวรรค์ ก่อนหน้านี้ไม่เคยเกิดเรื่องสะท้านสะเทือนเช่นนี้มาก่อน
“น่าสนใจ กี่ปีแล้วที่ข้าไม่ได้เห็นคนกล้ามาท้าทายถึงที่”
เสียงหนักแน่นแฝงความเย็นเยียบดังขึ้น
บนเขาขลุ่ยหิมะ แสงสีแดงเข้มสายหนึ่งทะลวงอากาศเข้ามา แล้วพลันเปลี่ยนเป็นเงาร่างชายชราที่รูปร่างสูงใหญ่ สวมเสื้อคลุมสีแดง อำนาจแผ่ออกมาท่วมฟ้า
“ผู้อาวุโสจั๋วหมิง!”
ผู้ฝึกปราณจำนวนมากในเมืองจำเขาได้ ชายชราชุดคลุมแดงคนนี้คือผู้อาวุโสคนหนึ่งของสำนักกระบี่สวรรค์ดำเนิน ฉายา ‘อริยะกระบี่หมอกแดง’ อุปนิสัยรุนแรงราวกับไฟ สังหารคนนับไม่ถ้วน
ข้างหลังจั๋วหมิงยังมีชายหญิงกลุ่มหนึ่งติดตามมา ล้วนเหยียบกระบี่บินไว้ใต้ฝ่าเท้า บุคลิกลักษณะไม่ธรรมดา แต่ละคนล้วนโดดเด่น
ทอดสายตามองจากไกลๆ ราวกับว่าบนทะเลเมฆมีเซียนกระบี่กลุ่มหนึ่งปรากฏตัว โดดเด่นสะดุดตา
การเคลื่อนกำลังคนเช่นนี้ ทำเอาผู้ฝึกปราณในเมืองต่างตกใจ รู้ว่าคำพูดเมื่อครู่นี้ของหลินสวินได้ทำให้สำนักกระบี่สวรรค์ดำเนินเดือดดาลแล้ว
ทว่าสิ่งที่เหนือความคาดหมายคือ ในสถานการณ์เช่นนี้หลินสวินราวกับมองไม่เห็น สีหน้าไร้ซึ่งการเปลี่ยนแปลง ยังคงราบเรียบ
เขาถามเพียงว่า “ใครคือมู่ซิวหย่วน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์