อ่านสรุป ตอนที่ 1833 หมดความอดทน จาก Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet
บทที่ ตอนที่ 1833 หมดความอดทน คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายกำลังภายใน Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
หอเมฆมรกต
เจิดจ้าพร่างพราย ผู้คนพลุกพล่าน
เหล่าผู้แข็งแกร่งรุ่นเยาว์แห่งหอเสียงสวรรค์อย่างพวกอู่อวิ๋นเหลียนต่างนั่งอยู่ตรงนั้นอย่างนับถือเลื่อมใส ดื่มกับเหล่าแขกสูงศักดิ์ที่มาจากเผ่าจักรพรรดิตระกูลจินเทียนอย่างมีความสุข
ในหอมีเสียงดนตรีดังอยู่ ไพเราะราวกับเสียงสวรรค์ ทั้งมีนางรำงดงามกำลังร่ายรำ
มุมปากของอู่อวิ๋นเหลียนแฝงรอยยิ้มสมใจ
เมื่อครู่นี้ตอนที่เชิญแขกตระกูลจินเทียนเหล่านี้มาร่วมงานเลี้ยง นางจงใจพูดว่า ในบรรดาศิษย์รุ่นใหม่หอเสียงสวรรค์ มีผู้สืบทอดคนหนึ่งนามว่าหลิ่วชิงเยียน รูปลักษณ์งดงามไร้ที่ติดุจบทกลอน ท่าทางสง่างามราวกับภาพวาด
ที่หายากคือความสามารถด้านศาสตร์ดนตรียอดเยี่ยม ถึงขั้นเป็นบุคคลประหนึ่งเซียนในบรรดาคนรุ่นเยาว์หอเสียงสวรรค์
นี่ย่อมดึงดูดความสนใจของแขกตระกูลจินเทียนเหล่านั้นแน่นอน
อู่อวิ๋นเหลียนจึงฉวยโอกาสตีเหล็กตอนร้อน ให้คนไปเชิญหลิ่วชิงเยียนมา
‘นางชั้นต่ำนี่ ครั้งนี้คงปฏิเสธไม่ได้แล้ว หากนางปรากฏตัว คิดจะจากไปก็ไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก…’
อู่อวิ๋นเหลียนคิดในใจ
นางริษยาหลิ่วชิงเยียน ไม่ว่าจะรูปลักษณ์ บุคลิก มรรควิถี ล้วนเหนือกว่านาง
สิ่งที่นางไม่สามารถทนได้ที่สุดคือ ผู้สืบทอดเรือนมรรคดึกดำบรรพ์อย่างข่งอวี้ เดิมทีถูกนางมองว่าเป็นคู่บำเพ็ญที่สมบูรณ์แบบ
แต่ใครจะคิดว่าข่งอวี้กลับชอบหลิ่วชิงเยียน!
นี่ทำให้เพลิงริษยาในใจอู่อวิ๋นเหลียนยิ่งรุนแรง อยากจะกำจัดหลิ่วชิงเยียนเสียเดี๋ยวนี้
“เหตุใดแม่นางชิงเยียนคนนั้นยังไม่มา”
ทันใดนั้นชายชุดเงินคนหนึ่งเอ่ยปาก ขมวดคิ้วเล็กน้อย
บรรยากาศที่ครึกครื้นชะงักไปบ้าง
หลายคนต่างมองไปยังอู่อวิ๋นเหลียน
อู่อวิ๋นเหลียนเองในใจก็สะท้าน รีบพูดว่า “คุณชายอย่าได้ใจร้อน ข้าจะส่งคนไปเร่งสักหน่อย”
ชายชุดเงินคนนี้นามว่าจินเทียนฉี ทายาทเลือดบริสุทธิ์ของตระกูลจินเทียน ฐานะสูงศักดิ์อย่างที่สุด บรรดาชายหญิงตระกูลจินเทียนข้างกายล้วนยกเขาเป็นผู้นำ
แขกระดับนี้ อู่อวิ๋นเหลียนไม่กล้าเพิกเฉย
เพียงแต่ไม่รอให้นางไปเร่ง ก็เห็นอวี๋จวิ้นสีหน้ามืดทะมึนหวนกลับมาคนเดียว
“อาจารย์อา ศิษย์น้องหลิ่วชิงเยียนล่ะ”
อู่อวิ๋นเหลียนถาม
อวี๋จวิ้นกัดฟันพูด “ถูกคนแซ่อวี่นั่นขวางเอาไว้”
“อวี่เสวียนนี่กล้ามาก!”
อู่อวิ๋นเหลียนตบโต๊ะลุกขึ้น สายตาเผยประกายเย็นเยียบ “อาจารย์อา เหตุใดท่านไม่ลงมือ”
บรรยากาศในห้องโถงเงียบกริบ
พวกจินเทียนฉีต่างขมวดคิ้ว ผู้สืบทอดหอเสียงสวรรค์คนหนึ่ง กลับกล้าปฏิเสธการพบหน้ากับพวกเขาหรือ
อวี๋จวิ้นสีหน้าอึมครึมไม่สามารถสงบได้ “เรือนหลังนั้นถูกวางกระบวนผนึกหนาแน่น แม้แต่ข้าก็ไม่สามารถมองทะลุตื้นลึกหนาบาง จึงไม่ได้ลงมือในทันที”
ดวงหน้างามของอู่อวิ๋นเหลียนเต็มไปด้วยความเย็นเยียบ “นี่เป็นยานลมกรดของพวกเรา เขาอวี่เสวียนกลับกล้าทำเช่นนี้ มีอย่างที่ไหน”
“ข้าไม่สนอวี่เสวียนอะไรนั่น ถามพวกเจ้าประโยคหนึ่ง คนตระกูลจินเทียนของพวกเราไม่มีเกียรติมากพอใช่หรือไม่ จึงเชิญแม่นางชิงเยียนคนนี้มาไม่ได้”
จินเทียนฉีส่งเสียงอย่างไม่พอใจ หงุดหงิดใจเล็กน้อย
วันนี้คนตระกูลจินเทียนอย่างพวกเขาเพิ่งถูกพวกผู้อาวุโสของตน จักรพรรดิกระบี่วายุดุว่ามา ในใจล้วนไม่เบิกบาน
จึงมารวมตัวกันที่หอเมฆมรกต ใช้เหล้าดับกลุ้ม
ใครจะคิดว่าตอนนี้กลับเจอเรื่องเช่นนี้ ทำให้พวกเขาไม่พอใจมาก
ผู้อาวุโสดุด่าพวกเขาก็ช่างเถอะ แต่ผู้สืบทอดหอเสียงสวรรค์คนหนึ่งกลับกล้าปฏิเสธการพบหน้าพวกเขา นี่เห็นได้ชัดว่าไม่เห็นพวกเขาในสายตา!
ได้ยินเช่นนี้อู่อวิ๋นเหลียนสั่นไปทั้งตัว รีบพูดว่า “อาจารย์อาอวี๋จวิ้น รบกวนท่านไปอีกสักเที่ยว ไม่ว่าใช้วิธีใดก็ต้อง ‘เชิญ’ ศิษย์น้องชิงเยียนมาให้ได้!”
คำว่าเชิญถูกนางเน้นหนัก
อวี๋จวิ้นเองก็ดูออกว่าแขกตระกูลจินเทียนอย่างพวกจินเทียนฉีไม่พอใจมาก จึงไม่กล้าเพิกเฉย รีบร้อนออกไป
อู่อวิ๋นเหลียนหยิบเหล้าจอกหนึ่งขึ้นมา เผยรอยยิ้มเย้ายวน “มา ข้าคารวะทุกท่านสักจอกก่อน หวังว่าทุกท่านจะระงับโทสะ อย่าได้ถือสาศิษย์น้องชิงเยียน”
จินเทียนฉีสีหน้าเรียบเฉย “หลิ่วชิงเยียนไม่มา ดื่มไม่ดื่มก็เท่านั้น”
บรรยากาศกดดันขึ้นมาทันที
อู่อวิ๋นเหลียนสีหน้าอึดอัด ร่างกายแข็งค้าง ในใจกลับเดือดดาลถึงขีดสุด หลิ่วชิงเยียนนางชั้นต่ำนี่ เดี๋ยวมาถึงเจ้าโดนแน่!
……
เขารับแขก
อวี๋จวิ้นพาคนมาอย่างน่าเกรงขาม ดึงดูดความสนใจจากสายตาไม่รู้เท่าไหร่ตลอดทาง
เด็กหนุ่มชุดป่านปีนขึ้นกำแพงอย่างตื่นเต้น ในปากพึมพำ “เรื่องสนุกเริ่มแล้ว”
หญิงชรายิ้มตาหยีไม่ได้สนใจ
อีกที่หนึ่ง ชายชราในชุดคลุมดื่มเหล้าจอกหนึ่งราวกับไม่รู้สึกรู้สา
ตรงหน้าเรือนบริเวณตีนเขา ตู้คงหลับตา นิ่งตั้งแต่ต้นจนจบ
“เหล่าตู้ สลายกระบวนผนึกไอวิญญาณของเรือนหลังนั้นซะ”
ยามมาถึงหน้าเรือนของพวกหลินสวิน อวี๋จวิ้นออกคำสั่งทันที
บนยานลมกรดปกคลุมด้วยกระบวนผนึกเป็นชั้นๆ รวมถึงเรือนทุกหลังบนเขารับแขกนี้ ล้วนมีพลังผนึกที่เต็มไปด้วยไอวิญญาณ
เหล่าตู้ก็คือผู้อาวุโสหอเสียงสวรรค์ที่ดูแลผนึกเหล่านี้
เหล่าตู้ที่เงาร่างผอมซูบ หยิบจานกระบวนลักษณะเหมือนกระดองเฒ่าชิ้นหนึ่งมาโบกเบาๆ
วู้ม…
พร้อมกับเสียงกึกก้อง กระบวนผนึกที่ปกคลุมเรือนของพวกหลินสวินถูกสลาย เหลือเพียงกระบวนผนึกหมู่ดาราที่หลินสวินวางไว้ยังโคจรอยู่
อวี๋จวิ้นพูดเสียงขรึม “อวี่เสวียน ไม่มีไอวิญญาณสนับสนุน กระบวนผนึกของเจ้าจะโคจรได้ถึงตอนไหน หากตอนนี้เจ้าให้ความร่วมมือแต่โดยดี ข้าจะไว้ชีวิตเจ้า ไม่เช่นนั้นตอนที่พวกเราบุกเข้าไปก็คือเวลาตายของเจ้า!”
เสียงทรงพลัง ไอสังหารพลุ่งพล่าน
เพียงแต่ในเรือนกลับไม่มีคนตอบรับ
หลินสวินกำลังดื่มเหล้า
หลิ่วชิงเยียนกำลังอึ้ง
นี่ทำให้สีหน้าอวี๋จวิ้นยิ่งไม่น่ามอง เขาสูดหายใจลึกแล้วโบกมือพูด “ลงมือ ทลายกระบวนผนึกนี่ซะ!”
เพียงแต่ภายใต้สถานการณ์อันตรายเช่นนี้ หลิ่วชิงเยียนราวกับไม่รู้ตัว จิตใจถูกสถานการณ์ฝั่งหลินสวินดึงดูด
ตอนที่เห็นอวี๋จวิ้นลงมือ นางตึงเครียดจนกลั้นหายใจ
ผู้อาวุโสอวี๋จวิ้นเป็นถึงมกุฎราชันอริยะที่ความสามารถสมคำร่ำลือ ผู้อาวุโสอวี่เสวียนจะเอาอะไรไปสู้กับอีกฝ่าย
ทว่าครู่ต่อมา ภาพที่เหนือความคาดหมายก็เกิดขึ้น
พลันเห็นหลินสวินยื่นมือคว้ากลางอากาศ พลังฝ่ามือของอวี๋จวิ้นไม่เพียงถูกทำลาย ยังกลายเป็นละอองแสงพร่างพรม
ทั้งร่างเขายิ่งเหมือนลูกเจี๊ยบ ถูกจับไว้ในทีเดียว!
ภาพที่ไม่ทันตั้งตัวนี้ทำเอาราชันอริยะคนอื่นตกใจชะงักเท้า เผยสีหน้ายากจะเชื่อ
“เจ้า เจ้า เจ้า…”
อวี๋จวิ้นมึนงง หัวสมองว่างเปล่า ในใจมีเพียงความคิดเดียว นี่คือพลังที่ราชันอริยะคนหนึ่งสามารถครอบครองได้หรือ
“ข้าทนมามากพอแล้ว แต่พวกเจ้ากลับหาเรื่องข้าครั้งแล้วครั้งเล่า ร้อนใจอยากรนหาที่ตายขนาดนี้เชียวหรือ”
หลินสวินถอนใจเบาๆ
คำพูดแฝงแววจนใจ
“เจ้าทำอะไร ปล่อยผู้อาวุโสอวี๋จวิ้นซะ! ที่นี่คือยานลมกรด เป็นอาณาเขตของหอเสียงสวรรค์!” มีคนตะคอก
ปัง!
อวี๋จวิ้นเองก็คิดจะพูดอะไรบางอย่าง ทว่าไม่รอเขาอ้าปาก ฝ่ามือของหลินสวินก็ออกแรง พลังน่าสะพรึงราวกับภูเขาถล่มสมุทรซัดสาดช่วงชิงพลังชีวิตในร่างอวี๋จวิ้นไป
ร่างของเขาราวกับแห้งเหี่ยว เปลี่ยนเป็นขี้เถ้าพลิ้วลอยอย่างรวดเร็วทันตาเห็น
กายมรรคไม้เขียว พลังแห่งความเป็นตายร่วงโรยรุ่งโรจน์!
มกุฎราชันอริยะคนหนึ่ง ก็ถูกกำจัดง่ายๆ เช่นนี้
“เจ้า…”
ราชันอริยะคนอื่นๆ ต่างตื่นตระหนก ตกใจจนหน้าซีด
อวี่เสวียน ตั้งแต่ขึ้นยานก็ถูกพวกเขามองเป็นสวะที่ไม่ควรค่าแก่การพูดถึง ใครก็คิดไม่ถึงว่าภายใต้พลังปราณระดับราชันอริยะของเขา กลับซ่อนพลังที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้!
เขา… เป็นใครกันแน่
หลิ่วชิงเยียนเองก็อึ้งงัน
“ทุกท่าน ข้าอวี่เสวียนคิดว่าตั้งแต่ขึ้นยานมาก็อยู่เงียบๆ มาโดยตลอด แต่เหตุใดพวกเจ้าจึงเอาแต่ดูถูกและเจาะจงเล่นงานข้า”
หลินสวินมองราชันอริยะเหล่านั้น สายตาลุ่มลึกราวกับลึกล้ำไม่อาจคาดเดา
“หนีเร็ว!”
ราชันอริยะเหล่านั้นตัวสั่น คิดจะหนีอย่างไม่ลังเล
พวกเขาตกใจจนขวัญเสียแล้วจริงๆ อวี๋จวิ้นเป็นถึงมกุฎราชันอริยะ ทว่าชั่วพริบตาก็ถูกฆ่าแล้ว นี่เป็นเรื่องน่ากลัวเพียงใด
หลินสวินจะปล่อยให้พวกเขาหนีได้อย่างไร เงาร่างของเขาพริบไหว ลงมืออย่างง่ายดายไม่เปลืองแรงสักนิด
เพียงไม่กี่พริบตา ผู้อาวุโสระดับราชันอริยะของหอเสียงสวรรค์เจ็ดแปดคนถูกสังหารคาที่ทั้งหมด
พลังชีวิตของทุกคนล้วนถูกช่วงชิง เปลี่ยนเป็นเถ้าถ่านที่แห้งเหี่ยวล่องลอย ขับให้หลินสวินราวกับเทพที่ควบคุมความเป็นตาย!
——
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์